พาไปทำความรู้จักกับมาชู ปิกชู (Machu Picchu) ประเทศเปรู (Peru) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงกว่า 2,430 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไปเที่ยวเองได้ ไม่ต้องขอวีซ่า
ใครจะไปคิดว่าบนยอดเขาสูงเสียดฟ้าในแนวเทือกเขาแอนดีสสุดกว้างใหญ่
จะมีเมืองโบราณอย่างมาชู ปิกชู ตั้งอยู่ด้วย
และความมหัศจรรย์ของมันนี่เองที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ต่างต้องการมาเห็นที่นี่ด้วยตาตัวเองสักครั้ง
วันนี้เราจึงจะพาไปทำความรู้จักกับมาชู ปิกชู กัน จะน่าสนใจขนาดไหน...ไปดูเลย
มาชู ปิกชู คืออะไร
มาชู ปิกชู (Machu Picchu) เป็นซากเมืองโบราณของอารยธรรมอินคา อดีตนั้นเมืองแห่งนี้เข้าถึงได้ยาก มีความเร้นลับและมหัศจรรย์ เพราะตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันเป็นภูเขาส่วนหนึ่งในแนวเทือกเขาแอนดีสที่สูงใหญ่ที่สุดในโลก มาชู ปิกชู สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 เคยเป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองในยุคที่อาณาจักรอินคาอยู่ในยุคเฟื่องฟู แต่เมื่ออาณาจักรอินคาต้องล่มสลายด้วยการขยายอำนาจของสเปน มาชู ปิกชู ก็ถูกทอดทิ้ง กลายเป็นเมืองสาบสูญไปในช่วงศตวรรษที่ 16 และได้กลับกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันของนักเดินทางจากทั่วโลกอีกครั้ง หลังจากการค้นพบโดย Hiram Bingham ในปี ค.ศ. 1911
มาชู ปิกชู อยู่ที่ไหน
มาชู ปิกชู ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงกว่า 2,430 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอนดีส ห่างจากเมืองโบราณกุสโก (Cusco) ประเทศเปรู ราว ๆ 70 กิโลเมตร และด้วยความที่ประเทศเปรูเป็น 1 ในประเทศและดินแดนที่ผู้ถือพาสปอร์ตไทยจะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่า เพราะฉะนั้นแค่เพียงมีเงินในกระเป๋าและพาสปอร์ตก็สามารถเดินทางไปเที่ยวมาชู ปิกชู ได้แล้ว
ความมหัศจรรย์ของมาชู ปิกชู
ด้วยความที่มาชู ปิกชู ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงและยังไม่สามารถมองเห็นได้จากเชิงเขา จึงทำให้มันถูกซ่อนอยู่บนยอดเขาอย่างยาวนานหลังจากการล่มสลายของอาณาจักรอินคา และเมื่อมีการค้นพบก็ยิ่งทำให้มนุษย์ในยุคปัจจุบันอึ้งทึ่งกับความชาญฉลาดในการเลือกตำแหน่งที่ตั้งของเมือง รวมไปถึงการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับธรรมชาติ และเอื้อต่อการดำรงชีพของชาวอินคา
ถึงแม้ว่าการค้นพบมาชู ปิกชู จะหลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังเป็นซากที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ในสิ่งปลูกสร้างกว่า 200 ตำแหน่ง บนมาชู ปิกชู แสดงให้เห็นถึงการวางผังเมืองที่เยี่ยมยอดของชาวอินคา มีการวางระบบน้ำและการเกษตรกรรมได้อย่างดี มีศูนย์กลางทางศาสนพิธี และยังมีสิ่งก่อสร้างที่เชื่อมโยงต่อเรื่องราวของดาราศาสตร์ด้วย สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ บนมาชู ปิกชู จะถูกสร้างด้วยหินให้ลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ตามแนวเชิงเขา โดยมีขั้นบันไดหลายพันขั้นเป็นทางเดินเชื่อมต่อ
หากคุณมีโอกาสได้ขึ้นไปเยือนยังมาชู ปิกชู นอกจากความสวยงามและน่าอัศจรรย์ของซากอารยธรรมโบราณแล้ว คุณยังจะได้เห็นวิวของภูเขาน้อยใหญ่ที่อยู่โดยรอบ เห็นเส้นทางถนนคดเคี้ยวที่ลัดเลาะไปมาตามเชิงเขา และยังเห็นแม่น้ำ Urubamba ไหลผ่านตามแนวซอกเขาไปมาอย่างงดงามสุด ๆ ไม่เพียงเท่านั้นหากคุณโชคดียังจะได้พบกับอัลปาก้าและลามา ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเทือกเขาแอนดีส ที่จะมาเดินกินหญ้ารออยู่ที่มาชู ปิกชู อีกด้วย
จากความมหัศจรรย์และเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มาชู ปิกชู และผืนป่าโดยรอบจึงได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1983 รวมทั้งยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วย (ประกาศเมื่อปี พ.ศ. 2550) ด้วย
ตำแหน่งสำคัญบนมาชู ปิกชู
แม้ว่าบนมาชู ปิกชู คุณจะมีเพียงซากโบราณ แต่ในนั้นก็แฝงไปด้วยจุดสำคัญต่าง ๆ ของเมือง เช่น Puerta Principal, Una Picchu, Cantera, Plaza Sagrada, Roca Sagrada, Conjunto de Las Tres Puertas, Barrio de Morteros เป็นต้น
และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือยอดเขา Huayna Picchu (Wayna Picchu) และยอดเขามาชู ปิกชู ซึ่งเป็นยอดเขาที่อยู่สูงเหนือขึ้นไปจากซากอารยธรรมมาชู ปิกชู และอยู่ขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่งของที่นี่ นักท่องเที่ยวจะต้องไต่ไปตามเส้นทางเดินเขา เพื่อขึ้นไปยังด้านบน เพื่อที่จะได้มองเห็นตัวเมืองมาชู ปิกชู ในมุมสูง
ด้วยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต้องการเยี่ยมชมความสวยงามของมาชู ปิกชู มากยิ่งขึ้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลเปรู จึงได้มีกฎจำกัดนักท่องเที่ยวในแต่ละวัน และมีการเก็บค่าธรรมเนียมเข้าเยี่ยมชม โดยจะแบ่งให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปได้วันละ 2 รอบ คือรอบเช้า เวลา 06.00-12.00 น. และรอบบ่าย เวลา 12.00-17.30 น. รอบละ 2,500 คน
ส่วนยอดเขา Huayna Picchu นั้นก็ให้ขึ้นได้เพียงวันละ 400 คน รอบละ 200 คน และยอดเขามาชู ปิกชู ก็ให้ขึ้นได้วันละ 800 คน รอบละ 400 คน
การเดินทางขึ้นไปมาชู ปิกชู จากทางขึ้นฝั่งเมือง Aguas Calientes นั้นจะทำได้ 2 วิธี คือการนั่งรถบัสและการเดินตามทางเดินเขา
การเดินทางไปเที่ยวมาชู ปิกชู
โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะเลือกเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่เมืองหลวงของประเทศเปรู อย่างเมืองลิมา (Lima) แล้วค่อยบินไปที่เมืองกุสโก (Cusco) จากเมืองกุสโก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งรถไฟ หรือรถทัวร์ไปยังเมือง Aguas Calientes ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นไปชมมาชู ปิกชู การขึ้นไปยังมาชู ปิกชู ก็จะมีให้เลือก 2 วิธี คือการเดินตามเส้นทางเดินป่าและนั่งรถบัส
ภาพจาก Byelikova Oksana / Shutterstock.com
- คำแนะนำจากนักท่องเที่ยวหลาย ๆ ท่าน แนะนำว่าถ้าคุณมีเวลาก็ให้แวะพักผ่อนที่เมืองลิมาก่อนหนึ่งคืน เพื่อให้ร่างกายได้ค่อย ๆ ปรับตัวตามความสูงของพื้นที่ ก่อนที่จะบินไปที่เมืองกุสโก ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลมากถึง 3,300 เมตร เมื่อบินไปถึงเมืองกุสโก นักท่องเที่ยวมักประสบกับปัญหาของโรค Altitude Sickness จึงควรเตรียมยาไปด้วย มีนักท่องเที่ยวบางท่านแนะนำถึงวิธีการแก้ปัญาหาดังกล่าว โดยการที่ให้นั่งรถไฟ หรือรถทัวร์ไปยังเมือง Aguas Calientes เลย เพราะที่นั่นจะมีระดับความสูงต่ำกว่าที่กุสโก จึงไม่ทำให้เกิดภาวะของโรคดังกล่าว
- ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การเที่ยวมาชู ปิกชู จะอยู่ระหว่างเดือนเมษายน-ตุลาคม เพราะในเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม จะเป็นช่วงที่มีฝนตก ฟ้าไม่ค่อยเปิด จึงไม่เหมาะแก่การเดินป่าขึ้นเขา
- ในช่วงไฮซีซั่นควรซื้อตั๋วขึ้นมาชู ปิกชู ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน ถ้าอยากขึ้นชมวิวมุมสูงของมาชู ปิกชู ก็อย่าลืมซื้อตั๋วขึ้นยอดเขา Huayna Picchu หรือยอดเขามาชู ปิกชู ด้วย
- การขึ้นไปเที่ยวมาชู ปิกชู แนะนำให้ไปช่วงเช้า เพราะนักท่องเที่ยวจะยังไม่เยอะ อากาศไม่ร้อนจนเกินไป
- หากใครมาถึงเมืองกุสโกแล้ว ถ้าอยากเห็นความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอินคาอย่างแท้จริงก่อนที่จะไปเยือนมาชู ปิกชู แนะนำให้ลองซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริปหรือมากกว่านั้น เพื่อที่จะได้เที่ยวชมสถานที่ประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ของอาณาจักรอินคา
ถือได้ว่าเป็นเดอะ บัคเก็ต ลิสต์ของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียวกับการไปพิชิตมาชู ปิกชู ประเทศเปรู สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ก็เป็นโอกาสดีทีเดียวที่จะไปเที่ยวกันได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องทำวีซ่า ใครมีงบประมาณมากพอก็อย่าได้พลาดเชียวนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
unesco.org, adiosadventuretravel.com, ticket-machupicchu.com และ machupicchupass.com