เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เด่นดัง คงหนีไม่พ้นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถานที่ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากเกาะต่าง ๆ ที่คงความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ของหาดทราย น้ำทะเล และพืชสัตว์ในโลกใต้น้ำ ดังนั้น กระปุกท่องเที่ยวจึงได้นำ 10 อันดับเกาะสุดเจ๋ง ซึ่งได้รับการการันตีจาก touropia.com สำหรับการไปเที่ยวพักผ่อนมาฝากกันค่ะ ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้นไปชมกันเลย
1. เกาะพีพี
เริ่มกันที่อันดับที่ 1 เกาะพีพี เกาะที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เป็นหมู่เกาะกลางทะเลอันดามัน ประกอบไปด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเล แต่จุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวอยู่ที่เกาะพีพีดอน ด้วยความงดงามทางธรรมชาติของเกาะพีพีทำให้เคยติดอันดับที่ 1 จาก 10 ของเกาะที่สวยที่สุดในโลก จนได้รับสมญานามว่าเป็น “มรกตแห่งอันดามัน” และยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเดอะบีชอีกด้วย จึงไม่แปลกที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาสัมผัสความงามด้วยตาของตัวเอง
จุดเด่นของเกาะพีพี คือ น้ำทะเลสีเขียวมรกตใส อ่าวมาหยาที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาหินปูน และเป็นจุดดำน้ำลึกและน้ำตื้นที่มีปะการังสวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ หาดต้นไทร, อ่าวโละดาลัม, ถ้ำไวกิ้ง, อ่าวปิ และเกาะไม้ไผ่ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกหลายแห่ง เช่น เกาะลันตา หินแดง-ม่วง
2. เกาะเต่า
จุดเด่นของเกาะเต่า คือ แนวปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่สวยงามและยังคงความสมบูรณ์อยู่ ประกอบกับมีสัตว์น้ำนานาชนิด สีสันสวยงามแหวกว่ายตามปะการัง ปัจจุบันเป็นเสมือนศูนย์กลางของกีฬาดำน้ำไปแล้ว มีโรงเรียนสอนดำน้ำมาเปิดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ บริเวณเกาะเต่าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เช่น หาดปะการัง, อ่าวโฉลกบ้านเก่า และจุดชมวิวนางยวน ฯลฯ
3. เกาะช้าง
จุดเด่นของเกาะช้าง คือ มีหาดทะเลขาวสะอาด น้ำทะเลใส และมีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่พัก ร้านอาหาร และบริการต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยว ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อ ได้แก่ อ่าวคลองสน, อ่าวใบลาน, หาดทรายขาว, หาดไก่แบ้, หาดคลองพร้าว-แหลมไชยเชษฐ์, เกาะไม้ชี้, น้ำตกคลองนนทรี และน้ำตกธารมะยม ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมยอดฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ นั่นก็คือ ขี่ช้างเที่ยวบริเวณเกาะ ท่องป่า ขึ้นภูเขา ล่องเรือ ส่องนก ดูหิ่งห้อย โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางไปพักผ่อนที่เกาะช้าง คือ ช่วง เดือนตุลาคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงคลื่นลมสงบ
4. เกาะภูเก็ต
ภูเก็ต เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 543 ตารางกิโลเมตร ถูกโอบล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีคราม และหาดทรายสีขาวเนียน เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจรับลมทะเลในช่วงฤดูร้อนเป็นอย่างมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสความงามอย่างล้นหลาม เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางฝั่งอันดามันเลยก็ว่าได้
จุดเด่นของเกาะภูเก็ต คือ ความงามของทิวทัศน์ทางธรรมชาติ ชายหาดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมี หาดป่าตอง หาดกะรน หาดกะตะ และหาดกมลา ฯลฯ และมีเกาะน้อยใหญ่ที่สวยงามไม่แพ้เกาะภูเก็ตรายล้อมอีกด้วย เช่น เกาะไม้ท่อน เกาะราชา เกาะรัง เกาะเฮ เกาะสิเหร่ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมด้วย เช่น อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ ฯลฯ ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่พักที่เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร ผับบาร์ แหล่งบันเทิงต่าง ๆ จัดว่าเป็นเมืองที่คึกคักมากทีเดียว
5. เกาะพะงัน
เกาะพะงัน อยู่ห่างจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี 100 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ตัวเกาะมีพื้นที่ประมาณ 168 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากเกาะสมุยเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น มีลักษณะภูมิประเทศของเกาะเป็นภูเขาและชายหาด มีสันทรายและแนวหินปะการังรอบ ๆ เกาะ ซึ่งเกาะพะงันนับว่ามีชื่อเสียงทั่วโลกในเรื่องการจัด “ฟลูมูน ปาร์ตี้” นอกจากนี้ ก็มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอีกหลายแห่ง
จุดเด่นของเกาะพะงันที่นอกจากจะมีหาดทรายขาวสะอาดน่าลงไปนอนเกลือกกลิ้ง น้ำทะเลสีฟ้าใส น้ำตก ภูเขาแล้ว ยังเป็นสถานที่จัดฟูลมูน ปาร์ตี้ อีกด้วย โดยหาดที่มีชื่อเสียง ได้แก่ หาดริ้น หาดท้องนายปาน และหาดแม่หาด บรรยากาศที่เกาะค่อนข้างคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ขณะที่อีกมุมหนึ่งของเกาะพะงันเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เช่น วัดวาอารามต่าง ๆ มากมาย รวมถึงจะได้เห็นวิถีชีวิตชาวสวนมะพร้าวและชาวประมงพื้นบ้าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานระหว่างความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว และเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้แวะเวียนกันมาเยี่ยมชม
6. เกาะสมุย
เกาะสมุย เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากพื้นแผ่นดินใหญ่ 35 กิโลเมตร ตัวเกาะมีพื้นที่ 247 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากภูมิประเทศที่เกาะสมุยเป็นที่ราบ การสัญจรโดยรถยนต์จึงเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย เพราะมีถนนครอบคลุมทั้งเกาะ รวมถึงมีสนามบินสำหรับบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
จุดเด่นของเกาะสมุย คือ มีหาดทรายธรรมชาติสวยงามเนื้อละเอียดหลายแห่ง เช่น หาดเฉวง หาดละไม หาดตลิ่งงาม และหาดนาเทียน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้และแหล่งน้ำ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดละไม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสมุยและสวนเสือ หินตายาย เกาะแตน ศูนย์ลิงสมุย สนามควายชนสมุย สวนผีเสื้อสมุย เจดีย์แหลมสอ และน้ำตกหินลาด ฯลฯ โดยช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจจะเป็นช่วงมกราคม-พฤษภาคม เพราะเป็นระยะเวลาที่คลื่นลมสงบ ไม่มีมรสุมใด ๆ เคลื่อนตัวผ่าน
7. เกาะตะรุเตา
เกาะตะรุเตา อยู่ในเขตจังหวัดสตูล มีเนื้อที่ทั้งบนเกาะและทะเลประมาณ 1,490 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยเกาะทั้งหมดถึง 51 เกาะ เกาะตะรุเตามีที่มาอันแสนยาวนาน ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้เป็นทัณฑสถาน รวมถึงนิคมฝึกอาชีพสำหรับนักโทษ แต่ในปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และเนื่องจากมีความสมบูรณ์ทางธรรมขาติมากจึงกลายเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย
จุดเด่นของเกาะ คือ มีป่าที่อุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า สัตว์ทะเล และมีปะการังหลากสีสันสดใส เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เป็นอย่างดี มีสถานที่ดำน้ำหลายแห่ง เช่น บริเวณผาปาปิญอง อ่าวสน เกาะตะเกียง และยังมีชายหาดขาวสะอาดอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ที่หาดทรายอ่าวเมาะและหาดทรายอ่าวสน นอกจากนี้ ยังมีจุดชมวิวที่ผาโต๊ะบู ซึ่งสามารถมองลงมาเห็นทัศนียภาพเบื้องล่างทั้งหาดทราย น้ำทะเล และโขดหิน
8. เกาะเสม็ด
เป็นเกาะขนาดเล็กตั้งอยู่บริเวณอ่าวไทย และอยู่ในเขตจังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สามารถเดินทางไป-กลับภายในวันเดียวได้อย่างสบาย ๆ ตัวเกาะมีพื้นที่ 3,125 ไร่ และที่มาของชื่อเสม็ดนี้ได้มาจากมีต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงขึ้นเต็มเกาะไปหมด นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าเกาะเสม็ดคือ “เกาะแก้วพิสดาร” ในวรรณคดีของสุนทรภู่ เรื่องพระอภัยมณีอีกด้วย
จุดเด่นของเกาะเสม็ด คือ มีชายหาดที่สวยเริ่มตั้งแต่อ่าวน้อยหน่า อ่าวลูกโยน หาดทรายแก้ว อ่าวไผ่ อ่าวทับทิม อ่าวนวล อ่าวช่อ อ่าววงเดือน อ่าวแสงเทียน อ่าวหวาย และอ่าวกิ่ว ฯลฯ ซึ่งทุกหาดที่นี่ล้วนแล้วแต่มีเม็ดทรายสีขาวสะอาดตา และมีโขดหินทอดตัวสลับกับชายหาด น้ำทะเลใสเหมาะกับการว่ายน้ำพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ ยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกที่อ่าวพร้าวได้อีกด้วย สำหรับราคาอาหารและที่พักจัดว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกันที่อื่น
9. เกาะลันตา
จุดเด่นของเกาะลันตา คือ มีชายหาดยาวเรียงรายต่อเนื่องถึง 13 หาด มีทั้งหาดทรายขาว หาดหิน มีอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งเป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ และมีหินแดงหรือปะการังอ่อนที่มีสีแดงเมื่อกระทบกับแสงแดด มีดอกไม้ทะเล กัลปังหา นอกจากนี้ ยังมีจุดชมวิวแหลมโตนด เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลด้านฝั่งตะวันออกเป็นหาดทรายสีขาว ส่วนด้านตะวันตกเป็นหาดหิน มีหินที่มีรูปทรงและสีสันแปลกตาวางเรียงรายเต็มพื้น และเป็นสถานที่ตั้งของประภาคาร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเกาะลันตา เมื่อเดินขึ้นไปชมวิวบนประภาคารจะเห็นต้นตาลโตนดมากมาย
10. เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ในจังหวัดสตูล ตั้งอยู่ห่างจากเกาะอาดังทางตอนใต้ 2 กิโลเมตร อยู่ในอาณาเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ คือ น้ำทะเลใส หาดทรายขาวละเอียด มีปะการังหลากสีโอบล้อมเกาะเอาไว้ อุดมไปด้วยสัตว์น้ำหลายชนิด และมีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม เพียงแค่ก้าวเท้าลงไปในทะเลไม่กี่ก้าวจะเห็นปะการังและปลาการ์ตูนว่ายวนเวียนอยู่รอบ ๆ นอกจากนี้ เกาะหลีเป๊ะยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “มัลดีฟส์แห่งเมืองไทย” ซะด้วย สำหรับชายหาดที่งดงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ หาดพัทยา เป็นหาดที่มีความสวยงามที่สุด อยู่บริเวณด้านหน้าของหมู่บ้านชาวเล, หาดซันไรท์ อยู่ทางทิศตะวันออก ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านชาวเล เป็นบริเวณที่สามารถรับชมพระอาทิตย์ขึ้น จัดว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ และหาดซันเซตเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่งามที่สุดแห่งหนึ่ง
ทั้งหมดนี้คือ 10 เกาะที่ได้รับการกล่าวขวัญว่างดงามคู่ควรแก่การเดินทางมาพักผ่อน หากมีโอกาสต้องลองสัมผัสน้ำทะเลใส เม็ดทรายขาวละเอียด ปะการังหลากสี แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนได้รีเฟรชร่างกายตัวเอง ให้มีพลังเติมอิ่ม พร้อมกลับไปลุยกับการงานอีกครั้ง ^__^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
และ