ชวนชมบ้านหลังใหม่ของแม่มะลิ บินลาเดน และตาหวาน ฮิปโปโปเตมัส และยีราฟดาวเด่นแห่งเขาดิน ที่ได้ย้ายไปอยู่ ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี
หลังจากที่สวนสัตว์ดุสิตหรือเขาดิน ประกาศปิดบริการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2561 ก็ได้มีการขนและเคลื่อนย้ายสัตว์เกือบพันตัวไปยังสวนสัตว์อื่น ๆ ที่อยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีก 6 แห่ง และ 1 โครงการ รวมกว่า 897 ตัว โดยสัตว์ดาวเด่นอย่าง “แม่มะลิ” ฮิปโปโปเตมัสที่อายุยืนที่สุดในประเทศไทย และ “บินลาเดน” กับ “ตาหวาน” ยีราฟคู่ขวัญ ก็ถูกขนย้ายอย่างปลอดภัยและได้อยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ซึ่งเหล่าบรรดาแฟนคลับต่างก็อาจจะคิดถึงกันอยู่ไม่มากก็น้อย วันนี้ก็เลยจะพาไปชมบ้านหลังใหม่ของพวกเขากันค่ะ
องค์การสวนสัตว์ฯ ก็ได้พาสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมบ้านหลังใหม่ของพวกเขา เริ่มกันที่แม่มะลิ โดยส่วนจัดแสดงของแม่มะลินั้น เป็นสระน้ำธรรมชาติ มีขนาดใหญ่กว่าสวนสัตว์แสดงเดิมที่เขาดินถึง 10 เท่า มีคอกนอนขนาดใหญ่ หนองน้ำใหญ่กว่าที่เดิมถึง 5 เท่า ทำให้แม่มะลิสามารถนอนแช่น้ำได้ทั้งตัว และว่ายวนไปในพื้นที่กว้างขวางมากขึ้น มีลูกหลานอีก 3 ตัว อยู่รายล้อม พร้อมกับเจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนบินลาเดนและตาหวานนั้นอยู่ในส่วนจัดแสดงสัตว์แอฟริกา อยู่ในพื้นที่ส่วนตัว รายล้อมไปด้วยขุนเขาและเพื่อนยีราฟ พร้อมกับสัตว์แอฟริกาอีกหลากหลายชนิด มีอาคารชมยีราฟ ซึ่งส่วนนั้นก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ให้อาหารบินลาเดนและตาหวานอย่างใกล้ชิดเหมือนเดิม
ทั้งนี้นายสัตวแพทย์วิศิษฎ์ อาศัยธรรมกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ก็ได้บรรยายสรุปและตอบข้อสงสัยจากสื่อมวลชลในเรื่องของการขนย้ายสัตว์จากเขาดนไปยังสวนสัตว์อื่น ๆ ด้วย
โดยได้กล่าวว่าการขนย้านสัตว์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์อย่างหนึ่งของประเทศไทยที่จะต้องทำการเคลื่อนย้ายสัตว์เกือบพันตัว ภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย เช่น แม่มะลิ ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี เทียบกับคนก็อายุราว ๆ 80-90 ปี ประกอบกับเป็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในน้ำ การเคลื่อนย้ายโดยทางบกจะต้องใช้เวลาราว ๆ 2-4 ชั่วโมง ซึ่งไม่มีแหล่งน้ำให้ความชุ่มชื้น, บินลาเดน และตาหวาน ที่มีความสูงราว ๆ 5 เมตร ซึ่งเมื่อรวมกับความสูงของรถที่ทำการเคลื่อนย้ายจะสูงมากกว่าสะพานลอยต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ รวมทั้งสายไฟฟ้าที่อยู่ในพื้นที่ของกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด การขนย้ายจึงต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของสัตว์เป็นหลัก แต่ก็สามารถผ่านมาได้ด้วยดี สัตว์ที่ถูกเคลื่อนย้ายในครั้งนี้ปลอดภัย 100% ใช้เวลาขนย้ายรวมกว่า 4 เดือนครึ่ง
จำนวนและชนิดสัตว์ที่ขนย้ายไปยังสวนสัตว์ต่าง ๆ นั้น มีรายละเอียด ดังนี้
- โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ 1 ชนิด จำนวน 1 ตัว
- สวนสัตว์เชียงใหม่ 6 ชนิด จำนวน 11 ตัว
- สวนสัตว์สงขลา 6 ชนิด จำนวน 27 ตัว
- สวนสัตว์ขอนแก่น 16 ชนิด 111 ตัว
- สวนสัตว์อุบลราชธานี 23 ชนิด จำนวน 236 ตัว
- สวนสัตว์เปิดเขาเขียว 32 ชนิด จำนวน 141 ตัว
- สวนสัตว์นครราชสีมา 97 ชนิด จำนวน 370 ตัว
รวมทั้งสิ้น 897 ตัว
การขนย้าย "แม่มะลิ" ฮิปโปฯ ซุปตาร์
การขนย้ายแม่มะลิจะต้องทำด้วยความระมัดระวังอย่างมาก เพราะมีอายุมากแล้ว ไม่สามารถยิงยาสลบได้ เพราะมีความเสี่ยงกับสัตว์ค่อนข้างมาก ในช่วงแรกจึงต้องฝึกให้แม่มะลิคุ้นเคยกับการเข้ากล่องขนย้าย นำอาหารไปวางไปให้ด้านในสุดของกล่อง
ตอนแรกแม่มะลิจะกลัว ไม่กล้าเข้าไปทั้งตัว แต่ก็ฝึกจนแม่มะลิคุ้นชินกับกล่องขนย้ายแล้วจึงได้ทำการเคลื่อนย้ายมายังสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ซึ่งตลอดระยะทางก็จะมีทีมสัตวแพทย์คอยฉีดน้ำให้ความชุ่มชื้นและสังเกตพฤติกรรมตลอดระยะทาง เมื่อมาถึงยังสวนสัตว์เขาขียว แม่มะลิก็สามารถปรับตัวกับบ้านหลังใหม่ได้ดี มีสุขภาพที่แข็งแรง ดูร่าเริงมากขึ้น
การขนย้าย "บินลาเดน" และ "ตาหวาน" ยีราฟคู่ขวัญ
บินลาเดนและตาหวานจะมีกระบวนการขนย้ายที่ยากไปไม่น้อยกว่าแม่มะลิ เพราะยีราฟทั้งสองตัวสูงราว ๆ 5 เมตร เมื่อรวมกับความสูงของรถขนย้ายก็จะสูงขึ้นไปอีก ซึ่งจะสูงมากกว่าสะพานลอยและทางกั้นต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ รวมทั้งสายไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างเส้นทางในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จึงต้องทำการสำรวจเส้นทางอย่างละเอียด พร้อมทั้งออกแบบให้กล่องขนย้ายสามารถปรับระดับขึ้นลงได้ เพื่อที่จะให้ยีราฟหดหัวได้ในช่วงที่สะพานลอย หรือทางกั้นมีระดับต่ำ ไม่มีการยิงยาสลบ เพราะจะมีความเสี่ยงมาก หากยีราฟตื่นขึ้นระหว่างทาง อาจจะทำให้ยีราฟตื่นกลัวจนเกิดอุบัติเหตุ
ช่วงแรกก็มีการฝึกให้บินลาเดนและตาหวานกินอาหารในกล่อง แต่ตาหวานนั้นตื่นกลัว ไม่กล้าเข้าไปกินอาหารในกล่อง จึงจำยอมต้องทำการขนย้ายบินลาเดนออกมาก่อน แล้วจึงกลับไปฝึกตาหวานให้คุ้นชินกับการอยู่ในกล่องขนย้าย จนในที่สุดก็สามารถพาตาหวานมาอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวได้ ถือว่าเป็นสัตว์ตัวสุดท้ายที่ย้ายออกจากเขาดิน
ขณะนี้ทั้งแม่มะลิ บินลาเดน และตาหวาน พร้อมให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้แล้ว เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ khaokheow.zoothailand.org และเฟซบุ๊ก สวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ องค์การสวนสัตว์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ องค์การสวนสัตว์
