เที่ยวสงขลา เดินเล่นชิล ๆ ย่านเมืองเก่าสงขลา กับจุดถ่ายรูปสุดชิค เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เช็กอินกันแบบไม่มีเชย รับรองเลยว่าคุณจะมองสงขลา ในมุมมองที่ต่างไปจากเดิม
สงขลา เมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบสงขลา เมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลายทางวัฒนธรรม อาหาร แหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างเมืองเก่าสงขลา ย่านนี้เรียกได้ว่ามีมนต์สะกดแห่งการผสมผสานกันระหว่างศิลปะและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ ๆ รวมถึงจุดถ่ายรูปแลนด์มาร์กชิค ๆ อีกเพียบ และแน่นอนว่าเราเองก็ไม่พลาด ขออาสาเดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศถนนสายวัฒนธรรมของสงขลาแห่งนี้กัน
รายละเอียดรถรางชมเมืองสงขลา
เวลาให้บริการรถราง
วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-15.00 น.
วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น.
โดยแบ่งเป็นรอบดังนี้
รอบที่ 1 เวลา 09.00-10.30 น.
รอบที่ 2 เวลา 10.30-12.00 น.
รอบที่ 3 เวลา 12.00-13.30 น.
รอบที่ 4 เวลา 13.30-15.00 น.
รอบที่ 5 เวลา 15.00-16.30 น.
แผนที่เส้นทางนั่งรถรางชมเมืองสงขลา
(***สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ songkhlacity.go.th)
จุดเช็กอินที่ 1 ประติมากรรมพญานาคพ่นน้ำ
จุดนี้ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสงขลา สร้างขึ้นเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณชายหาดสมิหลาให้เป็นสถานที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยวและชาวสงขลา บริเวณนี้จะเป็นส่วน "หัวพญานาค" งดงามด้วยลวดลายสลักสวยงาม เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มักนิยมมาถ่ายภาพกันเป็นจำนวนมาก
นับเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่สำคัญอีกหนึ่งจุด เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมเป็นที่ตั้งบ้านพักของรองอำมาตย์โท ขุนวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) บิดาของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ งดงามด้วยลักษณะแบบบ้านเรือนไทย สร้างขึ้นเพื่อจำลองสถานที่เกิดของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
*** พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.00 น. (หยุดวันจันทร์และวันนักขัตฤกษ์)
จุดเช็กอินที่ 3 บ้านนครใน
ขยับเข้ามาบนถนนนครใน เราจะมองเห็นชุดอาคารเรือนหลังหนึ่งที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์จีน และบ้านตึกสีขาวแบบชิโนยูโรเปี้ยน นั่นคือ "บ้านนครใน" ภายในเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมของเก่าสะสม ที่ยังคงอัตลักษณ์ของความเป็นสงขลา บรรยากาศจึงเหมือนกับเรากำลังเดินเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อยู่กลาย ๆ
ถัดมาไม่ไกลจากบ้านนครใน แวะนั่งหาของทานคลายความร้อนของอากาศสักนิดที่ Lyn\'s The Shanghai Café ร้านอาหารดูดีมีสไตล์ที่แฝงตัวอยู่บนถนนนครใน ทันทีที่ผลักประตูร้านเข้าไป (นอกจากแอร์เย็นฉ่ำ) จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแสนคลาสสิก
จุดเช็กอินที่ 5 Street Art ย่านเมืองเก่าสงขลา
ใครมาย่านเมืองเก่าสงขลาแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปคู่กับ Street Art เหมือนว่ามาไม่ถึง หลัก ๆ แล้ว รูปภาพเหล่านี้จะแฝงตัวอยู่ตามฝาผนังตึกอาคารบ้านเรือนบนถนน 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครในและถนนนางงาม บางครั้งนักท่องเที่ยวต้องตาไวอยู่เสียหน่อย เพราะบางจุดถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็อาจจะเลยผ่านไปแบบไม่รู้ตัว
จุดเช็กอินที่ 6 ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์
อีกหนึ่งมุมถ่ายรูปสุดฮิป ที่นักท่องเที่ยวเกือบจะทุกคนต้องแวะมา หลายคนอาจมองเห็นว่าเป็นแค่ท่าเรือธรรมดา ๆ แต่หากสังเกตดูดี ๆ ด้วยเพราะทำเลของท่าเรือที่ล้อมรอบด้วยตึกเก่า ก็ยิ่งเพิ่มบรรยากาศความคลาสสิกอีกหลายเท่าตัว ตั้งแต่พื้นทางเดินที่ปูด้วยก้อนอิฐ แถมยังมีแนวต้นไม้คอยให้ความร่มรื่น เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่ไม่อยากให้นักท่องเที่ยวคนไหนต้องพลาด
ยังมีภาพ Street Art แนว ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปอีกด้วย
จุดเช็กอินที่ 7 Blue Smile Café
นับเป็นอีกหนึ่งร้านที่ชวนสะดุดตาสำหรับนักท่องเที่ยว ด้วยทำเลที่ตั้งของร้านอยู่ริมหัวมุมถนนนครใน เรียกได้ว่าเป็นที่สังเกตกันได้ง่าย ๆ ด้วยเพราะสีสันการตกแต่งของตัวร้าน ที่เน้นโทนสีสดใส ใครเห็นก็ต้องหยิบกล้องขึ้นมาลั่นชัตเตอร์กันอย่างไว ว่ากันว่าเจ้าของร้านเป็นคงลงมือตกแต่งปรับปรุงร้านด้วยตัวเอง แบบไม่ง้อสถาปนิกให้เปลืองเวลา
นอกจากนี้ตามฝาผนังกำแพงของร้าน ยังตกแต่งด้วยลวดลายกราฟิกสวยงาม แถมยังมีป้ายเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปได้เต็มที่แบบไม่จำกัด เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่น่าจะเรียกคะแนนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวย่านเมืองเก่าสงขลาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
จุดเช็กอินที่ 8 บ้านสงครามโลก
ใครที่ชอบอารมณ์แบบตึกเก่า ๆ น่าจะถูกใจสถานที่เช็กอินแห่งนี้ไม่น้อย โดดเด่นด้วยรูปทรงอาคารสูงแบบจีน ภายนอกเป็นอาคารปูนคอนกรีต คาดกันว่าบ้านหลังนี้เป็นสถานที่สำคัญ จนถูกถ่ายภาพโดยเครื่องบินกองทัพอากาศอังกฤษ ก่อนบินมาทิ้งระเบิดอาคารใหญ่ 3 ชั้น ในเมืองสงขลา เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 โดยคิดว่าอาจเป็นกองบัญชาการทหารญี่ปุ่น
จุดเช็กอินอีกหนึ่งที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด โรงสีข้าวแห่งนี้มีอายุเก่าแก่ร่วม 100 ปี พูดง่าย ๆ ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งบทบันทึกประวัติศาสตร์ของเมืองสงขลาที่ควรค่าแก่การมาเยือน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เว็บไซต์ songkhlacity.go.th