เที่ยวไทยให้สุขใจ ง่ายนิดเดียว ด้วยการท่องเที่ยว ๑๔ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ปี ๒๕๖๑ ที่มีอยู่ทั่วไทย ซึ่งเต็มไปด้วยวัฒนธรรมสุดน่ารัก อาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ มิตรภาพไมตรีอันบริสุทธิ์จากผู้คนในชุมชน พร้อมทั้งบรรยากาศที่สวยงามรอบ ๆ ชุมชน
ไปเที่ยวทั้งที หลาย ๆ ท่านก็อยากได้ทั้งความสนุกสนานเพลิดเพลิน
ได้ทั้งความรู้ และประสบการณ์ใหม่ ๆ กันใช่ไหมคะ
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยากให้การท่องเที่ยวเป็นเสมือนการศึกษาเรียนรู้
เรียกได้ว่าอยากเที่ยวให้คุ้มนั่นล่ะ
วันนี้เราก็เลยอยากจะนำเสนอการท่องเที่ยวในอีกรูปแบบ
ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ
เป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกับชุมชนต่าง ๆ ทั่วไทย
ซึ่งมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่โดดเด่น บางชุมชนอาจจะมีประเพณีแปลก
บางชุมชนมีอาหารอร่อย หรือบางชุมชนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม
แต่รับรองได้เลยว่าแต่ละชุมชนจะให้ประสบการณ์ที่มีค่ากับนักท่องเที่ยวกลับบ้านไปแน่นอน
ว่าแล้วจะมีชุมชนไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ :)
๑. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทลื้อเมืองมาง เมืองหย่วน จังหวัดพะเยา
สำหรับใครที่ชอบการแต่งกายของชาวไทลื้อ ไม่ควรพลาดไปสัมผัสกับชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทลื้อเมืองมาง เมืองหย่วน ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ค่ะ เป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรมแบบไทลื้อที่โดดเด่นมาก ทั้งเรื่องของการใช้ชีวิต บ้านเรือนที่อยู่อาศัย อาหารการกินพื้นเมือง และที่สำคัญก็คือเรื่องของการทอผ้าและการแต่งกาย ชาวบ้านจะเลือกใช้สีธรรมชาติมาย้อมผ้า มีวิธีการทอที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ผ้าทอมีสีสันและลวดลายที่สวยงามแปลกตา น่าสวมใส่มาก ๆ เลยค่ะ
ภาพจาก dreamaway / Shutterstock.com
โดยเฉพาะที่เฮินไตลื้อแม่แสงดา ยามเย็นก็เตรียมพร้อมไปช้อปปิ้งเบา ๆ กันที่กาดไทลื้อ และกินข้าวแบบขันโตก ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองสุดอร่อยของชาวไทลื้อ แอบกระซิบเลยว่าอาหารพื้นเมืองที่นี่เด็ด ๆ ทั้งนั้น ข้าวเหนียวห่อเดียวไม่พอค่ะ ^^ แนะนำว่าให้ลองพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านดูนะคะ เพราะตอนเช้าจะได้ไปตักบาตรข้าวเหนียว และเยี่ยมชมตลาดสดตอนเช้าด้วย เป็นอีกบรรยากาศที่น้อยคนจะได้สัมผัส
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทลื้อเมืองมาง เมืองหย่วน จังหวัดพะเยา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางนงลักษณ์ จินะราช โทรศัพท์ ๐๘ ๒๖๙๔ ๙๕๙๙ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพะเยา โทรศัพท์ ๐ ๕๔๔๘ ๕๗๘๑-๒
๒. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านลาวเวียง จังหวัดอุตรดิตถ์
ภาพจาก Cbenjasuwan / Shutterstock.com
ใครที่มีเวลาน้อยจะมาเที่ยวชมในช่วงวันศุกร์-เสาร์ ก็ได้ค่ะ ซึ่งภายในชุมชนจะมีการจัดถนนสายวัฒนธรรมลาวเวียง กลายเป็นถนนคนเดินย่อม ๆ แต่เต็มไปด้วยของกินอร่อยเด็ดของที่นี่มากมาย เช่น อั่วบักเผ็ด ทอดมันหัวปลี และขนมดาดกระทะ แต่ละอย่างอร่อยได้ใจ หยุดกินไม่ได้จริง ๆ ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังจะมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านให้ชมกันด้วย มาวันเดียวเที่ยวได้แบบรวบรัดเลย
แต่ถ้าพอมีเวลาอยากให้ลองพักค้างคืนกันสักวันค่ะ จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวบ้านได้มากขึ้น ได้ลองแต่งกายแบบชาวลาวเวียงไปใส่บาตรหาบจังหัน ได้ทำกระเป๋าผ้าแบบลาวเวียงเก๋ ๆ ได้ลองทำอาหารแบบชาวลาวเวียง มีวิชาความรู้กลับบ้าน และยังได้เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รอบชุมชน ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชน วัดหาดสองแคว, วัดบ้านแก่งใต้ และวัดคลึงคราช เป็นการเที่ยวที่ได้ทั้งพักผ่อนและเรียนรู้เรื่องราวใหม่ ๆ คุ้มไม่ใช่เล่นเลยใช่ไหมล่ะ ^^
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านลาวเวียง จังหวัดอุตรดิตถ์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายพงษ์เทพ ชัยอ่อน โทรศัพท์ ๐๘ ๑๙๗๒ ๑๗๑๔ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ โทรศัพท์ ๐ ๕๕๔๐ ๓๐๙๓
๓. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมวัดศรีฐานปิยาราม จังหวัดเพชรบูรณ์
ใช่ว่าจังหวัดเพชรบูรณ์จะมีแต่ที่เที่ยวภูเขาอย่างเขาค้อ และภูทับเบิกให้เที่ยวชมแค่นั้นนะคะ ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนดี ๆ ซ่อนอยู่ด้วย นั่นก็คือ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมวัดศรีฐานปิยาราม ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า เป็นชุมชนเก่าแก่ อายุมากกว่า ๑๐๐ ปีเลยเชียวนะ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นก็จะมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่โดดเด่นกว่าที่อื่น ๆ เช่น ประเพณีการแข่งเรือยาว ช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่ลำน้ำพุง สนุกสนานสุด ๆ สามารถเล่าให้ฟังกันข้ามปีเลยทีเดียว
สายกินก็ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีอาหารพื้นเมืองอร่อยเด็ดรออยู่เพียบ ทั้งขนมจีนเส้นสดแบบชาวหล่มเก่า, เมี่ยงโค้น และมะขามหวาน กินกันให้พุงแตกไปเลย ส่วนใครที่ชอบผ้าไทย อย่าได้พลาดชมการทอผ้าซิ่นหัวแดงตีนก่านนะคะ และยังมีให้เลือกช้อปปิ้งไปใส่สวย ๆ ที่บ้านกันด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมวัดศรีฐานปิยาราม จังหวัดเพชรบูรณ์ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ นางละเอียด วงศ์วัชรานุกูล โทรศัพท์ ๐๘ ๑๙๗๒ ๙๘๐๑ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ โทรศัพท์ ๐ ๕๖๗๒ ๙๗๗๙-๘๐
๔. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนาถ่อน จังหวัดนครพนม
ไปเที่ยวนครพนม ไม่อยากให้แค่ไปไหว้พระธาตุพนมเท่านั้นค่ะ เพราะที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมดี ๆ รออยู่มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนาถ่อน ตำบลนาถ่อน อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นชุมชนชาวนาถ่อนเผ่าไทกวนที่ดั้งเดิมนั้นย้ายมาจากแคว้นสิบสองจุไทยนู่น เมื่อวัฒนธรรมดั้งเดิมของเผ่าไทกวนมาผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่นในนครพนม ก็กลายเป็นวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และยังคงสืบทอดภูมิปัญญาการตีเหล็กแบบโบราณมาได้มากกว่า 1,000 ปีเลยทีเดียว
ภาพจาก Artistpix / Shutterstock.com
นอกจากวัฒนธรรมที่ดีงามแล้ว ภายในชุมชนยังมีสภาพแวดล้อมที่น่าเที่ยวชมด้วย อย่างป่าชุมชนดงป่ายูง ก็ได้รับรางวัลป่าชุมชนดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๗ จากโครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" ซึ่งนักท่องเที่ยวก็สามารถไปเดินเที่ยวชมได้ แล้วก็ยังสามารถไปเยี่ยมชมที่เที่ยวอื่น ๆ พร้อมทั้งทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นวัดศรีมงคล, สวนเมลอนปลอดสารพิษ, เสมาศิลาทิพย์ วัดบ้านดงยอ, ศาลปู่ตาแสง, ศาลปู่วังขุมเงิน, สะพานไม้, การล่องเรือชมแม่น้ำโขง, ชมการสาธิตการตีเหล็กโบราณ, การกินข้าวห่อใบบัว กาบกล้วย กาบหมาก ริมลำน้ำโขง, การนวดสปาเกลือ, การตักบาตรแบบโบราณ เป็นต้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนาถ่อน จังหวัดนครพนม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางวรัญญา สมศรี โทรศัพท์ ๐๙ ๘๖๑๘-๘๐๒๔ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม โทรศัพท์ ๐ ๔๒๕๑ ๖๐๕๐
๕. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี
ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านเชียง ก่อนหน้านี้มีชื่อเสียงอย่างมากในการเป็นชุมชนมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมส่วนใหญ่ก็จะได้ชมพิพิธภัณฑ์และศูนย์เรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชุมชน แต่ยังไม่ค่อยได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านกันเท่าไรค่ะ และตอนนี้ก็เป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่ทางชุมชนพร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเข้ามาทำความรู้จักกับวัฒนธรรมของคนบ้านเชียง
ภาพจาก Ford Contributo / Shutterstock.com
นักท่องเที่ยวจะได้พูดคุยถึงเรื่องราวทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์กับปราชญ์ชาวบ้าน ได้ชมการสาธิตและลองทำเครื่องปั้นดินเผาตามแบบมรดกโลก รวมทั้งชมการทำเครื่องปั้นดินเผาจากดินดำด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังได้ชมการจักสานไม้ไผ่จากบ้านสองดง ได้ลองทำข้าวเม่าโบราณแบบบ้านเชียง ได้เที่ยวชมบึงนาคำ และอุโบสถกลางน้ำรูปดอกบัว วัดสันติวนาราม พร้อมทั้งได้กินอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ กันอย่างจุใจ ใครได้มาก็ต้องหลงรักบ้านเชียง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายเศวตฉัตร บรรเทาทุกข์ โทรศัพท์ ๐๘ ๖๒๒๑ ๓๓๓๑ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี โทรศัพท์ ๐ ๔๒๒๔ ๗๘๐๒
๖. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านยวน นครจันทึก จังหวัดนครราชสีมา
ชาวไทยวน เป็นชุมชนที่เรามักจะเจอะเจออยู่ทางภาคเหนือ แต่ในภาคอีสานเราก็สามารถมาเรียนรู้วัฒนธรรมชาวไทยวนกันได้นะคะ ที่ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านยวน นครจันทึก ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมดี ๆ มากมาย มั่นใจได้เลยว่านักท่องเที่ยวจะได้รับทั้งความสนุกสนานและความรู้ที่เต็มเปี่ยมกลับบ้านไปแน่นอนค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวก็มีไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งวัดเกาะ, บ้านทรงไทยคุณตาแก้ว, วัดโนนกุ่ม, สวนม่วนอกม่วนใจ วัดใหญ่สีคิ้ว, ตลาดไทยวน, วัดใหญ่, วัดสิงหวนาราม เป็นต้น กิจกรรมก็น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายแบบไท-ยวน, การทำกระทงเทียนลอย, ชมสาธิตการทอผ้า, เรียนรู้การปักลายผ้า, การประดิษฐ์พานบายศรี, ชมระหัดวิดน้ำโบราณ, และการกินอาหารพื้นบ้านเมนูข้าวผัดลาบปลาดุก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่สามารถทำกันได้ทุกเพศทุกวัย จะมากับใครก็สนุกค่ะ :)
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านยวน นครจันทึก จังหวัดนครราชสีมา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางภรชวรรณ ลักษณะเพชร โทรศัพท์ ๐๘ ๔๘๓๖ ๕๕๖๖ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ ๐ ๔๔๒๒ ๐๘๙๘
๗. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านนางเลิ้ง กรุงเทพฯ
ถ้าพูดถึงย่านนางเลิ้ง ใคร ๆ ก็ทราบกันดีว่าย่านนี้มีแต่ของกินอร่อย ๆ เตรียมพุงให้ว่างมาขนาดไหน ก็ไม่เคยพอกับการตะลุยกินในย่านนี้ แต่นอกเหนือจากเรื่องของอาหารแล้ว ย่านนางเลิ้งยังเป็นชุมชนที่น่าเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ด้วยนะคะ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมซ่อนตัวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
หรือถ้าใครอยากจะชมโรงภาพยนตร์โบราณ ก็ไม่ควรพลาดกับ "โรงภาพยนตร์เฉลิมธานี" (ศาลาเฉลิมธานี) ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ที่ครั้งหนึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้ยังมี "บ้านเต้นรำ" ที่เป็นทั้งโรงเรียนสอนเต้นลีลาสและพิพิธภัณฑ์ และ "บ้านศิลปะ" พื้นที่ทางศิลปะของรุ่นใหม่ให้ได้เที่ยวชมกันด้วย
ส่วนสายกินแน่นอนว่ามีร้านอร่อยเด็ดให้ได้ไปเดินชิมลิ้มลองเพียบ โดยเฉพาะในตลาดนางเลิ้งที่มีสารพัดเมนูอร่อยให้เลือกกิน ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอกปลาแนม, ข้าวแช่เพชรบุรี, ผัดไทย/หอยทอด/ขนมเบื้องญวน วิภาวรรณ, เนื้อตุ๋นนางเลิ้ง, ขนมหวานแม่กวา, ข้าวแกงรัตนา, ขนมเบื้องญวณย่าแช่ม, รุ่งเรืองบะหมี่เกี๊ยว, นันทาขนมไทย, ขนมเบื้องไทยโบราณลุงน้อย, สาคูใส้หมูแม่สะอิ้ง, อิ๋วเย็นตาโฟ, ส.รุ่งโรจน์, ข้าวแกงรัตนา, ขนมไทยแม่สมจิตต์ เป็นต้น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านนางเลิ้ง กรุงเทพฯ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายสมชาย ธนกุสุมาลย์ โทรศัพท์ ๐๘ ๑๘๑๒ ๕๙๓๖
๘. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดสุพรรณบุรี
ผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้วัฒนธรรมชาวลาวครั่งหลวงพระบาง ไม่ต้องไปไกลถึงหลวงพระบาง ก็สามารถไปเยี่ยมชมวัฒนธรรมชาวลาวครั่งหลวงพระบางดั้งเดิมกันได้ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เลยค่ะ ที่บ้านพุน้ำร้อน ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งนอกจากจะมีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมแล้ว ก็ยังเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์อยู่ในชุมชนด้วยนะคะ นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมแปลกใหม่และได้พักผ่อนกับธรรมชาติดี ๆ ไปในตัวด้วย
สิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับการมาเยือนชุมชนนี้ก็คือการเรียนรู้การทอผ้าซิ่นตีนจกลายโบราณ ซึ่งในปัจจุบันหาชมได้ยากแล้วค่ะ แต่ทางชุมชนยังคงอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดีทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติให้ได้เที่ยวชมอีกหลายแห่ง อาทิ พิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านพุน้ำร้อน, อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง และศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง พร้อมทั้งมีกิจกรรมเด่น ๆ อย่างกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำ, การเก็บใบรางแดง และการทำชา และการทอผ้าลายโบราณให้ร่วมสนุกกันด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดสุพรรณบุรี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายอำพร ยาสุวรรณ โทรศัพท์ ๐๘ ๙๙๑๐ ๙๖๑๘ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี โทรศัพท์ ๐ ๓๕๕๓ ๖๐๕๘
๙. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
เที่ยวทะเลเมืองเพชรบุรีกันจนอิ่มใจแล้ว อยากให้ลองมาเที่ยวชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรีกันบ้างค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอีกรูปแบบที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก แต่ดีต่อใจไม่แพ้กับการเที่ยวทะเลเลยล่ะ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ และทำกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย แถมยังเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัวด้วย
ในส่วนของการเที่ยวชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมวัดมหาธาตุวรวิหาร, ศาลาคามวาสี, บ้านมนัส จรรยงค์, บ้านสะสมผลงานคุณมิตร ชัยบัญชา, พิพิธภัณฑ์สมบัติแม่น้ำเพชร, พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย พร้อมร่วมทำเวิร์กช็อปตกหนังใหญ่, วัดเกาะแก้วสุทธาราม, คฤหาสน์หรูของคหบดีในอดีต บ้านวาดเวียงไชย และศิลปกรรมชาวฮกเกี้ยน โรงเจฮักเสียนเสี้ยนตึ๊ง ส่วนสายกินก็จะได้เลือกซื้อของกินอร่อย ๆ มากมายที่ตลาดริมน้ำ โดยเฉพาะขนมโบราณอย่างขนมอาลัวชาววัง ที่มีให้ชิมลิ้มลองกันแบบไม่อั้น หวานล้ำกันยกทริป :)
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวเจียรไน ทีสุกะ โทรศัพท์ ๐๙ ๙๐๕๘ ๕๕๐๐ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี โทรศัพท์ ๐ ๓๒๔๒ ๔๓๒๔
๑๐. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหัวบ้าน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ถ้าได้ตื่นเช้ามาพบกับภาพพระอาทิตย์ดวงกลมโต โผล่พ้นผืนท้องทะเลกว้างใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ก็คงจะสุขใจไม่น้อยใช่ไหมคะ ถ้าอยากสัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้ ขอแนะนำให้ลองมาเที่ยวที่ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหัวบ้าน ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กันค่ะ ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ติดชายทะเล และอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หลากหลายแห่งด้วย
ในการเที่ยวชมชุมชนแห่งนี้ อยากให้ลองมาใช้ชีวิตชิล ๆ ริมทะเลกันค่ะ มาปั่นจักรยานชมวิวทะเลที่อ่าวประจวบคีรีขันธ์ ไปชมวิถีชีวิตชาวประมง ลองกินอาหาารทะเลสดใหม่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ชุมชน ไหว้ขอพรศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และหลวงพ่อเปี่ยม ถ้าพอมีเวลาก็อยากให้ลองทำผ้ามัดย้อมสวย ๆ ด้วยมือของตัวเอง เผื่อเอามาสวมใส่เก๋ ๆ ระหว่างเที่ยวที่นี่
ยามเย็นของทุกวันอาทิตย์ ต้องไม่พลาดกับถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก คึกคัก ซึ่งจัดขึ้นบริเวณเมืองเก่าที่สองข้างถนนเป็นบ้านไม้โบราณสวยงาม มีร้านค้า ร้านอาหารมาออกร้านมากมาย เมนูที่น่าชิมลิ้มลอง อาทิ ข้าวผัดสับปะรด, จับหลัก, ปลาอินทรีทอด, แกงส้มปลาเรียวเซียว เป็นต้น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหัวบ้าน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางจำลอง พรหมแดง โทรศัพท์ ๐๘ ๙๖๖๒ ๐๙๒๙ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ ๐ ๓๒๖๐ ๔๓๐๗
๑๑. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดบางหลวง ร.ศ. ๑๒๒ จังหวัดนครปฐม
ภาพจาก นายพิทยา หอมไกรลาศ
ภาพจาก นายพิทยา หอมไกรลาศ
ในบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยม หนึ่งในนั้นแน่นอนว่าจะต้องมีตลาดบางหลวง ร.ศ. ๑๒๒ จังหวัดนครปฐม รวมอยู่ด้วย เพราะที่นี่เป็นตลาดเก่าแก่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ ในช่วงวันหยุดจะมีร้านค้า ร้านอาหารเปิดให้บริการมากมาย มีของอร่อย ๆ ให้ได้ลิ้มลองเพียบ บรรยากาศคึกคัก ขับรถเพียงแป๊ปเดียวจากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว
ภาพจาก นายพิทยา หอมไกรลาศ
แต่สิ่งที่มีเสน่ห์มากกว่านั้นของที่นี่ก็คือ ความเป็นชุมชน ชาวบ้านที่เป็นชาวไทย-จีนดั้งเดิม ยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย และรักษาวัฒนธรรมของตัวเองไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอาคารบ้านเรือนโบราณ ที่เรียกว่า "บ้านเก่า เหล่าเต็งไม้" ซึ่งตั้งเรียงรายอยู่รอบ ๆ ชุมชน มีลักษณะเป็นห้องแถวไม้ ๒ ชั้น สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ โดยบ้านแต่ละหลังก็เปิดให้บริการแตกต่างกันไป มีทั้งร้านยาจีน ร้านทำทอง บ้านตีเหล็ก ร้านทำฟันปลอมโบราณ ทุกร้านติดป้ายสองภาษาทั้งไทยและจีน ใครที่หลงใหลการถ่ายภาพชิค ๆ แบบฮิปสเตอร์ การมาเที่ยวชมที่นี่ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง
ภาพจาก Sombat Muycheen / Shutterstock.com
นอกจากการช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายชนิดแล้ว การมาเที่ยวชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดบางหลวง ร.ศ. ๑๒๒ ก็ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ ให้ได้ร่วมสนุกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไม่ว่าจะเป็นการไปสักการะขอพรหลวงปู่ทา (หลวงพ่อพะเนียงแตก), ไหว้ขอพรองค์เจ้าแม่ทับทิม ณ ศาลปากคลองบางหลวง, ชมธรรมาสอายุกว่า ๑๐๐ ปี, ชมสุสานเรือสำเภาจีนโบราณกว่า ๑๐๐ ปี, ชมเตาหลอมตีเหล็กโบราณที่เก่าแก่ที่สุด, ชมการสาธิตและร่วมตีเหล็กกับช่างจีนโบราณ, ชมการสาธิตทำขนมและชิมขนมชุนเปี๊ยะ, เรียนรู้ตัวโน้ตจีนโบราณอายุนับพันปี และการกินอาหารท้องถิ่นสุดอร่อย จะเลือกมาเที่ยวแบบวันเดย์ทริปก็ได้ หรือถ้ามีเวลาอยากมาใช้ชีวิตชิล ๆ ก็สามารถมาเที่ยวพักผ่อนแบบค้างคืนได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดบางหลวง ร.ศ. ๑๒๒ จังหวัดนครปฐม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายสมศักดิ์ อยู่มาก โทรศัพท์ ๐๘ ๑๙๑๐ ๙๖๘๓ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม โทรศัพท์ ๐ ๓๔๓๔ ๐๓๔๙
๑๒. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยพวน จังหวัดนครนายก
ชาวไทยพวน เป็นอีกหนึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น และยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ การเข้ามาของชาวไทยพวนในประเทศไทย ตามประวัติศาสตร์บอกไว้ว่ามีการอพยพเข้ามาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี และได้ถูกส่งไปยังหัวเมืองร้างต่าง ๆ รวมทั้งที่จังหวัดนครนายกด้วย ดังนั้นชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยพวน จังหวัดนครนายก จึงเป็นอีกชุมชนที่มีอายุหลายร้อยปี มีการสืบทอดวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น และรักษาเอกลักษณ์ของตนเองไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน ภูมิปัญญาการทอผ้า การสร้างบ้านเรือน และการแต่งกาย
และแน่นอนว่าหากนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมยังชุมชนแห่งนี้ นอกจากจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับชุมชนแห่งนี้แล้ว ก็ยังจะได้ทำกิจกรรมที่สนุกสนานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวชมศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดฝั่งคลอง, การไปไหว้พระธาตุกุสาวดี ณ วัดปทุมวงษาวาส, การไปสักการะรอยพระพุทธบาทจำลอง ณ วัดเกาะหวาย, การไปสักการะพระพุทธรูปโบราณ คราวอพยพจากเขียงขวาง ลาว กว่า ๒๐๐ ปี, การเยี่ยมชมกลุ่มทอผ้าพื้นบ้านไทยพวน เป็นต้น
แต่ที่ห้ามพลาดเลยก็คือการชิมลิ้มลอง "ปลาดูสมุนไพร" ณ บ้านนักภูมิปัญญาครูหลอด ปลาร้าสดกึ่งปลาส้ม ใช้ปลาดุกเนื้อนุ่มที่หมักรสเปรี้ยวเค็มกำลังดี นำไปทอดจนกรอบและหอมกรุ่น โรยด้วยสมุนไพรทอดกรอบ ทั้งหอมแดง พริก กระชาย และใบมะกรูด จะกินกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อน ๆ ก็ได้ หรือจะนำไปทำข้าวผัดปลาดูสมุนไพร ก็อร่อยเด็ดโดนใจ กินเท่าไรก็ไม่พอแน่นอน แล้วก็อย่าลืมปิดท้ายด้วย "ข้าวกระยาคู" ขนมขึ้นชื่อของที่นี่ หอมกลิ่นใบเตยและน้ำนมข้าว ตัดหวานด้วยน้ำกะทิสด รสเค็มหน่อย ๆ เข้ากันสุด ๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยพวน จังหวัดนครนายก สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ว่าที่ร้อยตรีชาติชาย ยอดมิ่ง โทรศัพท์ ๐๙ ๒๗๕๗ ๙๓๗๗ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครนายก โทรศัพท์ ๐ ๓๗๓๑ ๕๐๕๐
๑๓. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดใหญ่ จังหวัดพังงา
ถือเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่เต็มไปด้วยร่องรอยความเจริญของเมืองเก่าในสมัยยุคทองของเหมืองแร่ดีบุก เห็นได้จากอาคารบ้านเรือน ร้านค้าของจีนแบบชิโนโปรตุกีส แม้ว่าปัจจุบันธุรกิจเหมืองแร่จะเลิกร้างไปนานแล้ว แต่ความเป็นตึกเก่าโบราณยังคงหลงเหลืออยู่มาก ทำให้เมืองเล็ก ๆ เสน่ห์เฉพาะตัวอันโดดเด่น
นอกจากอาคารบ้านเรือนที่งดงามแล้ว วัฒนธรรมการแต่งกายด้วย "ชุดบาบ๋า" ก็เป็นเอกลักษณ์ของชาวตะกั่วป่า จึงเป็นที่ตั้งของชมรมบาบ๋าฝั่งทะเลอันดามัน เป็นแหล่งความรู้ประวัติความเป็นมาของชุดบาบ๋าด้วยนะคะ อ๊ะ ๆ ไหน ๆ ก็ไปเยือนถึงถิ่นกันแล้ว นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการสวมชุดบาบ๋าเดินเที่ยวชุมชนตลาดใหญ่ ถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกกันนะ
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำ เช่น เที่ยมชมบ้านขุนอินทร์ โบราณสถานที่มีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรม คืออาคารเป็นรูปทรงชิโนโปรตุกีสประยุกต์, ไปวัดเสนานุชรังสรรค์ (วัดใหม่กำแพง) ไหว้พระพระประธานศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ พระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวศิลปะพม่า และธรรมาสน์ สมัยรัชกาลที่ ๖, ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดพระธาตุคีรีเขต, สักการะ "องค์เจ้าพ่อกวนอู" ที่ศาลเจ้าพ่อกวนอู "ซิ่นใช่ตึ๋ง", เยี่ยมชมจวนเจ้าเมืองตะกั่วป่า เป็นโบราณสถาน อยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร
ปิดท้ายด้วยเดินเล่นถนนสายวัฒนธรรม...เมืองเก่าตะกั่วป่า จัดกิจกรรมทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคมของทุกปี เวลา ๑๕.๐๐-๒๐.๐๐ น. ท่ามกลางบรรยากาศของสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเมืองตะกั่วป่า บริเวณถนนศรีตะกั่วป่า ถนนที่เปี่ยมไปด้วยมนตร์เสน่ห์อย่างแท้จริง
ของดีของเด็ดชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดใหญ่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ที่นี่ยังมีอาหารถิ่น รสชาติดั้งเดิม หลากหลายเมนู อาทิ ขนมหม่อจี๋ ขนมเกี่ยมโก้ย ขนมเบื้องโบราณ ขนมโกสุ้ย และที่ไม่ควรพลาดคือ "ขนมเต้าส้อ" ของฝากอันเลื่องชื่อ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดใหญ่ จังหวัดพังงา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ ๐๙๖-๖๓๖-๑๒๗๔, ๐๙๕- ๙๓๒-๙๔๖๒, ๐๙๓-๕๘๓-๙๔๒๑ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพังงา โทรศัพท์ ๐๗๖-๔๘๑-๕๙๖
๑๔. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนาหมื่นศรี จังหวัดตรัง
ผ้าทอนาหมื่นศรี เป็นผ้าทอพื้นเมืองของจังหวัดตรัง มีลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ชุมชนสืบทอดการทอผ้ามาหลายชั่วอายุคน ซึ่งจริง ๆ แล้วนอกจากผ้าทออันเลื่องชื่อ นาหมื่นศรียังมีของดีอีกมากมายซุกซ่อนเอาไว้ วันนี้เราเลยจะพาไปตระเวนทำความรู้จักกับที่นี่กันให้มากขึ้นค่ะ
นาหมื่นศรี เป็นชื่อของชุมชนหนึ่งในอำเภอนาโยง ที่นี่มีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ คนในชุมชนทำไร่นา สวนยางพารา ปลูกฝ้ายเพื่อนำมาทอผ้า ยามว่างจากการทำไร่นา แม่บ้านมักนั่งทอผ้า ส่วนพ่อบ้านช่วยกรอด้าย ปั่นด้าย ย้อมสีผ้า นอกจากนี้คนท้องถิ่นยังนิยมเลี้ยงวัวชน เพื่อเข้าแข่งขันในสนามวัวชนที่ถูกกฎหมาย
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลต์ของชาวนาหมื่นศรี คือการประดิษฐ์ "ลูกลม" หรือ "กังหันลม" เพื่อไล่นกไล่กาไม่ให้มากินข้าวที่รอเก็บเกี่ยว เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน จนภายหลังได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานการเล่นลูกลม และมีการจัดกิจกรรม "เที่ยวตรัง แลลูกลม ชมถ้ำช้างหาย" ในระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ที่มีกระแสลมแรง เสียงลูกลมจะดังกึกก้องทั่วท้องทุ่งนา ณ บริเวณหน้าถ้ำเขาช้างหาย ถือเป็นจุดอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ดีงามมาก ๆ เลยค่ะ
ทางด้านอาหารการกินก็ไม่น้อยหน้า ที่นี่มีอาหารพื้นถิ่นอย่าง "ชาใบจิก" ให้จิบเพลิน ๆ คู่กับ "ขนมฝามี" ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวก็มีมากล้น ไม่ว่าจะเป็น "ถ้ำเขาช้างหาย" ที่ภายในถ้ำจะมีประติมากรรมธรรมชาติหินงอกหินย้อย อีกทั้งยังมีตำนานเล่าว่า ขบวนช้างของผู้แสวงบุญคณะหนึ่งเดินทางผ่านมาบริเวณที่ราบเชิงเขานี้ ลูกช้างในขบวนได้วิ่งหนี ควาญช้างจับหางลูกช้างได้ทันและใช้มีดฟันถูกหางจนขาดติดมือ ลูกช้างวิ่งหนีหายเข้าไปถ้ำ หาเท่าไรก็ไม่พบ และหางนั้นก็กลายเป็นทองคำ หรือจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี ชมเรื่องราวครูผ้าและภูมิปัญญา และไหว้พระที่วัดควนสวรรค์ วัดศูนย์กลางชุมชน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนาหมื่นศรี จังหวัดตรัง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวอารอบ เรืองสังข์ โทรศัพท์ ๐๘๑-๔๗๖-๔๓๑๘ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตรัง โทรศัพท์ ๐๗๕-๒๑๗-๕๘๕
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
๑๔ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ปี ๒๕๖๑ โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวชุมชนตำบลหาดสองแคว
เฟซบุ๊ก ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมวัดศรีฐานปิยาราม
ผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้วัฒนธรรมชาวลาวครั่งหลวงพระบาง ไม่ต้องไปไกลถึงหลวงพระบาง ก็สามารถไปเยี่ยมชมวัฒนธรรมชาวลาวครั่งหลวงพระบางดั้งเดิมกันได้ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เลยค่ะ ที่บ้านพุน้ำร้อน ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งนอกจากจะมีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมแล้ว ก็ยังเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์อยู่ในชุมชนด้วยนะคะ นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมแปลกใหม่และได้พักผ่อนกับธรรมชาติดี ๆ ไปในตัวด้วย
สิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับการมาเยือนชุมชนนี้ก็คือการเรียนรู้การทอผ้าซิ่นตีนจกลายโบราณ ซึ่งในปัจจุบันหาชมได้ยากแล้วค่ะ แต่ทางชุมชนยังคงอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดีทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติให้ได้เที่ยวชมอีกหลายแห่ง อาทิ พิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านพุน้ำร้อน, อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง และศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง พร้อมทั้งมีกิจกรรมเด่น ๆ อย่างกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำ, การเก็บใบรางแดง และการทำชา และการทอผ้าลายโบราณให้ร่วมสนุกกันด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดสุพรรณบุรี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายอำพร ยาสุวรรณ โทรศัพท์ ๐๘ ๙๙๑๐ ๙๖๑๘ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี โทรศัพท์ ๐ ๓๕๕๓ ๖๐๕๘
๙. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
เที่ยวทะเลเมืองเพชรบุรีกันจนอิ่มใจแล้ว อยากให้ลองมาเที่ยวชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรีกันบ้างค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอีกรูปแบบที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก แต่ดีต่อใจไม่แพ้กับการเที่ยวทะเลเลยล่ะ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ และทำกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย แถมยังเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัวด้วย
ในส่วนของการเที่ยวชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมวัดมหาธาตุวรวิหาร, ศาลาคามวาสี, บ้านมนัส จรรยงค์, บ้านสะสมผลงานคุณมิตร ชัยบัญชา, พิพิธภัณฑ์สมบัติแม่น้ำเพชร, พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย พร้อมร่วมทำเวิร์กช็อปตกหนังใหญ่, วัดเกาะแก้วสุทธาราม, คฤหาสน์หรูของคหบดีในอดีต บ้านวาดเวียงไชย และศิลปกรรมชาวฮกเกี้ยน โรงเจฮักเสียนเสี้ยนตึ๊ง ส่วนสายกินก็จะได้เลือกซื้อของกินอร่อย ๆ มากมายที่ตลาดริมน้ำ โดยเฉพาะขนมโบราณอย่างขนมอาลัวชาววัง ที่มีให้ชิมลิ้มลองกันแบบไม่อั้น หวานล้ำกันยกทริป :)
ภาพจาก ploenmuangpetch.com
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวเจียรไน ทีสุกะ โทรศัพท์ ๐๙ ๙๐๕๘ ๕๕๐๐ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี โทรศัพท์ ๐ ๓๒๔๒ ๔๓๒๔
๑๐. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหัวบ้าน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ถ้าได้ตื่นเช้ามาพบกับภาพพระอาทิตย์ดวงกลมโต โผล่พ้นผืนท้องทะเลกว้างใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ก็คงจะสุขใจไม่น้อยใช่ไหมคะ ถ้าอยากสัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้ ขอแนะนำให้ลองมาเที่ยวที่ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหัวบ้าน ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กันค่ะ ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ติดชายทะเล และอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หลากหลายแห่งด้วย
ในการเที่ยวชมชุมชนแห่งนี้ อยากให้ลองมาใช้ชีวิตชิล ๆ ริมทะเลกันค่ะ มาปั่นจักรยานชมวิวทะเลที่อ่าวประจวบคีรีขันธ์ ไปชมวิถีชีวิตชาวประมง ลองกินอาหาารทะเลสดใหม่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ชุมชน ไหว้ขอพรศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และหลวงพ่อเปี่ยม ถ้าพอมีเวลาก็อยากให้ลองทำผ้ามัดย้อมสวย ๆ ด้วยมือของตัวเอง เผื่อเอามาสวมใส่เก๋ ๆ ระหว่างเที่ยวที่นี่
ยามเย็นของทุกวันอาทิตย์ ต้องไม่พลาดกับถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก คึกคัก ซึ่งจัดขึ้นบริเวณเมืองเก่าที่สองข้างถนนเป็นบ้านไม้โบราณสวยงาม มีร้านค้า ร้านอาหารมาออกร้านมากมาย เมนูที่น่าชิมลิ้มลอง อาทิ ข้าวผัดสับปะรด, จับหลัก, ปลาอินทรีทอด, แกงส้มปลาเรียวเซียว เป็นต้น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหัวบ้าน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางจำลอง พรหมแดง โทรศัพท์ ๐๘ ๙๖๖๒ ๐๙๒๙ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ ๐ ๓๒๖๐ ๔๓๐๗
๑๑. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดบางหลวง ร.ศ. ๑๒๒ จังหวัดนครปฐม
ภาพจาก นายพิทยา หอมไกรลาศ
ภาพจาก นายพิทยา หอมไกรลาศ
ในบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยม หนึ่งในนั้นแน่นอนว่าจะต้องมีตลาดบางหลวง ร.ศ. ๑๒๒ จังหวัดนครปฐม รวมอยู่ด้วย เพราะที่นี่เป็นตลาดเก่าแก่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ ในช่วงวันหยุดจะมีร้านค้า ร้านอาหารเปิดให้บริการมากมาย มีของอร่อย ๆ ให้ได้ลิ้มลองเพียบ บรรยากาศคึกคัก ขับรถเพียงแป๊ปเดียวจากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว
ภาพจาก นายพิทยา หอมไกรลาศ
แต่สิ่งที่มีเสน่ห์มากกว่านั้นของที่นี่ก็คือ ความเป็นชุมชน ชาวบ้านที่เป็นชาวไทย-จีนดั้งเดิม ยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย และรักษาวัฒนธรรมของตัวเองไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอาคารบ้านเรือนโบราณ ที่เรียกว่า "บ้านเก่า เหล่าเต็งไม้" ซึ่งตั้งเรียงรายอยู่รอบ ๆ ชุมชน มีลักษณะเป็นห้องแถวไม้ ๒ ชั้น สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ โดยบ้านแต่ละหลังก็เปิดให้บริการแตกต่างกันไป มีทั้งร้านยาจีน ร้านทำทอง บ้านตีเหล็ก ร้านทำฟันปลอมโบราณ ทุกร้านติดป้ายสองภาษาทั้งไทยและจีน ใครที่หลงใหลการถ่ายภาพชิค ๆ แบบฮิปสเตอร์ การมาเที่ยวชมที่นี่ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง
ภาพจาก Sombat Muycheen / Shutterstock.com
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดบางหลวง ร.ศ. ๑๒๒ จังหวัดนครปฐม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายสมศักดิ์ อยู่มาก โทรศัพท์ ๐๘ ๑๙๑๐ ๙๖๘๓ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม โทรศัพท์ ๐ ๓๔๓๔ ๐๓๔๙
๑๒. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยพวน จังหวัดนครนายก
แต่ที่ห้ามพลาดเลยก็คือการชิมลิ้มลอง "ปลาดูสมุนไพร" ณ บ้านนักภูมิปัญญาครูหลอด ปลาร้าสดกึ่งปลาส้ม ใช้ปลาดุกเนื้อนุ่มที่หมักรสเปรี้ยวเค็มกำลังดี นำไปทอดจนกรอบและหอมกรุ่น โรยด้วยสมุนไพรทอดกรอบ ทั้งหอมแดง พริก กระชาย และใบมะกรูด จะกินกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อน ๆ ก็ได้ หรือจะนำไปทำข้าวผัดปลาดูสมุนไพร ก็อร่อยเด็ดโดนใจ กินเท่าไรก็ไม่พอแน่นอน แล้วก็อย่าลืมปิดท้ายด้วย "ข้าวกระยาคู" ขนมขึ้นชื่อของที่นี่ หอมกลิ่นใบเตยและน้ำนมข้าว ตัดหวานด้วยน้ำกะทิสด รสเค็มหน่อย ๆ เข้ากันสุด ๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยพวน จังหวัดนครนายก สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ว่าที่ร้อยตรีชาติชาย ยอดมิ่ง โทรศัพท์ ๐๙ ๒๗๕๗ ๙๓๗๗ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครนายก โทรศัพท์ ๐ ๓๗๓๑ ๕๐๕๐
๑๓. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดใหญ่ จังหวัดพังงา
ถือเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่เต็มไปด้วยร่องรอยความเจริญของเมืองเก่าในสมัยยุคทองของเหมืองแร่ดีบุก เห็นได้จากอาคารบ้านเรือน ร้านค้าของจีนแบบชิโนโปรตุกีส แม้ว่าปัจจุบันธุรกิจเหมืองแร่จะเลิกร้างไปนานแล้ว แต่ความเป็นตึกเก่าโบราณยังคงหลงเหลืออยู่มาก ทำให้เมืองเล็ก ๆ เสน่ห์เฉพาะตัวอันโดดเด่น
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำ เช่น เที่ยมชมบ้านขุนอินทร์ โบราณสถานที่มีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรม คืออาคารเป็นรูปทรงชิโนโปรตุกีสประยุกต์, ไปวัดเสนานุชรังสรรค์ (วัดใหม่กำแพง) ไหว้พระพระประธานศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ พระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวศิลปะพม่า และธรรมาสน์ สมัยรัชกาลที่ ๖, ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดพระธาตุคีรีเขต, สักการะ "องค์เจ้าพ่อกวนอู" ที่ศาลเจ้าพ่อกวนอู "ซิ่นใช่ตึ๋ง", เยี่ยมชมจวนเจ้าเมืองตะกั่วป่า เป็นโบราณสถาน อยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร
ปิดท้ายด้วยเดินเล่นถนนสายวัฒนธรรม...เมืองเก่าตะกั่วป่า จัดกิจกรรมทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคมของทุกปี เวลา ๑๕.๐๐-๒๐.๐๐ น. ท่ามกลางบรรยากาศของสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเมืองตะกั่วป่า บริเวณถนนศรีตะกั่วป่า ถนนที่เปี่ยมไปด้วยมนตร์เสน่ห์อย่างแท้จริง
ของดีของเด็ดชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดใหญ่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ที่นี่ยังมีอาหารถิ่น รสชาติดั้งเดิม หลากหลายเมนู อาทิ ขนมหม่อจี๋ ขนมเกี่ยมโก้ย ขนมเบื้องโบราณ ขนมโกสุ้ย และที่ไม่ควรพลาดคือ "ขนมเต้าส้อ" ของฝากอันเลื่องชื่อ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดใหญ่ จังหวัดพังงา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ ๐๙๖-๖๓๖-๑๒๗๔, ๐๙๕- ๙๓๒-๙๔๖๒, ๐๙๓-๕๘๓-๙๔๒๑ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพังงา โทรศัพท์ ๐๗๖-๔๘๑-๕๙๖
๑๔. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนาหมื่นศรี จังหวัดตรัง
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลต์ของชาวนาหมื่นศรี คือการประดิษฐ์ "ลูกลม" หรือ "กังหันลม" เพื่อไล่นกไล่กาไม่ให้มากินข้าวที่รอเก็บเกี่ยว เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน จนภายหลังได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานการเล่นลูกลม และมีการจัดกิจกรรม "เที่ยวตรัง แลลูกลม ชมถ้ำช้างหาย" ในระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ที่มีกระแสลมแรง เสียงลูกลมจะดังกึกก้องทั่วท้องทุ่งนา ณ บริเวณหน้าถ้ำเขาช้างหาย ถือเป็นจุดอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ดีงามมาก ๆ เลยค่ะ
ทางด้านอาหารการกินก็ไม่น้อยหน้า ที่นี่มีอาหารพื้นถิ่นอย่าง "ชาใบจิก" ให้จิบเพลิน ๆ คู่กับ "ขนมฝามี" ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวก็มีมากล้น ไม่ว่าจะเป็น "ถ้ำเขาช้างหาย" ที่ภายในถ้ำจะมีประติมากรรมธรรมชาติหินงอกหินย้อย อีกทั้งยังมีตำนานเล่าว่า ขบวนช้างของผู้แสวงบุญคณะหนึ่งเดินทางผ่านมาบริเวณที่ราบเชิงเขานี้ ลูกช้างในขบวนได้วิ่งหนี ควาญช้างจับหางลูกช้างได้ทันและใช้มีดฟันถูกหางจนขาดติดมือ ลูกช้างวิ่งหนีหายเข้าไปถ้ำ หาเท่าไรก็ไม่พบ และหางนั้นก็กลายเป็นทองคำ หรือจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี ชมเรื่องราวครูผ้าและภูมิปัญญา และไหว้พระที่วัดควนสวรรค์ วัดศูนย์กลางชุมชน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนาหมื่นศรี จังหวัดตรัง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวอารอบ เรืองสังข์ โทรศัพท์ ๐๘๑-๔๗๖-๔๓๑๘ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตรัง โทรศัพท์ ๐๗๕-๒๑๗-๕๘๕
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
๑๔ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ปี ๒๕๖๑ โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวชุมชนตำบลหาดสองแคว
เฟซบุ๊ก ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมวัดศรีฐานปิยาราม