ชวนหนีความวุ่นวายในเมืองหลวง ไปสวมบทหนุ่มสาวบ้านนา ใช้ชีวิตชนบทแท้ ๆ กันที่ฟาร์มสเตย์สวย ๆ ทั่วไทย จะมีที่ไหนบ้าง ต้องตามไปดู
ในวันที่นวัตกรรมและเทคโนโลยีรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งทำให้คนเราอยากจะถอยหลังกลับไปใช้ชีวิตให้ช้าลง อยู่กับธรรมชาติให้มากขึ้น กินอยู่แบบพอเพียง ได้อยู่กับต้นไม้ใบหญ้า ใช้เวลาทำกิจกรรมในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท จนเกิดเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือการท่องเที่ยวแบบฟาร์มสเตย์ ซึ่งตอบโจทย์คนเมืองกรุงที่โหยหาชีวิตติดดิน ให้ได้มีโอกาสสวมบทบาทเป็นเกษตรกรมือสมัครเล่น แนวคิด ฟาร์มสเตย์ (Farm Stay) นับเป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวจะได้เข้าพักในเรือกสวนไร่นาของเกษตรกร คล้ายกับโฮมสเตย์ทั่วไป แต่ความพิเศษคือจะมีกิจกรรมการเกษตรภายในฟาร์ม ทั้งทำนา ทำสวน เก็บผัก เลี้ยงสัตว์ ไปจนถึงทำอาหารกินเอง ให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมเพื่อให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อยู่โดยรอบ ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้และเข้าถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรอย่างแท้จริงด้วย
ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีฟาร์มสเตย์ที่น่าสนใจมากมายเปิดให้บริการกระจายไปทั่วประเทศ รองรับนักท่องเที่ยวชาวเมืองที่ต้องการใช้ชีวิตแบบธรรมชาติตามวิถีสโลว์ไลฟ์ จะมีที่ไหนบ้างนั้น เราได้รวบรวมมาแนะนำดังนี้
1. Walk Camp
สัมผัสประสบการณ์พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ใกล้ชิดกับช้าง เรียนรู้วิถีชีวิตควาญช้าง กับ Walk Camp ที่ไร่อ้อมกอดภูเขา อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ฟาร์มสเตย์ที่จะพาทุกคนไปใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติ กับที่พักแบบกระท่อม ใช้ไฟจากแผงโซลาร์เซลล์ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ตัวแคมป์จะอยู่ในศูนย์อนุบาลช้าง สามารถเดินไปเล่นกับน้องช้างได้ตลอดเวลา มีกิจกรรมสนุก ๆ ทั้งให้อาหารช้าง อาบน้ำช้าง เดินชมไร่ ปลูกผัก เวิร์กช็อปทำสบู่จากดอกไม้ในไร่ พอกหน้าด้วยโคลน แช่สปาเท้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ตั้งแคมป์ไฟนอนดูดาว และปาร์ตี้บาร์บีคิวแสนอร่อย ใครที่มีความฝันในวัยเด็กอยากเป็นคนเลี้ยงช้าง อยากเล่นกับเจ้าตัวใหญ่ใจดี ในบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว ๆ ต้องที่นี่เลย
2. อยู่ดินกินดีฟาร์มสเตย์
รีสอร์ตและที่พักแนวเกษตร เหมาะสำหรับคนที่รักในศิลปะและการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ตั้งอยู่กลางทุ่งนา โอบล้อมด้วยต้นไม้และขุนเขาใหญ่ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ในฟาร์มได้รับการจัดสรรอย่างดี มีที่พักสีสันสดใสทั้งแบบบ้านปูน และบ้านดินที่เป็นไฮไลต์สำคัญด้วยโครงสร้างหลังคาสูง หน้าต่างเยอะ โล่งโปร่งสบาย สามารถรับลมและถ่ายเทอากาศได้สะดวก มีแปลงปลูกผักสวนครัว สระกักเก็บน้ำไว้ใช้ทำเกษตร บ่อเลี้ยงปลา และนาปลูกข้าว ที่ในฤดูกาลทำนา รอบ ๆ ฟาร์มจะกลายเป็นทุ่งนาเขียวขจี อากาศสดชื่น เงียบสงบ ใครที่มาพักในช่วงทำนา ดำนา เกี่ยวข้าว ก็สามารถเข้าร่วมทดลองทำนาด้วยตัวเองได้ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจของที่พักที่นี่ นอกจากนี้ยังร้านกาแฟชิค ๆ ให้นั่งชิลกับบรรยากาศด้วย
3. อาสา ฟาร์มสเตย์
ขึ้นเหนือไปยังจังหวัดเชียงราย กับฟาร์มสเตย์บรรยากาศท้องทุ่งนาที่แสนเงียบสงบ สุดไพรเวทเพราะมีห้องพักแค่ 4 ห้อง และจำกัดจำนวนคนเข้าพักไม่ให้เกิน 12 คนต่อวันเท่านั้น ไปใช้ชีวิตแบบช้า ๆ สัมผัสวิถีชีวิตชาวนา เรียนรู้การปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ เดินเล่นชิล ๆ ชมสวนชวนไร่ เก็บไข่ไก่สด ๆ จากเล้า เก็บผักปลอดสารจากแปลง เช้า ๆ ออกไปใส่บาตรพระขี่ม้า ฝึกเป็นแม่ครัวทำขนมไทยกินเอง และทำสปาสุ่มไก่อบสมุนไพรธรรมชาติ ปล่อยตัวปล่อยใจ ดื่มด่ำไปกับสายลมเย็น ๆ และบรรยากาศร่มรื่น เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เมืองหลวงให้ไม่ได้
4. โรงเรียนชาวนาตำบลศิลาเพชร
ชวนไปนอนกลางทุ่งนาบรรยากาศแสนสดชื่น ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาลูกใหญ่ กับโรงเรียนชาวนาตำบลศิลาเพชร จังหวัดน่าน บ้านพักเรือนไม้หลังใหญ่ติดผืนนากว้างสุดลูกหูลูกตา ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีน้ำ มีไฟ แต่ไม่มีแอร์ ใช้ความเย็นจากธรรมชาติแทน เหมาะสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนชิล ๆ ซึมซับความสวยงามของธรรมชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เดินเล่นชมทุ่งนา กำจัดแมลงที่แปลงนาข้าว รวมถึงเก็บผักมาทำอาหารกินเอง หรือถ้ามาในช่วงหน้าดำนา ก็อาจจะได้ลงไปดำนากันเองเลย รวมถึงได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวนาว่าปลูกข้าวกันอย่างไร กำจัดศัตรูพืชยังไง กินนอนแบบไหน ใครที่กำลังมองหาที่พักแบบธรรมชาติ อากาศดี ๆ ต้องลองมาที่นี่ดู
5. ฟาร์มโชคชัย
เมื่อพูดถึงฟาร์ม หลายคนคงจะนึกถึง ฟาร์มโชคชัย ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงโคขนาดใหญ่เป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่พัฒนาเป็นฟาร์มเพื่อการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นศูนย์รวมทั้งที่พักเก๋ ๆ เป็นเต็นท์ที่พักติดแอร์สไตล์คาวบอย อยู่กลางป่า แต่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อีกทั้งยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ที่เป็นวิถีชีวิตของเกษตรกรที่ต้องดูแลฝูงโคจำนวนหลายพันตัวให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส ทั้งนั่งรถแทรกเตอร์เที่ยวชมรอบฟาร์ม ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม โชว์รีดนมโคด้วยมือและเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่อยากทดลองรีดด้วยตัวเองด้วย รวมถึงกิจกรรมแสดงความสามารถของคาวบอยโชว์ขี่ม้าต้อนสัตว์ หรือใครอยากขี่ม้าก็สามารถทำได้ภายใต้การดูแลของคาวบอยที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัย 100% แถมอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แบบขับรถแค่ชั่วโมงนิด ๆ ก็ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามแล้ว
ภาพจาก JIMMOYHT / Shutterstock.com
6. บ้านนอกคอกนา
ฟาร์มสเตย์และที่พักเชิงเกษตร ตั้งอยู่ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่นาสีเขียวตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าจัด มีคลองเล็ก ๆ ที่มีสะพานไม้ไผ่ และท่าน้ำให้นั่งชิล พร้อมแปลงผักสารพัดชนิดในสวนหลังบ้าน ได้บรรยากาศบ้านนอกตามชนบท เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรียนรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ และชื่นชอบที่พักแบบบ้าน ๆ ภายในฟาร์มมีทั้งโซนที่พัก ร้านอาหาร แปลงเกษตรอินทรีย์ปลูกพืชหมุนเวียน และแปลงนาสาธิตพร้อมทั้งยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ได้ทำกันเพียบ เช่น เดินเล่นริมแปลงนา พายเรือเล่นในฟาร์ม รดน้ำพรวนดินแปลงผัก หรือจะเก็บผักสด ๆ ปลอดสารพิษไปปรุงอาหาร เป็นต้น ใครที่มีแพลนจะไปเขาใหญ่แล้วเบื่อคาเฟ่ ร้านอาหารชิค ๆ จะแวะมาชิล ๆ ที่ฟาร์มแห่งนี้ ก็ถือว่าเป็นความคิดที่จะเปลี่ยนบรรยากาศได้ดีทีเดียว
7. Green Me Organic Farm
เอาใจสายเฮลธ์ตี้กับฟาร์มสเตย์แนวออร์แกนิก กับ Green Me Organic Farm ฟาร์มสเตย์สไตล์อังกฤษที่โดดเด่นเรื่องการเกษตรอินทรีย์ ผลผลิตและสินค้าออร์แกนิก 100% มีทั้งแบบบ้านพักสไตล์อบอุ่น เหมือนนอนพักผ่อนที่บ้านท่ามกลางธรรมชาติแสนสดชื่น ได้รับอากาศบริสุทธิ์ หรือใครไม่อยากนอนค้าง อยากมาเป็นชาวสวนทำกิจกรรมสนุก ๆ แบบ One Day ตั้งแต่การปลูกและเก็บผักสด ๆ จากแปลงปลอดสารพิษ ศึกษาวงจรชีวิตแมลง ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์อย่างหมู ไก่ และเพาะเห็ด ทางฟาร์มก็มีแพ็กเกจในราคาสบายกระเป๋าด้วย นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ขายสินค้าและอาหารอร่อย ๆ จากวัตถุดิบที่ปลูกเองในฟาร์ม ไม่ว่าจะแค่มาเที่ยวหรือนอนพักที่นี่รับรองเลยว่าได้ทั้งความสนุก ความสบาย และที่สำคัญได้สุขภาพที่ดีกลับไปด้วย
8. Pasutara Farm& Village
ที่พักและสวนสำหรับคนที่รักธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์กันเต็มปอด กับบ้านพักที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งพักคู่ ครอบครัวใหญ่ บ้านติดน้ำ บ้านในสวน หรือจะกางเต็นท์ชิล ๆ รับวิวและอากาศเย็น ๆ ก็ได้บรรยากาศสุดฟิน ภายในสวนมีกิจกรรมให้ได้สนุกสนานเพลิดเพลินทั้งครอบครัว ตั้งแต่เก็บผักสดจากฟาร์มธรรมชาติ ไร้สารเคมี ปั่นจักรยาน เดินเล่นริมธาร เล่นน้ำ และเก็บเลมอนสด ๆ จากต้น นอกจากนี้ ในสวนยังมีร้านขายของที่ระลึก จำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเลมอน และมุมถ่ายรูปต่าง ๆ อีกมากมายให้ได้พักผ่อนด้วย วันหยุดนี้ ถ้ายังไม่มีโปรแกรมไปไหน มาใช้ชีวิตแบบ Purifyinglife สร้างความทรงจำดี ๆ ที่นี่กันเถอะ
9. รื่นเริง ฟาร์มสเตย์
บ้านพักในสวนเกษตร บรรยากาศแสนสงบ เป็นส่วนตัว พร้อมกิจกรรมเกษตรสนุก ๆ สำหรับทุกเพศทุกวัยกับ รื่นเริง ฟาร์มสเตย์ บ้านพักในสวนที่ให้ฟีลเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้าน ตัวบ้านพักเป็นกระท่อมหลังเล็ก ๆ ที่อบอุ่นและครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และมีกิจกรรมภายในฟาร์มให้เพลิดเพลิน เช่น พายเรือ เดินเล่นชมสวน เลี้ยงปลา ปั่นจักรยาน เก็บมะนาวสด ๆ จากต้นเอาไปทำเครื่องดื่มอร่อย ๆ ปลูกวอเตอร์เครส ชำน้ำ ทำบับเบิ้ลจากสีธรรมชาติ ทำสีธรรมชาติ สร้างโปสการ์ดงานศิลป์ ทำปืนและดาบก้านกล้วย อบกระโจมสมุนไพรขับสารพิษ ทำน้ำผึ้งมะนาว และทำกิมจิวอเตอร์เครส กิจกรรมเพียบขนาดนี้ จะอดใจไม่มาพักที่นี่ไหวหรือ
10. บ้านปันสุข เพชรบุรีรมณ์
พาทุกคนไปสวมบทบาทเป็นหนุ่มสาวบ้านทุ่ง ย้อนวันวานไปใส่ผ้าถุง ผูกผ้าขาวม้าวิ่งเล่นในสวน นั่งเล่นเถียงนา อาบน้ำโอ่ง นอนฟังเสียงจิ้งหรีดเรไรในทุ่งนา กับบ้านปันสุข เพชรบุรีรมณ์ ที่พักแบบบ้าน ๆ แสนเงียบสงบริมทุ่งนา ถ้ามาช่วงข้าวกำลังออกรวงเขียว มองวิวทุ่งนาเพลิน ๆ ก็ฟินสุด ๆ ไปเลย ที่พักแห่งนี้มีบ้านให้เลือก 3 หลัง แต่ละหลังจะมีเป็นห้องพัดลม ไม่มีแอร์ มีชานบ้านให้นอนเล่น และพื้นที่ห้องครัวที่มีอุปกรณ์ให้ได้ทำอาหารกินเอง จะต้มผัดแกงทอดอะไรก็ตามสะดวก หรือจะไปเก็บไข่สด ๆ จากเล้าไก่ก็ได้ สำหรับห้องน้ำก็มีทั้งแบบอาบโอ่งกลางแจ้งและห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน ตกเย็นก็ออกไปเดินดูบรรยากาศทุ่งนายามเย็น กลางคืนก็นอนดูดาว ฟังเสียงน้ำไหล ได้อารมณ์เหมือนกลับไปเที่ยวบ้านญาติที่ต่างจังหวัดเลย
11. ปากคลอง ฟาร์มสเตย์
มุ่งหน้าลงใต้บ้าง กับ ปากคลอง ฟาร์มสเตย์ ที่พักกึ่งฟาร์มเล็ก ๆ น่ารักท่ามกลางบรรยากาศสวนเกษตรในอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ที่ให้ฟีลเหมือนได้กลับบ้านสวนของปู่ย่าตายาย ไปทำตัวสโลว์ไลฟ์ เลี้ยงสัตว์ เก็บผักมาทำอาหารกินกัน ฟาร์มสเตย์แห่งนี้มีห้องพักเพียง 4 ห้องเท่านั้น จึงให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวและเงียบสงบมาก เมื่อเข้ามาพักแล้วก็มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง เช่น เข้าฟาร์มสัตว์ เก็บไข่ไก่สด เล่นกับน้องแกะ เล่นกับม้า ให้อาหารสัตว์ ปั่นจักรยานเล่นในหมู่บ้าน ทำแปลงผัก และทำสาคู ขนมขึ้นชื่อของจังหวัดพัทลุงด้วย แถมในทุก ๆ กิจกรรมก็มีคุณลุงคุณป้ามาช่วยอธิบายและดูแล ประหนึ่งญาติผู้ใหญ่สอนเด็กเลยทีเดียว จะมากับครอบครัวหรือยกแก๊งเพื่อนฝูงมาสวมบทบาทเป็นหนุ่มชาวสวน สาวชาวไร่ก็เหมาะมาก .
12. บ้านไร่ไออรุณ
ที่พักสุดสวยในใจใครหลายคน ที่เมื่อแพลนจะไปเที่ยวจังหวัดระนอง สถานที่แห่งนี้มักจะอยู่ในลิสต์ เพราะความสวยงามและเป็นธรรมชาติมักจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ ด้วยไอเดียการออกแบบที่พักและบรรยากาศรอบภายใต้แนวคิด “พื้นที่แห่งรักที่เป็นมากกว่าบ้าน” ทำให้ฟาร์มสเตย์แห่งนี้อบอุ่นไปด้วยความรักและความใส่ใจ ใครก็ตามที่ได้มาพักหรือมาเที่ยวที่นี่ก็จะได้รับความรู้สึกและความทรงจำดี ๆ กลับไปอย่างแน่นอน ภายในบ้านไร่ไออรุณแบ่งเป็น 2 โซนคือ โซนด้านนอกที่เป็นร้านขายผักสด ๆ จากแปลงที่ปลูกกันเอง สินค้าทำมือ และร้านอาหารที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาสั่งอาหารกันได้ และโซนด้านในที่เป็นพื้นที่สำหรับผู้ที่มาเข้าพักเท่านั้น สำหรับใครที่พักที่นี่จะมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้มาสัมผัสกับวิถีธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตชาวสวน เช่น ปลูกผัก ขายผัก เก็บผักและผลไม้มาทำอาหารพื้นบ้านอีกด้วย
ใครที่เบื่อการท่องเที่ยวแบบเดิม และกำลังมองหาที่เที่ยวบรรยากาศดี ๆ แบบเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย แถมได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ก็ลองดูฟาร์มสเตย์ที่เรานำมาฝากกัน ไปเป็นไอเดียในการวางแพลนทริปเที่ยวได้เลย รับรองว่า สามารถพักผ่อนร่างกายอย่างเต็มที่ และได้ความทรงจำดี ๆ กลับไปอย่างแน่นอน
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Walk Camp, เฟซบุ๊ก อยู่ดินกินดีฟาร์มสเตย์ : Youdin Kindee farmstay, เฟซบุ๊ก Ahsa Farmstay อาสา ฟาร์มสเตย์, เฟซบุ๊ก โรงเรียนชาวนาตำบลศิลาเพชร, เฟซบุ๊ก Farm Chokchai, เฟซบุ๊ก บ้านนอกคอกนา เขาใหญ่, เฟซบุ๊ก Green Me Organic Farm - เกษตรอินทรีย์ ออร์แกนิค ฟาร์ม, เฟซบุ๊ก Pasutara พสุธารา, เฟซบุ๊ก รื่นเริง ฟาร์มสเตย์ ราชบุรี, เฟซบุ๊ก บ้านปันสุข เพชรบุรีรมณ์, เฟซบุ๊ก ปากคลองฟาร์มสเตย์, เฟซบุ๊ก บ้านไร่ ไออรุณ baan rai i arun