มาเก๊า (Macau) เป็นเมืองที่ผสมผสานไปด้วยวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกนั้น มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และแหล่งบันเทิงอย่างคาสิโนขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นลาสเวกัสแห่งโลกตะวันออกเลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นอีกเมืองที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล วันนี้กระปุกดอทคอมเลยหยิบเอา 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในมาเก๊าจาก china.org.cn มาฝากกันด้วย ใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวมาเก๊าพักผ่อนชิล ๆ ชาร์จพลังให้ตัวเองละก็...อย่ารอช้าตามเราไปเที่ยวกันเลย
1. ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul\'s)
ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลที่หลงเหลืออยู่นั้น สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของโบสถ์ในอดีต และยังเป็นแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองด้วย โดยโบสถ์ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1580 แต่น่าเสียดายว่าถูกไฟไหม้เป็นหลายครั้งตั้งแต่ ค.ศ. 1595-1601 จนเริ่มมีการบูรณะในปี 1602 แต่ถึงแม้จะมีการซ่อมแซมหลายครั้ง ในที่สุดก็มีการสร้างใหม่ทั้งหลังและสร้างให้มีขนาดใหญ่มากกว่าเดิม ถือได้ว่าเป็นโบสถ์คาทอลิกขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1637 แต่ซ้ำร้ายถูกไฟไหม้อีกครั้ง จนเหลือเพียงซากกำแพงด้านหน้าและบันไดหินสีขาวเท่านั้น ซึ่งก็ยังคงความสง่างามทางประวัติศาสตร์อยู่เหมือนเดิม และจากบันทึกในประวัติศาสตร์โบสถ์สร้างด้วยหินสีขาวทั้งหลังและตกแต่งอย่างอลังการ ถัดมาในปี ค.ศ. 2005 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนโบสถ์แห่งนี้ให้เป็นมรดกโลก เพราะเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ในอดีตของมาเก๊า
ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. (เดือนพฤษภาคม-กันยายน) และ 07.00-18.00 น. (เดือนตุลาคม-เมษายน)
2. วัดอาม่า (A-Ma Temple)
เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1488 หรือสมัยราชวงศ์หมิง เรียกได้ว่าวัดอาม่านั้นเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองเจ้าแม่มาจู่หรือเทพธิดาแห่งท้องทะเล ผู้ซึ่งปกปักษ์รักษาชาวประมงและคนเดินเรือในเมืองนั่นเอง ตัววัดตั้งอยู่บนหน้าผา ทำให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบ ลมพัดเย็นสบาย และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมจีนคลาสสิกอันทรงคุณค่า นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2005 ด้วย
3. คาสิโน (Casino)
เขตบริหารพิเศษมาเก๊านอกจากจะเป็นศูนย์รวมมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมายแล้ว ยังเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ "ลาสเวกัสแห่งโลกตะวันออก" เพราะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมการพนันที่ใหญ่และเฟื่องฟูมาก คล้าย ๆ กับลาสเวกัสนั่นเอง สำหรับคาสิโนที่มีชื่อเสียงนั้น มีทั้งคาสิโนที่นำเข้ามาอย่าง "เวเนเชี่ยนมาเก๊า" และยังมีคาสิโนที่มีชื่อเสียงมายาวนานอย่าง "แกรนด์ลิสบัว" ซึ่งเจ้าของธุรกิจเป็นคนมาเก๊า ทั้งนี้ แม้ว่าในมาเก๊าจะเป็นแหล่งขึ้นชื่อด้านคาสิโน แต่กฎหมายก็กำหนดห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าไปในเขตคาสิโนนะจ๊ะ
4. มาเก๊า ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ (Macau Fisherman\'s Wharf)
สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับท่าเรือเฟอร์รี่และที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ฮ่องกง-มาเก๊า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินจากท่าเรือมายังฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น จุดเด่นของที่นี่ คือ สถาปัตยกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ทางวัฒนธรรมของมาเก๊า พื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง ที่พักอาศัย รวมถึงใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดนิทรรศการและการชุมนุมต่าง ๆ โดยมาเก๊า ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ ถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ ส่วนท่าเรือแห่งราชวงศ์ (Dynasty Wharf) เป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณแบบจีนในช่วงราชวงศ์ถัง, ส่วนตะวันออกพบตะวันตก (East Meets West) พื้นที่บริเวณนี้จะห้อมล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกและตะวันออก และส่วนท่าเรือในตำนาน (Legend Wharf) เป็นพื้นที่ของร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร และกาสิโน
ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เสียค่าเข้าชม
5. ฟอร์ทาเลซา ดู มอนเต (Fortaleza do monte)
เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางทหาร และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก เพราะถือว่าเป็นศูนย์รวมแห่งวัฒนธรรมของมาเก๊า ป้อมปราการนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดเก่าเซนต์ปอล ถูกสร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษ 16 เพื่อป้องกันการบุกรุกโบสถ์เซนต์ปอลจากพวกโจรสลัด หลังจากนั้นก็ถูกใช้เป็นป้อมปราการทางทหารแทน แต่เนื่องจากตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนสามารถรับชมวิวได้ครบทั่วทั้งมาเก๊าเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00-19.00 น. (เดือนพฤษภาคม-กันยายน), 07.00-18.00 น. (เดือนตุลาคม-เมษายน)
6. วัดเจ้าแม่กวนอิม (Kun Iam Temple)
เป็นวัดพุทธที่มีความสำคัญกับชาวมาเก๊ามาก เพราะภายในมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจหลายอย่าง เช่น พระพุทธรูปล้ำค่าสำหรับสักการบูชาเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สวมชุดผ้าไหมอยู่บัลลังก์ที่มีชายผ้า (เปลี่ยนทุกปี) โดยมีพระพุทธรูป 18 องค์ ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของโต๊ะบูชา โรงสวดศพ และภาพเขียนพู่กันรูปเจ้าแม่กวนอิม ส่วนด้านหลังวัดเป็นระเบียงและมีโบราณวัตถุที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างโต๊ะหินที่ใช้ในการลงนามสนธิสัญญาจีนอเมริกัน ซึ่งฉบับแรกลงเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1844 โดย คียิง อุปราชแห่งกวางตุ้ง และ คาเล็บ คุชชิง รัฐมนตรีสหรัฐอเมริกา บริเวณนี้มีต้นไทรโบราณแผ่กิ่งก้านพันกันไปมา ซึ่งชาวมาเก๊าเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความรักที่ซื่อสัตย์ของสามีภรรยา นอกจากนี้ ยังมีน้ำพุที่มีรูปร่างเหมือนภูมิประเทศจำลองของจีน
ข้อมูลเพิ่มเติม : เวลาที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00-17.30 น.
7. หอคอยมาเก๊า (Macau Tower)
หอคอยมาเก๊านั้นเป็นจุดชมวิวที่สำคัญแห่งหนึ่งก็ว่าได้ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาให้ได้ถ้ามาเยือนมาเก๊า หอคอยนี้สูงเป็นอันดับที่ 8 ในเอเชีย และสูงเป็นอันดับที่ 10 ในโลก อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็นอนุสาวรีย์หอคอยที่ยิ่งใหญ่ของโลกอีกเช่นกัน ถ้าใครอยากชมเมืองมาเก๊าในมุมเบิร์ดอายวิว ต้องมาชมที่นี่เท่านั้น โดยเฉพาะในเวลากลางคืน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว นอกจากนี้ ยังเป็นจุดสำหรับให้บริการบันจี้จัมพ์ด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม : ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 135 ปาตากาส์ (ประมาณ 572 บาท *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง), สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และเด็กราคา 70 ปาตากาส์ (ประมาณ 296 บาท *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) ส่วนเวลาเปิดให้บริการ คือ 10.00-21.00 น. (วันธรรมดา), 09.00-21.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดประจำชาติ)
8. จัตุรัสเซนาโด (Senado Square)
จัตุรัสเซนาโดเป็นลานสาธารณะที่มีขนาดกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการเฉลิมฉลอง บริเวณพื้นทางเดินที่จัตุรัสนี้ตกแต่งด้วยหินและจัดเรียงให้มีลวดลายคลื่นแบบโมเสก เนื่องจากความงดงามของสถาปัตยกรรมจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรกดโลกจากยูเนสโกด้วย และเนื่องจากจัตุรัสแห่งนี้อยู่ติดกับอาคารรัฐสภาเก่าซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบโบสถ์ของเซนต์โดมินิก อีกทั้งยังอยู่ติดกับตึกลีอันเซนาโด นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสกับความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมในชุมชนมาเก๊า นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ จัตุรัสเซนาโดมีแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารจีน เปิดให้บริการอยู่หลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ว่าได้
9. เดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า (The Venetian Macau)
เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่บนถนนโคไท อีกทั้งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียและใหญ่เป็นอันดับสองของโลก นอกจากขนาดที่อลังการแล้ว โรงแรมแห่งนี้ยังเป็นโรงแรมหรู 6 ดาวอีกด้วย ภายในมีห้องพักและบ่อนกาสิโนให้บริการ สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาพัก คือ การออกแบบที่ผสมผสานความโรแมนติกในแบบเวนิส และความน่าตื่นตาตื่นใจของบรรยากาศที่ลาสเวกัส ภายในมีห้องสวีท 3,000 ห้อง ซึ่งมีขนาดกว้างขวางและตกแต่งอย่างหรูหรา ถือว่าเป็นการผสมผสานกันระหว่างความสะดวกสบายและความสวยงามได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ ยังมีโรงละคร ห้องรับประทานอาหาร ร้านค้า กาสิโน และเพียบพร้อมไปด้วยอาหารกว่า 35 เชื้อชาติ ร้านขายเสื้อผ้ามากกว่า 300 ร้าน สถานที่สำหรับออกกำลังกาย และห้องประชุม รวมถึงกิจกรรมที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ นั่นคือ การล่องเรือกอนโดลา เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเวนิสเป็นเมืองแห่งสายน้ำ ดังนั้น นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความรู้สึกของการล่องเรือแบบชาวเวนิส อีกทั้งคนแจวเรือก็ร้องเพลงขับกล่อมไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านความบันเทิงครบครันที่น่าตื่นเต้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีที่สุดในเอเชียเลยก็ว่าได้
ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดทำการ 10.00-23.00 น. (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี), 10.00-24.00 น. (วันศุกร์-วันเสาร์)
10. พิพิธภัณฑ์มาเก๊า (Museum of Macau)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในป้อมปราการเซนต์ปอล มอนติ นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในมาเก๊า ภายในมีการจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยยุคหินใหม่ถึงปัจจุบัน ซึ่งจะดีไม่น้อยเลยถ้านักท่องเที่ยวเริ่มต้นการเดินทางเยี่ยมชมมาเก๊าที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อน เพื่อจะได้ไอเดียใหม่ ๆ ว่าจะไปสำรวจอะไร ที่ไหนต่อดี เพราะคงได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมามากทีเดียวจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม : ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่ราคา 15 ปาตากาส์ (ประมาณ 64 บาท *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง), สำหรับเด็กอายุ 5-10 ปี/นักเรียน/ผู้สูงอายุ ราคา 8 ปาตากาส์ (ประมาณ 34 บาท *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) เวลาทำการ: 10.00-18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
5. ฟอร์ทาเลซา ดู มอนเต (Fortaleza do monte)
เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางทหาร และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก เพราะถือว่าเป็นศูนย์รวมแห่งวัฒนธรรมของมาเก๊า ป้อมปราการนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดเก่าเซนต์ปอล ถูกสร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษ 16 เพื่อป้องกันการบุกรุกโบสถ์เซนต์ปอลจากพวกโจรสลัด หลังจากนั้นก็ถูกใช้เป็นป้อมปราการทางทหารแทน แต่เนื่องจากตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนสามารถรับชมวิวได้ครบทั่วทั้งมาเก๊าเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00-19.00 น. (เดือนพฤษภาคม-กันยายน), 07.00-18.00 น. (เดือนตุลาคม-เมษายน)
6. วัดเจ้าแม่กวนอิม (Kun Iam Temple)
เป็นวัดพุทธที่มีความสำคัญกับชาวมาเก๊ามาก เพราะภายในมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจหลายอย่าง เช่น พระพุทธรูปล้ำค่าสำหรับสักการบูชาเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สวมชุดผ้าไหมอยู่บัลลังก์ที่มีชายผ้า (เปลี่ยนทุกปี) โดยมีพระพุทธรูป 18 องค์ ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของโต๊ะบูชา โรงสวดศพ และภาพเขียนพู่กันรูปเจ้าแม่กวนอิม ส่วนด้านหลังวัดเป็นระเบียงและมีโบราณวัตถุที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างโต๊ะหินที่ใช้ในการลงนามสนธิสัญญาจีนอเมริกัน ซึ่งฉบับแรกลงเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1844 โดย คียิง อุปราชแห่งกวางตุ้ง และ คาเล็บ คุชชิง รัฐมนตรีสหรัฐอเมริกา บริเวณนี้มีต้นไทรโบราณแผ่กิ่งก้านพันกันไปมา ซึ่งชาวมาเก๊าเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความรักที่ซื่อสัตย์ของสามีภรรยา นอกจากนี้ ยังมีน้ำพุที่มีรูปร่างเหมือนภูมิประเทศจำลองของจีน
ข้อมูลเพิ่มเติม : เวลาที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00-17.30 น.
7. หอคอยมาเก๊า (Macau Tower)
หอคอยมาเก๊านั้นเป็นจุดชมวิวที่สำคัญแห่งหนึ่งก็ว่าได้ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาให้ได้ถ้ามาเยือนมาเก๊า หอคอยนี้สูงเป็นอันดับที่ 8 ในเอเชีย และสูงเป็นอันดับที่ 10 ในโลก อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็นอนุสาวรีย์หอคอยที่ยิ่งใหญ่ของโลกอีกเช่นกัน ถ้าใครอยากชมเมืองมาเก๊าในมุมเบิร์ดอายวิว ต้องมาชมที่นี่เท่านั้น โดยเฉพาะในเวลากลางคืน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว นอกจากนี้ ยังเป็นจุดสำหรับให้บริการบันจี้จัมพ์ด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม : ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 135 ปาตากาส์ (ประมาณ 572 บาท *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง), สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และเด็กราคา 70 ปาตากาส์ (ประมาณ 296 บาท *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) ส่วนเวลาเปิดให้บริการ คือ 10.00-21.00 น. (วันธรรมดา), 09.00-21.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดประจำชาติ)
8. จัตุรัสเซนาโด (Senado Square)
จัตุรัสเซนาโดเป็นลานสาธารณะที่มีขนาดกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการเฉลิมฉลอง บริเวณพื้นทางเดินที่จัตุรัสนี้ตกแต่งด้วยหินและจัดเรียงให้มีลวดลายคลื่นแบบโมเสก เนื่องจากความงดงามของสถาปัตยกรรมจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรกดโลกจากยูเนสโกด้วย และเนื่องจากจัตุรัสแห่งนี้อยู่ติดกับอาคารรัฐสภาเก่าซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบโบสถ์ของเซนต์โดมินิก อีกทั้งยังอยู่ติดกับตึกลีอันเซนาโด นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสกับความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมในชุมชนมาเก๊า นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ จัตุรัสเซนาโดมีแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารจีน เปิดให้บริการอยู่หลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ว่าได้
9. เดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า (The Venetian Macau)
เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่บนถนนโคไท อีกทั้งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียและใหญ่เป็นอันดับสองของโลก นอกจากขนาดที่อลังการแล้ว โรงแรมแห่งนี้ยังเป็นโรงแรมหรู 6 ดาวอีกด้วย ภายในมีห้องพักและบ่อนกาสิโนให้บริการ สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาพัก คือ การออกแบบที่ผสมผสานความโรแมนติกในแบบเวนิส และความน่าตื่นตาตื่นใจของบรรยากาศที่ลาสเวกัส ภายในมีห้องสวีท 3,000 ห้อง ซึ่งมีขนาดกว้างขวางและตกแต่งอย่างหรูหรา ถือว่าเป็นการผสมผสานกันระหว่างความสะดวกสบายและความสวยงามได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ ยังมีโรงละคร ห้องรับประทานอาหาร ร้านค้า กาสิโน และเพียบพร้อมไปด้วยอาหารกว่า 35 เชื้อชาติ ร้านขายเสื้อผ้ามากกว่า 300 ร้าน สถานที่สำหรับออกกำลังกาย และห้องประชุม รวมถึงกิจกรรมที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ นั่นคือ การล่องเรือกอนโดลา เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเวนิสเป็นเมืองแห่งสายน้ำ ดังนั้น นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความรู้สึกของการล่องเรือแบบชาวเวนิส อีกทั้งคนแจวเรือก็ร้องเพลงขับกล่อมไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านความบันเทิงครบครันที่น่าตื่นเต้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีที่สุดในเอเชียเลยก็ว่าได้
ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดทำการ 10.00-23.00 น. (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี), 10.00-24.00 น. (วันศุกร์-วันเสาร์)
10. พิพิธภัณฑ์มาเก๊า (Museum of Macau)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในป้อมปราการเซนต์ปอล มอนติ นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในมาเก๊า ภายในมีการจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยยุคหินใหม่ถึงปัจจุบัน ซึ่งจะดีไม่น้อยเลยถ้านักท่องเที่ยวเริ่มต้นการเดินทางเยี่ยมชมมาเก๊าที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อน เพื่อจะได้ไอเดียใหม่ ๆ ว่าจะไปสำรวจอะไร ที่ไหนต่อดี เพราะคงได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมามากทีเดียวจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม : ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่ราคา 15 ปาตากาส์ (ประมาณ 64 บาท *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง), สำหรับเด็กอายุ 5-10 ปี/นักเรียน/ผู้สูงอายุ ราคา 8 ปาตากาส์ (ประมาณ 34 บาท *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) เวลาทำการ: 10.00-18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในมาเก๊าที่เรานำมาฝากกัน ถ้าใครมีโอกาสมีเที่ยวมาเก๊าละก็ อย่าลืมไปเยี่ยมชมสถานที่ที่เราแนะนำกันด้วยนะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก