ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 9 พฤศจิกายน 2561 เตรียมพบกับมหัศจรรย์ที่เป็น "ครั้งแรก" และ "ดีที่สุด" มากมายอย่างไม่เคยมีมาก่อน ในงานเปิดตัวสุดอลังการที่จะทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ให้โลกประจักษ์กับความยิ่งใหญ่ของอภิมหาโครงการล้ำสมัยที่สุดในสยาม
ได้ฤกษ์ดีเดย์แล้ว สำหรับการเปิดตัวอภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามูลค่า 54,000 ล้านบาท อย่าง "ไอคอนสยาม" (ICONSIAM) ที่จะมาเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองไทย ซึ่งอัดแน่นไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย
ภาพจาก ICONSIAM
ไอคอนสยาม เป็นอภิมหาโครงการริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเนรมิตพื้นที่กว่า 55 ไร่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 750,000 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่ภายในอาคารกว่า 750,000 ตารางเมตร และพื้นที่ติดริมแม่น้ำยาว 400 เมตร ให้สะกดผู้คนทั้งโลกด้วยการนำเสนอความแปลกใหม่ของร้านค้าและองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในไอคอนสยามอย่างไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย อีกทั้งยังประกอบไปด้วย คอนโดมิเนียมสุดหรูริมฝั่งแม่น้ำ 2 อาคาร สูง 70 ชั้น และ 52 ชั้น โดยหนึ่งในคอนโดมิเนียมดังกล่าวอยู่ภายใต้แบรนด์แมนดาริน โอเรียนเต็ล โดยได้เตรียมจัดงบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาทในการเปิดตัวไอคอนสยาม ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 และเชิญผู้สื่อข่าวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชม
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยามจะเป็นอภิมหาโครงการเมืองที่นำเสนอความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยส่งเสริมและผลักดันแบรนด์ไทย สินค้าไทย ศิลปินไทย งานฝีมือไทย และศิลปวัฒนธรรมไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก อีกทั้งยังเป็นการบุกเบิกการทำธุรกิจในโลกยุคใหม่ ที่พลิกโฉมรูปแบบการพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่ไปอย่างสิ้นเชิง โดยคอนเซ็ปต์ "การสร้างประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย" หรือ Creating Shared Value และ "การร่วมกันรังสรรค์" หรือ Co-Creation เป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดของไอคอนสยาม ที่ได้บุกเบิกและทำคอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่นี้ให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรมและเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ที่ก้าวขึ้นไปอีกขั้นอย่างเต็มภาคภูมิ และสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจแก่คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
อ๊ะ ๆ ก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับไอคอนสยามให้มากขึ้น กับ 8 สิ่ง "ครั้งแรก" และ "ดีที่สุด" ของเมืองไทยที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ ไอคอนสยาม
1. ศูนย์รวมของศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งผสมผสานรวมอยู่กับที่สุดของการช้อปปิ้งและความบันเทิง
ไอคอนสยาม ผนึกกำลังพันธมิตรองค์กรธุรกิจทั้งใหญ่และเล็กทุกขนาดหลากหลายรูปแบบธุรกิจ รวมไปถึงผู้คนจำนวนมากจากนานาสาขาอาชีพ ที่มีความปรารถนาจะสร้างสถานที่ที่บอกเล่าหลากหลายเรื่องราวของความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ผสมกับสิ่งที่ดีในมิติต่าง ๆ จากทุกมุมโลก ได้มารวมพลังกันสร้างสรรค์สัญลักษณ์ใหม่ ซึ่งจะกลายเป็นมหาปรากฏการณ์ การเปิดไอคอนสยามในครั้งนี้จะเป็นการประสานประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย แผ่กระจายความรุ่งเรืองไปทั่ว ทั้งในระดับชุมชน สังคม และประเทศ
เหล่าผู้สร้างสรรค์ที่มีส่วนร่วมในการเนรมิตสิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ในไอคอนสยาม ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า นักออกแบบในสาขาต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ศิลปินจากทั่วประเทศผู้มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกต่าง ๆ ในไอคอนสยาม รวมถึงเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบ และบรรดาธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกำหนดองค์ประกอบต่าง ๆ ของไอคอนสยามทั้งสิ้น ซึ่งเหล่าผู้ร่วมสร้างสรรค์ที่ร่วมแรงร่วมใจกันกับเรา ถือเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ในโลกอนาคตเพื่อความเจริญที่ยั่งยืนร่วมกันอย่างที่ไอคอนสยามกำลังทำอยู่
2. 14 ไอคอนนิกสโตร์ (Iconic Store) สุดอลังการ โดยเหล่าลักซ์ซูรี่แบรนด์ชื่อดังของโลก
ไอคอนนิกสโตร์สุดอลังการจำนวน 14 แบรนด์ และอีกหลากหลายสโตร์จากแบรนด์ที่พรีเมียมที่สุดของโลกมารวมตัวกันอยู่ในที่เดียวอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยแบรนด์ที่เป็นสุดยอดความหรูหราระดับโลกจำนวนหนึ่งจะอยู่ในอาคาร ‘ไอคอนลักซ์’ (ICONLUXE) ซึ่งมีพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอาคารกระจกโครงสร้างไร้เสาที่ยาวที่สุดในโลก รูปทรงคล้ายกระทงแก้ว สรรค์สร้างอย่างงดงามให้เป็นสัญลักษณ์ใหม่บนแม่น้ำเจ้าพระยา
3. 188 แบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลกกับคอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย
ไอคอนสยามจะมีมากกว่า 188 แบรนด์ชั้นนำที่เป็นแบรนด์และคอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนเซ็ปต์ Icons within Icon ซึ่งจะมีการจัดให้ลักซ์ซูรี่แบรนด์มีคฤหาสน์ของตนเองในรูปแบบ Duplex Mansion อยู่ภายในอาคารไอคอนลักซ์ซึ่งจะทำให้สามารถมีสินค้าที่ครบครันและมีบริการพิเศษอีกด้วย
4. 500 ร้านค้าและภัตตาคาร ที่จะรวมพลังสร้างปรากฏการณ์เหนือความคาดหมาย
ไอคอนสยามจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศไทยที่นำเสนอความแปลกใหม่ด้วยอัตลักษณ์ที่โดดเด่น จึงได้มีการทำงานลงลึกในรายละเอียดร่วมกับร้านค้าและผู้ประกอบการกว่า 500 ราย ตั้งแต่สุดยอดแบรนด์ของไทยไปจนถึงลักซ์ซูรี่แบรนด์จากต่างประเทศ เพื่อขอให้แต่ละร้านนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับแบรนด์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความเป็นมาของแต่ละแบรนด์จนถึงแนวคิดและนวัตกรรมต่าง ๆ โดยเชื่อมโยงกับแนวการออกแบบร้าน ให้ไอคอนสยามเป็นโครงการแห่งแรกที่ทำ Story Telling ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจได้อย่างเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างแต่มีคุณค่าให้ผู้บริโภคได้ประทับใจ และเนื่องจากไอคอนสยามได้รับความเชื่อมั่นจากหลาย ๆ แบรนด์ชื่อดังระดับโลก ทำให้มีโอกาสสร้างสิ่งพิเศษที่จะเกิดขึ้นภายในร้านของแต่ละแบรนด์ได้เฉพาะที่ไอคอนสยามเท่านั้น
5. แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชื่อดังมากมาย ที่มาร่วมกันนำเสนอคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
\'Adidas\' เปิด Adidas Original Store ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย \'JD Sports\' ร้านแฟชั่นกีฬาชื่อดังจากประเทศอังกฤษ เปิดร้านแรกในประเทศไทย และ \'Nike\' เปิด Nike Kicks Lounge แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอสินค้าที่แตกต่างจาก Nike Store อื่น ๆ
\'ALAND\' ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์คอนเซ็ปต์สโตร์ และ \'COS\' เปิดแฟล็กชิพสโตร์แฟชั่นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย รวมถึง \'นารายา\' ต่างเตรียมพร้อมที่จะเปิดร้านดูเพล็กซ์ไอคอนนิกสโตร์ของตัวเองที่ไอคอนสยาม ในขณะที่ \'H&M\' เตรียมพร้อมเปิดอาคารของตัวเองในรูปแบบ Triplex Store 3 ชั้นสุดอลังการเป็นครั้งแรก และ \'ทาคาชิมายะ\' ห้างสรรพสินค้าระดับตำนานที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากประเทศญี่ปุ่น ก็จะเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่ไอคอนสยามขนาด 36,000 ตารางเมตร โดยจะนำ 170 แบรนด์ในทุก category รวมถึงอาหารและขนมจากญี่ปุ่นที่ไม่เคยมีจำหน่ายในประเทศไทยมาก่อนมานำเสนอด้วย
6. สุดยอดประสบการณ์ของการกินดื่มใน 7 บรรยากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละโซน
ไอคอนสยามจะนำเสนอสุดยอดประสบการณ์ของการกินดื่มใน 7 บรรยากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละโซน นับตั้งแต่ร้านอาหาร Fine Dining ซึ่งแต่ละร้านมีระเบียงชมวิวแม่น้ำ จนถึงอาหารยอดนิยมของไทยซึ่งหาชิมได้ยาก รวมถึง roof-top bars ที่สามารถดื่มด่ำกับความงดงามของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งยังมีภัตตาคารชื่อดังจากต่างประเทศ อาทิ Harbour จากไต้หวัน และภัตตาคารอาหารทะเลชื่อดังจากสิงคโปร์อย่าง Jumbo Seafood ซึ่งเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย
7. คลับเพื่อสุขภาพหรูและใหญ่ที่สุดในไทย
Fitness First คลับเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดของประเทศไทย และมีสาขามากกว่า 29 สาขา ก็จะมาเปิดคลับระดับหรูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ซึ่งจะเป็นแฟล็กชิพที่ให้บริการพิเศษแตกต่างจากสาขาอื่น ๆ
ภาพจาก ICONSIAM
8. อาคารที่พักอาศัยสุดหรู 2 อาคารริมแม่น้ำเจ้าพระยากับวิวสวยตระการตาประเมินค่าไม่ได้
โครงการหรู "แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์" มีความสูง 70 ชั้น ประกอบด้วยห้องพักอาศัยสุดหรู จำนวน 379 ยูนิต ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วกว่า 90% ส่วนโครงการ "เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ" ที่สุดแห่งความหรูหราระดับอัลตราลักซ์ซูรี่ ความสูง 52 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วกว่า 80%
ด้วยทำเลของโครงการซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลริมแม่น้ำที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นโครงการเรสซิเดนซ์แห่งแรกของแบรนด์ "แมนดาริน โอเรียนเต็ล" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการนี้จึงถือเป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเอเชียอย่างแท้จริง ผู้พักอาศัยสามารถมองเห็นทัศนียภาพริมแม่น้ำอันประเมินค่ามิได้และหาไม่ได้จากที่ใดในโลก และได้รับการดูแลโดยทีมบริหารคุณภาพของกลุ่มโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล แบรนด์โรงแรมหรูระดับตำนานของโลก
เห็นแบบนี้แล้วน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยใช่ไหมคะที่จะได้เห็นปรากฏการณ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และเมืองไทย เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไปสัมผัสกับประสบการณ์สุดล้ำสมัยนี้ได้ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ค่ะ :)
ภาพจาก ICONSIAM
ไอคอนสยาม เป็นอภิมหาโครงการริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเนรมิตพื้นที่กว่า 55 ไร่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 750,000 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่ภายในอาคารกว่า 750,000 ตารางเมตร และพื้นที่ติดริมแม่น้ำยาว 400 เมตร ให้สะกดผู้คนทั้งโลกด้วยการนำเสนอความแปลกใหม่ของร้านค้าและองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในไอคอนสยามอย่างไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย อีกทั้งยังประกอบไปด้วย คอนโดมิเนียมสุดหรูริมฝั่งแม่น้ำ 2 อาคาร สูง 70 ชั้น และ 52 ชั้น โดยหนึ่งในคอนโดมิเนียมดังกล่าวอยู่ภายใต้แบรนด์แมนดาริน โอเรียนเต็ล โดยได้เตรียมจัดงบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาทในการเปิดตัวไอคอนสยาม ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 และเชิญผู้สื่อข่าวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชม
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยามจะเป็นอภิมหาโครงการเมืองที่นำเสนอความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยส่งเสริมและผลักดันแบรนด์ไทย สินค้าไทย ศิลปินไทย งานฝีมือไทย และศิลปวัฒนธรรมไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก อีกทั้งยังเป็นการบุกเบิกการทำธุรกิจในโลกยุคใหม่ ที่พลิกโฉมรูปแบบการพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่ไปอย่างสิ้นเชิง โดยคอนเซ็ปต์ "การสร้างประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย" หรือ Creating Shared Value และ "การร่วมกันรังสรรค์" หรือ Co-Creation เป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดของไอคอนสยาม ที่ได้บุกเบิกและทำคอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่นี้ให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรมและเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ที่ก้าวขึ้นไปอีกขั้นอย่างเต็มภาคภูมิ และสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจแก่คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
อ๊ะ ๆ ก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับไอคอนสยามให้มากขึ้น กับ 8 สิ่ง "ครั้งแรก" และ "ดีที่สุด" ของเมืองไทยที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ ไอคอนสยาม
1. ศูนย์รวมของศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งผสมผสานรวมอยู่กับที่สุดของการช้อปปิ้งและความบันเทิง
ไอคอนสยาม ผนึกกำลังพันธมิตรองค์กรธุรกิจทั้งใหญ่และเล็กทุกขนาดหลากหลายรูปแบบธุรกิจ รวมไปถึงผู้คนจำนวนมากจากนานาสาขาอาชีพ ที่มีความปรารถนาจะสร้างสถานที่ที่บอกเล่าหลากหลายเรื่องราวของความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ผสมกับสิ่งที่ดีในมิติต่าง ๆ จากทุกมุมโลก ได้มารวมพลังกันสร้างสรรค์สัญลักษณ์ใหม่ ซึ่งจะกลายเป็นมหาปรากฏการณ์ การเปิดไอคอนสยามในครั้งนี้จะเป็นการประสานประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย แผ่กระจายความรุ่งเรืองไปทั่ว ทั้งในระดับชุมชน สังคม และประเทศ
เหล่าผู้สร้างสรรค์ที่มีส่วนร่วมในการเนรมิตสิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ในไอคอนสยาม ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า นักออกแบบในสาขาต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ศิลปินจากทั่วประเทศผู้มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกต่าง ๆ ในไอคอนสยาม รวมถึงเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบ และบรรดาธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกำหนดองค์ประกอบต่าง ๆ ของไอคอนสยามทั้งสิ้น ซึ่งเหล่าผู้ร่วมสร้างสรรค์ที่ร่วมแรงร่วมใจกันกับเรา ถือเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ในโลกอนาคตเพื่อความเจริญที่ยั่งยืนร่วมกันอย่างที่ไอคอนสยามกำลังทำอยู่
2. 14 ไอคอนนิกสโตร์ (Iconic Store) สุดอลังการ โดยเหล่าลักซ์ซูรี่แบรนด์ชื่อดังของโลก
ไอคอนนิกสโตร์สุดอลังการจำนวน 14 แบรนด์ และอีกหลากหลายสโตร์จากแบรนด์ที่พรีเมียมที่สุดของโลกมารวมตัวกันอยู่ในที่เดียวอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยแบรนด์ที่เป็นสุดยอดความหรูหราระดับโลกจำนวนหนึ่งจะอยู่ในอาคาร ‘ไอคอนลักซ์’ (ICONLUXE) ซึ่งมีพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอาคารกระจกโครงสร้างไร้เสาที่ยาวที่สุดในโลก รูปทรงคล้ายกระทงแก้ว สรรค์สร้างอย่างงดงามให้เป็นสัญลักษณ์ใหม่บนแม่น้ำเจ้าพระยา
3. 188 แบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลกกับคอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย
ไอคอนสยามจะมีมากกว่า 188 แบรนด์ชั้นนำที่เป็นแบรนด์และคอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนเซ็ปต์ Icons within Icon ซึ่งจะมีการจัดให้ลักซ์ซูรี่แบรนด์มีคฤหาสน์ของตนเองในรูปแบบ Duplex Mansion อยู่ภายในอาคารไอคอนลักซ์ซึ่งจะทำให้สามารถมีสินค้าที่ครบครันและมีบริการพิเศษอีกด้วย
4. 500 ร้านค้าและภัตตาคาร ที่จะรวมพลังสร้างปรากฏการณ์เหนือความคาดหมาย
ไอคอนสยามจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศไทยที่นำเสนอความแปลกใหม่ด้วยอัตลักษณ์ที่โดดเด่น จึงได้มีการทำงานลงลึกในรายละเอียดร่วมกับร้านค้าและผู้ประกอบการกว่า 500 ราย ตั้งแต่สุดยอดแบรนด์ของไทยไปจนถึงลักซ์ซูรี่แบรนด์จากต่างประเทศ เพื่อขอให้แต่ละร้านนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับแบรนด์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความเป็นมาของแต่ละแบรนด์จนถึงแนวคิดและนวัตกรรมต่าง ๆ โดยเชื่อมโยงกับแนวการออกแบบร้าน ให้ไอคอนสยามเป็นโครงการแห่งแรกที่ทำ Story Telling ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจได้อย่างเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างแต่มีคุณค่าให้ผู้บริโภคได้ประทับใจ และเนื่องจากไอคอนสยามได้รับความเชื่อมั่นจากหลาย ๆ แบรนด์ชื่อดังระดับโลก ทำให้มีโอกาสสร้างสิ่งพิเศษที่จะเกิดขึ้นภายในร้านของแต่ละแบรนด์ได้เฉพาะที่ไอคอนสยามเท่านั้น
\'Adidas\' เปิด Adidas Original Store ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย \'JD Sports\' ร้านแฟชั่นกีฬาชื่อดังจากประเทศอังกฤษ เปิดร้านแรกในประเทศไทย และ \'Nike\' เปิด Nike Kicks Lounge แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอสินค้าที่แตกต่างจาก Nike Store อื่น ๆ
\'ALAND\' ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์คอนเซ็ปต์สโตร์ และ \'COS\' เปิดแฟล็กชิพสโตร์แฟชั่นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย รวมถึง \'นารายา\' ต่างเตรียมพร้อมที่จะเปิดร้านดูเพล็กซ์ไอคอนนิกสโตร์ของตัวเองที่ไอคอนสยาม ในขณะที่ \'H&M\' เตรียมพร้อมเปิดอาคารของตัวเองในรูปแบบ Triplex Store 3 ชั้นสุดอลังการเป็นครั้งแรก และ \'ทาคาชิมายะ\' ห้างสรรพสินค้าระดับตำนานที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากประเทศญี่ปุ่น ก็จะเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่ไอคอนสยามขนาด 36,000 ตารางเมตร โดยจะนำ 170 แบรนด์ในทุก category รวมถึงอาหารและขนมจากญี่ปุ่นที่ไม่เคยมีจำหน่ายในประเทศไทยมาก่อนมานำเสนอด้วย
6. สุดยอดประสบการณ์ของการกินดื่มใน 7 บรรยากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละโซน
ไอคอนสยามจะนำเสนอสุดยอดประสบการณ์ของการกินดื่มใน 7 บรรยากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละโซน นับตั้งแต่ร้านอาหาร Fine Dining ซึ่งแต่ละร้านมีระเบียงชมวิวแม่น้ำ จนถึงอาหารยอดนิยมของไทยซึ่งหาชิมได้ยาก รวมถึง roof-top bars ที่สามารถดื่มด่ำกับความงดงามของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งยังมีภัตตาคารชื่อดังจากต่างประเทศ อาทิ Harbour จากไต้หวัน และภัตตาคารอาหารทะเลชื่อดังจากสิงคโปร์อย่าง Jumbo Seafood ซึ่งเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย
7. คลับเพื่อสุขภาพหรูและใหญ่ที่สุดในไทย
Fitness First คลับเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดของประเทศไทย และมีสาขามากกว่า 29 สาขา ก็จะมาเปิดคลับระดับหรูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ซึ่งจะเป็นแฟล็กชิพที่ให้บริการพิเศษแตกต่างจากสาขาอื่น ๆ
ภาพจาก ICONSIAM
8. อาคารที่พักอาศัยสุดหรู 2 อาคารริมแม่น้ำเจ้าพระยากับวิวสวยตระการตาประเมินค่าไม่ได้
โครงการหรู "แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์" มีความสูง 70 ชั้น ประกอบด้วยห้องพักอาศัยสุดหรู จำนวน 379 ยูนิต ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วกว่า 90% ส่วนโครงการ "เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ" ที่สุดแห่งความหรูหราระดับอัลตราลักซ์ซูรี่ ความสูง 52 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วกว่า 80%
ด้วยทำเลของโครงการซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลริมแม่น้ำที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นโครงการเรสซิเดนซ์แห่งแรกของแบรนด์ "แมนดาริน โอเรียนเต็ล" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการนี้จึงถือเป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเอเชียอย่างแท้จริง ผู้พักอาศัยสามารถมองเห็นทัศนียภาพริมแม่น้ำอันประเมินค่ามิได้และหาไม่ได้จากที่ใดในโลก และได้รับการดูแลโดยทีมบริหารคุณภาพของกลุ่มโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล แบรนด์โรงแรมหรูระดับตำนานของโลก
เห็นแบบนี้แล้วน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยใช่ไหมคะที่จะได้เห็นปรากฏการณ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และเมืองไทย เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไปสัมผัสกับประสบการณ์สุดล้ำสมัยนี้ได้ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ค่ะ :)