เที่ยวโซล ประเทศเกาหลีใต้ ตระเวนกินของอร่อย ๆ ที่โซล ละลานตาอาหารเกาหลีหลากหลายประเภท ใครแวะมาเที่ยวโซลเห็นทีต้องมาเช็กอิน
++++++++++++++++
[CR]Eat in Seoul : รีวิวมัดรวมร้านอาหารอร่อยต้องลองที่ โซล
มาเที่ยวโซล หิวแล้วไม่รู้จะกินอะไรดี แวะชมรีวิวนี้เอาไว้เป็นไอเดียเวลาท้องหิว





เริ่มที่ร้านแรก ร้านนี้ชื่อ "พีวอนซนคลกุกซู" (Biwan son kalguksu)
ร้านนี้เป็นร้านโปรดของผมเลยมาเที่ยวโซลทุกครั้งเป็นต้องแวะมากินสักมื้อ ร้านนี้โดดเด่นที่เกี๊ยวมีทั้งแบบนึ่ง แบบลวก รวมถึงบะหมี่เส้นสดซุปกระดูกวัวโรยหน้าด้วยเนื้อสับ
++ บะหมี่ซุปเนื้อ เป็นสูตรโบราณเส้นจะทำสดแล้วหั่นเป็นเส้น ๆ ลวกในน้ำซุปเนื้อ ใส่เนื้อสับหอมกลิ่นเครื่องเทศและพริกไทย อย่างที่สองห้ามพลาดคือเกี๊ยวซ่าแบบลวกและแบบนึ่ง เกี๊ยวซ่าแบบลวกจะเป็นตัวเล็ก ๆ ไส้หมูสับอร่อยมาก ส่วนแบบนึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่า ร้านนี้จะเสิร์ฟกิมจิแบบไม่อั้น ทั้งแบบผักกาดและกุยช่ายยำ อร่อยมาก กิมจิเป็นสูตรเฉพาะของร้าน กินกิมจิมาหลายร้านผมยกให้ร้านนี้อร่อยที่สุด ที่แวะมาทุกครั้งส่วนหนึ่งเพราะกิมจิร้านนี้อร่อยมาก ++
พิกัด : ร้านนี้จะอยู่ตรงถนนด้านข้าง พระราชวังชังด็อกกุง ร้านเปิดประมาณ 11.30 น. ถึงกลางคืน
ราคา : ราคาปานกลาง
++++++++++






มาถึงเกาหลีเมนูนี้ห้ามพลาด "หมูย่างเกาหลี" ร้านนี้อยู่ในย่านฮงแด มหาวิทยาลัยฮงอิก ร้านมีทติ้ง Meat-ing ร้านนี้เป็นร้านบุฟเฟ่ต์มีทั้งหมูและเนื้อ ประมาณคนละ 400 บาท สำหรับมื้อเย็น เครื่องเคียงเยอะ น้ำเย็นฟรี ของกินเล่นอร่อยโดยเฉพาะเกี๊ยวซ่าและไส้กรอกย่าง เจ้าของร้านเป็นกันเอง พูดไทยได้นิดหน่อย
ร้านนี้บริการตัวเอง พนักงานแค่เปิดเตาให้เราอย่างเดียวเราต้องไปหยิบน้ำเปล่า โซจู หรือเครื่องดื่มเอง อาหารไม่มีพร่องเติมเต็มตลอด มีทั้งผักสด กิมจิ น้ำจิ้มหลากหลาย และของกินเล่นอย่างเกี๊ยวซ่า ขนมปังอบ ไส้กรอกย่าง กินได้สองชั่วโมง แนะนำพวกเนื้อหมักซอส เนื้อวัวสไลด์บาง ๆ ติดมัน เป็ดรมควันและหมูสามชั้นชิ้นโต
พิกัด : ร้านอยู่ฮงแด ร้านมีทติ้งจะอยู่เยื้อง ๆ กับร้าน Daiso
ราคา : 400 บาท สำหรับมื้อเย็นคุ้มสุด ๆ กินได้สองชั่วโมง
++++++++++





ร้านเกี๊ยวบุกชอน ซัน มันดู (북촌손만두) อินซาดง เป็นร้านขายเกี๊ยวเก่าแก่ร้านหนึ่งในอินซาดง มีเกี๊ยวหลากหลายไส้ให้เลือกชิม และมีบะหมี่เกี๊ยวรสเผ็ดจัดจ้านอร่อยมาก กินคู่กับเกี๊ยวอร่อยมาก ร้านนี้อยู่ปลายถนนคนเดินอินซาดงเดินเข้าไปในซอย 50 เมตร
++ แนะนำอย่ามาช่วงเวลากลางวันและช่วงหัวค่ำอาจต้องรอคิวนาน ++ เพราะร้านเล็กคนเต็มร้านเร็วมาก รสชาติของเกี๊ยวนั้นโดดเด่นที่ไส้มีหลายอย่าง แป้งเกี๊ยวจะบาง กินง่าย โดยเฉพาะเกี๊ยวแบบทอด แป้งกรอบอร่อยไม่อมน้ำมัน อีกเมนูแนะนำคือบะหมี่เกี๊ยวรสเผ็ด เส้นเหนี่ยวนุ่มน้ำซุปรสจัดจ้านใส่เกี๊ยวตัวโต ๆ แนะนำให้สั่งเกี๊ยวแบบชุดเพราะจะได้ลองชิมรสชาติของเกี๊ยวที่หลากหลายครับ
พิกัด : ถนนคนเดินอินซาดง
ราคา : ราคาปานกลาง
++++++++++





++ รสชาติหมูสามชั้นค่อนข้างเหนียวเนื้อไม่นุ่มเหมือนร้านอื่น หมูติดมันสไลด์มันเยอะไปหน่อย และคอหมูสไลด์รสชาติธรรมดาทั่วไป คอร์นชีสกลิ่นหอมรสหวาน ๆ มัน ๆ อร่อยดีกินเพลิน ๆ ไก่ทอดราสซอสหวานมากและเหนียวไม่กรอบ กินไปสองชิ้นเลิก ไก่คงจะทอดทิ้งไว้นานแล้ว ตีนไก่เผ็ดอร่อยใช้ได้หวาน ๆ เผ็ด ๆ ตัดเลี่ยนหมูย่างได้ดี ส่วนหมูทั้งสามอย่างผมกินไปชุดเดียวไม่ได้ไปตักเพิ่ม หมูร้านนี้สำหรับส่วนตัวผมว่าเนื้อหมูสามชั้นมันเหนียวไปหน่อยครับเลยไม่ถูกปาก ++
พิกัด : ฮงแด ให้เดินข้ามมาฝั่งที่มีร้านเสื้อผ้าและร้านคาราโอเกะเยอะ ๆ ครับ ซอยที่จะเข้าร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านคาราโอเกะ ที่เป็นห้องกระจกใสเป็นตึกมีหลาย ๆ ชั้นครับ เดินเข้าไปนิดเดียวก็เจอร้านครับ
ราคา : 300-400 บาท ตามชุดบุฟเฟ่ต์ที่สั่งครับ
++++++++++










หลังจากที่เรากินหมูย่างมาสองร้านแล้วเรามาเอาใจคนชอบกินเนื้อวัวกันบ้างครับ วันนั้นไปเที่ยวที่โอลิมปิกพาร์ค เดินถ่ายรูปแล้วเกิดอยากกินเนื้อวัวย่าง เพราะอากาศมันหนาวแม้จะเป็นช่วงเดือนเมษาที่เป็นฤดูใบไม้ผลิก็ตาม แต่ผมเกิดอยากลองเนื้อวัวฮันอู เพื่อนเกาหลีเลยพาไปครับ ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากโอลิมปิกพาร์ค พานั่งรถเมล์ไปไม่นานก็มาถึง ร้านหน้าร้านมีรูปวัวกำลังกินหญ้า
ร้านชื่อ 서부한우생고기(Western Hanwoo Raw Meat Specialist) บรรยากาศในร้านเป็นแบบเกาหลีแท้ ๆ ที่นั่งเป็นฟูกรองนั่งบนเสื่อได้อารมณ์แบบนั่งกินข้าวที่บ้านเลย แต่ที่แปลกใจไม่น้อยคือในร้านมีรูปนักร้องวง Ikon ติดอยู่หลายรูปตามผนัง แอบคิดเหมือนกันว่าลูกหรือหลานเจ้าของร้านคงชอบนักร้องวงนี้มาก เพื่อนเกาหลีแอบสะกิดว่าร้านนี้เป็นร้านครอบครัวของยุนฮยอง สมาชิกวง Ikon ผมถึงบางอ้อเลย
เรามาที่เนื้อวัวฮันอูย่างต่อดีกว่า นั่งสักพักน่าจะเป็นคุณยายของยุนฮยอง เอาเมนูมาให้เลือกครับแต่เมนูมีแต่ภาษาเกาหลีล้วน ๆ เลยให้เพื่อนเป็นคนสั่ง ได้เนื้อวัวฮันอูสีแดงสดน่ากินมาหนึ่งจานใหญ่และซุปกิมจิแกอีกหนึ่งหม้อ พร้อมข้าวสวยคนละ 1 ถ้วย
++ร้านนี้เขาจะเสิร์ฟเนื้อย่างก่อน พอกินเนื้อเสร็จจะเสิร์ฟซุปกิมจิแกพร้อมข้าวสวยครับ รสชาติเนื้อฮันอูนุ่มไม่เหนียวและไม่มีกลิ่นสาบของเนื้อ ตอนแรกแอบกลัวเหนียวเพราะหั่นมาหนาพอสมควร เนื้ออร่อยมากครับ พอ ๆ กับพวกวากิวของญี่ปุ่น แต่กิมจิและยำกุยช่ายไม่ค่อยอร่อยเท่าไร พวกหัวหอมดองและน้ำจิ้มเนื้ออร่อยใช้ได้ครับ ใครไม่กินเนื้อวัวทางร้านมีหมูให้สั่งด้วย ปิดท้ายด้วยซุปกิมจิแกร้อน ๆ อร่อยมากครับ เวลากินกับข้าวสวยในวันที่อากาศหนาวเย็นมันช่วยแก้หนาวได้ดี รสชาติซุปที่ร้านนี้ไม่เผ็ดมากครับ เผ็ดอ่อน ๆ น้ำซุปกลมกล่อมกำลังดีซดน้ำแกงได้เรื่อย ๆ ครับ ++
นอกเรื่องอาหารนิดหนึ่งครับ ระหว่างนั่งกินเนื้อย่างไปสักพัก ยุนฮยองแวะมากินข้าวกลางวันที่ร้านบังเอิญมาก ๆ วันที่ผมไปไม่มีแฟนคลับมาที่ร้าน มีแต่พวกคุณลุงคุณป้าคนเกาหลีมากินข้าวกลางวัน พอยุนฮยองกินข้าวเสร็จเลยให้เพื่อนผมไปขออนุญาตคุณแม่และยุนฮยองขอลายเซ็นต์น้องเขา เก็บไว้เป็นที่ระลึกแม้จะไม่ใช่แฟนคลับยุนฮยองส่วนตัว วง Ikon ผมชอบเพลงอยู่หลายเพลง แต่ถ้าเป็นสมาชิกในวงผมชอบ Bobby แต่โอกาสที่จะบังเอิญได้เจอไอดอลใกล้ชิดแบบนี้ยากมาก ๆ และยุนฮยองก็อัธยาศัยดีมาก
พิกัด : นั่งรถเมล์สาย 30-5 ขึ้นจากป้ายตรงข้ามโอลิมปิคพาร์ค แล้วมาลงที่ป้าย Baedari คอยฟังเสียงประกาศในรถให้ดี ผมไปกับเพื่อนเกาหลีเลยสบายครับไม่ต้องกลัวลงผิดป้าย ลงแล้วข้ามทางม้าลายถึงหน้าร้านพอดี
ราคา : ราคาขึ้นอยู่กับเมนูที่สั่ง เนื้อฮันอูจะราคาสูง ขายเป็นขีดครับ
++++++++++








ร้านแรกที่ผมแวะชิมเป็นร้านขายข้าวชุดเบนโตะหมูสามชั้นต้ม เดินเลยจากห้างมานิดเดียว ร้านติดริมถนนเป็นห้องแถวชั้นเดียวครับ หมูสามชั้นต้มจะมาเป็นชุดพร้อมข้าวสวยและซุป ใส่มาในกล่องเบนโตะ แต่ละชุดจะมีสามขนาดให้เลือก คือ เล็ก กลาง ใหญ่ ราคาแต่ละชุดแตกต่างกันไม่มาก ผมเลือกแบบหมูสามชั้นต้มธรรมดาและแบบชุดราดซอสเผ็ด แต่สั่งเป็นชุดเล็กครับ สองชุดอิ่มแบบพอดี
++ รสชาติของหมูสามชั้นต้ม นุ่มอร่อยไม่เหนียวและไม่เลี่ยน แล่มาชิ้นพอคำ แบบราดซอสเผ็ดก็ใช้ได้ซอสรสชาติหวาน ๆ เผ็ด ๆ อร่อยใช้ได้ครับ เครื่องเคียงรสชาติทั่ว ๆ ไปครับใช้ได้ ร้านนี้ราคาไม่แพง ++
พิกัด : เดินจากหน้าห้าง U Plex เดินตรงมาเรื่อย ๆ ประมาณ 200 เมตร จะเห็นป้ายเมนูอาหารหน้าร้าน ร้านตั้งริมถนนสังเกตง่าย
ราคา : ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของชุดอาหารที่สั่งเริ่มที่ 4,000 กว่าวอน หรือประมาณ 130 บาท
++++++++++






ร้านนี้ราคาเริ่มต้น 9,900 วอน หรือประมาณ 300 บาท มีทั้งหมูและเนื้อ ซึ่งค่าบุฟเฟ่ต์ก็จะต่างกันไป ถูกสุดจะมีแค่หมูสามชั้นและสันคอหมู ข้าวสวยเพิ่มถ้วยละ 1,000 วอน หรือ 30 บาท มีซุปเต้าหู้ใส่ในหลุมตรงกลางกระทะ เครื่องเคียงผักสดน้ำจิ้มตักเองที่บาร์อาหารครับ
++ รสชาติหมูสามชั้นร้านนี้ประทับใจครับ หมูสามชั้นนุ่มไม่เหนียวไม่มีกลิ่นสาบหมู สันคอหมูก็นุ่มไม่เหนียว กินเพลินเติมไปสองชุด น้ำจิ้มมีเกลือทะเลผสมพริกไทยป่นและน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวซัมจัง ผักเครื่องเคียงสดสะอาด ซุปเต้าหู้เอาไว้ซดแก้เลี่ยนได้ดี แต่รสชาติธรรมดาครับ หมดเติมให้ครับ ข้าวสวยจ่ายเพิ่ม 1,000 วอน ร้านนี้จัดว่าอร่อยคุ้มค่ามาก ผมไปกินช่วง 4 ทุ่ม คนไม่เยอะไม่ต้องรอคิว ร้านเปิดถึงเที่ยงคืนครับ ++
พิกัด : เดินจากห้าง U Plex มาไม่ไกลจะเจอทางเข้าซอย ปากซอยจะเป็นร้านขายเสื้อผ้าตามรูปแรกด้านบนเลี้ยวเข้ามาแล้วเดินตรงมาเรื่อย ๆ จะเจอสี่แยกมีร้านเกม ที่มีตุ๊กตาตัวใหญ่ ๆ แขวนหน้าร้าน ให้เดินเลี้ยวขวาเข้าซอยนั้น เดินมานิดหนึ่งจะเจอป้ายภาษาเกาหลีแขวนบนชั้นสองของตึก และมีเลข 9,900 วอน แสดงว่ามาถึงร้านแล้วครับ เดินขึ้นมาชั้น 2 ร้านอยู่บนชั้น 2
ราคา : ราคาขึ้นกับชุดบุฟเฟ่ต์ที่สั่งเริ่มที่ 9,900 วอน หรือประมาณ 300 บาท ถ้าเป็นเนื้อวัวจะราคาสูงขึ้น
++++++++++




ร้านกว้างขวางจัดที่นั่งได้ดี นั่งสบายไม่อึดอัด มีตู้กดน้ำดื่มร้อนและเย็นบริการฟรี เราสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์และจ่ายเงินจากนั้นไปนั่งรอที่โต๊ะ รอสัญญานเรียกไปรับอาหาร รอสักพักครับเพราะอาหารทำใหม่มาร้อน ๆ เลยครับ ไปกันสองคนสั่งสองชุด มีข้าวยำกับซุปกิมจิใส่หมูสามชั้น กับชุดข้าวยำกับซุปกิมจิทะเล
++ รสชาติอาหารดีครับ ซุปกิมจิอร่อยทั้งสองอย่าง ข้าวยำซอสที่ใช้ยำจะรสอ่อนไปหน่อยไม่เข้มข้น ผักต่าง ๆ ที่ใส่มาในข้าวยำสดกรอบอร่อย กินข้าวยำคู่กับซุปรสเผ็ด ๆ อร่อยคล่องคอดีครับ ร้านสะอาดนั่งสบาย ๆ กินเสร็จยกถาดอาหารไปคืนที่ช่องเก็บถาดอาหารด้วยนะครับ มาเที่ยวที่ฮานึล พาร์คลองแวะมาชิมครับ ถ้าจะกินในศูนย์อาหารก็มีอร่อยหลายร้าน มีร้านไก่ทอดผู้พันด้วยครับ ครั้งก่อนมาผมฝากท้องที่ศูนย์อาหารผมชอบโอเด้ง น้ำซุปอร่อยกินเพลินจัดไปหลายไม้ ++
พิกัด : ชั้น 2 ของห้างที่มีซูเปอร์มาร์เกตใน World Cup Stadium
ราคา : ราคาปานกลางขึ้นกับชุดอาหารที่สั่ง ปริมาณเยอะคุ้มราคา
++++++++++








ร้าน Myth สาขานี้คนรอคิวไม่เยอะเท่าสาขาฮงแด รอไม่นานครับ ถ้าจะกินร้านนี้ต้องมาสองคนขึ้นไปครับเพราะปริมาณของ ขาหมูทั้งขาค่อนข้างจะเยอะ ที่ร้านจะเสิร์ฟบะหมี่ในซุปกิมจิเอาไว้กินแก้เลี่ยน พร้อมกับสลัดผักรวมโรยอัลมอนด์จานนี้อร่อยดีครับ
++ รสชาติขาหมูพะโล้แบบเกาหลีจะไม่มีน้ำพะโล้ มีแต่ขาหมูจะหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ พอคำส่วนคากิจะหั่นเป็นชิ้น ๆ มาให้เรียบร้อย เวลากินนำไปจิ้มกับน้ำจิ้มซัมจังแล้วห่อด้วยผักกาดใส่เครื่องเคียงคล้าย ๆ กับการกินหมูย่าง รสชาติหมูจะหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ มีรสออกเค็มนิด ๆ เนื้อเปื่อยนุ่มไม่เหนียวอร่อยดี แต่เลี่ยนจากมันหมูพอสมควร
คำแรก ๆ กินเพลินคำหลัง ๆ จะเลี่ยนมันหมู ดีที่มีบะหมี่ในซุปกิมจิรสเผ็ดและสลัดผักมาช่วยแก้เลี่ยนได้ดีพอสมควร แต่ขาหมูอร่อยนะครับแต่กินเยอะจะเลี่ยนไปหน่อย จานต่อมาข้าวปั้นใส่ไข่กุ้งและสาหร่าย เราต้องคลุกข้าวแล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เองครับ รสชาติธรรมดามาก สรุปมื้อนี้กินไม่หมดครับขาหมูเหลือพอสมควรส่วนของคากิไม่ได้แตะเลยอิ่มแบบไขมันจุกอกมาก
*จริง ๆ ถ้ากินคนเดียวต้องไปกินตามร้านทั่วไปที่ขายอาหารชุด บางร้านจะมีขาหมูพะโล้แบบนี้ขายเป็นชุดพร้อมข้าวและซุปกิมจิ ผมเห็นแถวอินซาดงมีอยู่หลายร้าน ++
พิกัด : สาขามยองดง หรือ เมียงดง จะอยู่ในซอยเดียวกับร้าน YG Republique ร้าน YG จะอยู่ปากซอยเข้ามาในซอยนิดเดียวจะเจอร้าน Myth อยู่ตรงข้ามเยื้อง ๆ กับร้าน YG Republique
ราคา : 1,000 บาท++ (30,000 วอนขึ้นไป)
++++++++++

แบบเป็นอาหารชุด สำหรับร้านอาหารทั่วไปที่มีเมนู Jokbal



มาที่มื้อเช้ากันบ้างจะกินอะไรดี ปกติก็พวกขนมปังกับนม หรือนมถั่วเหลือง รวมถึงกาแฟและชา ตอนเช้าจะมีแผงขายขนมปังพวกโทสต์และแซนด์วิสกระจายอยู่ทั่วไปตามสถานที่ต่าง ๆ ผมพักแถวอินซาดงมีหลายร้าน ตอนเช้าที่พักก็มีขนมปังทาเนยทาแยมบริการแต่ไม่อร่อย เลยออกมาหารอะไรอร่อย ๆ กินเองดีกว่า ขนมปังแซนด์วิสแบบเกาหลี ขนมปังปิ้งร้อน ๆ ทาเนยทั้งสองด้านแล้วปิ้ง สอดไส้ด้วยแฮม ชีสแผ่น และไข่เจียวใส่ผักหลาย ๆ อย่าง ทำมาร้อน ๆ ชิ้นต่อชิ้น ไส้ชีสเยิ้ม ๆ ไข่เจียวนุ่ม ๆ ราดซอสมะเขือเทศ กินยามเช้าคู่กับนมถั่วเหลืองอุ่นสักขวดอร่อยมากมาย
พิกัด : ข้างทางขึ้นลงสถานีรถไฟใต้ดิน จองโนซัมกา
ราคา : ขนมปังแซนด์วิสแอมชีสใส่ไข่เจียวชิ้นละ 2,000 วอน นมถั่วเหลืองขวดละ 1,000 วอน รวมเป็นเงินไทย 70 บาท
++++++++++




ร้านต่อมาเป็นร้านขนมปังแบบพื้นบ้านเกาหลีครับ ร้านแบบนี้หากินได้ตามตลาดและแหล่งชุมชน จะขายขนมปังทอดหรืออบเสร็จใหม่ ๆ ร้อน ๆ ส่งกลิ่นหอมชวนหิวทุกครั้งที่เดินผ่าน จะมีทั้งขนมปังเกลียว ๆ เหมือนที่เห็นได้ทั่วไปที่บ้านเรา รสชาติขนมปังจะนุ่ม ๆ หอมกลิ่นเนยหวานด้วยน้ำตาลที่โรยหน้ามาอร่อยดีครับ ส่วนขนมปังแบบสอดไส้จะเป็นไส้แกงกะหรี่เนื้อ ขนมปังทอดมาใหม่ ๆ ไม่อมน้ำมันใส้เนื้อแน่นดีแกงกะหรี่เข้มขันเผ็ดนิด ๆ ครับ เป็นของกินง่าย ๆ ยามเช้าที่หาได้ทั่วไป
ราคา : ราคาไม่แพงชิ้นละ 1,000 วอน (30 บาท)
++++++++++


สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผมในทุก ๆ เช้าคือกาแฟ ที่เกาหลีหาร้านกาแฟอร่อย ๆ ได้ไม่ยาก มีร้านกาแฟทุกมุมถนน ตามซอยก็มี ราคาถ้าไม่ใช่ร้านแบรนด์จะราคาไม่แพง บางร้านซื้อไปกินนอกร้านลดให้แก้วละ 1,000 วอน ก็มี อเมริกาโน่เย็นหรือร้อนแบบดับเบิลชอตราคาแก้ว 2,000-3,000 วอน
++++++++++











ไก่ทอดเกาหลีมีหลายแบบ ทั้งแบบชุบแป้งคล้าย ๆ ไก่ทอดผู้พัน และแบบไม่ชุบแป้งคล้ายไก่ทอดหาดใหญ่บ้านเรา และยังมีแบบคลุกซอสเผ็ดและน้ำผึ้งอีกด้วย พวกเครื่องในกึ๋นไก่ หนังไก่ ตับไก่ทอด ก็ขายด้วยนะครับ ที่ถนนไก่ทอดถ้าอยากกินร้านดังของที่นี่ ให้เดินเข้ามาที่ถนน Fried Chicken Street Alley ที่อยู่ใกล้กับตลาดพัลดามุน ด้านหน้าตลาดจะอยู่ใกล้กับ ประตูเมืองพัลดามุน เดินเข้าไปในตลาดจนถึงสะพานข้ามคลองให้เลี้ยวซ้ายเดินเรียบคลองจะมีทางเดินเข้าไปทะลุกับถนนไก่ทอด
ที่นี่จะมีร้านดังอยู่สามร้าน ทั้งสามร้านนี้จะตั้งอยู่สี่แยกพอดีหันหน้าเข้าหากัน คือร้าน Jinmin Tongdak, Joong ang chicken town, Yongseong Tongdak สามร้านนี้เปิดมานานกว่า 40 ปีแล้วครับ คนเต็มตลอดช่วงเย็น หรือวันหยุดจะเห็นคนเกาหลีมาต่อแถวแบบในรูปด้านบนเลยครับ ผมไปวันธรรมดาตอนเย็นไปยืนตากฝนรออาศัยร้านในแถวสั้นไปกินร้านนั้น ระหว่างรอไปซื้อสายไหมหน้าหมีไรอันมากิน
ผมเลือกร้าน Joong ang chicken town ร้านนี้แถวขยับเร็วหน่อยรอไม่นาน เข้ามาในร้านก็สั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ก่อน เมนูภาษาเกาหลีล้วน ๆ อึ้งไปห้าวินาที ขีดไม่ถูกวันนี้เพื่อนไม่ได้มาด้วย แต่คุณป้าเจ้าของพูดอังกฤษได้เลยอธิบายให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง เลยสั่งไก่ทอดแบบทั้งตัวแบ่งครึ่งเป็นแบบทอดธรรมดากับอีกครึ่งเป็นแบบคลุกซอส
++ สั่งแล้วไปนั่งกินน้ำรอครับ น้ำเปล่าฟรีครับ เครื่องเคียงมีกะหล่ำปลีราดมายองเนส กับหัวไชเท้าดองรสชาติหวาน ๆ น้ำจิ้มมีสามแบบ เกลือผสมพริกไทย ซอสพริก และมัสตาร์ดน้ำผึ้ง รสชาติไก่ทอดเอาแบบธรรมดาก่อนบอกได้เลยอร่อยเทพครับ ไม่อมน้ำมันไม่ต้องจิ้มซอสอะไรก็อร่อยแล้วครับ กินไก่ทอดเกาหลีมาอร่อยทุกร้าน แบบคลุกซอสเผ็ดยิ่งคูณสองเลยกินกับน้ำไซเดอร์กับเบียร์ฟินสุด ๆ ครับ ส่วนกึ๋นไก่ทอดเป้นของแถมให้ทุกโต๊ะ กึ๋นทอดนี่เหมือนกินที่บ้านเลยครับหอมเครื่องเทศเค็มนิด ๆ แต่ผมไม่ชอบเครื่องแค่ชิมไปชิ้นสองชิ้น ร้านนี้ไม่มีข้าวสวยขายนะครับกินไก่กับเครื่องเคียงล้วน ๆ กินไม่หมดของกล่องห่อกลับไปกินที่โรงแรมได้ ++
พิกัด : เมืองซูวอน (Suwon) ถนนไก่ทอด Fried Chicken Street Alley อยู่ใกล้กับตลาดพัลดามุน
ราคา : 16,000 วอน ประมาณ 380 บาท สำหรับไก่ทอด 1 ตัว
++++++++++
วกกลับมากินไก่ทอดที่โซลกันบ้างแต่เป็นอีกสูตรหนึ่งครับ แบบไม่ชุบแป้งทอด



ร้านไก่ทอดร้านนี้อยู่ที่อินซาดง ตรงถนนที่มีแต่ร้านเหล้ากับร้านอาหาร ที่นี่มีร้านไก่ทอดอยู่หลายร้านใกล้ ๆ กัน แต่คนละสูตรกันผมเลือกร้านนี้ตรงที่ดูแนวบ้าน ๆ ดี ไก่ทอดร้านนี้ไม่ชุบแป้งครับ ไก่จะตัวไม่ใหญ่ขนาดประมาณไก่ย่างห้าดาว สั่งครึ่งตัว 4,000 วอน ทั้งตัว 7,000 วอน ไปกินกันสองคนสั่งไป 1 ตัว สับแบ่งมาให้สองจาน กินคู่กับหัวไชเท้าดอง และโซจูในคืนวันฝนพรำสุดยอดครับกินเพลิน ๆ
++ รสชาติหนังกรอบเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำทอดมาร้อน ๆ หอมเครื่องเทศ ไก่มีรสเค็มนิด ๆ จะจิ้มเกลือผสมพริกไทยก็อร่อยครับ แต่ไม่จิ้มอร่อยกว่า ไชเท้าดองหวาน ๆ เค็ม ๆ กินแก้เลี่ยนดี ร้านนี้คนต่อคิวซื้อกลับบ้านเยอะครับ อร่อย...เขียนรีวิวแล้วอยากกลับไปกินอีก ++
พิกัด : ถนนอินซาดง
ราคา : 4,000 วอน (120 บาท) ต่อครึ่งตัว 7,000 วอน (210 บาท) 1 ตัว ถือว่าไม่แพง
++++++++++


++ รสชาติของไก่ทอดแป้งที่ชุบมาไม่หนา ทอดร้อน ๆ กรอบนอกนุ่มใน เครื่องเทศยังไม่ค่อยหอมเท่าไร ความอร่อยกลาง ๆ ใช้ได้ครับ เน้นหากินง่ายมีหลายสาขาราคาไม่แพงครับ ปริมาณเยอะครับ 1 ตะกร้า มีไก่ 10 กว่าชิ้นใหญ่ ๆ คุ้มครับ กินได้สองคนอิ่มสบาย ๆ กินกับเบียร์เข้ากันสุด ๆ++
พิกัด : ฮงแด ใกล้กับร้านเสื้อผ้า Playground อยู่ถนนเดียวกับร้านหมูย่าง Meating
ราคา : ราคากลาง ๆ
++++++++++









เปลี่ยนบรรยากาศมาเดินหาของกินในตลาดกันบ้างครับ ที่แรกที่อยากจะแนะนำ "ตลาดควางจัง" ที่นี่เป็นที่นิยมทั้งคนเกาหลีเองและนักท่องเที่ยว รายการทีวีชอบมาถ่ายรายการกันที่นี่ Running man ก็เคยมานะครับ รวมทั้ง Gordon Ramsay เชฟกระทะเหล็กก็เคยมาลองชิมอาหารในตลาดแห่งนี้
ตลาดควางจังนอกจากจะเป็นแหล่งอาหารและยังเป็นตลาดขายเสื้อผ้าทั้งวัยรุ่นและวัยเก๋าด้วย มีโซนตลาดวินเทจอีกด้วย ถ้ามาช่วงอากาศหนาว ๆ ม้านั่งยาว ๆ ที่เรานั่งจะมีฮีทเตอร์ติดใต้ม้านั่ง หนาว ๆ นั่งแล้วอุ่นบั้นท้ายสบาย ๆ จนไม่อยากลุกเลยครับ ชอบมากครับ
++ ว่าที่เรื่องอาหารที่สั่งมี 3 อย่าง คือต็อกโบกี, จับแช (วุ้นเส้นผัดกับผักใส่น้ำมันงา) และพาจอนกุยช่าย (แป้งทอดใส่ใบกุยช่ายซอย ๆ) รสชาติโอเคครับแบบบ้าน ๆ ร้านนี้มี "ขาหมูพะโล้ (Jokbal)" ขายด้วย ใครอยากลองจัดได้เลยครับ ราคาอาหารไม่แพงมากครับตลาดควางจัง แห่งนี้คนเกาหลีก็นิยมมากินอาหารตามแผงกันนะครับ ส่วนโจ๊กเกาหลี หรือที่นี่จะเรียกว่า "จุก" (Juk 죽) มีทั้งแบบถั่วแดงและฟักทอง ชามหนึ่งมีปริมาณค่อนข้างเยอะทีเดียว กินไม่หมดครับ โจ๊กถั่วแดงจะจืด ๆ มีรสเค็มนิด ๆ คุณป้าเจ้าของร้านแนะให้เติมน้ำตาลหน่อยอร่อย คุณป้าแกว่าแบบนั้น ส่วนโจ๊กฟักทองอร่อยครับ รสหวานฟักทองโดดเด่น มีเค็มตามนิด กลมกล่อมดีไม่ต้องปรุงเพิ่ม มาเที่ยวเกาหลีแนะนำว่าต้องมาโดนอาหารที่ตลาดควางจังสักมื้อ ++
พิกัด: นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Jongno 5 (o) ga ออกทางออก 7 จะพบกับทางเข้าตลาดครับ ตลาดนี้มีทางเข้าได้หลายทางครับ
ราคา: ราคาไม่แพง
++++++++++
















มาต่อกันที่ตลาดทงอิน (Tongin Market) ที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งคนเกาหลีโดยเฉพาะวัยรุ่นและนักท่องเที่ยว กับเมนูอาหารกลางวัน Lunch Box ภาษาเกาหลีเรียกว่า โดซิรัค (Dosirak) ในราคาชุด 5,000 วอนหรือ 150 บาท เลือกอาหารและเครื่องดื่มได้ตามใจชอบจากร้านที่มีป้ายเข้าร่วมโครงการกับทางตลาด วิธีการให้ขึ้นไปแลกเหรียญโบราณที่ศูนย์บริการ ซึ่งจะตั้งอยู่กลาง ๆ ตลาดให้ดูรูปด้านบนที่มีป้ายรูปฝรั่งครับ ขึ้นบันไดไปชั้น 2 จะมีคุณลุงคุณป้าคอยแนะนำครับ แลกเหรียญแล้วเราจะได้ถาดอาหารไปซื้ออาหารตามร้านที่เราชอบ จะได้ประมาณ 4-5 อย่าง รวมเครื่องดื่ม อาหารมีหลากหลาย ซื้ออาหารเสร็จแล้วกลับมานั่งกินที่ศูนย์บริการที่เราแลกเหรียญครับ
++ รสชาติอาหารที่นี่อาจไม่คุ้นหรือถูกปากกับนักท่องเที่ยวเท่าไรครับ รสชาติจะออกแนวบ้าน ๆ ครับ แต่อร่อยหลายอย่าง ผมชอบหมูผัดซอสโคชูจังใส่กิมจิ อร่อยมาก เครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมตลาดนี้คือน้ำผลไม้สายรุ้ง หวาน ๆ ชื่นใจ อากาศเย็น ๆ ช่วงเดือนเมษายนดูดแล้วจี๊ดขึ้นหัวเลยครับ ++
พิกัด: นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีคยองบกกุง ออกทางออก 2 แล้วเดินตรงมาเรื่อย ๆ 500 เมตร จะเจอทางเข้าตลาดทงอิน (Tongin Market)
ราคา: 5,000 วอน หรือ 150 บาท
++++++++++







เมนูต่อไปเป็นเมนูปลาหมึกผัดซอสเผ็ด ผมเลือกมากินที่ร้าน ฮงสึจูกูมี (홍스쭈꾸미-Hong\'s Jjukkumi) สาขาฮงแด ร้านนี้มีหลายสาขาครับ มาถึงต้องลงชื่อจองคิวที่สมุดจองหน้าร้านก่อนนะครับ แล้วยืนรอคิวไม่เกิน 30 นาทีก็ได้กินแล้ว แต่ขึ้นกับช่วงเวลาด้วยนะครับ ถ้าคนเยอะจะรอนาน ที่ตลกคือป้ายหน้าร้านครับเขียนว่าข้าวฟรีถ้าคุณชอบ
++ ผมสั่งเมนูขึ้นชื่อของร้านเลยครับ ปลาหมึกผัดซอสกับหมูสามชั้นแล่บาง ๆ หั่นชิ้นใหญ่ จูซัมกยอบ (쭈삼겹) รออาหารไม่นานครับ น้ำดื่มฟรี 1 ขวด เครื่องเคียงมีใบงา กิมจิ และถั่วงอก พออาหารมาพนักงานจะมาคอยผัดให้เรื่อย ๆ จนสุกครับ จากนั้นเราก็กินได้ครับ พอกินหมึกกับหมูผัดเสร็จพนักงานจะนำข้าวมาผัดใส่ไข่ปลาให้ครับ ผัดได้ที่ก็บรรเลงกินข้าวต่อครับ
รสชาติหมึกผัดกับหมูสามชั้นตัวซอสอร่อยดีครับ หมูสามชั้นนุ่มดีมันไม่เยอะหมึกตัวเล็กไปหน่อย ผัดสุกแล้วเหลือชิ้นเล็ก ๆ ไม่สะใจเท่าไร แต่ผมรู้สึกว่าปริมาณสำหรับสองคนมันดูน้อยกว่าที่เคยเห็นในรีวิว ทั้งหมูสามชั้นและปลาหมึก ข้าวผัดไข่ปลารสชาติธรรมดา กินแก้เผ็ดดีครับ ++
พิกัด : ออกจากสถานีฮงอิก ทางออก 8 แล้วเดินตรงตลอดจนเจอแยกที่มีวงเวียนจะเห็นร้าน CU อยู่ขวามือให้เดินข้ามวงเวียนไปฝั่งตรงข้ามแล้วเดินลงไปทางซ้ายมือ ผ่านร้านหมูย่างใหญ่ ๆ ไปนิดหนึ่งจะเจอร้านมีกรอบประตูสีแดง มีคนยืนรอคิวหน้าร้าน แสดงว่าถึงแล้วครับ
ราคา : เริ่มต้นที่ 10,000 กว่าวอนหรือ 300 กว่าบาท กินสองคนต้องสั่งสำหรับสองคนครับ
+++++++++++




เมนูต่อมาเป็นไกผัดซอสเผ็ดใส่ปลาหมึก ผมมากินที่ร้าน YOOGANE ร้านนี้มีหลายสาขาครับ หากินได้ไม่ยาก ไก่ผัดซอสเผ็ด "ทัคคาลบี" ร้านนี้ก็มีสาขาที่ฮงแดเหมือนกัน แถวเมียงดงหรือมยองดง มี 2 สาขา ผมเลือกสาขาที่ใกล้ ๆ กับร้าน Zara เพราะเดินมานิดเดียว บรรยากาศในร้านเต็มทุกโต๊ะ รอคิวไม่นานได้ที่นั่งชั้นใต้ดิน
++ ผมสั่งชุดไก่กับปลาหมึก ปลาหมึกมีมา 2 สองตัวสด ๆ แต่ตัวจิ๋วมากปริมาณไม่เหมือนกินสองคนเลยครับ สาขานี้ผมว่าร้านไม่ค่อยสะอาดเท่าไร โต๊ะจานชามตะเกียบจะมัน ๆ เคาน์เตอร์ตักพวกกิมจิที่ต้องไปตักเองก็ค่อนข้างเลอะเทอะ พวกฝาครอบกระทะเวลาผัดเลอะเทอะมากเหมือนไม่ได้ล้างมาทั้งวัน เวลาผัดพนักงานมาผัดให้แบบลวก ๆ กระเด็นกระดอนออกนอกกระทะมาตกลงบนโต๊ะ เห็นแล้วเซ็งมาก สั่งข้าวสวยใส่สาหร่ายมาผัดกับไก่ที่เหลือก็ทำลวก ๆ เหมือนตอนแรกกระเด็นกระดอนเลอะเทอะมาก สาขานี้ผมไม่ประทับใจเลยครับ ++
พิกัด : อยู่ในซอยใกล้ๆกับร้านเสื้อผ้า Zara ครับ ซอยนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารครับหาไม่ยาก เห็นคนต่อคิวรอเยอะๆแสดงว่าเจอร้านแล้วครับ
ราคา : ราคาขึ้นอยู่กับเมนูที่สั่งครับมาสองคนต้องสั่งสำหรับสองคนครับ
++++++++++








กลับมาที่ย่านฮงแด ผมจะพามากินหมูย่างที่ร้าน 401 Loco Quan ครับเป็นร้านของดารา นักร้อง และพิธีกร อารมณ์ดี HaHa กับคิมจงกุก และผองเพื่อนเขาครับ ใครที่เป็นติ่งวาไรตี้ต้องรู้จัก โอปป้าทั้งสองคนนี้แน่นอนครับ โดยเฉพาะรายการรันนิ่งแมนครับ พวกเนื้อหมู เนื้อวัวจะขายเป็นกรัม จานหนึ่งประมาณ 100 กรัม ถ้ามาสองคนต้องสั่ง 200 กรัมครับ
++ ผมสั่งเนื้อส่วนหัวไหล่และส่วนท้องไปและซุปกิมจิมาซดร้อน ๆ แก้หนาวและตัดเลี่ยนครับ อาหารรอไม่นานพนักงานบริการดีครับ รวดเร็วบริการปิ้งหมูและตัดเป็นชิ้ นๆ ให้เราพร้อมกินเรียบร้อยครับ พนักงานหนุ่มนี่หล่อระดับดาราเลยครับ รสชาติและคุณภาพของหมูจัดว่าดีเลยครับ เห็นชิ้นหนา ๆ แบบนี้ไม่เหนียวครับ นุ่มดีกำลังกินอร่อย มัน ๆ ดี กิมจิใช้ได้ส่วนซุปกิมจิร้อน ๆ อร่อยใช้ได้ไม่เผ็ดมากครับ ซดร้อน ๆ แก้เลี่ยนได้ดี ++
พิกัด: ฮงแดให้เดินมาเรื่อยข้ามฝั่งถนนที่มีร้านเสื้อผ้าเยอะ ๆ เดินมาเรื่อยๆจนเลยพวกร้านคาราโอเกะจะพบแยกให้ข้ามถนนเดินเลี้ยวไปทางขวามือ เดินมานิดหนึ่งจะเจอร้านครับ มีรูป HaHa อยู่หน้าร้านครับ
ราคา: ราคา 10,000 วอนขึ้นไป ราคาขึ้นอยู่กับเนื้อหมูและเนื้อวัวตามน้ำหนักที่เราสั่งครับ
++++++++++

















เรามาเปลี่ยนรสชาติเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบเกาหลีกันครับ จะพาไปชิมแบบบุฟเฟ่ต์ ร้านนี้อยู่ที่เมียงดงหรือมยองดง ร้านนี้หาไม่ยากครับ ผมเริ่มต้นเดินมาจากโบสถ์มยองดง เดินผ่านโบสถ์ลงมาทางถนนที่จะไปแหล่งช้อปปิ้ง เดินลงเนินจากโบสถ์มาไม่ไกลให้มองทางฝั่งขวามือจะพบโรงแรม Royale Hotel Seoul เดินมานิดหนึ่งจะพบกับตึกที่มีร้าน JM solution ให้เดินเลี้ยวเข้าไปซอยข้าง ๆ จะพบทางเข้าตึกขึ้นลิฟต์ไปชั้น 4 ร้านชื่อ คูอู คูอู ซูชิโรลล์แอนด์สลัดบาร์ (쿠우쿠우- Qoo Qoo Sushi Roll & Salad Bar) สาขามยองดง
++ ร้านนี้กินกันไม่หวาดไม่ไหว ไลน์อาหารเยอะมาก ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี และอาหารฝรั่ง จุดเด่นของร้านคือไลน์ซูชิและซาชิมิมีหลากหลายมากครับ เลือกกินได้สะใจมากแต่รสชาติผมว่าแตกต่างจากญี่ปุ่นพอสมควร มีซูชิหน้าปลาให้เลือกกินหลากหลายชนิด พวกหน้าหอยต่าง ๆ ก็มีเยอะ มีหน้าเนื้อดิบและหมูดิบด้วยครับ ปลาและหอยสดใช้ได้ ซาชิมิก็สดอร่อยดี พวกของกินเล่นพิซซ่าสชาติพอใช้ครับ ของทอดมีกุ้งชุบแป้งทอด ขาปูชุบแป้งทอด รสชาติพอใช้กินเยอะเลี่ยนเหมือนกัน สลัดผักสดอร่อยดี มีพาสต้าให้กินด้วยแต่น้ำซอสรสชาติธรรมดามาก
เครื่องดื่มมีให้เลือกเยอะครับ กาแฟ ชา น้ำผลไม้พร้อม มีน้ำปั่นเกล็ดหิมะด้วย แถมมีซอฟต์ครีมและบิงซูให้เราปรุงแต่งเองได้ตามใจชอบ มาร้านนี้กินได้ 2 ชั่วโมงครับ คุ้มเหนือคำบรรยายผมกินวนไปหลายรอบเลยครับ ขนมหวานมีทั้งเค้กและวัฟเฟิล ผลไม้ตามฤดู ช่วงเมษายนที่ไปมีสตรอวร์เบอร์รีด้วยครับ สรุปคุ้มครับ อาหารมีทั้งที่อร่อยและไม่อร่อยปน ๆ กัน ต้องลองมาชิมครับ ++
พิกัด : เดินมาจาก โบสถ์มยองดง ให้เดินผ่านโบสถ์ลงมาทางถนนที่จะไปแหล่งช้อปปิ้ง เดินลงเนินจากโบสถ์มาไม่ไกลให้มองทางฝั่งขวามือ จะพบโรงแรม Royale Hotel Seoul เดินมานิดหนึ่งจะพบกับตึกที่มีร้าน JM solution ให้เดินเลี้ยวเข้าไปซอยข้าง ๆ จะพบทางเข้าตึกขึ้นลิฟต์ไปชั้น 4 ร้านชื่อ คูอู คูอู
ราคา : ประมาณคนละ 500 กว่าบาทต่อคน ราคาขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของแต่ละมื้อครับ วันหยุดราคาจะแพงขึ้นมาอีกนิดหน่อย ดูจากป้ายราคาในรูปด้านบนเลยครับ
++++++++++












เมนูต่อมาเป็นอาหารชุดสูตรโบราณที่สืบทอดจากซังกุงคนสุดท้ายของโชซอน ร้านจีวาจา (Jihwaja) อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังคยองบก เดินไปไกลพอสมควร ตอนแรกดูจากแผนที่ว่าไม่ไกลเดินไปครึ่งชั่วโมงได้ครับ ร้านนี้พิเศษตรงที่คุณป้าเจ้าของร้านสืบทอดสูตรอาหารมาจาก "คุณยายฮัน ซังกุง" ซึ่งเป็น "ซังกุง" คนสุดท้ายในราชวงศ์ "โชซอน" อาหารที่นี่จะเสิร์ฟเป็นชุดครับ ราคาขึ้นอยู่อยู่กับชุดที่เราเลือกครับ รายละเอียดของร้านและประวัติของร้านอ่านได้ที่ลิงก์นี้ครับ www.jihwajafood.co.kr
สำหรับมื้อกลางวันกับมื้อเย็นจะเสิร์ฟอาหารคนละแบบกันนะครับ มื้อเย็นจะแพงกว่าเล็กน้อย มื้อกลางวันมีอาหารชุดบริการด้วยมีเพียงไม่กี่ชุด แต่ผมว่ามาถึงแล้วควรจะจัดเป็นเซตเลยถึงจะเข้าถึงรสชาติตำรับโบราณ แต่จะมีชุดใหญ่สุดด้วยจะเป็นแบบ Full course ครับ เซตอาหารจะเสิร์ฟตั้งแต่พวกของกินเล่นเรียกน้ำย่อย จานหลักและปิดท้ายด้วยขนมหวาน ใช้เวลาเสิร์ฟประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ได้ครับ
อาหารเกาหลีคุณตาผู้ดูแลร้านแนะนำว่าควรกินช้า ๆ เพื่อให้เข้าถึงรสชาติของอาหารที่แท้จริงครับ คุณตาใจดีครับเล่าเรื่องมรดกทางอาหารให้ฟังมากมาย และทำให้ผมเข้าใจและรู้ถึงความพิถีพิถันของอาหารเกาหลีแบบโบราณว่าพิเศษอย่างไร
++ ชุดแรกเรียกน้ำย่อยด้วย ซุปฟักทองกินคู่กับกิมจิขาวครับ ซุปฟักทองที่ได้จากการนึ่งฟักทองจนสุกแล้วคว้านเอาแต่เนื้อมาเคี่ยวเป็นซุปข้น รสชาติได้ความหวานนิด ๆ จากเนื้อฟักทอง ส่วนกิมจิขาวรสจะไม่เผ็ดครับ เป็นแตงกวาและผักกาดขาว มีพริกซอยเล็กน้อยรสชาติจะหวาน ๆ เค็ม ๆ ตัวผักจะกรอบ ๆ อร่อยดีครับ จานต่อมาเป็นปอเปี๊ยะเกาหลี (คูจอลพัน) มาพร้อมกับอกไก่บดม้วนสอดไส้นึ่งจนสุก กินกับมัสตาร์ดเกาหลี อร่อยดีครับ สลัดผักรวม น้ำสลัดจะเป็นซีอิ๊วผสมกับงาและน้ำส้มสายชู จะเหมือนกับน้ำสลัดงาญี่ปุ่นรสชาติเดียวกัน เพิ่มความเปรี้ยวหวาน ๆ ด้วยทับทิม จานนี้ให้ความรู้สึกสดชื่นดี
ถัดมาเป็นพวกจอน รวมของทอด มีกุ้ง ผักทอด และกิมจิทอด เมนูทอดจะไม่กรอบ ขนาดเทมปุระจะออกแนวนิ่ม ๆ มากกว่า รสชาติกลาง ๆ ครับ อีกจานเป็นจับแชหรือผัดวุ้นเส้นเเบบเกาหลี อร่อยครับไม่เหมือนที่เคยกินตามร้านอาหารและตามตลาด ไม่เลี่ยนหอมน้ำมันงาเส้นนุ่มไม่หวานรสดีมาก
จานหลักชุดแรกจะเป็นหมูดำสับแล้วปั้นเป็นก้อนสอดไส้ด้วยมิโสะ และนำไปย่างแล้วทาด้วยซอสหวาน เสิร์ฟบนกระทะกระเบื้องร้อน ๆ มีต้นกระเทียมและหอมใหญ่ย่างเป็นผักเคียง มาคู่กับสลัดผักรวมราดน้ำสลัดน้ำมันงา หมูอร่อยมากหอมกลิ่นถ่านอ่อน ๆ นุ่ม ด้านในฉ่ำน้ำมากอร่อย จานหลักชุดที่ 2 เป็นปลาดาบเงินย่างมาร้อน ๆ กินคู่กับข้าวสวย ซุปเต้าหู้ใส่กิมจิและหมูสามชั้น และเครื่องเคียงต่าง ๆ ที่มีกิมจิบบต่าง ๆ และปลากรอบ รสชาติอร่อยครับ ปลาสดไม่คาว เครื่องเคียงอร่อยดี กิมจิอร่อยกว่าทุกร้านที่เคยกิน ซุปอร่อยไม่เผ็ด คุณตาบอกจริงอาหารเกาหลีไม่เผ็ดมาก กำลังพอดี ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยขนมหวานตำรับโบราณ ส้มสดจากเกาะเจจู และน้ำพั้นซ์ข้าว ซึ่งน้ำพั้นซ์นั้นจะต้องหมักข้าวเป็นเวลาถึงสามวันจึงจะได้ถ้วยนี้ออกมา หวาน ๆ เย็น ๆ ชื่นใจครับ ++
พิกัด : จากสถานีรถไฟใต้ดินคยองบกกุง เดินตรงมาเรื่อย ๆ ประมาณ 2 กิโลเมตร แนะนำให้นั่งรถ Taxi หรือนั่งรถเมล์ เพราะเดินค่อนข้างไกล
ราคา : ราคาค่อนข้างสูง เพราะพิถีพิถันในการปรุงและวัตถุดิบอย่างดี ราคาขึ้นกับเซตที่เลือกสั่งด้วยครับ
++++++++++








รีวิวชุดนี้จะเป็นอาหารประเภทจานด่วนหรืออาหารประเภทตามสั่งแบบเกาหลีครับ สามารถหากินได้ทั่วไปร้านแบบนี้สามารถเข้าไปกินคนเดียวได้ครับไม่ต้องสั่งเป็นชุด เพราะร้านอาหารเฉพาะทางบางร้านจะไม่ขายให้ถ้าเรามากินคนเดียว แต่ร้านจานด่วนกินคนเดียวได้สบาย ๆ
ร้านแรกเป็นร้านแบบจานเดี่ยวขายข้าวผัดและข้าวราดแกงกะหรี่แบบเกาหลี รวมถึงเมนูมาม่าเกาหลีใส่ซุปเผ็ดต่าง ๆ ร้านแบบนี้ข้อดีคือราคาไม่แพง ปริมาณเยอะ อาจจะสั่งยากหน่อยคือบางร้านไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ ผมใช้วิธีชี้รูปอาหารเอาครับ และพยายามจำชื่อภาษาเกาหลีเอาไว้บ้างเวลากินข้าวง่ายขึ้นเยอะ
++ ข้าวผัดใส่แฮมผัดด้วยซอสโคชูจังโรยงาและไข่ดาว รสชาติจะหวานเค็มเผ็ดอร่อยใช้ได้ ส่วนมาม่าซุปกิมจิทะเล ซุปเผ็ดเปรี้ยวจากกิมจิ ซดร้อนคู่กับข้าวผัดอร่อยดี คิมบับอร่อยดีครับ หอมน้ำมันงาข้าวนุ่มอร่อย น้ำดื่มกิมจิฟรีเติมได้เรื่อย ๆ ++
ราคา : เริ่มที่ 4,000 วอนขึ้นไป
++++++++++



++ จานแรกเป็นจัมปงผัดซอสเผ็ดคล้าย ๆ โซบะ ใส่อาหารทะเลและหมู รสชาติเผ็ดกลาง ๆ ชามต่อมาเป็นบะหมี่จัมปงทะเล น้ำซุปรสชาติเผ็ดร้อนเป็นเมนูจานด่วนที่อิ่มและราคาไม่แพง ++
ราคา : ราคาไม่แพงเริ่มตั้งแต่ 4,000 วอน แต่เน้นที่ปริมาณเยอะอิ่มอยู่ท้องแน่นอน
++++++++++







ร้านต่อมาเป็นร้านที่มีสาขาอยู่ทั่วไปบางสาขาเปิด 24 ชั่วโมง ร้านนี้มีทั้งข้าวและบะหมี่แบบเผ็ดให้เราเลือกสั่ง ราคาไม่แพง เสิร์ฟพร้อมกิมจิและซูปสาหร่าย
++ มาสองคนสั่งไปสองอย่าง ข้าวหน้าหมูย่างซอสรสเผ็ดและบะหมี่หมูย่างซอสเผ็ด ไข่ต้มสมุนไพรสั่งเพิ่มขายเป็นฟองครับ ข้าวเราต้องคลุกรวมเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้เข้ากันแล้วค่อยกิน รสชาติเผ็ด คนไม่กินเผ็ดอาจต้องเลือกเมนูอื่น ตัดรสเผ็ดด้วยไข่เจียวและผักสด รวมถึงซุปสาหร่ายช่วยคลายเผ็ดได้ดีพอสมควร เผ็ด ๆ อร่อยดีครับ มาต่อกันที่บะหมี่หมูย่างซอสเผ็ด รสชาติซอสตัวเดียวกันกับข้าวจานก่อนหน้านี้ อร่อยแบบเผ็ด ๆ แก้หนาวในวันฝนตกเดือนเมษายนได้ดีครับ ++
ราคา : ราคาเริ่มต้นที่ 5000 วอนหรือ 150 บาท ขึ้นกับเมนูที่สั่ง ปริมาณเยอะครับสั่งจานเดียวก็อิ่มแล้วครับ
++++++++++







ร้านตามสั่งร้านสุดท้ายที่จะแนะนำเป็นร้านขายอาหารเกาหลีเปิด 24 ชั่วโมง ร้านแบบนี้แถวอินซาดงมีหลายร้าน อยู่ติด ๆ กัน บางร้านมีอาหารชุดแก้เมาไว้บริการด้วยครับ เพราะแถวนี้มีผับและคาราโอเกะเยอะครับ ร้านตามสั่งแบบนี้ราคาไม่แพง อาหารจะขายเป็นชุดพร้อมข้าว ราคาไม่แพงชุดละ 5,000 วอนเท่านั้น มีเมนูหลากหลายพอสมควร
++ จานแรกบะหมี่ในซุปเนื้อเปื่อยเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย เวลากินเอาข้าวใส่ลงไปในชามบะหมี่ รสชาติซุปเค็มอ่อน ๆ หอมซุปเนื้ออร่อยดีครับ จานที่สองซุปเนื้อตุ๋นแบบเกาหลีเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย ซุปเนื้อหวานเค็มหอมเครื่องเทศคล้ายก๋วยเตี๋ยวเนื้อบ้านเราเลยครับ อร่อยดีเนื้อตุ๋นเปื่อยนุ่มไม่มีกลิ่นสาบ อร่อยไม่แพง ++
พิกัด : อินซาดง ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟใต้ดินจองโนซัมกา
ราคา : ราคาเริ่มต้นชุดละ 5000 วอน
++++++++++
![ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารเกาหลี]()
![ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารเกาหลี]()


เมนูปิดท้ายต๊อกโบกีและของทอด ร้านแผงลอยขายอาหารแบบนี้หาได้ทั่วไปครับ ร้านนี้อยู่แถวๆหน้าร้านอาหารตามสั่งด้านบนครับตรงอินซาดง ขายต็อก โอเด้ง และของชุปแป้งทอด ราคาไม่แพง
++ ผมสั่งต็อกโบกีกับผักทอดและหนวดปลาหมึกทอด ต็อกเหนียวนุ่ม ซอสผัดรสเผ็ดหวานเค็มนิด ๆ อร่อยดี ของทอดผักทอดแป้งกรอบหอมกลิ่นน้ำมันงา หนวดปลาหมึกชุปแป้งทอดอร่อยมาก กรอบนอกนุ่มในหนวดปลาหมึกไม่เหนียวและไม่อมน้ำมัน กินคู่กับต็อกโบกีอร่อยดีครับ ร้านแบบนี้จะขายกันตอนเย็น ๆ ครับ ++
พิกัด : อินซาดง ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟใต้ดินจองโนซัมกา
ราคา : ต็อกโบกี 3,000 วอน หรือ 90 บาท โอเด้งไม้ละ 1,000 วอน หรือ 30 บาท ของทอดและหนวดปลาหมึกขาย 4 ชิ้น 1,000 วอน หรือ 30 บาท
++++++++++
![ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารเกาหลี]()
![ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารเกาหลี]()
![ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารเกาหลี]()
![ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารเกาหลี]()
![ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารเกาหลี]()





เมนูสุดท้ายปิดรีวิวเป็นร้านอาหารตามสั่งที่อินชอน ร้านตั้งอยู่ใกล้ทะเลที่ Wolmido Island ครับ ราคาไม่แพงเช่นกัน มีเมนูทั้งอาหารทะเลและอาหารตามสั่งทั่วไป
สั่งเป็นข้าวยำบิบิมบับและบูเดชิเก ราคาไม่แพง เสิร์ฟมาพร้อมด้วยเครื่องเคียงกิมจิและผักดองแบบต่าง ๆ ครับ
++ รสชาติของข้าวยำซอสอร่อยดี รสชาตินัว ๆ หวาน เค็มและเผ็ดกลาง ๆ อร่อยใช้ได้ครับ ส่วนบูเดชิเกจะเป็นแบบเกาหลีไม่ได้มีเครื่องเยอะ ๆ แบบที่บ้านเรา จะใส่แค่ไส้กรอกและแฮมสแปมต้มรวมกับรามยอนและกิมจิ รสของซุปกลมกล่อมแฝงด้วยเผ็ดกลาง ๆ อร่อยดี ไส้กรอกและแฮมใส่มาให้เยอะมากกินแทบไม่หมด รสชาติแบบบ้าน ๆ ผมว่าอร่อยดี อิ่มแบบสบายกระเป๋า ++
ราคา : ราคา 5,000 วอน หรือ 150บาท
++++++++++
*** รีวิวคาเฟ่ในโซลผมแยกไว้อีกกระทู้ครับ ตามอ่านได้ที่ลิงก์นี้เลยครับ pantip.com ***

*** ไปเกาหลีแนะนำให้โหลดแอปฯ ของ Kakao เอาไว้ใช้ครับ
1) Kakao Map ใช้แทนกูเกิลแมพ ในการหาเส้นทางไปยังร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แม่นยำไม่หลงแน่นอน ข้อเสียบางทีจะพาเดินอ้อม
2) Kakao Metro ใช้สำหรับขึ้นรถไฟใต้ดินไปยังสถานที่ต่าง ๆ ใช้งานง่าย
3) Kakao Bus ใช้สำหรับนั่งรถเมล์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ใช้งานง่ายครับและสามารถใช้ในเมืองซูวอนได้อีกด้วย บางสถานที่นั่งรถเมล์เร็วกว่าครับ อาจแค่ป้ายสองป้าย แต่รถไฟใต้ดินอาจต้องเปลี่ยนสายซึ่งจะใช้เวลานานกว่าพอสมควรครับ

สำหรับคนที่มาเที่ยวเกาหลีบินมาถึงสนามบินอินชอนในช่วงดึก ๆ ไม่อยากเข้าเมือง หรือต้องมาค้างสนามบินเพราะบินช่วงเช้ามาก ๆ แนะนำให้เดินลงมาที่ชั้นใต้ดิน จะมี Spa On Air เป็นจิมจิลบังหรือสปาแบบเกาหลี แต่ต้องลุ้นหน่อยนะครับว่าจะมีที่ว่างให้ได้เข้าไปไหม เพราะสถานที่ภายในเล็กครับ กว้างขวางเฉพาะโซนอาบน้ำ ที่อาบน้ำและห้องน้ำจะแยกชายและหญิง ภายในไม่มีของกินขายเหมือนจิมจิลบัง ทั่วไปแต่สามารถออกมาซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อในสนามบินได้
ส่วนที่นอนจะเป็นแบบนอนรวม สถานที่ค่อนข้างคับแคบครับ ให้นึกภาพเวลาเราไปเข้าค่ายลูกเสือหรือเนตรนารีนอนบนฟูกติด ๆ กัน นอนรวมกันชายและหญิง ควรมีที่อุดหูมาใส่หรือใส่หูฟังแล้วเปิดเพลงฟังครับ จะได้หลับยาวแบบสบาย ๆ เพราะเสียงกรนสนั่นหวั่นไหวมาก ๆ บางคนไม่นอนนั่งคุยกันเสียงดังก็มี ต้องทำใจนิดหนึ่ง
** สำหรับราคาค่าใช้บริการ 4 ชั่วโมง อยู่ที่ 10,000 วอน หรือ 300 บาท มีชุดให้เปลี่ยนฟรี ถ้าเลือกแบบเวลา 6 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม จะอยู่ที่ 15,000 วอน หรือ 450 บาท ถ้าค้างคืน 20,000 วอน หรือ 600 บาท ถ้าเลือกห้องนอนไพรเวทจะต้องจ่ายเพิ่มครับ และที่นี่ยังมีบริการฝากกระเป๋าด้วยครับ **
** ถ้ามาเป็นคู่แฟนกันชายหญิง หรือมาเป็นกลุ่มเพื่อนชายหญิงให้แยกกันเข้าครับ ผู้ชายส่วนใหญ่ได้เข้าก่อนครับ มีคนออกบ่อย ถ้ารอเข้าพร้อมกันจะนาน อาจไม่ได้เข้าครับ เพราะล็อคเกอร์มีจำนวนจำกัด ประสบการณ์ตรงคืนแรกรอเข้าพร้อมกันสรุปไม่ได้คิว รอตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีสองยังไม่ถึงคิวเพราะคนรอคิวเยอะ เลยต้องไปนั่ง ๆ นอน ๆ เล่นในสนามบินรอเวลารถบัสเที่ยวแรกเกือบ ๆ หกโมงเช้า เพื่อนั่งรถเข้าโซล ไปขออาบน้ำแต่งตัวที่โรงแรม วันกลับผมบินหกโมงเช้าเลยมารอคิวตั้งแต่สามทุ่ม กว่าจะมีคนออกก็เที่ยงคืนกว่า ๆ คนรอต่อคิวเยอะครับ ที่นี่ไม่มีให้จองล่วงหน้า ต้องมานั่งรอคิวที่ด้านหน้า พอมีคิวว่างเขาจะมาเรียกครับ เอาไว้เป็นทางเลือก ถ้าไม่อยากรอคิวแนะนำเข้าโซลไปนอนที่โรงแรมหรือเกสต์เฮ้าส์ดีกว่าครับ **
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ DJ.piggypop สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม