ชวนพิชิตดอยสูงอันดับ 2 ของไทย กับยอดดอยผ้าห่มปก ภายในอุทยานแห่งชาติผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมแนะนำข้อมูลและเกร็ดท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อให้การเที่ยวเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น
ดอยผ้าห่มปก เป็นหนึ่งในยอดดอยสวย ๆ ของเมืองไทย และนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติก็ต้องการจะพิชิตกันให้ได้สักครั้ง เพราะมีความสูงมากที่สุดอันดับ 2 ของเมืองไทยเลยทีเดียว แต่การไปเที่ยวดอยผ้าห่มปกและพื้นที่อื่น ๆ ของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกด้วยตัวเองนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย วันนี้เราจึงได้รวบรวมเรื่องน่ารู้ต่าง ๆ มาฝากกัน มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ครอบคลุมพื้นที่ใน 3 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอแม่อาย อำเภอฝาง และ อำเภอไชยปราการ โดยมีอาณาเขตทางด้านทิศตะวันตกติดต่อกับชายแดนประเทศเมียนมายาวถึง 70 กิโลเมตร รวมเนื้อที่ทั้งหมด 524 ตารางกิโลเมตร
2. อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก แต่เดิมนั้นมีชื่อว่า อุทยานแห่งชาติแม่ฝาง ต่อมาในวันที่ 14 มีนาคม 2549 ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก และเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551 ก็ได้รับการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น "อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก" มาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ทำการอุทยานนั้นจะตั้งอยู่ที่ หมู่ 6 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
3. อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เป็นที่ตั้งของยอดดอยที่สูงที่สุดอันดับ 2 ของเมืองไทย นั่นก็คือ ดอยผ้าห่มปก ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางมากถึง 2,285 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย โดยเฉพาะฤดูหนาวที่จะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกันอย่างจุใจ นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นดอยอื่น ๆ รอบข้าง เช่น ดอยอ่างขาง ดอยหลวงเชียงดาว และภูเขาทางฝั่งประเทศเมียนมาได้อีกด้วย
4. จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกอีกหนึ่งสิ่ง ก็คือ "บ่อน้ำพุร้อนฝาง" เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดจากความร้อนใต้ดิน ซึ่งกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ราว ๆ 10 ไร่ มีหลากหลายบ่อ บ่อที่ใหญ่ที่สุดมีไอน้ำร้อนแบบไกเซอร์ ซึ่งจะพุ่งขึ้นสูงได้ถึง 40-50 เมตรเลยทีเดียว อุณหภูมิของน้ำประมาณ 40-88 องศาเซลเซียส ทางอุทยานได้จัดทำพื้นที่ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในการอาบน้ำแร่และอบไอน้ำ หรือใครจะลองต้มไข่พิสูจน์ความร้อนของน้ำก็ได้
5. โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก โครงการอันเนื่องมาจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในพื้นที่ตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจภายในอุทยาน เพราะนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขาถึง 4 เผ่าด้วยกัน ได้แก่ มูเซอ กะเหรี่ยง อาข่า และลีซอ พร้อมทั้งได้ชมทัศนียภาพสวย ๆ ภายในหมู่บ้าน และได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ราคาย่อมเยาจากชาวบ้านด้วย
6. กิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ก็คือ การเดินตามเส้นทางธรรมชาติเพื่อขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินบนยอดดอยผ้าห่มปก ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมเกือบตลอดทั้งปี (ปิดช่วงกรกฏาคม - 30 กันยายน)
7. การเดินขึ้นยอดดอยผ้าห่มปก นักท่องเที่ยวจะต้องไปเริ่มต้นที่บริเวณลานกางเต็นท์กิ่วลม (เป็นลานกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากถึง 1,924 เมตร) แล้วเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร โดยจะเปิดให้ขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00-15.30 น. ของทุกวัน ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางทุกกรุ๊ป ไม่มีลานกางเต็นท์ด้านบน
8. เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ขึ้นไปยังยอดดอยผ้าห่มปก จะแบ่งออกเป็น 8 จุด ได้แก่ กล้วยไม้, ปาด, หาญช้างร้อง, ต้นไม้ใหญ่ใส่เสื้อ, บังเกอร์ชมวิว, ป่าดิบเขา, เทียนคำ และชมพูพิมพ์ใจ
9. นักท่องเที่ยวสามารถที่จะขับรถขึ้นไปบริเวณลานกางเต็นท์กิ่วลมได้เอง แต่ต้องเป็นรถกระบะเท่านั้น ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัวให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อพาขึ้นไปยังลานกางเต็นท์กิ่วลม เช่าเหมาคันละ 1,800 บาท/8 คน (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
10. ที่ลานกางเต็นท์กิ่วลมมีห้องน้ำ และร้านค้าไว้ให้บริการ ไม่อนุญาตให้ก่อกองไฟบนสนามหญ้า ทางอุทยานจะมีเตาถ่านและอุปกรณ์ทำอาหารให้เช่า สามารถติดต่อได้ที่ที่ทำการอุทยาน
11. ค่าบริการเช่าเต็นท์ของอุทยานจะอยู่ที่หลังละ 200บาท/2 คน และ 225 บาท/3 คน ชุดเครื่องนอนชุดละ 130 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
12. นอกจากลานกางเต็นท์กิ่วลมแล้ว ภายในอุทยานยังมีลานกางเต็นท์ม่อนสน และลานกางเต็นท์ซุยถัง ซึ่งอยู่ใกล้กับดอยอ่างขางให้นักท่องเที่ยวได้ไปนอนกางเต็นท์ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสวย ๆ ด้วย
13. จุดชมวิวที่กำลังมาแรงอีกหนึ่งจุด ก็คือ จุดชมวิวซุยถัง ซึ่งจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกสวยงามอลังการไหลไปตามร่องของหุบเขา ลักษณะคล้ายกับสายน้ำไหล จึงได้รับฉายาว่าเป็นลำธารแห่งสายหมอก ในจุดนี้ได้มีการจัดทำลานกางเต็นท์ไว้ให้นักท่องเที่ยวด้วย
14. สำหรับบ้านพักจะมีเฉพาะที่ที่ทำการอุทยาน (น้ำพุร้อนฝาง) เท่านั้น สามารถจองออนไลน์ได้ที่ nps.dnp.go.th
15. โดยปกติแล้วอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่จะมีส่วนที่ปิดการเข้าชมช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน คือ ลานกางเต็นท์กิ่วลม, น้ำตกนามะอื้น, ห้วยเฮี้ยน, ปู่หมื่น, แม่แฮง และโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก
16. อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท เด็ก 150 บาท
17. นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวชมดอยผ้าห่มปกและพื้นที่อื่น ๆ ภายในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก สามารถติดตามและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่ โทรศัพท์ 08-4483-4689, 0-5208-0801 หรือ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ที่เที่ยวภูเขา ถ้ายังไม่ได้ไปพิชิตดอยผ้าห่มปก ก็อยากให้ลองไปเที่ยวชมกันสักครั้ง เพราะนอกจากจะไปเที่ยวไม่ยากแล้ว วิวก็ยังสวยงามเว่อร์วังอลังการจริง ๆ ใครที่ไม่ชอบป่าเขา เราก็ยังเชื่อมั่นว่าที่นี่จะทำให้คุณหลงรักได้ไม่ยากจริง ๆ :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก, rdpb.go.th, dnp.go.th, onep.go.th
ดอยผ้าห่มปก เป็นหนึ่งในยอดดอยสวย ๆ ของเมืองไทย และนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติก็ต้องการจะพิชิตกันให้ได้สักครั้ง เพราะมีความสูงมากที่สุดอันดับ 2 ของเมืองไทยเลยทีเดียว แต่การไปเที่ยวดอยผ้าห่มปกและพื้นที่อื่น ๆ ของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกด้วยตัวเองนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย วันนี้เราจึงได้รวบรวมเรื่องน่ารู้ต่าง ๆ มาฝากกัน มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
2. อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก แต่เดิมนั้นมีชื่อว่า อุทยานแห่งชาติแม่ฝาง ต่อมาในวันที่ 14 มีนาคม 2549 ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก และเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551 ก็ได้รับการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น "อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก" มาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ทำการอุทยานนั้นจะตั้งอยู่ที่ หมู่ 6 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
3. อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เป็นที่ตั้งของยอดดอยที่สูงที่สุดอันดับ 2 ของเมืองไทย นั่นก็คือ ดอยผ้าห่มปก ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางมากถึง 2,285 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย โดยเฉพาะฤดูหนาวที่จะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกันอย่างจุใจ นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นดอยอื่น ๆ รอบข้าง เช่น ดอยอ่างขาง ดอยหลวงเชียงดาว และภูเขาทางฝั่งประเทศเมียนมาได้อีกด้วย
4. จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกอีกหนึ่งสิ่ง ก็คือ "บ่อน้ำพุร้อนฝาง" เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดจากความร้อนใต้ดิน ซึ่งกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ราว ๆ 10 ไร่ มีหลากหลายบ่อ บ่อที่ใหญ่ที่สุดมีไอน้ำร้อนแบบไกเซอร์ ซึ่งจะพุ่งขึ้นสูงได้ถึง 40-50 เมตรเลยทีเดียว อุณหภูมิของน้ำประมาณ 40-88 องศาเซลเซียส ทางอุทยานได้จัดทำพื้นที่ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในการอาบน้ำแร่และอบไอน้ำ หรือใครจะลองต้มไข่พิสูจน์ความร้อนของน้ำก็ได้
5. โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก โครงการอันเนื่องมาจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในพื้นที่ตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจภายในอุทยาน เพราะนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขาถึง 4 เผ่าด้วยกัน ได้แก่ มูเซอ กะเหรี่ยง อาข่า และลีซอ พร้อมทั้งได้ชมทัศนียภาพสวย ๆ ภายในหมู่บ้าน และได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ราคาย่อมเยาจากชาวบ้านด้วย
6. กิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ก็คือ การเดินตามเส้นทางธรรมชาติเพื่อขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินบนยอดดอยผ้าห่มปก ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมเกือบตลอดทั้งปี (ปิดช่วงกรกฏาคม - 30 กันยายน)
7. การเดินขึ้นยอดดอยผ้าห่มปก นักท่องเที่ยวจะต้องไปเริ่มต้นที่บริเวณลานกางเต็นท์กิ่วลม (เป็นลานกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากถึง 1,924 เมตร) แล้วเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร โดยจะเปิดให้ขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00-15.30 น. ของทุกวัน ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางทุกกรุ๊ป ไม่มีลานกางเต็นท์ด้านบน
8. เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ขึ้นไปยังยอดดอยผ้าห่มปก จะแบ่งออกเป็น 8 จุด ได้แก่ กล้วยไม้, ปาด, หาญช้างร้อง, ต้นไม้ใหญ่ใส่เสื้อ, บังเกอร์ชมวิว, ป่าดิบเขา, เทียนคำ และชมพูพิมพ์ใจ
9. นักท่องเที่ยวสามารถที่จะขับรถขึ้นไปบริเวณลานกางเต็นท์กิ่วลมได้เอง แต่ต้องเป็นรถกระบะเท่านั้น ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัวให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อพาขึ้นไปยังลานกางเต็นท์กิ่วลม เช่าเหมาคันละ 1,800 บาท/8 คน (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
10. ที่ลานกางเต็นท์กิ่วลมมีห้องน้ำ และร้านค้าไว้ให้บริการ ไม่อนุญาตให้ก่อกองไฟบนสนามหญ้า ทางอุทยานจะมีเตาถ่านและอุปกรณ์ทำอาหารให้เช่า สามารถติดต่อได้ที่ที่ทำการอุทยาน
11. ค่าบริการเช่าเต็นท์ของอุทยานจะอยู่ที่หลังละ 200บาท/2 คน และ 225 บาท/3 คน ชุดเครื่องนอนชุดละ 130 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
12. นอกจากลานกางเต็นท์กิ่วลมแล้ว ภายในอุทยานยังมีลานกางเต็นท์ม่อนสน และลานกางเต็นท์ซุยถัง ซึ่งอยู่ใกล้กับดอยอ่างขางให้นักท่องเที่ยวได้ไปนอนกางเต็นท์ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสวย ๆ ด้วย
13. จุดชมวิวที่กำลังมาแรงอีกหนึ่งจุด ก็คือ จุดชมวิวซุยถัง ซึ่งจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกสวยงามอลังการไหลไปตามร่องของหุบเขา ลักษณะคล้ายกับสายน้ำไหล จึงได้รับฉายาว่าเป็นลำธารแห่งสายหมอก ในจุดนี้ได้มีการจัดทำลานกางเต็นท์ไว้ให้นักท่องเที่ยวด้วย
14. สำหรับบ้านพักจะมีเฉพาะที่ที่ทำการอุทยาน (น้ำพุร้อนฝาง) เท่านั้น สามารถจองออนไลน์ได้ที่ nps.dnp.go.th
15. โดยปกติแล้วอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่จะมีส่วนที่ปิดการเข้าชมช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน คือ ลานกางเต็นท์กิ่วลม, น้ำตกนามะอื้น, ห้วยเฮี้ยน, ปู่หมื่น, แม่แฮง และโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก
16. อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท เด็ก 150 บาท
17. นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวชมดอยผ้าห่มปกและพื้นที่อื่น ๆ ภายในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก สามารถติดตามและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่ โทรศัพท์ 08-4483-4689, 0-5208-0801 หรือ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ที่เที่ยวภูเขา ถ้ายังไม่ได้ไปพิชิตดอยผ้าห่มปก ก็อยากให้ลองไปเที่ยวชมกันสักครั้ง เพราะนอกจากจะไปเที่ยวไม่ยากแล้ว วิวก็ยังสวยงามเว่อร์วังอลังการจริง ๆ ใครที่ไม่ชอบป่าเขา เราก็ยังเชื่อมั่นว่าที่นี่จะทำให้คุณหลงรักได้ไม่ยากจริง ๆ :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก, rdpb.go.th, dnp.go.th, onep.go.th