
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คนที่กำลังวางแผนออกทัวร์แถบเอเชียตะวันออก เชื่อว่าชื่อของ "สาธารณรัฐประชาชนจีน" คงอยู่ในแพลนแน่นอน แต่อุปสรรคอันยิ่งใหญ่เมื่อเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศจีน คือ การสื่อสาร เพราะคนจีนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เมื่อนักท่องเที่ยวจะสอบถามขอความช่วยเหลือ หรือแม้แต่สั่งอาหารก็กลายเป็นปัญหา ชวนปวดหัวไม่น้อยเลย ใช้ทั้งปาก ทั้งมือใบ้คำกันสุด ๆ กว่าจะเข้าใจกันได้ ดังนั้น กระปุกท่องเที่ยวจึงขอแนะนำ 5 เมือง ที่ผู้คนมีทักษะการพูดอังกฤษคล่องปรื้อ และเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว ทำให้คนเลือกเดินทางมายังเมืองเหล่านี้มากกว่าเมืองอื่น ๆ ไปดูกันเลยว่ามีเมืองไหนบ้าง

เริ่มต้นด้วยเกาะฮ่องกง คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก เป็นเพราะว่าเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษ แม้แต่เสียงประกาศในห้างสรรพสินค้ายังเป็นภาษาอังกฤษเลย นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่มีเสน่ห์สามารถดึงดูดผู้คนมากมายจากทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลัก ๆ เช่น เขตเกาะฮ่องกง เขตเกาลูน (Kowloon) และเขตนิวเทอร์ริทอรี่ส์
เกาะฮ่องกงเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ย่านเศรษฐกิจและเป็นแหล่งช้อปปิ้ง เรียกได้ว่าเป็นเขตที่เจริญรุ่งเรืองและทันสมัยมาก ๆ จุดชมวิวยอดฮิต คือ ตึกระฟ้าตรงชายฝั่งทางเหนือที่ตั้งเรียงรายยาว เปิดไฟสว่างไสวงดงามตลอดคืน การแสดงแสงสีเสียง (The Symphony of Lights) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึงกับถูกบันทึกไว้ใน Guinness Book เลยทีเดียว เป็นภาพบรรยากาศที่ช่างงดงามเสียจริง ๆ





ถ้าต้องการสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบ ธรรมชาติสุด ๆ ไม่มีเมืองไหนแซงหน้าที่นี่อีกแล้ว ภูเขาที่ปกคลุมด้วยสีเขียว ปราศจากมลภาวะทางอากาศ นักท่องเที่ยวสามารถแวะที่ชุดชม วิวธรรมชาติยอดนิยมได้ เช่น แม่น้ำ Yulong, ภูเขาพระจันทร์ (Moon Hill), ถ้ำ Assembling Dragon และยังมีกิจกรรมสนุก ๆ น่าตื่นเต้น เน้นการผจญภัยอีกด้วย ทั้ง ล่องเรือ-แพ ปั่นจักรยาน เดินป่า สำรวจถ้ำ ปืนเขา ฯลฯ ใครที่ชอบเที่ยวแบบลุย ๆ ไม่ติดหรู อยากสัมผัสธรรมชาติสุดขีด เมืองนี้สามารถตอบสนองได้ครบเลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นเมืองเงียบ ๆ อยู่ในเขตชนบท แต่นักท่องเที่ยวต้องตะลึงกับทักษะการพูดภาษาอังกฤษของคนที่นี่ คุณสามารถพูดคุยสอบถามได้อย่างไม่ต้องเมื่อยมือ อาจะเป็นเพราะว่าที่เมืองนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีนักผู้คนจากทั่วโลกมาเยี่ยม ทำให้พนักงานบริการตามสถานที่พัก ร้านอาหาร ใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี


กุ้ยหลินนับว่าเป็นอีกเมืองที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแปลกตา เพราะว่าใจกลางกุ้ยหลินเป็นย่านที่เจริญรุ่งเรือง เต็มไปด้วยตึกอาคารสูง บรรยากาศคึกคักไปด้วยผู้คนและความทันสมัย ขณะที่รอบ ๆ ถูกโอบล้อมไปด้วยแม่น้ำ ทะเลสาบ และภูเขา สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีหลาย แห่งด้วยกัน เช่น เขางวงช้าง (Elephant Trunk Hill), สวนเจ็ดดาว (Seven Star Park), ถ้ำขลุ่ย (Reed Flute Cave), แม่น้ำหลี่ (Li River) ฯลฯ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเที่ยวที่นี่ เพราะเมืองกุ้ยหลินได้รับการขนานนามจากคนจีนว่าเป็น “เมืองสวรรค์บนพื้นพิภพ” ทำให้เมืองกุ้ยหลินกลายเป็นเมืองท่องเที่ยว มีธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเกิดขึ้นจำนวนมาก จึงไม่แปลกที่ผู้คนที่นี่สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี


เมืองซีอานเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สืบมายาวนาน เคยเป็นเมืองหลวงของ 13 ราชวงศ์ และยังเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองในสมัยก่อน โดยซีอานเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยการค้าขายกับต่างประเทศ ในปัจจุบันมีการค้นพบโบราณสถาน-วัตถุ ที่ทรงคุณค่ามากมาย เช่น สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ กำแพงเมืองเก่าฉางอาน (City Wall of Xian) มัสยิด และวัดวาอารามเก่าแก่ต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุ เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Shaanxi พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรม Shaanxi เป็นต้น
เมืองซีอานจัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวย้อนรอยอารยธรรมจีนที่สามารถดึงดูดผู้คนทั่วโลกมาเยี่ยมชม ทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยอุตสาหกรรมด้านท่องเที่ยว มีโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกสำหรับบริการนักท่องเที่ยวมากมาย ทำให้พนักงานบริการและคนท้องถิ่นสื่อสารกับชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดีทีเดียว


เมืองหางโจวจัดว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญด้านท่องเที่ยวมากเมืองหนึ่ง เพราะนอกจากความสวยงามทางธรรมชาติแล้ว ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในอดีตหางโจวเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางการค้าขาย และในปัจจุบันจัดว่าเป็นเมืองที่เจริญที่สุดในเขตภาคตะวันออกของจีน เนื่องจากเป็นศูนย์รวมทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ในหางโจว เช่น ทะเลสาบซีหู (Xihu Lake) ศาลเจ้างักฮุย (Yue Fei) วัดพระจี้กง (Jingci Temple) เจดีย์เหลงเฟิง (Leifeng Pagoda) เป็นต้น
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเมืองหางโจวเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์โด่งดังหลายแห่ง ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนสัมผัสบรรยากาศที่นี่กันมาก จึงเกิดการขยายตัวธุรกิจด้านท่องเที่ยว ดังนั้น เรื่องภาษาที่ใช้ในการสื่อสารจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับนักท่องเลย เพราะสถานที่ให้บริการ รวมถึงผู้คนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี

นักท่องเที่ยวต้องเตรียมวีซ่าที่ได้รับอนุมัติจากงสุลจีนล่วงหน้า 30 วัน ก่อนวันออกเดินทาง สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเป็นเงิน 140 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,500 บาท ทางกงสุลจะตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ เช่น ตั๋วเครื่องบิน และข้อมูลการจองที่พัก
เอาล่ะ...ใครที่วางแผนจะบินไปเที่ยวชมวิวทัศน์ สัมผัสคุณค่ามรดกทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมจีน อย่าลืมไปเที่ยวที่ 5 เมืองนี้กันด้วยนะ รับรองว่าเที่ยวไปอย่างสบายใจ ไม่เมื่อยมือใบ้คำแน่นอน นอกจากผู้คนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีแล้ว พวกเขายังยิ้มแย้มและมีน้ำใจกับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
