x close

เย็นฉ่ำชุ่มปอด ณ น้ำตกไทรโยค

อุทยานแห่งชาติไทรโยค

อุทยานแห่งชาติไทรโยค

อุทยานแห่งชาติไทรโยค

เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก อุทยานแห่งชาติไทรโยค

          ถ้าเอ่ยถึงน้ำตกที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย "น้ำตกไทรโยค" คงเป็น 1 ในนั้น อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่แห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีค้างคาวที่เล็กที่สุดในโลก คือ ค้างคาวกิตติ และ ปูราชินี ปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลกอาศัยอยู่ รวมไปถึงในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทรโยค เคยเป็นค่ายพักแรมของทหารญี่ปุ่น ปัจจุบันปรากฎร่องรอยเตาหุงข้าวและซากเตาไฟอยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยมนุษย์ยุคหินเก่า

          อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการต้อนรับฤดูร้อนที่สุดแสนจะร้อนตบแตก อุญหภูมิพุ่งพรวดเหยียบ 40 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้น กระปุกดอทคอมเลยจะชวนเพื่อน ๆ ไปเย็นกายสบายใจที่ น้ำตกไทรโยค ซึ่งตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติไทรโยค ให้ชุ่มฉ่ำปอดกัน พร้อม ๆ กับไปสัมผัสความมหัศจรรย์หนึ่งเดียวของ อุทยานแห่งชาติไทรโยค กัน ถ้าพร้อมแล้วเชิญเลย...

          อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตั้งแต่ครั้งสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสน้ำตกไทรโยค และได้ลงสรงน้ำในธารน้ำอันเย็นฉ่ำภายใต้ร่มเงาแห่งแมกไม้ของป่าใหญ่ และเป็นแรงบันดาลใจให้ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงประพันธ์บท เพลง "เขมรไทรโยค" จนความงามของน้ำตกไทรโยคเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว

อุทยานแห่งชาติไทรโยค

          อีกทั้งยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือ ในระหว่าง พ.ศ. 2484 - 2488 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้เกณฑ์ทหารเชลยศึกทำการก่อสร้างทางรถไฟ เพื่อที่จะเป็นเส้นทางต่อเข้าไปยังประเทศพม่า ส่วนหนึ่งของเส้นทางผ่านเข้ามาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เลียบลำน้ำแควน้อยไปจนจรดด่านเจดีย์สามองค์ ที่อำเภอสังขละบุรี บริเวณต้นน้ำตกไทรโยคเป็นแหล่งหุงหาอาหารและที่พักพิงหลบภัย ดังปรากฏเตาหุงข้าวของทหารญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงมีธรรมชาติสวยงาม ที่สำคัญหลายแห่งสวยงามเหมาะสมเป็นอุทยานแห่งชาติ ด้วยเหตุนี้กองอุทยานแห่งชาติจึงประกาศให้ อุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 19 ของประเทศไทย

          ส่วนลักษณะภูมิประเทศของ อุทยานแห่งชาติไทรโยค ประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน ส่วนใหญ่มีความสูงโดยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 300-600 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนที่สูงที่สุดคือ ยอดเขาแขวะ สูงประมาณ 1,327 เมตร รองลงมา คือ ยอดเขาเราะแระ สูงประมาณ 1,125 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อีกทั้ง อุทยานแห่งชาติไทรโยค ยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำแควน้อย ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรีในเขตอำเภอสังขละบุรีด้วย

ปูราชินี

          สิ่งหนึ่งที่ควรพลาดไปชมเมื่อไปเยือน อุทยานแห่งชาติไทรโยค นั่นคือ ค้างคาวคุณกิตติ ซึ่งตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่ผู้ค้นพบคือ คุณกิตติ ทองลงยา โดยค้นพบเมื่อปี 2516 ที่ ถ้ำค้างคาว และ ถ้ำวังพระ นับเป็นค้างคาววงศ์ใหม่ มีเพียงชนิดเดียวในโลก และเป็นค้างคาวที่เล็กที่สุดในประเทศเท่าที่สำรวจพบ มีน้ำหนัก 1.5-2.0 กรัม ลำตัวยาว 2.5-3.0 เซ็นติเมตร มีสีน้ำตาล หูค่อนข้างใหญ่จมูกคล้ายจมูกหมู ปัจจุบันมีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์แล้ว และ ปูราชินี หรือ ปูสามสี เป็นปูประเภทหนึ่งพบได้ตามภูเขา มีปากและขามีสีแดงและส้ม ก้ามมีสีขาว และกระดองมีสีน้ำเงินอมม่วง เชื่อว่าสามารถเปลี่ยนสีได้เรื่อย ๆ ตามฤดูกาล โดยทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ขออนุญาตใช้ชื่อ สิริกิติ์ เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นเกียรติและเฉลิมฉลองครบรอบ 5 รอบของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อีกทั้งยังจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่หายากในธรรมชาติ

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณ อุทยานแห่งชาติไทรโยค เนื่องจาก อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีความสำคัญทางโบราณคดี ที่อ้างอิงถึงประวัติอันยาวนานของมนุษย์ยุคหิน เท่าที่เคยขุดพบที่ ถ้ำพระ และ ถ้ำไทรโยค มีแหล่งท่องเที่ยวที่ความสวยงามตามธรรมชาติมากมาย ได้แก่...

น้ำตกไทรโยคน้อย

น้ำตกไทรโยคน้อย

          น้ำตกไทรโยคน้อย หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกเขาพัง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน เหตุที่ได้ชื่อว่าน้ำตกเขาพัง เพราะเกิดบนหน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมา จนเกิดโขดหินปูนลดหลั่นกันอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา ต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขา แล้วไหลมาตามลำธารเล็ก ๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูง ประมาณ 15 เมตร แผ่กระจายไปตามพื้นเขาลาดเอียง ภายใต้ร่มเงาของพันธุ์ไม้นานาชนิด ในลำธารมีต้นกกขึ้นอยู่กระจัดกระจาย นับเป็นบรรยากาศที่ชวนให้ไปสัมผัสอีกแห่งหนึ่ง การเดินทางสะดวกมากเพราะอยู่ติดกับถนนสายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ ระยะทางประมาณ 56 กิโลเมตร จากจังหวัดกาญจนบุรี หรือทางรถไฟ เริ่มต้นจากสถานีธนบุรีไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก ตำบลท่าเสา ห่างจากตัวน้ำตก ประมาณ 1 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวน้ำตก คือ ฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่น้ำในน้ำตกมีมาก ประมาณเดือนกรกฎาคม - กันยายน

น้ำตกไทรโยคเล็ก

น้ำตกไทรโยคเล็ก

น้ำตกไทรโยคเล็ก

          น้ำตกไทรโยคเล็ก อยู่ทางด้านใต้ของ น้ำตกไทรโยคใหญ่ ประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกที่มีความสูงมากกว่า และมีความโดดเด่นตรงที่สายน้ำพุ่งตกลงมาสู่ แม่น้ำแควน้อย ทั้งนี้ ในฤดูหนาวจะสัมผัสบรรยากาศของความหนาวเย็น แห่งสายน้ำและขุนเขาผ่านน้ำตก มีเสน่ห์ชวนหลงไหลยิ่งขึ้น

น้ำตกไทรโยคใหญ่

น้ำตกไทรโยคใหญ่

น้ำตกไทรโยคใหญ่

          น้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกที่ไหลลงสู่ แม่น้ำแควน้อย แยกเป็น 2 แพร่ง ส่วนที่อยู่ทางตอนเหนือเรียกว่า น้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียว รองรับด้วยชั้นหินสลับกันเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 8 เมตร สามารถชมทัศนียภาพของ น้ำตกไทรโยค ได้โดยการเดินข้ามสะพานแขวนไปยังฝั่งตรงข้าม หรือโดยทางน้ำ

แม่น้ำแควน้อย

          แม่น้ำแควน้อย มีต้นกำเนิดจากผืนป่าดงดิบ ทางตะวันตกตามแนวชายแดนไทย-พม่า แล้วไหลไปรวมกับ แม่น้ำแควใหญ่ เป็น แม่น้ำแม่กลอง ที่ตัวเมืองกาญจนบุรี ริมสองฝั่งแม่น้ำแควน้อยในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีธรรมชาติที่งดงาม มีโขดเขาเกาะแก่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ร่องน้ำที่ลัดเลาะไปตามซอกเขาหินปูน ความแตกต่างของพื้นที่เลาะเกาะแก่ง เป็นเหตุให้แม่น้ำสายนี้ไหลเชี่ยวและวกวน บางตอนจะเป็นหาดทรายยื่นออกมาในลำน้ำ เป็นที่ชื่นชอบของผู้นิยมล่องแพโดยทั่วไป

ถ้ำแก้ว

ถ้ำแก้ว

          ถ้ำแก้ว อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 500 เมตร เป็นถ้ำขนาดเล็ก ยาวประมาณ 200 เมตร มีหินงอกหินย้อยงดงามพอสมควร ปากทางเข้าเป็นหลืบหืนที่แคบมากต้องสอดตัวเข้าไปตามซอกหิน เป็นระยะทางประมาณ 12 เมตร จึงพบห้องโถงแรก ภายในถ้ำมีห้องโถง 2-3 ห้อง และห้องหนึ่งมีบ่อน้ำผุดปรากฏอยู่

ถ้ำดาวดึงส์

          ถ้ำดาวดึงส์ อยู่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติ บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทย.2 (ถ้ำดาวดึงส์) เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงและงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ค้นพบโดย นายสำลี คูหา ซึ่งตามสัตว์เข้าไปในถ้ำ ในปี พ.ศ. 2515 ถ้ำลึกประมาณ 300-400 เมตร แบ่งเป็นห้อง ๆ ได้ 8 ห้อง มีชื่อตามลักษณะของหินงอกหินย้อย โดยทั่วไปมีสีขาว เช่น ห้องโคมระย้า ห้องเจดีย์ ห้องจีบม่านฟ้า เป็นต้น

ถ้ำละว้า

          ถ้ำละว้า อยู่ห่างจาก น้ำตกไทรโยค ไปทางตอนใต้โดยทางน้ำประมาณ 20 กิโลเมตร ถึงท่าเรือซึ่งจะมีถนนไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทย.3 (ถ้ำละว้า) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นถ้ำ หรืออาจเดินทางโดยทางรถยนต์ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงกิโลเมตรที่ 59 - 60 ก่อนถึง น้ำตกไทรโยคน้อย เลี้ยวซ้ายแยกปากแซง ประมาณ 18 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทย.3 (ถ้ำละว้า) เดินเท้าขึ้นถ้ำประมาณ 50 เมตร ถ้ำละว้ามีปากถ้ำแคบ แต่ภายในกว้างใหญ่โตมาก ถ้ำลึกประมาณ 450 เมตร แบ่งเป็นห้องต่าง ๆ เช่น ห้องท้องพระโรง ห้องดนตรี และห้องม่าน แต่ละห้องมีหินงอก หินย้อย สวยงามแตกต่างกันไป นอกจากนี้ ภายในถ้ำยังปรากฏหลักฐาน เช่น ฟันมนุษย์ ซึ่งทำให้สันนิษฐานได้ว่า แต่เดิมน่าจะเคยมีมนุษย์โบราณอาศัยอยู่

อุทยานแห่งชาติไทรโยค

          ทั้งนี้ ฤดูหนาวเหมาะแก่การเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศที่ อุทยานแห่งชาติไทรโยค มากที่สุด ด้วยสภาพป่าที่เขียวขจี ธารน้ำที่ไหลแรงที่สายน้ำตกที่มีชีวิตชีวา กลุ่มหมอกที่ไหลเรี่ยลำแควน้อยเป็นมนต์ขลังแก่ผู้มาเยือนยิ่งนัก

อุทยานแห่งชาติไทรโยค

สิ่งอำนวยความสะดวก

          มีจุดชมทิวทัศน์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ชมบรรยากาศริมแม่น้ำ เรือนแพ และน้ำตกไทรโยคที่ตกลงแม่น้ำโดยตรง

          มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้บริการ

          สำหรับอาหารเครื่องดื่มมีจำหน่ายตลอดเวลาที่บริเวณน้ำตกไทรโยค

          อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถาน ที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง

          มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ กลุ่มที่ 1 บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ กลุ่มที่ 2 บ้านพักบ้านไทรโยค 104 - 108 อยู่ริมแม่น้ำแควน้อย

          มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.

อุทยานแห่งชาติไทรโยค

การเดินทาง

          เรือ : จากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ลงเรือที่ท่าเรือ จะมีเรือหางให้เช่าเหมาลำ เดินทางไปตามลำน้ำแควน้อย จนถึงน้ำตกไทรโยค หรือจากสถานีรถไฟสามารถต่อเรือที่ท่าเรือปากแซง บ้านท่าเสา อำเภอไทรโยค ต่อไปยังน้ำตกไทรโยคได้อีกทางหนึ่ง

          รถไฟ : จากสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ไปยังสถานีน้ำตก (ไทรโยคน้อย) จากนั้นสามารถเหมารถสองแถวเล็กต่อไปอีก 34 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายกาญจนบุรี - ทองผาภูมิ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 81 เลี้ยวซ้ายเข้าน้ำตก 3 กิโลเมตร

         รถโดยสารประจำทาง : มีรถโดยสารปรับอากาศและธรรมดา จากสถานีขนส่งสายใต้-กรุงเทพฯ ลงที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ต่อด้วยรถโดยสารประจำทางสายทองผาภูมิ ถึงปากทางเข้าอุทยานฯ แล้วต่อด้วยรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างเข้าไปยังน้ำตกไทรโยคอีก 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางระหว่างสถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ถึงปากทางเข้าอุทยานฯ ประมาณ 2 ชั่วโมง

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติไทรโยค หมู่ที่ 7 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี 71150 โทรศัพท์ 0 3468 6024 โทรสาร 0 3468 6024 และ อีเมล saiyok_np@hotmail.com






ขอขอบคุณข้อมูลจาก
      และ 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เย็นฉ่ำชุ่มปอด ณ น้ำตกไทรโยค อัปเดตล่าสุด 27 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18:10:02 36,468 อ่าน
TOP