แนะนำเรื่องน่ารู้เลห์ ลาดักห์ และสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเลห์ ลาดักห์ พร้อมทั้งเกร็ดท่องเที่ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรรู้ก่อนเดินทาง และไขปริศนาว่าทำไมใคร ๆ เรียกที่นี่ว่าทิเบตน้อย และต่างบอกว่าต้องไปเที่ยวให้ได้สักครั้งก่อนตาย
สถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งของอินเดียที่กำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวสายผจญภัย
ก็คือ "เมืองเลห์" แห่งแคว้น "ลาดักห์" ภาพของขุนเขาสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกปกคลุมบนยอดไปด้วยหิมะสีขาว
ส่องสะท้อนลงสู่ผืนน้ำสีฟ้าครามใต้ท้องฟ้ากว้างใหญ่
เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของเมืองในหุบเขาแห่งนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวหลาย ๆ
ท่านที่มีโอกาสไปสัมผัสที่นี่ต่างก็บอกว่าควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิต
บางคนถึงกับบอกว่าต้องไปให้ได้สักครั้งก่อนตาย
วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับที่นี่ให้มากขึ้น เลห์ ลาดักห์ อยู่ที่ไหน
มีอะไรดี เที่ยวง่าย หรือยาก...ตามไปดูกัน
เมืองสวยที่ทำผู้มาเยือนแทบหยุดหายใจ
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนแคว้นลาดักห์และเมืองเลห์ ต่างก็ตกหลุมรักในความงดงามของดินแดนแห่งนี้ เพราะโดยรอบของเมืองนั้นเต็มไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้วก็กลายเป็นเพียงผงฝุ่นไปเลยทีเดียว และภูเขาเหล่านี้ก็ยังจะมีหิมะปกคลุมอยู่เกือบตลอดทั้งปี สวยงามในแบบที่ไม่มีที่ไหนในโลกเหมือน และหากได้ขึ้นไปมองเมืองลาดักห์บนที่สูง ก็จะเห็นว่าเป็นเมืองแบบทิเบตน้อย ๆ ที่หลบซ่อนอยู่ในหุบเขาอย่างแท้จริง รอบ ๆ เมืองก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อีกมากมาย มีทะเลสาบกว้างใหญ่งดงามตระการตา ไม่ว่าใครได้มาเห็นรับรองได้เลยว่าชั่วขณะหนึ่งก็ต้องแทบจะหยุดหายใจ
และแน่นอนว่าเมืองแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ที่สูงมาก ออกซิเจนจะน้อยกว่าปกติ หากร่างกายไม่แข็งแรงพอ หรือป่วยขณะเดินทางก็อาจจะทำให้ไม่สามารถต้านทานกับโรคที่เกี่ยวกับ Altitude Sickness ได้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิตได้เลยเช่นกัน
ที่ตั้งของทะเลสาบที่สูงที่สุดในโลก
ใกล้กับเมืองลาดักห์ จะมีทะเลสาบอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เช่น Tso Moriri Lake และ Pangong Lake โดยทะเลสาบทั้งสองแห่งนี้จะมีทัศนียภาพที่งดงาม อลังการไปด้วยฉากหลักของภูเขาหิมาลัยสูงใหญ่ น้ำในทะเลสาบก็จะเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใสแจ๋ว มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก
โดยที่ทะเลสาบ Tso Moriri จะมีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 120 ตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 4,522 เมตร ในขณะที่ Pangong Lake มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 699.3 ตารางกิโลเมตร และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 4,350 เมตร และจากสถิติความสูงของทะเลสาบ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นที่ตั้งของทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดในโลก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนริมทะเลสาบได้ มีที่พักรับรองอยู่ไม่ไกล บางแห่งก็สามารถนอนกางเต็นท์ได้เลยล่ะ
เส้นทางเทรกกิ้งที่ทรหดที่สุดแห่งของโลก
เมืองลาดักห์ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีธรรมชาติงดงาม สมบูรณ์ อาจจะไม่ได้เป็นป่ารกทึบ ภูเขาสีเขียวอย่างบ้านเรา แต่ก็มีเส้นทางเดินขึ้นเขาให้พิชิตกันหลากหลายเส้นทาง ซึ่งแต่ละเส้นทางก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป บางเส้นทางอาจจะผ่านหมู่บ้าน หุบเขา ลำธาร แม่น้ำ แต่ในทุก ๆ เส้นทางได้ชื่อว่าทรหดสุด ๆ เพราะมันคือการเดินเทรกกิ้งบนพื้นที่สูง จะทำให้เหนื่อยง่ายกว่าปกติ ถ้าร่างกายไม่พร้อมจริง ๆ ก็ยากที่จะพิชิตแต่ละเส้นทางได้
สถานที่ท่องเที่ยวในเลห์ ลาดักห์
ในเมืองเลห์ และรอบแคว้นลาดักห์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย ซึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยม 15 สถานที่ท่องเที่ยวเลห์ ลาดักห์ ห้ามพลาด ได้แก่
1. Pangong lake
2. Magnetic Hill
3. Tso Moriri Lake
4. Tsokar Lake
5. Leh Palace
6. Shanti Stupa
7. Nubra Valley
8. Thiksey Monastery
9. Namgyal Tsemo Monastery
10. Hemis Monastery
11. Shey Monastery
12. Stok Palace
13. Changla Pass
14. Diskit Monastery
15. Zanskar River Rafting
เที่ยวเลห์ ลาดักห์ ช่วงไหนดี
เมืองลาดักห์ ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงมาก จึงทำให้มีฤดูหนาวที่ยาวนานมากกว่า 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม โดยเดือนที่หนาวที่สุดจะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ในช่วงนี้เส้นทางจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ อากาศติดลบตลอด บางช่วงติดลบมากกว่า -20 องศา ร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักจะปิดทำการ จึงไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยว ช่วงเวลาที่น่าไปเที่ยวเลห์ และลาดักห์ จึงควรเป็นช่วงระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน
ภาพจาก Avigator Thailand / Shutterstock.com
เกร็ดท่องเที่ยวเลห์ ลาดักห์
- นักท่องเที่ยวชาวไทย จะต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอินเดีย ก่อนการเดินทาง
- การเดินทางจากไทยไม่มีเที่ยวบินตรงไปยังเมืองเลห์ จะต้องนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่เมืองเดลี ประเทศอินเดีย ก่อน แล้วจึงต่อเครื่องบินไปยังเมืองเลห์
- การเดินทางในเมืองเลห์ และแคว้นลาดักห์ หากนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเองจะนิยมใช้บริการแท็กซี่ บางท่านก็เลือกที่จะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยว แต่แนะนำให้ใช้บริการไกด์ท้องถิ่นจะสะดวกและปลอดภัยกว่า
- ผู้คนในเมืองเลห์ และแคว้นลาดักห์น่ารัก ซื่อตรง เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว
- ประชากรมากกว่า 60% ของแคว้นลาดักห์เป็นมุสลิม ควรศึกษาเรื่องข้อปฏิบัติทางศาสนาด้วย
- ที่พักในแคว้นลาดักห์ และเมืองเลห์มีหลากหลายแบบ หลากหลายราคา ตั้งแต่เกสต์เฮ้าส์ไปจนถึงบูทีคโฮเทล
- ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็เป็นร้านอาหารพื้นเมือง มีเมนูแบบสากลบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ผักและซุปร้อน ๆ
- สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตที่แคว้นลาดักห์ จะใช้ได้เพียงไม่กี่เครือข่ายของอินเดีย แนะนำให้ซื้อซิมโทรศัพท์ที่นั่น หรือเปิดโรมมิ่งของเครือข่ายที่ใช้อยู่ในไทย เพราะจะสามารถสลับการเชื่อมต่อเครือข่ายของอินเดียได้ในกรณีที่เราเปลี่ยนเมือง
- ค่าครองชีพในเมืองเลห์ไม่สูงมากนัก ค่าที่พักก็เริ่มต้นที่ราคาหลักร้อย แต่ควรแลกเงินไปให้พร้อม เพราะจะหาตู้เอทีเอ็มยาก
- ห้องน้ำสาธารณะต่าง ๆ ไม่สะอาดเท่าไร บางแห่งยังคงเป็นส้วมหลุมแบบธรรมชาติมาก ๆ ควรเตรียมทิชชูเปียก และทิชชูธรรมดาไปให้พร้อม
- อากาศที่แคว้นลาดักห์ จะหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงรอยต่อกับฤดูหนาว จึงควรเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม
- ปลั๊กไฟในเมืองเลห์จะเป็นแบบขากลม 3 ขา แนะนำให้พก Universal Travel Adapter ไปด้วย
- เตรียมยาประจำตัว รวมทั้งยาสามัญต่าง ๆ ให้พร้อม
สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวเลห์ ลาดักห์ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้บ้างไม่มากก็น้อย ใครไปเที่ยวมาแล้ว ก็เอารูปมาอวดกันบ้างนะ :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
lehladakhindia.com, leh.ind.in, lehladakhtourism.com
เลห์ ลาดักห์ อยู่ที่ไหน
ลาดักห์ (Ladakh) เป็นแคว้นหนึ่งในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ (Jammu and Kashmir) ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่เหนือสุดของประเทศอินเดีย ใกล้กับชายแดนประเทศจีน มีพื้นที่มากกว่า 86,909 ตารางกิโลเมตร มีเมืองใหญ่ที่สุดก็คือ เมืองเลห์ (Leh) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว เพียบพร้อมไปด้วยสนามบิน ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร และบริษัทนำเที่ยว
Land of High Passes
แคว้นลาดักห์ ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 3,000 เมตร มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน ซึ่งทอดตัวยาวมาจากเทือกเขาหิมาลัยไปจนถึงเทือกเขาคุนหลุน ซึ่งรวมไปถึงด้านบนสุดของลุ่มแม่น้ำสินธุด้วย การเข้าสู่แคว้นแห่งนี้นอกจากจะสามารถมาได้โดยเครื่องบินแล้ว ก็ยังสามารถนั่งรถเข้ามาถึงได้ เพราะมีถนนเชื่อมต่อมาถึงเมืองเลห์ ทำให้ถนนในแคว้นนี้กลายเป็นหนึ่งในถนนที่อยู่สูงที่สุดในโลก
ถนนหลักที่มีชื่อเสียงก็คือ Khardung La Pass เป็นถนนที่มีทัศนียภาพสวยงามจับตา นักเดินทางทั่วโลกต่างภาวนาให้ได้มาเยี่ยมเยือนที่นี่กันสักครั้งเลยล่ะ และเหตุนี้เองทำให้เมืองนี้มีชื่อว่า ลาดักห์ (Ladakh) ในภาษาทิเบต มีความหมายว่า Land of High Passes นั่นเอง
อดีตดินแดนแห่งสมรภูมิ
จากที่ตั้งของแคว้นลาดักห์ เราจะเห็นได้ว่าที่นี่อยู่ติดกับชายแดนของประเทศอินเดีย ซึ่งมีเขตติดต่อระหว่างประเทศจีนและประเทศปากีสถาน ในช่วงสมัยที่เส้นทางสายไหมกำลังรุ่งเรือง เมืองลาดักห์เป็นเมืองการค้าที่สำคัญในแถบนี้ เพราะเป็นเมืองที่เชื่อมต่อกับ 3 ประเทศนี้ ตอนแรกอาณาจักรลาดักห์ถูกปกครองโดยอาณาจักรทิเบต ต่อมาพออาณาจักรทิเบตเริ่มอ่อนอำนาจ แคชเมียร์ก็ผนวกลาดักห์เข้ามาอยู่ในการปกครอง ซึ่งแคชเมียร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของอินเดียในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นเมื่อจีนเข้ายึดครองทิเบตได้สำเร็จ ก็จะตามมาเอาลาดักห์ เนื่องจากเป็นเขตที่เคยถูกปกครองโดยทิเบต จึงทำให้เกิดความขัดแย้ง และตามมาด้วยการต่อสู้กันหลายครั้ง จนอินเดียต้องสูญเสียพื้นที่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เรียกว่า Aksai Chin ไปให้กับจีน ส่วนทางด้านเมือง Turtuk ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนปากีสถาน ก็มีการแย่งชิงเขตแดนกันอยู่เรื่อย ๆ กลายเป็นสงครามย่อยที่มีผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ฉายาทิเบตน้อย
ถึงแม้ว่าลาดักห์จะตั้งอยู่ในเขตการปกครองของอินเดีย แต่กลับปรากฏศิลปวัฒนธรรมและสภาพบ้านเมืองในแบบทิเบต นั่นก็เป็นเพราะว่าดั้งเดิมนั้น เมืองลาดักห์เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรทิเบตมาก่อน ซึ่งอาณาจักรทิเบตก็ให้ความสำคัญกับพุทธศาสนามหายาน เราจึงได้เห็นวัดวาอารามแบบทิเบต พระราชวังลาดักห์ก็มีสถาปัตยกรรมแบบทิเบต จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นทิเบตน้อยแห่งอินเดียนั่นเอง
ลาดักห์ (Ladakh) เป็นแคว้นหนึ่งในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ (Jammu and Kashmir) ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่เหนือสุดของประเทศอินเดีย ใกล้กับชายแดนประเทศจีน มีพื้นที่มากกว่า 86,909 ตารางกิโลเมตร มีเมืองใหญ่ที่สุดก็คือ เมืองเลห์ (Leh) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว เพียบพร้อมไปด้วยสนามบิน ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร และบริษัทนำเที่ยว
Land of High Passes
แคว้นลาดักห์ ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 3,000 เมตร มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน ซึ่งทอดตัวยาวมาจากเทือกเขาหิมาลัยไปจนถึงเทือกเขาคุนหลุน ซึ่งรวมไปถึงด้านบนสุดของลุ่มแม่น้ำสินธุด้วย การเข้าสู่แคว้นแห่งนี้นอกจากจะสามารถมาได้โดยเครื่องบินแล้ว ก็ยังสามารถนั่งรถเข้ามาถึงได้ เพราะมีถนนเชื่อมต่อมาถึงเมืองเลห์ ทำให้ถนนในแคว้นนี้กลายเป็นหนึ่งในถนนที่อยู่สูงที่สุดในโลก
ถนนหลักที่มีชื่อเสียงก็คือ Khardung La Pass เป็นถนนที่มีทัศนียภาพสวยงามจับตา นักเดินทางทั่วโลกต่างภาวนาให้ได้มาเยี่ยมเยือนที่นี่กันสักครั้งเลยล่ะ และเหตุนี้เองทำให้เมืองนี้มีชื่อว่า ลาดักห์ (Ladakh) ในภาษาทิเบต มีความหมายว่า Land of High Passes นั่นเอง
จากที่ตั้งของแคว้นลาดักห์ เราจะเห็นได้ว่าที่นี่อยู่ติดกับชายแดนของประเทศอินเดีย ซึ่งมีเขตติดต่อระหว่างประเทศจีนและประเทศปากีสถาน ในช่วงสมัยที่เส้นทางสายไหมกำลังรุ่งเรือง เมืองลาดักห์เป็นเมืองการค้าที่สำคัญในแถบนี้ เพราะเป็นเมืองที่เชื่อมต่อกับ 3 ประเทศนี้ ตอนแรกอาณาจักรลาดักห์ถูกปกครองโดยอาณาจักรทิเบต ต่อมาพออาณาจักรทิเบตเริ่มอ่อนอำนาจ แคชเมียร์ก็ผนวกลาดักห์เข้ามาอยู่ในการปกครอง ซึ่งแคชเมียร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของอินเดียในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นเมื่อจีนเข้ายึดครองทิเบตได้สำเร็จ ก็จะตามมาเอาลาดักห์ เนื่องจากเป็นเขตที่เคยถูกปกครองโดยทิเบต จึงทำให้เกิดความขัดแย้ง และตามมาด้วยการต่อสู้กันหลายครั้ง จนอินเดียต้องสูญเสียพื้นที่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เรียกว่า Aksai Chin ไปให้กับจีน ส่วนทางด้านเมือง Turtuk ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนปากีสถาน ก็มีการแย่งชิงเขตแดนกันอยู่เรื่อย ๆ กลายเป็นสงครามย่อยที่มีผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าลาดักห์จะตั้งอยู่ในเขตการปกครองของอินเดีย แต่กลับปรากฏศิลปวัฒนธรรมและสภาพบ้านเมืองในแบบทิเบต นั่นก็เป็นเพราะว่าดั้งเดิมนั้น เมืองลาดักห์เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรทิเบตมาก่อน ซึ่งอาณาจักรทิเบตก็ให้ความสำคัญกับพุทธศาสนามหายาน เราจึงได้เห็นวัดวาอารามแบบทิเบต พระราชวังลาดักห์ก็มีสถาปัตยกรรมแบบทิเบต จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นทิเบตน้อยแห่งอินเดียนั่นเอง
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนแคว้นลาดักห์และเมืองเลห์ ต่างก็ตกหลุมรักในความงดงามของดินแดนแห่งนี้ เพราะโดยรอบของเมืองนั้นเต็มไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้วก็กลายเป็นเพียงผงฝุ่นไปเลยทีเดียว และภูเขาเหล่านี้ก็ยังจะมีหิมะปกคลุมอยู่เกือบตลอดทั้งปี สวยงามในแบบที่ไม่มีที่ไหนในโลกเหมือน และหากได้ขึ้นไปมองเมืองลาดักห์บนที่สูง ก็จะเห็นว่าเป็นเมืองแบบทิเบตน้อย ๆ ที่หลบซ่อนอยู่ในหุบเขาอย่างแท้จริง รอบ ๆ เมืองก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อีกมากมาย มีทะเลสาบกว้างใหญ่งดงามตระการตา ไม่ว่าใครได้มาเห็นรับรองได้เลยว่าชั่วขณะหนึ่งก็ต้องแทบจะหยุดหายใจ
และแน่นอนว่าเมืองแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ที่สูงมาก ออกซิเจนจะน้อยกว่าปกติ หากร่างกายไม่แข็งแรงพอ หรือป่วยขณะเดินทางก็อาจจะทำให้ไม่สามารถต้านทานกับโรคที่เกี่ยวกับ Altitude Sickness ได้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิตได้เลยเช่นกัน
ใกล้กับเมืองลาดักห์ จะมีทะเลสาบอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เช่น Tso Moriri Lake และ Pangong Lake โดยทะเลสาบทั้งสองแห่งนี้จะมีทัศนียภาพที่งดงาม อลังการไปด้วยฉากหลักของภูเขาหิมาลัยสูงใหญ่ น้ำในทะเลสาบก็จะเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใสแจ๋ว มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก
โดยที่ทะเลสาบ Tso Moriri จะมีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 120 ตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 4,522 เมตร ในขณะที่ Pangong Lake มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 699.3 ตารางกิโลเมตร และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 4,350 เมตร และจากสถิติความสูงของทะเลสาบ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นที่ตั้งของทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดในโลก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนริมทะเลสาบได้ มีที่พักรับรองอยู่ไม่ไกล บางแห่งก็สามารถนอนกางเต็นท์ได้เลยล่ะ
เมืองลาดักห์ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีธรรมชาติงดงาม สมบูรณ์ อาจจะไม่ได้เป็นป่ารกทึบ ภูเขาสีเขียวอย่างบ้านเรา แต่ก็มีเส้นทางเดินขึ้นเขาให้พิชิตกันหลากหลายเส้นทาง ซึ่งแต่ละเส้นทางก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป บางเส้นทางอาจจะผ่านหมู่บ้าน หุบเขา ลำธาร แม่น้ำ แต่ในทุก ๆ เส้นทางได้ชื่อว่าทรหดสุด ๆ เพราะมันคือการเดินเทรกกิ้งบนพื้นที่สูง จะทำให้เหนื่อยง่ายกว่าปกติ ถ้าร่างกายไม่พร้อมจริง ๆ ก็ยากที่จะพิชิตแต่ละเส้นทางได้
สถานที่ท่องเที่ยวในเลห์ ลาดักห์
ในเมืองเลห์ และรอบแคว้นลาดักห์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย ซึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยม 15 สถานที่ท่องเที่ยวเลห์ ลาดักห์ ห้ามพลาด ได้แก่
1. Pangong lake
2. Magnetic Hill
3. Tso Moriri Lake
4. Tsokar Lake
5. Leh Palace
6. Shanti Stupa
7. Nubra Valley
8. Thiksey Monastery
9. Namgyal Tsemo Monastery
10. Hemis Monastery
11. Shey Monastery
12. Stok Palace
13. Changla Pass
14. Diskit Monastery
15. Zanskar River Rafting
เมืองลาดักห์ ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงมาก จึงทำให้มีฤดูหนาวที่ยาวนานมากกว่า 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม โดยเดือนที่หนาวที่สุดจะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ในช่วงนี้เส้นทางจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ อากาศติดลบตลอด บางช่วงติดลบมากกว่า -20 องศา ร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักจะปิดทำการ จึงไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยว ช่วงเวลาที่น่าไปเที่ยวเลห์ และลาดักห์ จึงควรเป็นช่วงระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน
ภาพจาก Avigator Thailand / Shutterstock.com
เกร็ดท่องเที่ยวเลห์ ลาดักห์
- นักท่องเที่ยวชาวไทย จะต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอินเดีย ก่อนการเดินทาง
- การเดินทางจากไทยไม่มีเที่ยวบินตรงไปยังเมืองเลห์ จะต้องนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่เมืองเดลี ประเทศอินเดีย ก่อน แล้วจึงต่อเครื่องบินไปยังเมืองเลห์
- การเดินทางในเมืองเลห์ และแคว้นลาดักห์ หากนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเองจะนิยมใช้บริการแท็กซี่ บางท่านก็เลือกที่จะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยว แต่แนะนำให้ใช้บริการไกด์ท้องถิ่นจะสะดวกและปลอดภัยกว่า
- ผู้คนในเมืองเลห์ และแคว้นลาดักห์น่ารัก ซื่อตรง เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว
- ประชากรมากกว่า 60% ของแคว้นลาดักห์เป็นมุสลิม ควรศึกษาเรื่องข้อปฏิบัติทางศาสนาด้วย
- ที่พักในแคว้นลาดักห์ และเมืองเลห์มีหลากหลายแบบ หลากหลายราคา ตั้งแต่เกสต์เฮ้าส์ไปจนถึงบูทีคโฮเทล
- ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็เป็นร้านอาหารพื้นเมือง มีเมนูแบบสากลบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ผักและซุปร้อน ๆ
- สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตที่แคว้นลาดักห์ จะใช้ได้เพียงไม่กี่เครือข่ายของอินเดีย แนะนำให้ซื้อซิมโทรศัพท์ที่นั่น หรือเปิดโรมมิ่งของเครือข่ายที่ใช้อยู่ในไทย เพราะจะสามารถสลับการเชื่อมต่อเครือข่ายของอินเดียได้ในกรณีที่เราเปลี่ยนเมือง
- ค่าครองชีพในเมืองเลห์ไม่สูงมากนัก ค่าที่พักก็เริ่มต้นที่ราคาหลักร้อย แต่ควรแลกเงินไปให้พร้อม เพราะจะหาตู้เอทีเอ็มยาก
- ห้องน้ำสาธารณะต่าง ๆ ไม่สะอาดเท่าไร บางแห่งยังคงเป็นส้วมหลุมแบบธรรมชาติมาก ๆ ควรเตรียมทิชชูเปียก และทิชชูธรรมดาไปให้พร้อม
- อากาศที่แคว้นลาดักห์ จะหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงรอยต่อกับฤดูหนาว จึงควรเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม
- ปลั๊กไฟในเมืองเลห์จะเป็นแบบขากลม 3 ขา แนะนำให้พก Universal Travel Adapter ไปด้วย
- เตรียมยาประจำตัว รวมทั้งยาสามัญต่าง ๆ ให้พร้อม
สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวเลห์ ลาดักห์ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้บ้างไม่มากก็น้อย ใครไปเที่ยวมาแล้ว ก็เอารูปมาอวดกันบ้างนะ :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
lehladakhindia.com, leh.ind.in, lehladakhtourism.com