1. เนินเขาดิน
ที่นี่เป็นสวนพฤกษชาติส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในช่วงแรกพระองค์โปรดเกล้าฯ
ให้สร้างสวนพฤกษชาติในพื้นที่ราบทางด้านทิศตะวันออก ติดคลองเปรมประชากร (ถนนพระรามที่ 5)
ด้วยการขุดสระน้ำใหญ่ ประกอบคูคลองระบายน้ำและถนน แล้วจึงนำดินมาถมเป็นเนินเขา เรียกว่า "เขาดิน"
พร้อมทั้งโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกลงพรรณไม้นานาชนิด จนมีลักษณะเป็นสวนพฤกษชาติส่วนพระองค์ เรียกว่า "วนา"
เมื่อรวมกับเนินเขาและสวนโดยรอบแล้ว จึงเรียกว่า "เขาดินวนา" นั่นเอง
ทั้งนี้เนินเขาดินจะตั้งอยู่บริเวณริมสระน้ำใกล้กับส่วนการแสดงกายกรรมเคนยา บรรยากาศร่มรื่น เขียวสดใสมาก ๆ เพราะรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่หลากหลายชนิด ทั้งต้นประดู่, ต้นหางนกยูงฝรั่ง, ต้นมะขาม เป็นต้น
ถ้ามองลงไปบริเวณริมสระน้ำจะเห็นว่ามีที่นั่งริมสระให้นั่งพักผ่อนกันแบบสบาย ๆ พร้อมทั้งมีป้ายเขาดินวนาไว้ให้ถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึกด้วย มาเที่ยวแล้ว อย่าลืมมาแชะภาพกันนะคะ
2. ต้นสักทอง
ที่เมื่อครั้งปี พ.ศ. 2443 เจ้าชายวัลเดอร์มาร์ พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าคริสเตียนที่ 8 แห่งเดนมาร์ก
ได้ทรงปลูกเมื่อได้เสด็จเยือนประเทศสยาม ปัจจุบันก็ยังคงมีศิลาสลักอักษรจารึกให้เห็นด้านหน้าต้นสักอยู่ค่ะ
และก็ถ้าอยากเดินมาดูต้นจริง ๆ หาไม่ยากเลย เพียงเดินขึ้นมาบริเวณเนินเขาดิน ให้สังเกตต้นไม้สูง ๆ
มีโซ่กั้นโดยรอบ ด้านหน้าจะมีป้ายแนะนำพร้อมทั้งให้ความรู้อยู่ ต้นนั้นเลย อ๊ะ ๆ แต่ขอความร่วมมือแค่ชมด้วยตา ไม่เดินเข้าไปด้านใน ไปขัดไปถูขอเลขอะไรนะคะ -_-
3. ศาลาเรือนไทยกลางน้ำ
ด้วยที่ตั้งอันโดดเด่นบนเกาะกลางสระน้ำกว้างใหญ่ของเขาดิน ทำให้ศาลาเรือนไทยกลางน้ำ
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สะดุดตาแก่ผู้มาเที่ยวเขาดินมากทีเดียวค่ะ โดยลักษณะของศาลากลางน้ำแห่งนี้เป็นเรือนไทยแบบภาคกลาง ยกพื้นใต้ถุนสูง มีทางขึ้นทางเดียว ด้านบนรายล้อมไปด้วยระเบียงไม้สีขาว รวมถึงมีพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์และพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งอยู่ด้วย
4. หลุมหลบภัยสาธารณะ
ที่สร้างขึ้นราว ๆ ปี พ.ศ. 2484 เพื่อให้ประชาชนในบริเวณใกล้เคียงได้เข้ามาหลบภัยในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
หลุมหลบภัยตั้งอยู่ใกล้กับส่วนจัดแสดงฮิปโปโปเตมัส ด้านหน้าจะมีซุ้มและหุ่นจำลองทหาร (ซึ่งเป็นจุดที่หลายคนชอบถ่ายรูปกับพี่ ๆ หุ่นทหารบ่อย ๆ ด้วยนะ) พอเดินผ่านซุ้มเข้าไปจะเห็นภูเขาจำลอง มีต้นไม้ปกคลุมเขียวขจีอยู่ด้านบน และรอบ ๆ ก็มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2
และสงครามมหาเอเชียบูรพาด้วย
หลุมหลบภัยสาธารณะที่นี่มีทางเข้า-ออกอยู่ 2 ฝั่ง เป็นทางเดินเล็ก ๆ ลงไป แต่พอเข้าไปข้างในแล้วก็กว้างพอสมควรนะคะ สามารถจุคนได้มากถึง 60 คน มีหุ่นจำลองอยู่ด้านล่างด้วย ใครไม่เคยเห็นของจริงก็ลองไปดูได้
5. อาคารเรือนกระจก
ถ้าใครเดินผ่านประตูทางเข้าฝั่งถนนพระรามที่ 5 แล้วเดินวนมาทางกองอำนวยการและประชาสัมพันธ์ของสวนสัตว์ดุสิต จะต้องสะดุดตาแน่ ๆ กับ "อาคารเรือนกระจก" อาคารไม้ชั้นเดียวติดดิน สไตล์กึ่งยุโรป
หลังคาปั้นหยา ประดับด้วยไม้ฉลุโดยรอบชายคา และยังโดดเด่นด้วยการติดกระจกรายรอบหลากสีอย่างสวยงาม
ถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของสวนสัตว์ดุสิตเลยทีเดียว
ปัจจุบันเราสามารถเข้าชมอาคารเรือนกระจกได้ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. และด้านในยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ "ภาพถ่าย" ที่หาดูได้ยาก ซึ่งเป็นภาพถ่ายของทั้งบุคคลสำคัญและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้น ณ เขาดินแห่งนี้นั่นเอง
6. น้ำพุสมัน
หลายคนอาจจะมองว่าตรงนี้ก็เป็นเพียงน้ำพุธรรมดาเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมีที่มาที่ไปอยู่นะ เพราะน้ำพุสมันแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่มีความหมายต่อสัตว์ป่าไทยไม่น้อยเลย
เริ่มมาจากการนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ขององค์การสวนสัตว์ จะเห็นว่ามีรูปของ "สมัน" หรือ "เนื้อสมัน"
อยู่ด้วย หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยโอนกิจการสวนสัตว์ดุสิตของเทศบาลนครกรุงเทพ ให้แก่องค์การสวนสัตว์
ในปี พ.ศ. 2497 นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล ซึ่งเป็นคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ในสมัยนั้น ได้ใช้รูปสมันเป็นตราสัญลักษณ์ เพราะสมันเป็นสัตว์ป่าอันโดดเด่นของเมืองไทย เป็นกวางที่มีรูปร่างและเขาที่สวยงาม มีเฉพาะบริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางของเมืองไทยแห่งเดียวในโลก แต่น่าเสียดายที่สมันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ณ ตอนนี้ การใช้รูปสมันมาเป็นตราสัญลักษณ์ก็เพื่อให้เป็นการเตือนใจให้ช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ป่าด้วยเช่นกัน
มีรูปปั้นจำลองสมันอยู่ตรงกลางโดดเด่น เก็บรายละเอียดของเขาได้สวยงามจริง ๆ และบริเวณนี้ก็ร่มรื่นด้วยต้นไม้
ทางซ้ายมีน้ำตกจำลอง ส่วนทางขวามีจุดชมวิวพระที่นั่งอนันตสมาคมอยู่ใกล้ ๆ เป็นอีกมุมพักผ่อนของเขาดินที่ดีทีเดียว
7. จุดชมวิวพระที่นั่งอนันตสมาคม
หลายคนอาจจะคุ้นตาพระที่นั่งอนันตสมาคม เวลาที่เดินทางผ่านบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า
ซึ่งจริง ๆ แล้ว มุมที่สวยมาก ๆ อีกแห่งนั้นอยู่ไม่ไกล คืออยู่ในเขาดินนี่เองค่ะ ซึ่งเราสามารถมองเห็นสระน้ำกว้าง สวยสบายตา มีฉากหลังเป็นพระที่นั่งอนันตสมาคมสีขาวโดดเด่น มีเรือปั่นจักรยานนาวาหลากสีสันเติมความสดใส ยิ่งถ้าได้มาชมวิวยามเย็นจะได้เห็นความสวยงามอีกรูปแบบ พระอาทิตย์สีทองจะฉาบทาไปทั่วท้องฟ้าและยอดโดมพระที่นั่งอนันตสมาคม ส่องสะท้อนไปยังพื้นน้ำเป็นแสงประกายระยิบระยับสวยจับตาเกินบรรยายจริง ๆ ค่ะ
ซึ่งจุดที่จะสามารถมองเห็นวิวได้สวยงามแบบนี้นั้น จะอยู่บริเวณจุดชมวิวพระที่นั่งอนันตสมาคม
ใกล้กับน้ำพุสมัน บริเวณประตู 1 ฝั่งถนนพระรามที่ 5 มองไปจะเห็นครัววังวนาอยู่ด้านซ้าย และเกาะกลางน้ำอยู่ด้านขวา นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้ใต้ร่มไม้ ให้นั่งปล่อยใจ ปล่อยความคิด ไปกับภาพเบื้องหน้าที่สวยตราตรึง หรือใครจะเช่าเรือจักรยานนาวาไปปั่นชมวิวรอบ ๆ สระน้ำก็ได้นะคะ 30 นาที 80 บาทเท่านั้นเองค่ะ
8. โรงช้างต้น
ของพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ช้างเผือกช้างแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยพระราชทานนามเต็มว่า "พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนามนาคบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส
บรมกมลาสนวิศุทธวงศ์ สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาต สยามราษฎรสวัสดิประสิทธิ์ รัตนกุญชรนิมิตบุญญาธิการ
ปรมินทรบพิตรสารศักดิเลิศฟ้า"
ซึ่งในปี พ.ศ. 2501 พลโท บัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในสมัยนั้น ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อน้อมเกล้าถวายพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ณ สวนสัตว์ดุสิตแห่งนี้ด้วย
สำหรับโรงช้างต้นตั้งอยู่ไม่ไกลจากประตู 2 ฝั่งถนนราชวิถี ทางด้านหลังของสวนสัตว์เด็กค่ะ เป็นอาคารโล่งกว้าง สามารถเดินเข้ามาชมได้เลย
จากการแนะนำสถานที่ทั้งหมดแล้ว เห็นไหมคะว่าเขาดินมีสถานที่ดี ๆ ที่น่าสนใจให้เที่ยวได้อย่างเพลิดเพลิน ที่สำคัญยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ควบคู่ไปกับความบันเทิงชั้นเยี่ยม เหมาะสำหรับทุกคน ทุกวัย สุขใจกันถ้วนหน้าแน่นอน ^^ อ่านจบแล้วอย่าลืมเซฟแผนที่สถานที่ทั้ง 8 เก็บไว้ มาเขาดินปุ๊บ เปิดดูได้ปั๊บ สะดวกสุด ๆ ไปเลย
เว็บไซต์สวนสัตว์ดุสิต และ asaconservationaward.com