บาหลี เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักเดินทางหลาย ๆ คนอยากไปเยือนสักครั้ง อาจเพราะความสวยงามของธรรมชาติ ที่ผสมผสานกับศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของผู้คนได้อย่างลงตัว จึงไม่แปลกใจที่จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ ไปท่องเที่ยวสำรวจความงดงามของแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงมนตร์เสน่ห์ที่ทำให้ใคร ๆ ก็หลงใหลบาหลี จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "อัญมณีแห่งมหาสมุทรอินเดีย" กัน...
บาหลี (Bali) หรือ จังหวัดบาหลี เป็น 1 ใน 33 จังหวัดของประเทศอินโดนีเซีย มีเมืองสำคัญคือ "เดนปาซาร์" (Denpasar) พื้นที่ทั้งหมด 5,634.40 ตารางกิโลเมตร มีประชาการทั้งสิ้น 3,422,600 คน ความหนาแน่นของประชากร 607 คน/ตารางกิโลเมตร ภาษาที่ใช้คือภาษาอินโดนีเซียและภาษาบาหลี
ประชากรส่วนใหญ่บนเกาะบาหลีนับถือศาสนาฮินดู ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบาหลีได้รับวัฒนธรรมจากอินเดียเป็นอันมาก ไม่ว่าจะเป็น ศาสนา ตลอดจนอักษรและภาษา ฯลฯ โดยนำมารวมกับวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น และนำใช้อย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจให้ใครต้องใครดินทางไปเที่ยว "บาหลี" เพราะยังคงมีความงดงามตามธรรมชาติ อาจเพราะมีกฏหมายห้ามปลูกสิ่งก่อสร้าง ที่เป็นสิ่งแปลกปลอมจากธรรมชาติ อีกทั้งอาคารที่จะสร้างต้องมีความสูงห้ามเกิน 15 เมตร รวมถึงรักษาวิถีชีวิตและความเชื่อในแบบดั่งเดิมไว้ไม่เสื่อมคลาย
สถานที่ท่องเที่ยวในบาหลี
บาดุง (Badung)
เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงคือ เดนปาซาร์ (Denpasar) ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของความเจริญในบาหลี รวมทั้งเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ บริวเณนี้มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว มีหาดสวยงาม จึงเต็มไปด้วยรีสอร์ตและโรงแรมที่พักจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณอ่างทางตะวันตกเฉียงใต้
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ อนุเสาวรีย์รามยะณะ, ปุระทามันอายุน (Pura Taman Ayun) วัดที่เคยเป็นวังเก่าของรายาแห่งเม็งวีมาก่อน สร้างตอนศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมของกษัตริย์ราชวงศ์เม็งวี, ปูปูตันสแควร์ จุดศูนย์กลางของเมือง, พิพิธภัณฑ์บาหลี สถานที่จัดแสดงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของเกาะบาหลี ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน, ปุระจากัตนาตา วัดประจำรัฐ เปิดให้เข้าชมได้ 2 ครั้งต่อเดือน คือวันขึ้น 15 ค่ำ และ แรม 15 ค่ำ, ตลาดบาดุง ตลาดเก่าแก่ที่เปิด 24 ชั่วโมง, ปุระมะอาปาหิต วัดที่มีประวัติศาสตร์ค่อนข้างยาวนานตั้งแต่สมัยกษัตริย์มัชปาหิต, ศูนย์วัฒนธรรมทามันบูดายา จัดแสดงศิลปะภาพวาดของบาหลี รวมถึงงานแกะสลักหินและไม้ หน้ากาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
กูต้า-เลเกียน-เซมินยัก ชายหาดที่สวยงาม ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นโต้คลื่น และนอนอาบแดด, ปุระสาเกนัน วัดที่คนบาหลีจะมาไหว้สักการะกันในช่วงวันกุนิงกัน, อูลูวาตู (วัดที่ตั้งอยู่บนผาเหนือฝั่งทะเล เป็นสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมาก โดยเฉพาะในยามอาทิตย์ตก
บางลี (Bangli)
เมืองที่มีลักษณะภูมิศาสตร์ของภูเขาไฟ ซึ่งตรงกันข้ามกับนาข้าวแบบขั้นบันได อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลากสายในบาหลี นักท่องเที่ยวที่เข้าสู่เขตนี้มักจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของภูเขา ที่ลาดลงมาสู่ชายทะเล โดยมีนาข้าวขั้นบันไดตลอดสองข้างทาง
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ปากปล่องภูเขาไฟบาตูร์ ซึ่งเกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อประมาณ 30,000 ปีมาแล้ว ประกอบไปด้วยหมู่บ้าน เพเนโลกัน และ คินตามณี ที่มีวิวให้ชมอย่างเพลินตา รวมทั้งร้านขายผลไม้เมืองหนาวสด ๆ, ปุระเคเฮน วัดที่มีอายุเก่าแก่และมีขนาดใหญ่วัดหนึ่งในบาหลี มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดนเด่นไม่เหมือนใคร และมีความเชื่อว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้น เพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้าแห่งไฟ
ปุระอูลันดานูบาตูร์ วัดใหญ่และที่ถือได้ว่สำคัญเป็นอันดับ 2 รองจาก วัดเบซากี มีวัดรวมอยู่ภายในถึง 9 วัด บรรยากาศของที่วัดถูกไอหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้ดูขลังและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น, ทะเลสาบบาตรู ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบาหลี ชาวบาหลีเชื่อว่าทะเลสาบแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นที่สถิตย์ของเทวีดานู เจ้าหญิงแห่งทะเลสาบ มีจุดชมวิวที่สวย ๆ หลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีหมู่บ้านริมทะเลสาบ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังนับถือผีแบบโบราณ และมีธรรมเนียมการทิ้งศพให้แห้งบนดิน ก่อนนำไปฝังอีกครั้งหนึ่งด้วย
บูเลเล็ง (Buleleng)
เคยเป็นเมืองหลวงของบาหลีสมัยที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของดัตซ์ และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเดนปาซาร์ มีเมืองหลวงคือ สิงคราชา (Singaraja) ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่หลากหลายของผู้คน ทั้งที่เป็นชาวพื้นเมืองบาหลี ชาวจีน และชาวมุสลิม พร้อม ๆ กับมีธรรมชาติที่งดงามมากมาย เป็นแหล่งผลิตกาแฟที่ใหญที่สุด และเขตที่มีการปลูกองุ่นบาหลีสำหรับผลิตไวน์ด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ วังโบราณ ปุริกังกินัน ที่ยังเหลือบางส่วนให้ได้ชม, ปุริชินาร์นาดี ปุตรี โรงงานทอผ้าอิกัตวางขายให้นักท่องเที่ยวด้วย, ปุระอากุงจากัตนาตา ซึ่งในบางครั้งอาจจะไม่ได้เปิดให้เข้าไปชมข้างใน แต่สามารถมองจากถนนได้ หมู่บ้านเบระตัน ที่มีชื่อเสียงด้านการทำเครื่องเงิน, น้ำตกกิตกิต เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในบาหลี สวยงามและเงียบสงบ แต่ชาวบาหลีเชื่อกันว่าหากคู่รักมาเที่ยวที่นี่ด้วยกัน จะทำให้ต้องเลิกรากันไป
ปุระเบกิ เป็นวัดที่สร้างจากหินทรายสีชมพู, ปุระดาเล็มจาการากา วัดที่มีภาพแกะสลักที่งดงามเกี่ยวกับพระศิวะ อยู่ที่ประตูทางเข้าด้านหน้า, หาดโลวิน่า ชายหาดที่มีชื่อเสียง เพราะหาดทรายเป็นสีดำแปลกตา ตอนกลางวันนักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำ ดำน้ำ หรือออกเรือไปดูโลมาได้ ส่วนกลางคืนบรรดาร้านอาหาร ร้านค้า จะยังเปิดให้บริการจนดึกดื่น
เกียนยัร (Gianyar)
เขตที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางแห่งศิลปวัฒนธรรมของบาหลี อีกทั้งยังมีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ และงานศิลปะต่าง ๆ รวมถึงมีวังโบราณที่ยังคงสภาพดีที่สุด แต่ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม และมีชื่อเสียงเรืองการทอผ้า
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ บาตูบุหลัน มีชื่อเสียงทางการแกะสลักหิน นอกจากนี้ ยังมีการแสดงการเต้นระบำบารองทุกวัน, เซลุก หมู่บ้านแห่งเครื่องทองและเครื่องเงิน ที่ทำเป็นเครื่องประดับหรือเครื่องใช้ โดยส่งออกไปจำหน่ายยังทั่วโลก, สุขะวาตี ตลาดขายงานหัตถกรรมต่าง ๆ ในราคาที่ย่อมเยา, มาส (Mas) หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องการแกะสลักไม้ มีทั้งชิ้นงานที่แกะขึ้นตามความเชื่อทางศาสนา หน้ากากแบบดั้งเดิม หรือจะเพื่อตกแต่งอาคารบ้านเรือนตามแบบสมัยใหม่
อูบุด หมู่บ้านศูนย์รวมศิลปะของบาหลี โดยตลาดที่เมืองอูบุดจะมีสินค้าพื้นเมืองฝีมือดีจำหน่าย ซึ่งอาจหาไม่ได้ในที่อื่น ๆ และบริเวณโดยรอบอูบุดก็ยังคงมีนาขั้นบันไดที่สวยงามให้ชมด้วย แต่สิ่งที่ไม่ควรพลาดไปเยือน คือ
ปุริลูกิสาน พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในสวนดอกไม้ จัดแสดงงานศิลปะการวาดภาพ และงานแกะสลักของบาหลีตั้งแต่สมัยทศวรรษที่ 30 ปุระสาระวาตี วัดซึ่งตั้งอยู่ในสวนน้ำ พร้อมกับสระบัวขนาดใหญ่สองข้างทาง ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความงดงามอย่างมากอีกแห่ง ปุริชาเร็นอากุง วังที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมบริเวณรอบ ๆ วังได้ บ้านเลมปัด บ้านของ I Gusti Nyoman Lempad ศิลปินชื่อดังของบาหลี ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่มีชื่อเสียงไว้มากมาย
เปเจ็ง (Pejeng) หมู่บ้านนี้มีสถานที่สำคัญคือ ปุระเปนาราตันศศี เพราะมีของสำคัญคือ กลองสำริดโบราณขนาดใหญ่เรียกกันว่า "จันทราแห่งเปเจ็ง" เป็นหนึ่งในวัดสำคัญในยุครุ่งเรืองที่สุดของอาณาจักรบาหลี
เจ็มบรานา (Jembrana)
เมืองชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางทางเรือจากท่าเรือเคตาปัง มายังท่าเรือกิลิมานุก โดยมีเมืองหลวงคือ เนการา (Negara) ซึ่งเขตนี้เป็นเขตที่มีผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรมแล้ว ทางตอนเหนือยังมีภูเขาสูงมากมาย ซึ่งทำให้กลายเป็นอุทยานแห่งชาติ ลงมาทางใต้ก็จะเป็นชายหาดที่มีความยาวกว่า 70 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติบาหลีตะวันตก เป็นอุทยานแห่งชาติที่กว้างใหญ่มาก และเป็นที่อยู่ของบรรดาสัตว์ป่านานาชนิด มีบรรยากาศของป่าต้นโกงกางไปจนถึงป่าทุ่งสะวันนา และป่าฝน, อ่าวกิลิมานุก ชายหาดที่สวยงาม และบนชายฝั่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมหลากหลาย
การังอะเซ็ม (Karangasem)
เขตทางชายฝั่งตะวันออกของบาหลี เป็นเขตหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรื่องชายหาดที่สวยงาม และมีวิถีชีวิตแบบพื้นเมืองดังเดิมให้เห็น อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ กุหนุงอากุง (Gunung Agung) ภูเขาที่สูงที่สุดในบาหลี โดยมีความสูง 3,014 เมตร
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ปุระเบซากี วัดที่มีความสำคัญที่สุดของบาหลี ตั้งอยู่เชิงเขากุหนุงอากุง เป็นวัดในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดของบาหลี ถือเป็นมาตาแห่งวัดทั้งหลาย ในบริเวณประกอบด้วยวัดเล็ก ๆ เกือบ 30 แห่ง ที่เรียงรายอยู่เป็นขั้น ๆ กว่า 7 ขั้นไปตามไหล่เขา มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาก, เทงกะนัน หมู่บ้านที่ยังคงยึดการนับถือผีและความเชื่อโบราณ จนถูกเรียกขานว่าเป็น "บาหลีโบราณ" หรือ Bali Aga และเป็นเพียงหมู่บ้านเดียวที่มีการทอผ้าเกริงชิง หรืออิกัตแบบทอ 2 ชั้น ซึ่งมีราคาแพงมาก มีการสานตะกร้าแบบแทงกะนัน
อัมลาปุระ เป็นที่ตั้งของ ปุระอากุงการังกาเสม ซึ่งเป็นวังในสมัยที่รายาแห่งการังกาเสมปกครองบาหลี, วังเตียร์ตากังกา สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1974 โดยรายาอัมลาปุระ ซึ่งทรงโปรดน้ำมาก บริเวณวังถูกออกแบบอย่างงดงาม ทั้งสระน้ำและสระว่ายน้ำที่เชื่อมกับน้ำพุตามธรรมชาติ รายล้อมด้วยทิวทัศน์ของนาขั้นบันไดสีเขียวขจี
เทมปักเซริงและเตียร์ตาอัมปีล หมู่บ้านแหล่งผลิตไม้แกะสลัก มีสถานที่สำคัญคือบ้านพักของอดีตประธานาธิบดีซูการ์โน ใกล้ ๆ กันนั้นมีวัดน้ำพุศักดิ์ศิทธิ์เตียร์ตาอัมปีล ที่ชาวบาหลีนิยมมาอาบน้ำขจัดปัดเป่าโชคร้าย ชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ และปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ, กุหนุงกาวี ที่ฝั่งพระศพเหล่ามเหสีของรายาเมื่อ 800-900 ปีก่อน
กลุงกุง (Klungkung)
เขตที่เล็กที่สุดของบาหลี อยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง เกาะนูซาเปนิดา (Nusa Penida), นูซาเล็มบองกัน (Nusa Lembongan) และเชนิงกัน (Ceningan) สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครก็คือ สถาปัตยกรรมแบบกลุงกุง ภายในตัวเมืองจะมีกำแพงเมืองล้อมรอบ ตกแต่งด้วยภาพวาดในรูปแบบกลุงกุง ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิลปะดั้งเดิมที่มีความงดงามมากแบบหนึ่ง
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ พระราชวังทามันกิลี ภายในมีภาพวาดที่มีชื่อเสียง เกอร์ทา โกซา (Kerta Gosa) ซึ่งเป็นการวาดแบบวายัง (Wayang) หรือ 2 มิติ, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ จัดแสดงงานศิลปะทั้งในแบบดั้งเดิม และแบบสมัยใหม่, ติฮิงกัน หมู่บ้านที่ทำฆ้องจากดีบุกและทองแดง, กามาสัน หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการวาดภาพในแบบดั้งเดิม โดยนำเรื่องราวเกี่ยวกับมหากาพย์ของศาสนาฮินดู มาถ่ายทอดเป็นชิ้นงานที่สวยงามและมีเอกลักษณ์, ปุระกัวลาวาห์ หรือ วัดถ้ำค้างคาว เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของบาหลี มีถ้ำค้างคาวอยู่ภายในบริเวณวัด และเชื่อกันว่าหากเดินไปตามถ้ำจะมีทางที่เชื่อมไปสู่วัดเบซากิได้
ปุระกัวคชา หรือ วัดถ้ำช้าง มีสิ่งที่โดดเด่นคือแผ่นหินสลักหน้าปากทางเข้าถ้ำ ภายในศิวลึงค์ตามความเชื่อของฮินดู, นูซาเปนิดา เกาะเล็ก ๆ นอกชายฝั่ง เคยเป็นที่กักกันนักโทษ แต่ปัจจุบันเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะเงียบสงบ เหมาะสำหรับดำน้ำ หรือเล่นกระดานโต้คลื่น นอกจากนี้ ยังมีบริเวณใกล้เคียงยังมี เกาะนูซาเล็มบองกัน และ เกาะนูซาเชนิงกัน ให้นักท่องเที่ยวไปดำน้ำชมปะการังอีกด้วย
ตาบานัน (Tabanan)
เป็นเขตที่อยู่ติดกับมหาสุมทรอินเดีย ส่วนทางฝั่งตะวันออกเป็นภูเขา แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากคือ ปุระทานาลอต (Tanah Lot) คำว่า ทานา แปลว่า โลก ส่วน ลอต แปลว่า ทะเล เชื่อว่าวัดแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการบรรจบกัน ของธรรมชาติและจักรวาล นักท่องเที่ยวนิยมไปชมพระอาทิตย์ตก
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ปุระทานาลอต เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนชายหาด เรียกได้ว่ายื่นลงไปในทะเลเลยทีเดียว เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวบาหลีให้ความเคารพบูชาอย่างมาก, ทะเลสาบบราตัน เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียง เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการธรรมชาติ, ปุระอูลันดานูบราตัน ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบบราตัน มีลักษณะเด่นตรงศาลาซึ่งมีหลังคาทรงสูงที่เรียกว่าเมรุ มุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น และ นาขั้นบันไดที่จาติลูวีห์ หมู่บ้านแถบนี้ยังมีการปลูกข้าวแบบขั้นบันได ซึ่งทำให้บริเวณนี้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของสังคมเกษตรกรรมแบบบาหลี
และนี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวเพียงไม่กี่แห่ง ที่เราหยิบมาแนะนำกัน เพราะจริง ๆ แล้ว "บาหลี" ยังมีอะไรสวย ๆ งาม ๆ แจ่ม ๆ ให้เพื่อน ๆ เดินทางไปสัมผัสด้วยตัวเองอีกเพียบ! ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะไปเยี่ยมเยือน "บาหลี" นะจ๊ะ
ข้อควรระวังในการเที่ยวบาหลี
+ ระวังรักษาสิ่งของมีค่าที่อยู่กับตัวเสมอ เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่คนเยอะ เอกสารสำคัญหรือของมีค่าควรเก็บไว้ในตู้เซฟของโรงแรม และกระเป๋าที่พกติดตัวก็ควรจะมิดชิดเช่นกัน
+ ควรมีสำเนาพาสปอร์ตติดตัวไปด้วยเสมอ
+ เมื่อลงไปว่ายน้ำอย่าออกไปว่ายนอกเขตที่กำหนดไว้ เนื่องจากกระแสน้ำจะแรงมากให้ว่ายในบริเวณระหว่างธงแดงและธงเหลือง
+ อย่าพกพาหรือเสพยาเสพติดใด ๆ ทั้งสิ้นหากถูกตรวจพบอาจถูกจำคกไปจนกระทั้งประหารชีวิต
+ อย่าเดินเหยียบเครื่องบูชาที่วางไว้ตามพื้น
+ อย่าแตะศีรษะผู้อื่น เนื่องจากเป็นสิ่งไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับศาสนาฮินดู นอกจากนั้น จะต้องไม่รับส่งของด้วยมือซ้าย ซึ่งที่บาหลีถือว่าเป็นมือสำหรับชำระล้างในห้องน้ำ
+ สำหรับผู้หญิงห้ามเข้าวัดหากอยู่ในระหว่างมีประจำเดือน
+ ในการเข้าชมวัดต้องแต่งตัวเรียบร้อยใส่เสื้อมีแขน ไม่เปิดไหล่ ไม่ใส่กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงสั้น ไม่เช่นนั้นจะต้องนุ่งโสร่ง ซึ่งวัดใหญ่ ๆ จะมีให้เช่า และทุกคนต้องใช้ผ้าคาดเอวซึ่งส่วนมากจะให้บริการฟรี แต่มักมีการเก็บเงินทางที่ดีถ้ามีโปรแกรมเข้าวัดเยอะ ๆ ก็ควรพกผ้าคาดเอวส่วนตัวไปเลย
+ หากเข้าไปในวัดขณะที่กำลังมีพิธีไหว้อยู่ควรนั่งชมอยู่ห่าง ๆ และไม่ยืนค้ำคนที่นั่งไหว้อยู่หรือยืนค้ำเครื่องบูชา อีกทั้งไม่ควรถ่ายรูปโดยใช้แฟลช
+ ก่อนจะซื้อสินค้าให้ตรวจสอบราคาที่ตกลงกันไว้ให้ดีก่อน ทางที่ดีควรพกเครื่องคิดเลขติดตัวไว้ด้วยจะช่วยได้มาก และอย่าลืมต่อรองราคาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
+ ตรวจสอบเมื่อแลกเงินและแลกเงินเฉพาะกับธนาคาร หรือร้านรับแลกเงินที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เจอปัญหาเรื่องโดนโกงโดยให้แลกเงินกลับมาไม่ครบ
+ หากคนขายของตามร้านข้างทางเรียกให้ซื้อของ ถ้าไม่ต้องการซื้อก็อย่าไปต่อรองราคาเล่นๆ เพราะถ้าต่อแล้วไม่เอาอาจเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้
+ การซื้อตั๋วโดยสารเรือ รถ หรือจองทัวร์ใด ๆ ก็ตาม ควรทำกับสำนักงานในโรงแรมที่พักหรือบริษัทที่เชื่อถือได้เท่านั้น ระวังพวกต้มตุ๋นริมถนนที่อ้างว่าขายตั๋วราคาถูกพิเศษให้ อาจเสียเงินไปฟรี ๆ ก็ได้
การขอ Visa
+ สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย ถ้าเดินทางท่องเที่ยวในอินโดนีเซียไม่เกิน 30 วัน ไม่ต้องขอวีซ่าเพื่อผ่านเข้าประเทศ แต่ถ้าพำนักอยู่เกินกำหนด 30 วันจะโดนอัตราค่าปรับวันละ 25 ดอลลาร์สหรัฐ
+ พาสปอร์ตไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม บรูไน มาเก๊า เปรู ชิลี โมร็อคโค อยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน (ท่องเที่ยวเท่านั้น) โดยไม่ต้องขอวีซ่า
+ ประเทศที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องวีซ่าในการท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเยียน สามารถอยู่ในประเทศอินโดนีเซียได้ 30 วัน ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง มาเก๊า บรูไนดารุสซาลาม เวียดนาม ชิลี เปรู โมร็อคโค แต่หนังสือเดินทางต้อง มีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ที่อยู่ 600-602 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กทม. 10400 โทรศัพท์ 0-2252-3135-9
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, tripdeedee.com, a-oneflight.com และ tourtooktee.com
บาหลี (Bali) หรือ จังหวัดบาหลี เป็น 1 ใน 33 จังหวัดของประเทศอินโดนีเซีย มีเมืองสำคัญคือ "เดนปาซาร์" (Denpasar) พื้นที่ทั้งหมด 5,634.40 ตารางกิโลเมตร มีประชาการทั้งสิ้น 3,422,600 คน ความหนาแน่นของประชากร 607 คน/ตารางกิโลเมตร ภาษาที่ใช้คือภาษาอินโดนีเซียและภาษาบาหลี
ประชากรส่วนใหญ่บนเกาะบาหลีนับถือศาสนาฮินดู ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบาหลีได้รับวัฒนธรรมจากอินเดียเป็นอันมาก ไม่ว่าจะเป็น ศาสนา ตลอดจนอักษรและภาษา ฯลฯ โดยนำมารวมกับวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น และนำใช้อย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจให้ใครต้องใครดินทางไปเที่ยว "บาหลี" เพราะยังคงมีความงดงามตามธรรมชาติ อาจเพราะมีกฏหมายห้ามปลูกสิ่งก่อสร้าง ที่เป็นสิ่งแปลกปลอมจากธรรมชาติ อีกทั้งอาคารที่จะสร้างต้องมีความสูงห้ามเกิน 15 เมตร รวมถึงรักษาวิถีชีวิตและความเชื่อในแบบดั่งเดิมไว้ไม่เสื่อมคลาย
สถานที่ท่องเที่ยวในบาหลี
บาดุง (Badung)
เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงคือ เดนปาซาร์ (Denpasar) ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของความเจริญในบาหลี รวมทั้งเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ บริวเณนี้มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว มีหาดสวยงาม จึงเต็มไปด้วยรีสอร์ตและโรงแรมที่พักจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณอ่างทางตะวันตกเฉียงใต้
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ อนุเสาวรีย์รามยะณะ, ปุระทามันอายุน (Pura Taman Ayun) วัดที่เคยเป็นวังเก่าของรายาแห่งเม็งวีมาก่อน สร้างตอนศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมของกษัตริย์ราชวงศ์เม็งวี, ปูปูตันสแควร์ จุดศูนย์กลางของเมือง, พิพิธภัณฑ์บาหลี สถานที่จัดแสดงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของเกาะบาหลี ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน, ปุระจากัตนาตา วัดประจำรัฐ เปิดให้เข้าชมได้ 2 ครั้งต่อเดือน คือวันขึ้น 15 ค่ำ และ แรม 15 ค่ำ, ตลาดบาดุง ตลาดเก่าแก่ที่เปิด 24 ชั่วโมง, ปุระมะอาปาหิต วัดที่มีประวัติศาสตร์ค่อนข้างยาวนานตั้งแต่สมัยกษัตริย์มัชปาหิต, ศูนย์วัฒนธรรมทามันบูดายา จัดแสดงศิลปะภาพวาดของบาหลี รวมถึงงานแกะสลักหินและไม้ หน้ากาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
กูต้า-เลเกียน-เซมินยัก ชายหาดที่สวยงาม ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นโต้คลื่น และนอนอาบแดด, ปุระสาเกนัน วัดที่คนบาหลีจะมาไหว้สักการะกันในช่วงวันกุนิงกัน, อูลูวาตู (วัดที่ตั้งอยู่บนผาเหนือฝั่งทะเล เป็นสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมาก โดยเฉพาะในยามอาทิตย์ตก
บางลี (Bangli)
เมืองที่มีลักษณะภูมิศาสตร์ของภูเขาไฟ ซึ่งตรงกันข้ามกับนาข้าวแบบขั้นบันได อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลากสายในบาหลี นักท่องเที่ยวที่เข้าสู่เขตนี้มักจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของภูเขา ที่ลาดลงมาสู่ชายทะเล โดยมีนาข้าวขั้นบันไดตลอดสองข้างทาง
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ปากปล่องภูเขาไฟบาตูร์ ซึ่งเกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อประมาณ 30,000 ปีมาแล้ว ประกอบไปด้วยหมู่บ้าน เพเนโลกัน และ คินตามณี ที่มีวิวให้ชมอย่างเพลินตา รวมทั้งร้านขายผลไม้เมืองหนาวสด ๆ, ปุระเคเฮน วัดที่มีอายุเก่าแก่และมีขนาดใหญ่วัดหนึ่งในบาหลี มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดนเด่นไม่เหมือนใคร และมีความเชื่อว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้น เพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้าแห่งไฟ
ปุระอูลันดานูบาตูร์ วัดใหญ่และที่ถือได้ว่สำคัญเป็นอันดับ 2 รองจาก วัดเบซากี มีวัดรวมอยู่ภายในถึง 9 วัด บรรยากาศของที่วัดถูกไอหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้ดูขลังและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น, ทะเลสาบบาตรู ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบาหลี ชาวบาหลีเชื่อว่าทะเลสาบแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นที่สถิตย์ของเทวีดานู เจ้าหญิงแห่งทะเลสาบ มีจุดชมวิวที่สวย ๆ หลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีหมู่บ้านริมทะเลสาบ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังนับถือผีแบบโบราณ และมีธรรมเนียมการทิ้งศพให้แห้งบนดิน ก่อนนำไปฝังอีกครั้งหนึ่งด้วย
บูเลเล็ง (Buleleng)
เคยเป็นเมืองหลวงของบาหลีสมัยที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของดัตซ์ และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเดนปาซาร์ มีเมืองหลวงคือ สิงคราชา (Singaraja) ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่หลากหลายของผู้คน ทั้งที่เป็นชาวพื้นเมืองบาหลี ชาวจีน และชาวมุสลิม พร้อม ๆ กับมีธรรมชาติที่งดงามมากมาย เป็นแหล่งผลิตกาแฟที่ใหญที่สุด และเขตที่มีการปลูกองุ่นบาหลีสำหรับผลิตไวน์ด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ วังโบราณ ปุริกังกินัน ที่ยังเหลือบางส่วนให้ได้ชม, ปุริชินาร์นาดี ปุตรี โรงงานทอผ้าอิกัตวางขายให้นักท่องเที่ยวด้วย, ปุระอากุงจากัตนาตา ซึ่งในบางครั้งอาจจะไม่ได้เปิดให้เข้าไปชมข้างใน แต่สามารถมองจากถนนได้ หมู่บ้านเบระตัน ที่มีชื่อเสียงด้านการทำเครื่องเงิน, น้ำตกกิตกิต เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในบาหลี สวยงามและเงียบสงบ แต่ชาวบาหลีเชื่อกันว่าหากคู่รักมาเที่ยวที่นี่ด้วยกัน จะทำให้ต้องเลิกรากันไป
ปุระเบกิ เป็นวัดที่สร้างจากหินทรายสีชมพู, ปุระดาเล็มจาการากา วัดที่มีภาพแกะสลักที่งดงามเกี่ยวกับพระศิวะ อยู่ที่ประตูทางเข้าด้านหน้า, หาดโลวิน่า ชายหาดที่มีชื่อเสียง เพราะหาดทรายเป็นสีดำแปลกตา ตอนกลางวันนักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำ ดำน้ำ หรือออกเรือไปดูโลมาได้ ส่วนกลางคืนบรรดาร้านอาหาร ร้านค้า จะยังเปิดให้บริการจนดึกดื่น
เกียนยัร (Gianyar)
เขตที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางแห่งศิลปวัฒนธรรมของบาหลี อีกทั้งยังมีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ และงานศิลปะต่าง ๆ รวมถึงมีวังโบราณที่ยังคงสภาพดีที่สุด แต่ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม และมีชื่อเสียงเรืองการทอผ้า
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ บาตูบุหลัน มีชื่อเสียงทางการแกะสลักหิน นอกจากนี้ ยังมีการแสดงการเต้นระบำบารองทุกวัน, เซลุก หมู่บ้านแห่งเครื่องทองและเครื่องเงิน ที่ทำเป็นเครื่องประดับหรือเครื่องใช้ โดยส่งออกไปจำหน่ายยังทั่วโลก, สุขะวาตี ตลาดขายงานหัตถกรรมต่าง ๆ ในราคาที่ย่อมเยา, มาส (Mas) หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องการแกะสลักไม้ มีทั้งชิ้นงานที่แกะขึ้นตามความเชื่อทางศาสนา หน้ากากแบบดั้งเดิม หรือจะเพื่อตกแต่งอาคารบ้านเรือนตามแบบสมัยใหม่
อูบุด หมู่บ้านศูนย์รวมศิลปะของบาหลี โดยตลาดที่เมืองอูบุดจะมีสินค้าพื้นเมืองฝีมือดีจำหน่าย ซึ่งอาจหาไม่ได้ในที่อื่น ๆ และบริเวณโดยรอบอูบุดก็ยังคงมีนาขั้นบันไดที่สวยงามให้ชมด้วย แต่สิ่งที่ไม่ควรพลาดไปเยือน คือ
ปุริลูกิสาน พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในสวนดอกไม้ จัดแสดงงานศิลปะการวาดภาพ และงานแกะสลักของบาหลีตั้งแต่สมัยทศวรรษที่ 30 ปุระสาระวาตี วัดซึ่งตั้งอยู่ในสวนน้ำ พร้อมกับสระบัวขนาดใหญ่สองข้างทาง ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความงดงามอย่างมากอีกแห่ง ปุริชาเร็นอากุง วังที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมบริเวณรอบ ๆ วังได้ บ้านเลมปัด บ้านของ I Gusti Nyoman Lempad ศิลปินชื่อดังของบาหลี ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่มีชื่อเสียงไว้มากมาย
เปเจ็ง (Pejeng) หมู่บ้านนี้มีสถานที่สำคัญคือ ปุระเปนาราตันศศี เพราะมีของสำคัญคือ กลองสำริดโบราณขนาดใหญ่เรียกกันว่า "จันทราแห่งเปเจ็ง" เป็นหนึ่งในวัดสำคัญในยุครุ่งเรืองที่สุดของอาณาจักรบาหลี
เจ็มบรานา (Jembrana)
เมืองชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางทางเรือจากท่าเรือเคตาปัง มายังท่าเรือกิลิมานุก โดยมีเมืองหลวงคือ เนการา (Negara) ซึ่งเขตนี้เป็นเขตที่มีผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรมแล้ว ทางตอนเหนือยังมีภูเขาสูงมากมาย ซึ่งทำให้กลายเป็นอุทยานแห่งชาติ ลงมาทางใต้ก็จะเป็นชายหาดที่มีความยาวกว่า 70 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติบาหลีตะวันตก เป็นอุทยานแห่งชาติที่กว้างใหญ่มาก และเป็นที่อยู่ของบรรดาสัตว์ป่านานาชนิด มีบรรยากาศของป่าต้นโกงกางไปจนถึงป่าทุ่งสะวันนา และป่าฝน, อ่าวกิลิมานุก ชายหาดที่สวยงาม และบนชายฝั่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมหลากหลาย
การังอะเซ็ม (Karangasem)
เขตทางชายฝั่งตะวันออกของบาหลี เป็นเขตหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรื่องชายหาดที่สวยงาม และมีวิถีชีวิตแบบพื้นเมืองดังเดิมให้เห็น อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ กุหนุงอากุง (Gunung Agung) ภูเขาที่สูงที่สุดในบาหลี โดยมีความสูง 3,014 เมตร
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ปุระเบซากี วัดที่มีความสำคัญที่สุดของบาหลี ตั้งอยู่เชิงเขากุหนุงอากุง เป็นวัดในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดของบาหลี ถือเป็นมาตาแห่งวัดทั้งหลาย ในบริเวณประกอบด้วยวัดเล็ก ๆ เกือบ 30 แห่ง ที่เรียงรายอยู่เป็นขั้น ๆ กว่า 7 ขั้นไปตามไหล่เขา มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาก, เทงกะนัน หมู่บ้านที่ยังคงยึดการนับถือผีและความเชื่อโบราณ จนถูกเรียกขานว่าเป็น "บาหลีโบราณ" หรือ Bali Aga และเป็นเพียงหมู่บ้านเดียวที่มีการทอผ้าเกริงชิง หรืออิกัตแบบทอ 2 ชั้น ซึ่งมีราคาแพงมาก มีการสานตะกร้าแบบแทงกะนัน
อัมลาปุระ เป็นที่ตั้งของ ปุระอากุงการังกาเสม ซึ่งเป็นวังในสมัยที่รายาแห่งการังกาเสมปกครองบาหลี, วังเตียร์ตากังกา สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1974 โดยรายาอัมลาปุระ ซึ่งทรงโปรดน้ำมาก บริเวณวังถูกออกแบบอย่างงดงาม ทั้งสระน้ำและสระว่ายน้ำที่เชื่อมกับน้ำพุตามธรรมชาติ รายล้อมด้วยทิวทัศน์ของนาขั้นบันไดสีเขียวขจี
เทมปักเซริงและเตียร์ตาอัมปีล หมู่บ้านแหล่งผลิตไม้แกะสลัก มีสถานที่สำคัญคือบ้านพักของอดีตประธานาธิบดีซูการ์โน ใกล้ ๆ กันนั้นมีวัดน้ำพุศักดิ์ศิทธิ์เตียร์ตาอัมปีล ที่ชาวบาหลีนิยมมาอาบน้ำขจัดปัดเป่าโชคร้าย ชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ และปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ, กุหนุงกาวี ที่ฝั่งพระศพเหล่ามเหสีของรายาเมื่อ 800-900 ปีก่อน
กลุงกุง (Klungkung)
เขตที่เล็กที่สุดของบาหลี อยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง เกาะนูซาเปนิดา (Nusa Penida), นูซาเล็มบองกัน (Nusa Lembongan) และเชนิงกัน (Ceningan) สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครก็คือ สถาปัตยกรรมแบบกลุงกุง ภายในตัวเมืองจะมีกำแพงเมืองล้อมรอบ ตกแต่งด้วยภาพวาดในรูปแบบกลุงกุง ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิลปะดั้งเดิมที่มีความงดงามมากแบบหนึ่ง
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ พระราชวังทามันกิลี ภายในมีภาพวาดที่มีชื่อเสียง เกอร์ทา โกซา (Kerta Gosa) ซึ่งเป็นการวาดแบบวายัง (Wayang) หรือ 2 มิติ, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ จัดแสดงงานศิลปะทั้งในแบบดั้งเดิม และแบบสมัยใหม่, ติฮิงกัน หมู่บ้านที่ทำฆ้องจากดีบุกและทองแดง, กามาสัน หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการวาดภาพในแบบดั้งเดิม โดยนำเรื่องราวเกี่ยวกับมหากาพย์ของศาสนาฮินดู มาถ่ายทอดเป็นชิ้นงานที่สวยงามและมีเอกลักษณ์, ปุระกัวลาวาห์ หรือ วัดถ้ำค้างคาว เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของบาหลี มีถ้ำค้างคาวอยู่ภายในบริเวณวัด และเชื่อกันว่าหากเดินไปตามถ้ำจะมีทางที่เชื่อมไปสู่วัดเบซากิได้
ปุระกัวคชา หรือ วัดถ้ำช้าง มีสิ่งที่โดดเด่นคือแผ่นหินสลักหน้าปากทางเข้าถ้ำ ภายในศิวลึงค์ตามความเชื่อของฮินดู, นูซาเปนิดา เกาะเล็ก ๆ นอกชายฝั่ง เคยเป็นที่กักกันนักโทษ แต่ปัจจุบันเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะเงียบสงบ เหมาะสำหรับดำน้ำ หรือเล่นกระดานโต้คลื่น นอกจากนี้ ยังมีบริเวณใกล้เคียงยังมี เกาะนูซาเล็มบองกัน และ เกาะนูซาเชนิงกัน ให้นักท่องเที่ยวไปดำน้ำชมปะการังอีกด้วย
ตาบานัน (Tabanan)
เป็นเขตที่อยู่ติดกับมหาสุมทรอินเดีย ส่วนทางฝั่งตะวันออกเป็นภูเขา แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากคือ ปุระทานาลอต (Tanah Lot) คำว่า ทานา แปลว่า โลก ส่วน ลอต แปลว่า ทะเล เชื่อว่าวัดแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการบรรจบกัน ของธรรมชาติและจักรวาล นักท่องเที่ยวนิยมไปชมพระอาทิตย์ตก
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ปุระทานาลอต เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนชายหาด เรียกได้ว่ายื่นลงไปในทะเลเลยทีเดียว เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวบาหลีให้ความเคารพบูชาอย่างมาก, ทะเลสาบบราตัน เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียง เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการธรรมชาติ, ปุระอูลันดานูบราตัน ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบบราตัน มีลักษณะเด่นตรงศาลาซึ่งมีหลังคาทรงสูงที่เรียกว่าเมรุ มุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น และ นาขั้นบันไดที่จาติลูวีห์ หมู่บ้านแถบนี้ยังมีการปลูกข้าวแบบขั้นบันได ซึ่งทำให้บริเวณนี้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของสังคมเกษตรกรรมแบบบาหลี
และนี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวเพียงไม่กี่แห่ง ที่เราหยิบมาแนะนำกัน เพราะจริง ๆ แล้ว "บาหลี" ยังมีอะไรสวย ๆ งาม ๆ แจ่ม ๆ ให้เพื่อน ๆ เดินทางไปสัมผัสด้วยตัวเองอีกเพียบ! ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะไปเยี่ยมเยือน "บาหลี" นะจ๊ะ
ข้อควรระวังในการเที่ยวบาหลี
+ ระวังรักษาสิ่งของมีค่าที่อยู่กับตัวเสมอ เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่คนเยอะ เอกสารสำคัญหรือของมีค่าควรเก็บไว้ในตู้เซฟของโรงแรม และกระเป๋าที่พกติดตัวก็ควรจะมิดชิดเช่นกัน
+ ควรมีสำเนาพาสปอร์ตติดตัวไปด้วยเสมอ
+ เมื่อลงไปว่ายน้ำอย่าออกไปว่ายนอกเขตที่กำหนดไว้ เนื่องจากกระแสน้ำจะแรงมากให้ว่ายในบริเวณระหว่างธงแดงและธงเหลือง
+ อย่าพกพาหรือเสพยาเสพติดใด ๆ ทั้งสิ้นหากถูกตรวจพบอาจถูกจำคกไปจนกระทั้งประหารชีวิต
+ อย่าเดินเหยียบเครื่องบูชาที่วางไว้ตามพื้น
+ อย่าแตะศีรษะผู้อื่น เนื่องจากเป็นสิ่งไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับศาสนาฮินดู นอกจากนั้น จะต้องไม่รับส่งของด้วยมือซ้าย ซึ่งที่บาหลีถือว่าเป็นมือสำหรับชำระล้างในห้องน้ำ
+ สำหรับผู้หญิงห้ามเข้าวัดหากอยู่ในระหว่างมีประจำเดือน
+ ในการเข้าชมวัดต้องแต่งตัวเรียบร้อยใส่เสื้อมีแขน ไม่เปิดไหล่ ไม่ใส่กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงสั้น ไม่เช่นนั้นจะต้องนุ่งโสร่ง ซึ่งวัดใหญ่ ๆ จะมีให้เช่า และทุกคนต้องใช้ผ้าคาดเอวซึ่งส่วนมากจะให้บริการฟรี แต่มักมีการเก็บเงินทางที่ดีถ้ามีโปรแกรมเข้าวัดเยอะ ๆ ก็ควรพกผ้าคาดเอวส่วนตัวไปเลย
+ หากเข้าไปในวัดขณะที่กำลังมีพิธีไหว้อยู่ควรนั่งชมอยู่ห่าง ๆ และไม่ยืนค้ำคนที่นั่งไหว้อยู่หรือยืนค้ำเครื่องบูชา อีกทั้งไม่ควรถ่ายรูปโดยใช้แฟลช
+ ก่อนจะซื้อสินค้าให้ตรวจสอบราคาที่ตกลงกันไว้ให้ดีก่อน ทางที่ดีควรพกเครื่องคิดเลขติดตัวไว้ด้วยจะช่วยได้มาก และอย่าลืมต่อรองราคาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
+ ตรวจสอบเมื่อแลกเงินและแลกเงินเฉพาะกับธนาคาร หรือร้านรับแลกเงินที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เจอปัญหาเรื่องโดนโกงโดยให้แลกเงินกลับมาไม่ครบ
+ หากคนขายของตามร้านข้างทางเรียกให้ซื้อของ ถ้าไม่ต้องการซื้อก็อย่าไปต่อรองราคาเล่นๆ เพราะถ้าต่อแล้วไม่เอาอาจเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้
+ การซื้อตั๋วโดยสารเรือ รถ หรือจองทัวร์ใด ๆ ก็ตาม ควรทำกับสำนักงานในโรงแรมที่พักหรือบริษัทที่เชื่อถือได้เท่านั้น ระวังพวกต้มตุ๋นริมถนนที่อ้างว่าขายตั๋วราคาถูกพิเศษให้ อาจเสียเงินไปฟรี ๆ ก็ได้
การขอ Visa
+ สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย ถ้าเดินทางท่องเที่ยวในอินโดนีเซียไม่เกิน 30 วัน ไม่ต้องขอวีซ่าเพื่อผ่านเข้าประเทศ แต่ถ้าพำนักอยู่เกินกำหนด 30 วันจะโดนอัตราค่าปรับวันละ 25 ดอลลาร์สหรัฐ
+ พาสปอร์ตไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม บรูไน มาเก๊า เปรู ชิลี โมร็อคโค อยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน (ท่องเที่ยวเท่านั้น) โดยไม่ต้องขอวีซ่า
+ ประเทศที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องวีซ่าในการท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเยียน สามารถอยู่ในประเทศอินโดนีเซียได้ 30 วัน ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง มาเก๊า บรูไนดารุสซาลาม เวียดนาม ชิลี เปรู โมร็อคโค แต่หนังสือเดินทางต้อง มีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ที่อยู่ 600-602 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กทม. 10400 โทรศัพท์ 0-2252-3135-9
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, tripdeedee.com, a-oneflight.com และ tourtooktee.com