ที่เที่ยวตามรอยพญานาค สถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์รวมซึ่งความเชื่อและศรัทธาต่อตำนานพญานาค ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้เพื่อเสริมมงคลให้กับชีวิต
พญานาค ได้รับการบูชากราบไหว้เพื่อขอพรและปรารถนาให้ท่านช่วยปกปักรักษา คุ้มครอง และเสริมโชคลาภ พญานาคยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ และความมีวาสนา ถือเป็นหนึ่งในเทพ 78 องค์ของไพ่เทวะมันตรา พยากรณ์ ซึ่งเป็นไพ่พยากรณ์ 78 ใบที่เกิดจากความศรัทธาที่มีต่อเทพเชื้อสายต่าง ๆทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมพลังศรัทธาของคนหลากหลายเชื้อชาติมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว
1. คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี
เริ่มกันที่ “คำชะโนด” สถานที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านในจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียง เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของพญานาคและเป็นทางเชื่อมต่อเมืองบาดาล ปกครองรักษาโดย “พญานาคราชปู่ศรีสุทโธ” และ “องค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี” และปกคลุมด้วยผืนป่าคำชะโนดขนาดใหญ่อยู่ทั่วบริเวณ โดยมีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางเข้ามากราบไหว้และขอเลขเด็ดงวดนี้กันไม่ขาดสาย รวมถึงมี “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” ที่ชาวบ้านมักจะมาตักน้ำกลับไปสักการะ เพราะเชื่อว่าเป็นสิริมงคลกับชีวิต
ที่ตั้ง : วัดศิริสุทโธ (คำชะโนด) อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
เฟซบุ๊ก : คำชะโนด
รีวิว : คำชะโนด จ.อุดรธานี สถานที่เที่ยวศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนพญานาค
2. สระมุจลินท์ วัดพระธาตุบังพวน จังหวัดหนองคาย
“สระมุจลินท์” หรือ “สระพญานาค” สถานที่ที่เชื่อกันว่าเป็นสระน้ำพญานาคศักดิ์สิทธิ์ มีการสร้างรูปปั้นพญานาค 7 เศียรไว้กลางสระ มีตำนานเล่าว่า หลังอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีสายน้ำพวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน ซึ่งเชื่อว่านี่คือปากปล่องภูพญานาคที่เฝ้าปกปักรักษาพระธาตุบังพวน จึงมีการขุดเป็นสระน้ำขึ้นตามมาในภายหลัง ซึ่งในสมัยโบราณเมื่อมีการแต่งตั้งเจ้าเมืองก็จะมีการนำน้ำจากสระนี้ไปสรงเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “พระธาตุบังพวน” เจดีย์เก่าแก่ที่สร้างด้วยอิฐเผา มีรูปทรงแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ลักษณะเป็นรูปสถูปแบบอินเดียรุ่นเดียวกับองค์พระปฐมเจดีย์, สถูปเจดีย์เก่าแก่, พระพุทธรูปโบราณศิลปะล้านช้าง และโบสถ์โบราณ เป็นต้น
ที่ตั้ง : วัดพระธาตุบังพวน บ้านดอนหมู ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
3. ถ้ำดินเพียง จังหวัดหนองคาย
ถ้ำดินเพียง หรือถ้ำพญานาค ตั้งอยู่ที่วัดถ้ำศรีมงคล สาเหตุที่พากันเรียกว่าถ้ำพญานาค เพราะภายในถ้ำมีโพรงที่มีลักษณะคล้ายรูอยู่มากมาย แบ่งซอยออกไปทั่วบริเวณ ดูไปดูมาคล้ายกับเส้นทางการเลื้อยของพญานาค โดยเป็นเรื่องที่เล่าขานต่อ ๆ กันมาว่าเป็นทางเข้า-ออกของธิดาพญานาค ซึ่งเกิดมาหลงรักเจ้าชายของเมืองนี้บนโลกมนุษย์ และเมื่อถึงวันออกพรรษาต้องกลับสู่เมืองบาดาล จนสุดท้ายเจ้าชายตามมาพบและรู้ว่าคนรักของตนเป็นพญานาค จึงขอตัดขาดจากกันที่ถ้ำแห่งนี้
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าเป็นเส้นทางสู่เมืองพญานาค ที่สามารถเดินทางไปใต้ลำโขง ไป-มาระหว่างหนองคายกับเวียงจันทน์ได้ โดยมีเรื่องเล่าว่าเป็นเส้นทางที่พระธุดงด์จากลาวใช้ข้ามฝั่งลอดใต้แม่น้ำโขงเข้ามายังฝั่งไทย ซึ่งพระผู้ทรงศีลอันแก่กล้าเท่านั้นจึงจะเห็นเส้นทางสัญจรดังกล่าว ภายในถ้ำดินเพียงมีลักษณะคล้ายเมืองบาดาลของพญานาคตามความเชื่อของชาวบ้าน อีกทั้งยังมีความชื้นและมีน้ำไหลตลอดปี แถมก้อนหินยังเป็นแท่งตั้งวางอย่างจงใจ บางก้อนมีส่วนเว้าโค้งของหินที่สวยงาม การเดินทางเข้าถ้ำควรมีผู้นำทางเพราะถ้าไปเองอาจทำให้หลงทางและเป็นอันตรายได้
ที่ตั้ง : วัดถ้ำศรีมงคล บ้านดงต้อง ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
เฟซบุ๊ก : องค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้ง
4. วัดไทย จังหวัดหนองคาย
วัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ภายในมีรูปปั้น “นาคชัยยัญ” ราชาแห่งพญานาคสีดำ ให้ได้กราบไหว้ขอพร อีกทั้งยังมี “ถ้ำพญานาค” เป็นสถานที่จำลองที่มนุษย์สร้างขึ้น พร้อมกับความเชื่อและความศรัทธาที่มีต่อพญานาค ความเป็นมาของถ้ำแห่งนี้เกิดขึ้นจากนิมิตฝันของเจ้าอาวาส ที่ฝันว่าได้มาเยือนถ้ำพญานาคที่อยู่ใต้แม่น้ำโขงหน้าวัด และเมื่อตื่นขึ้นจึงนำภาพฝันนั้นมาสร้างเป็นถ้ำพญานาค ภายในตกแต่งได้อย่างบรรจงสวยงาม หากแต่นักท่องเที่ยวจะต้องทำตามกฎในการเข้าชมอย่างเคร่งครัดด้วยเช่นกัน
ที่ตั้ง : ถนนพิสัยสรเดช ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
5. แก่งอาฮง จังหวัดบึงกาฬ
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณวัดอาฮงศิลาวาส หมู่บ้านอาฮง เชื่อกันว่าเป็นจุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง เรียกกันว่า “สะดือแม่น้ำโขง” ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวคือ “วังบาดาลของพญานาค” ตามตำนานเล่าสืบต่อกันว่ามีถ้ำใต้น้ำและโขดหินใหญ่อยู่บริเวณทางฝั่งประเทศลาว ตรงข้ามกับวัดอาฮงศิลาวาส ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของเหล่าพญานาคในวันออกพรรษา เพื่อทำบุญบั้งไฟเป็นพุทธบูชาร่วมกับมนุษย์ จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งในแต่ละปีบริเวณนี้ยังมีบั้งไฟพญานาคขึ้นเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ที่ตั้ง : วัดอาฮงศิลาวาส ตำบลหอคำ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ
6. พญาศรีสัตตนาคราช จังหวัดนครพนม
หากได้ไปเยือนนครพนมต้องไปสักการะ “องค์พญาศรีสัตตนาคราช” รูปปั้นพญานาคขดหาง มี 7 เศียร พ่นน้ำได้ หล่อด้วยทองเหลือง ขนาดความกว้างรวมหาง 4.49 เมตร สูง 10.90 เมตร มีความสูงจากฐาน 16.29 เมตร เศียรพญานาคหันไปทางทิศเหนือ หางชี้ไปทางแม่น้ำโขง ทุกวันในเวลาพลบค่ำจะมีการเปิดไฟประดับรอบองค์พญาศรีสัตตนาคราช และบริเวณใกล้กันคือลานพนมนาคา เป็นลานคอนกรีตกว้างโล่งเหมาะกับการชมทัศนียภาพของแม่น้ำโขง
ที่ตั้ง : ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
7. ศาลปู่พญานาคราช จังหวัดมุกดาหาร
ศาลที่ตั้งอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันเขต) สร้างเพื่อบวงสรวงองค์พญานาคในช่วงที่กำลังก่อสร้างสะพานแห่งนี้ โดยมีลักษณะเป็นรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่พันรอบเสา หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง อีกทั้งใกล้ ๆ กันยังเป็นรูปปั้น “ย่านาคน้อย” รวมไปถึงรูปปั้นพญานาคพ่นน้ำอีกด้วย ซึ่งผู้คนนิยมเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลและขอให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
ที่ตั้ง : บ้านสงเปือย ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
1. คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี
เริ่มกันที่ “คำชะโนด” สถานที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านในจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียง เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของพญานาคและเป็นทางเชื่อมต่อเมืองบาดาล ปกครองรักษาโดย “พญานาคราชปู่ศรีสุทโธ” และ “องค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี” และปกคลุมด้วยผืนป่าคำชะโนดขนาดใหญ่อยู่ทั่วบริเวณ โดยมีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางเข้ามากราบไหว้และขอเลขเด็ดงวดนี้กันไม่ขาดสาย รวมถึงมี “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” ที่ชาวบ้านมักจะมาตักน้ำกลับไปสักการะ เพราะเชื่อว่าเป็นสิริมงคลกับชีวิต
ที่ตั้ง : วัดศิริสุทโธ (คำชะโนด) อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
เฟซบุ๊ก : คำชะโนด
รีวิว : คำชะโนด จ.อุดรธานี สถานที่เที่ยวศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนพญานาค
2. สระมุจลินท์ วัดพระธาตุบังพวน จังหวัดหนองคาย
“สระมุจลินท์” หรือ “สระพญานาค” สถานที่ที่เชื่อกันว่าเป็นสระน้ำพญานาคศักดิ์สิทธิ์ มีการสร้างรูปปั้นพญานาค 7 เศียรไว้กลางสระ มีตำนานเล่าว่า หลังอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีสายน้ำพวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน ซึ่งเชื่อว่านี่คือปากปล่องภูพญานาคที่เฝ้าปกปักรักษาพระธาตุบังพวน จึงมีการขุดเป็นสระน้ำขึ้นตามมาในภายหลัง ซึ่งในสมัยโบราณเมื่อมีการแต่งตั้งเจ้าเมืองก็จะมีการนำน้ำจากสระนี้ไปสรงเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “พระธาตุบังพวน” เจดีย์เก่าแก่ที่สร้างด้วยอิฐเผา มีรูปทรงแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ลักษณะเป็นรูปสถูปแบบอินเดียรุ่นเดียวกับองค์พระปฐมเจดีย์, สถูปเจดีย์เก่าแก่, พระพุทธรูปโบราณศิลปะล้านช้าง และโบสถ์โบราณ เป็นต้น
ที่ตั้ง : วัดพระธาตุบังพวน บ้านดอนหมู ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
3. ถ้ำดินเพียง จังหวัดหนองคาย
ถ้ำดินเพียง หรือถ้ำพญานาค ตั้งอยู่ที่วัดถ้ำศรีมงคล สาเหตุที่พากันเรียกว่าถ้ำพญานาค เพราะภายในถ้ำมีโพรงที่มีลักษณะคล้ายรูอยู่มากมาย แบ่งซอยออกไปทั่วบริเวณ ดูไปดูมาคล้ายกับเส้นทางการเลื้อยของพญานาค โดยเป็นเรื่องที่เล่าขานต่อ ๆ กันมาว่าเป็นทางเข้า-ออกของธิดาพญานาค ซึ่งเกิดมาหลงรักเจ้าชายของเมืองนี้บนโลกมนุษย์ และเมื่อถึงวันออกพรรษาต้องกลับสู่เมืองบาดาล จนสุดท้ายเจ้าชายตามมาพบและรู้ว่าคนรักของตนเป็นพญานาค จึงขอตัดขาดจากกันที่ถ้ำแห่งนี้
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าเป็นเส้นทางสู่เมืองพญานาค ที่สามารถเดินทางไปใต้ลำโขง ไป-มาระหว่างหนองคายกับเวียงจันทน์ได้ โดยมีเรื่องเล่าว่าเป็นเส้นทางที่พระธุดงด์จากลาวใช้ข้ามฝั่งลอดใต้แม่น้ำโขงเข้ามายังฝั่งไทย ซึ่งพระผู้ทรงศีลอันแก่กล้าเท่านั้นจึงจะเห็นเส้นทางสัญจรดังกล่าว ภายในถ้ำดินเพียงมีลักษณะคล้ายเมืองบาดาลของพญานาคตามความเชื่อของชาวบ้าน อีกทั้งยังมีความชื้นและมีน้ำไหลตลอดปี แถมก้อนหินยังเป็นแท่งตั้งวางอย่างจงใจ บางก้อนมีส่วนเว้าโค้งของหินที่สวยงาม การเดินทางเข้าถ้ำควรมีผู้นำทางเพราะถ้าไปเองอาจทำให้หลงทางและเป็นอันตรายได้
ที่ตั้ง : วัดถ้ำศรีมงคล บ้านดงต้อง ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
เฟซบุ๊ก : องค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้ง
4. วัดไทย จังหวัดหนองคาย
วัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ภายในมีรูปปั้น “นาคชัยยัญ” ราชาแห่งพญานาคสีดำ ให้ได้กราบไหว้ขอพร อีกทั้งยังมี “ถ้ำพญานาค” เป็นสถานที่จำลองที่มนุษย์สร้างขึ้น พร้อมกับความเชื่อและความศรัทธาที่มีต่อพญานาค ความเป็นมาของถ้ำแห่งนี้เกิดขึ้นจากนิมิตฝันของเจ้าอาวาส ที่ฝันว่าได้มาเยือนถ้ำพญานาคที่อยู่ใต้แม่น้ำโขงหน้าวัด และเมื่อตื่นขึ้นจึงนำภาพฝันนั้นมาสร้างเป็นถ้ำพญานาค ภายในตกแต่งได้อย่างบรรจงสวยงาม หากแต่นักท่องเที่ยวจะต้องทำตามกฎในการเข้าชมอย่างเคร่งครัดด้วยเช่นกัน
ที่ตั้ง : ถนนพิสัยสรเดช ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
5. แก่งอาฮง จังหวัดบึงกาฬ
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณวัดอาฮงศิลาวาส หมู่บ้านอาฮง เชื่อกันว่าเป็นจุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง เรียกกันว่า “สะดือแม่น้ำโขง” ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวคือ “วังบาดาลของพญานาค” ตามตำนานเล่าสืบต่อกันว่ามีถ้ำใต้น้ำและโขดหินใหญ่อยู่บริเวณทางฝั่งประเทศลาว ตรงข้ามกับวัดอาฮงศิลาวาส ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของเหล่าพญานาคในวันออกพรรษา เพื่อทำบุญบั้งไฟเป็นพุทธบูชาร่วมกับมนุษย์ จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งในแต่ละปีบริเวณนี้ยังมีบั้งไฟพญานาคขึ้นเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ที่ตั้ง : วัดอาฮงศิลาวาส ตำบลหอคำ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ
6. พญาศรีสัตตนาคราช จังหวัดนครพนม
หากได้ไปเยือนนครพนมต้องไปสักการะ “องค์พญาศรีสัตตนาคราช” รูปปั้นพญานาคขดหาง มี 7 เศียร พ่นน้ำได้ หล่อด้วยทองเหลือง ขนาดความกว้างรวมหาง 4.49 เมตร สูง 10.90 เมตร มีความสูงจากฐาน 16.29 เมตร เศียรพญานาคหันไปทางทิศเหนือ หางชี้ไปทางแม่น้ำโขง ทุกวันในเวลาพลบค่ำจะมีการเปิดไฟประดับรอบองค์พญาศรีสัตตนาคราช และบริเวณใกล้กันคือลานพนมนาคา เป็นลานคอนกรีตกว้างโล่งเหมาะกับการชมทัศนียภาพของแม่น้ำโขง
ที่ตั้ง : ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
ภาพจาก Inoprasom/shutterstock.com
7. ศาลปู่พญานาคราช จังหวัดมุกดาหาร
ศาลที่ตั้งอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันเขต) สร้างเพื่อบวงสรวงองค์พญานาคในช่วงที่กำลังก่อสร้างสะพานแห่งนี้ โดยมีลักษณะเป็นรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่พันรอบเสา หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง อีกทั้งใกล้ ๆ กันยังเป็นรูปปั้น “ย่านาคน้อย” รวมไปถึงรูปปั้นพญานาคพ่นน้ำอีกด้วย ซึ่งผู้คนนิยมเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลและขอให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
ที่ตั้ง : บ้านสงเปือย ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
8. องค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช จังหวัดมุกดาหาร
รูปปั้นพญานาคสีขาวองค์ใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ ณ ลานพญานาคศรีภุชงค์มุกดานาคราช บริเวณแก่งกะเบา อำเภอหว้านใหญ่ เชื่อกันว่าผู้ใดที่มากราบไหว้สักการะและได้ลอดท้องพญานาคจะมีความสุขสมหวังดังคำอธิษฐาน โดยองค์พญานาคมีความสูง 11.11 เมตร ความยาว 51.40 เมตร ตลอดลำตัว เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร ตั้งอยู่บนฐานรองวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร สูง 1.50 เมตร ตั้งชื่อโดยพระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร หมายถึง พญานาคผู้นำความเป็นสิริมงคลและความรุ่งโรจน์มาสู่จังหวัดมุกดาหาร
ที่ตั้ง : แก่งกะเบา อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร
9. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร
วัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช” รูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ ลักษณะของพญานาคนั้นจะนอนขดตัวไป-มาและชูลำคอสูงสง่าหันไปทางแม่น้ำโขงเบื้องล่าง ลำตัวยาว 122 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร มีสีเขียวอมฟ้า สะท้อนแสงสวยงาม พร้อมกับมีลวดลายที่ละเอียดอ่อน วิจิตรบรรจง แต่ก็แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม
ที่ตั้ง : ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
เฟซบุ๊ก : วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร
รีวิว : องค์พญานาคใหญ่ยักษ์ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ที่เที่ยวมุกดาหาร
10. ถ้ำพญานาคราช จังหวัดขอนแก่น
ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน เป็นถ้ำขนาดใหญ่ โดยนักท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องใช้บริการรถอีแต๊กและไกด์นำเที่ยวท้องถิ่นในการเที่ยวชมถ้ำแห่งนี้ ซึ่งจุดเริ่มต้นเส้นทางเที่ยวชมถ้ำจะอยู่ที่หมู่บ้านติดเชิงเขา ภายในถ้ำมืดสนิท โดยจะแบ่งเป็นห้องโถงต่าง ๆ ซึ่งจะมีหินงอกหินย้อยสวยงามตระการตา มีทั้งที่เป็นม่านหินลดหลั่นเป็นชั้น ๆ และเสาหินตั้งตระหง่านและม่านหินที่ย้อยลงมาจากเพดานสูง ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเตรียมอาหารเข้าไปกินได้ ด้วยเพราะการเที่ยวชมถ้ำอาจต้องใช้เวลาทั้งวัน
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น
11. วัดแก้วจักรพรรดิสิริสุทธาวาส จังหวัดขอนแก่น
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีดวงจิตนาคราชแห่งการบำเพ็ญดวงจิตสีขาวสถิตอยู่ มีเสาหลักเมืองบาดาลเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภพ ภายในวัดส่วนใหญ่ตกแต่งเป็นสีขาว มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือ ได้แก่ "พระสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิปางเปิดโลก" ที่ถือว่าสูงที่สุดในประเทศไทย, "ปู่ศรีสุทโธกับย่าศรีปทุมมา" และ "สมบัติอจินไตย" ไว้สำหรับคนที่อยากได้กลับไปกราบไหว้บูชา เป็นต้น
ที่ตั้ง : บ้านหนองโพนน้อย อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
12. วัดถ้ำวังผาพญานาคราช จังหวัดอุบลราชธานี
เป็นที่ร่ำลือกันว่าที่นี่คือที่อยู่ของนาคี เพราะได้มีการค้นพบถ้ำใต้หินขนาดใหญ่ในลำห้วยหมาก ที่เชื่อกันว่าเป็นถ้ำพญานาค และถูกแผ่นหินจำนวนมากถล่มมาปิดปากถ้ำ และจมอยู่ใต้น้ำมานานหลายร้อยปี โดยตลอดเส้นทางเดินไปยังถ้ำคุณจะได้ชื่นชมกับความสวยงามของธรรมชาติและนมัสการรูปปั้นท่านมุจลินทร์ พญานาคเจ็ดเศียร ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบริวารคอยมาปกปักรักษาพญานาค ตรงบริเวณประตูก่อนลงสู่บันไดสวรรค์ และไปยังลำธารต่อไป
ที่ตั้ง : ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
13. วัดป่าคลอง 11 จังหวัดปทุมธานี
เชื่อกันว่าวัดแห่งนี้มีพญานาคทำหน้าที่ปกปักรักษา เมื่อเดินเข้ามาภายในวัดจะได้เจอเข้ากับโบสถ์ไม้กลางสระน้ำ ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า ล้อมรอบด้วยรูปปั้นพญานาคแกะสลัก จุดเด่นของวัดป่าคลอง 11 นั่นคือการที่คุณจะได้เห็นองค์พญานาคขนาดใหญ่ บางองค์มี 3 เศียร 5 เศียร 7 เศียร หากสังเกตดูดี ๆ เราจะเห็นรายละเอียดและฝีมือการปั้นที่ล้วนวิจิตรบรรจงระดับชั้นครู และการแวะสักการะองค์ปู่ศรีสุทโธและย่าศรีปทุมมา
ที่ตั้ง : ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี
เดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นเพียงที่นาเก่ารกร้างของ นายณรงค์ เพียรผักแว่น หรือ "ช่างเอ๋" ช่างปั้นงานศิลปะฝีมือเอก แรกเริ่มได้นิมิตเห็นหลวงปู่สดลอยอยู่กลางบึงน้ำ ไม่นานจึงได้ทำการบูรณะที่นาแห่งนี้เสียใหม่ และเริ่มทำการปั้นรูปปั้นหลวงปู่สดประดิษฐานอยู่กลางบึงน้ำ และต่อมาก็ได้สร้างพญานาคอีก 4 ตัว อยู่ตรงบริเวณริมบึงน้ำตามที่นิมิตอีกเช่นเดียวกัน บวกกับเรื่องราวความเชื่อและความศรัทธา ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อในเรื่องพญานาค ต่างแห่แหนเดินทางมาชื่นชมความสวยงามกันเป็นจำนวนมาก
ที่ตั้ง : อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
เหล่านี้เป็นเพียงแค่สถานที่ตามรอยพญานาคแค่บางส่วนเท่านั้น อย่างที่พูดไปตอนแรกว่า เรื่องแบบนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ใครที่ไปแล้วสบายใจ ไม่เดือดร้อนใคร ก็ลองไปตามรอยสักการะขอพรกันได้ เพราะสุดท้ายแล้วชะตาชีวิตต่อไปข้างหน้าของเราจะเป็นอย่างไร ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งสิ้น ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก