ลัดฟ้าเที่ยวมองโกเลีย 7 วัน สนุกสุดมันส์ใครไม่ไปไม่มีทางรู้

มองโกเลีย

          มองโกเลีย ดินแดนแห่งธรรมชาติที่เงียบสงบ วิถีชีวิตผู้คนที่เรียบง่าย และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ หนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางอีกหลายคน


          มองโกเลีย ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าและนับรบผู้เกรียงไกร เชื่อหรือไม่ว่าทุกวันนี้มองโกเลียกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยเพราะเสน่ห์ที่น่าดึงดูดของมองโกเลียที่เงียบสงบ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ รวมถึงศิลปวัฒนธรรมและผู้คน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ยากจะลอกเลียนแบบ หากใครไม่หลงใหลจริง ๆ ก็คงจะไม่เดินทางไปเที่ยวที่นั่นแน่ ๆ เช่นเดียวกับ คุณ babyblink111 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  ที่เป็นอีกคนหนึ่งที่หลงใหลในทัศนียภาพและบรรยากาศของมองโกเลียเข้าอย่างจัง เรื่อยไปตั้งแต่ทิวทัศน์สีน้ำตาลของเนินเขา สีเขียวของท้องทุ่งหญ้า และความสวยงามของสถาปัตยกรรมอาคารต่าง ๆ จนบางครั้งอดสงสัยไม่ได้ว่าบนโลกใบนี้ยังคงมีประเทศที่สวยงามแบบนี้อยู่อีกหรือ ? พร้อมหรือยังที่คุณจะไปสำรวจมองโกเลียด้วยกัน ? ถ้าพร้อมแล้วไปลุยด้วยกันเลย

++++++++++++++++++

          หลังจากซุ่มอ่านรีวิวคนนู้นคนนี้ หนังสือมีก็หลายเล่ม เค้าพากันนั่งรถไฟไปมองโกเลียกันโครม ๆ เห็นแล้วก็อิจฉา อย่ากระนั้นเลย เวลาเรามีน้อย (พอ ๆ กับงบ) เราต้องใช้สอยอย่างคุ้มค่า เวลา 7 วัน ที่ได้มาเราต้องใช้ให้คุ้ม !

          มองโกเลีย ชื่อนี้มี 2 สถาน 1 คือมองโกเลียใน ที่ยังอยู่ในการปกครองของประเทศจีน มีชื่อภาษาอังกฤษสวย ๆ ว่า Inner Mongolia อันนี้ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของเรา !

          จุดหมายของเราในคราวนี้คือ "ประเทศมองโกเลีย" อันมีเมืองหลวงชื่อว่า อูลานบาตอร์ (Ulaanbatar/Ulan Bator) ไม่พูดภาษาจีน ตัวอักษรใช้ตามแบบรัสเซีย แต่มีภาษามองโกเลียเป็นของตนเอง !

          ดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

มองโกเลีย

          ใช่ค่ะ มองโกเลียไม่ใช่เล่น ๆ หาก เนปาล ทิเบต ประเทศอินเดีย คือยอดปรารถนาของนักเดินทางทั่วโลก "มองโกเลีย" ก็มักจะต้องติดโผอยู่ใน Wish List สถานที่ที่จะต้องมา see ก่อน die ของขาเที่ยวในสายเลือด

          ทำไมใคร ๆ ก็อยากไปมองโกเลีย ?

          ความเห็นส่วนตัวฉันมีคำตอบให้ตัวเองกว้าง ๆ คร่าว ๆ ในใจ "ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และผู้คน" หนนี้ฉันมีเวลาเพียงสั้น ๆ ที่จะได้ทำความรู้จักกับประเทศที่ใหญ่กว่าประเทศไทย 3 เท่า แต่มีประชากรราว 3 ล้านคนเท่านั้น

          2 วันเดินทาง + 5 วัน ที่ได้อยู่มองโกเลีย ฉันพูดได้เต็มปากเลยว่า "นี่เป็น Trip of a Lifetime จริง ๆ"

มองโกเลีย

          ตารางการเดินทาง

          ● Day 1 :
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ-ฮ่องกง ค้าง 1 คืน

          ● Day 2 : ออกเดินทางจากฮ่องกง บินตรงสู่นครอูลานบาตอร์ (Ulanbatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย

          ● Day 3 : Winter Palace of Bogd Kha-Zaizan Memorial, อนุสาวรีย์เจงกิสข่านที่ใหญ่ที่สุดในโลก, Teralj National Park, Turtle Rock-Aryapala Meditation Center, ขี่ม้า อยู่เกอร์ (Ger) กับชาวโนแมดแท้ ๆ

          ● Day 4 : โตบนรถ ทรหดกับพายุทราย ไปนอนเมืองหลวงเก่าคาราโครัม (Kharakhorum /Khakhoryn)

          ● Day 5 : เมืองหลวงเก่าแห่งประวัติศาสตร์ชาติมองโกล, Erdene Zuu Monastery, Great imperial map monument, แวะ selfie กับอูฐสองหนอก ก่อนกลับเมืองหลวง Ulanbatar

          ● Day 6 : เดินเที่ยวเอง Gandantegchinlen Monastery, National Museum (ควรดูมาก ๆ), Chinggis Square, ร้านกาแฟกรุบกริบ

          ● Day 7 : Flight กลับบ้านแต่เช้า (แวะเที่ยวเล่นฮ่องกงก่อนกลับ)


          ค่าใช้จ่าย

          *ค่าทัวร์ 5 วัน จองกับเกสต์เฮ้าส์ในอูลานบาตอร์ค่ะ *แนะนำมาก ๆ* - USD 255/คน (http://danistanomadstour.com/)

          **ค่าตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-ฮ่องกง-กรุงเทพฯ by Cathay Pacific = 6,XXX บาท/คน

          ***ค่าโรงแรมที่ฮ่องกง 2 คืน (ไป-กลับ) Conext Hostel, Jordan = 2,XXX บาท/คน

          ****ค่าตั๋วเครื่องบิน ฮ่องกง-อูลานบาตอร์-ฮ่องกง by MIAT Airlines (สายการบินประจำชาติมองโกเลีย) = 21,530 บาท/คน

          *พร้อมแล้ว...ไปลุยกันเลย !!!*

มองโกเลีย

          ฝากเพจนิด ฝากติดตามกันได้ค่ะ : เฟซบุ๊ก ww4travel

          * - * กว่าจะถึงมองโกเลีย

          1. เชื่อไหมไม่ต้องขอวีซ่า มาถึงยื่นพาสปอร์ตไทยแลนด์แล้วปั๊มตราอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน สะดวกสบาย ไม่มีค่าวีซ่าให้ปวดหัวใจแต่อย่างใด

          2. การเดินทาง สะดวกที่สุดคือทางเครื่องบิน ถึงจะไม่มีไฟล์ทตรงจากรุงเทพฯ แต่ก็มีไฟล์ทต่อจากหลาย ๆ ประเทศที่แสนจะน่าแวะเที่ยว เช่น โตเกียว โซล ฮ่องกง และปักกิ่ง (ปักกิ่งไม่ค่อยอยากแนะนำเพราะถ้าจะแวะเที่ยวจะต้องขอวีซ่าจีนแบบมัลติเพิลอีกต่างหากด้วย แต่ถ้าใครคิดว่าจะแวะเยี่ยมญาติที่ซัวเถาด้วยก็เอาที่สบายใจ)

          3. แต่ถ้าใครมีเวลาเยอะ วันหยุด 10 วันขึ้นไป จะลองใช้บริการรถไฟสาย Trans Mongolia (ขึ้นจากปักกิ่ง ใช้เวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน) ขอไม่ให้รายละเอียดเพราะมีคนทำรีวิวไว้หลายอันแล้ว (ส่วนตัวถ้ามีเวลาก็น่าลอง แต่ราคาสูสีกับตั๋วเครื่องบิน+วีซ่าจีนมัลติเพิล พี่เลือกบินค่ะ !)

          4. อาหารการกินไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เค้าพัฒนาแล้ว KFC Pizza Hut ร้านกาแฟสัญชาติเกาหลี เต็มเมืองอูลานบาตอร์ ไม่อดตายแน่นอน แถมเวลาออกไปนอกเมืองไปอยู่กับชาว Nomad เรื่องอาหารการกินก็หายห่วง พี่คิดว่ากินง่ายอยู่ง่ายกว่าอินเดียเสียอีก ! (ส่วนตัวพี่ไม่กินวัว กินแพะ กินแกะ ก็มีไก่มาให้กิน แถมผักที่นี่อร่อยมากซะด้วย !)

          5. อากาศ ช่วงที่ดีที่สุดในการมาเยือนมองโกเลียคือหน้าร้อน กรกฎาคม/สิงหาคม/กันยายน หน้าหนาวอย่ามา หนาวมาก หนาววัวตายควายล้ม (พ.ย.-ก.พ.) พี่เลือกมาฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.). อากาศดี ฟ้าสวย อาจเจอหิมะบ้างอุณหภูมิ 1-2 องศาหนาวกำลังดี

          6. เงินตรา ค่าเงินและค่าครองชีพที่นี่ คร่าว ๆ ถูกกว่าบ้านเรา ข้าวมื้อหนึ่งตก 1-2 $ (ที่นี่ใช้ Tughrik-1$ = 2,000 TGH) ส่วนพวกร้านกาแฟ ฟาสต์ฟู้ดในเมือง หรือร้านอาหารในโรงแรมราคาพอ ๆ กับบ้านเราไม่ต่างกันเท่าไร

          7. สำคัญที่สุดก่อนคุณคิดจะมามองโกเลีย...คุณต้องทำใจกับ "ส้วมหลุม" กับ "ไม่อาบน้ำ" ให้ได้ก่อน *หา Google เอานะส้วมมองโกเลีย...ศรีทนได้ศรีว่าดีกว่าอินเดีย (พิกัดเจาะจง : เลห์) ที่ศรีเจอมานะ...เอาจริง ๆ 555

          8. คนมองโกเลียใจดีมาก ๆ พร้อมช่วยเหลือตลอด แม้บางคนจะพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องแต่เค้าก็พยายามจะช่วยด้วยความเต็มใจมาก ๆ ส่วนตัวคิดว่าเป็นประเทศหนึ่งที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวมาก ๆ นะคะ ผู้คนเป็นมิตรและมีน้ำใจมาก

มองโกเลีย

          ❤️ Day 1 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ-ฮ่องกง ค้าง 1 คืน *ขอผ่าน* 555

          ❤️ Day 2 ออกเดินทางจากฮ่องกง บินตรงสู่นครอูลานบาตอร์ (Ulanbatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย ไฟล์ทดีเลย์พองาม เครื่อง MIAT เก่าพอทำใจได้ (บริการดี๊ดีอะ ให้บริการ 5 ดาวเต็ม) ความปลอดภัย นักบินเก๋าเกมมาก สภาพอากาศวันนั้นไม่ดีแต่พี่กัปตันทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม มืออาชีพมาก ๆ ถึงสนามบินชื่อเท่ Chinggis Khaan International Airport รถจาก Danista Nomads ก็มารับถึงสนามบิน คุณพี่คนขับพูดอังกฤษได้นิดหน่อย ก็พาเราขับเข้าเมืองมาใช้เวลาประมาณ 40 นาที (รถติดไม่เท่าไรแต่สัญญาณไฟถี่มาก 555)

มองโกเลีย

          ทำไมถึงเลือก Danista Nomads ? (danistanomadstour.com) ราคาไม่แพง ทำเลดี (ถึงจะอยู่ในซอยเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ลึกมาก) เดินไปเที่ยวรอบ ๆ เมืองไม่ยาก อยู่ใกล้ห้าง ร้านกาแฟ และโรงแรม Ramada

          *รูปห้องเอามาจากเว็บไซต์ของโรงแรมค่ะ*

มองโกเลีย

          คะแนนรีวิวใน TripAdvisor มีผลต่อการตัดสินใจมาก ที่นี่ผ่านด้วยประการทั้งปวง รวมถึงการโต้ตอบทางอีเมลกับ Mr.Jagga เจ้าของก็รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ คุยง่ายและใจดีมาก ๆๆ

          *Tips* โฮสเทลราคาห้องทวิน 20 USD ห้องเดี่ยว 10 USD รวมอาหารเช้าเบา ๆ ห้องน้ำในตัวมีน้ำอุ่น มีฮีตเตอร์ โดยรวมคุ้มราคามาก ๆ แถมทัวร์ที่จัดบริการดีมากค่ะ

          ป.ล. ไม่มีลิฟต์นะคะ ใครกระเป๋าใหญ่หรือเดินไม่ไหวแนะนำรีเควสห้องชั้นล่างได้ค่ะ

          ป.ล. 2 Wi-Fi ไม่ค่อยดี แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราเท่าไร ชอบเดินไปร้าน Cafe Benne ค่ะ Wi-Fi ดีมาก

          ❤️ Day 3 Winter Palace of Bogd Kha-Zaizan Memorial-อนุสาวรีย์เจงกิสข่านที่ใหญ่ที่สุดในโลก-Teralj National Park -Turtle Rock-Aryapala Meditation Center-ขี่ม้า อยู่เกอร์ (Ger) กับชาวโนแมดแท้ ๆ

          วันนี้เดินทางทั้งวัน !!! เราเลือกฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้กับ Hostel แล้วจัดของสำหรับค้าง 2 คืน ลงเป้หลัง รถตู้พร้อมคนขับและน้องไกด์หน้าตาจิ้มลิ้ม (หือ ?) มารับพร้อมแนะนำตัว น้องชื่ออูซี่ย์ และมีน้องฝึกงานอีก 1 คน ชื่อซิมบา ติดตามไปด้วย

          จุดแรกที่อูซี่ย์พาเราไปเยี่ยมชมก็คือ Winter Palace of the Bogd Khan ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูหนาวของ บอกด์ ข่าน (Winter Palace of Bogd Khan) กษัตริย์องค์ที่ 8 และองค์สุดท้ายของอาณาจักรมองโกเลีย และยังทรงเป็นพระประมุขของศาสนาพุทธในมองโกเลียอีกด้วย

มองโกเลีย

          พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1893-1903 บอกด์ ข่าน ประทับอยู่ที่พระราชวังแห่งนี้เป็นเวลา 20 ปี หลังจากทรงเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1924 พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เปิดให้เข้าชมเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1926

          พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับเก่าของบอกด์ ข่าน และราชินี มีการจัดแสดงห้องหับ เครื่องทรง เครื่องใช้ไม้สอย และคอลเลคชั่นสะสมของกษัตริย์ เห็นมีอยู่เพียงตึกเดียวและห้ามถ่ายรูป แต่พี่ยอมรับเลยว่ากล้องในมือมันสั่นมาก สภาพของโบราณวัตถุอยู่ในสภาพดี และมีการติดป้ายคำอธิบายไว้ชัดเจน ถึงจะดูเก่าแต่ก็มีเสน่ห์

          อีกส่วนหนึ่งคือส่วนของวัดที่อยู่ในเขตพระราชฐาน พี่ว่าวัดยังจะกว้างกว่าส่วนของวังเสียอีก มีห้องหับ อาคาร แยกย่อยเยอะแยะ แต่ละห้องแต่ละหลังก็เต็มไปด้วยโบราณวัตถุ ทั้งภาพเขียน ภาพทังกา (แบบทิเบต) รูปปั้น รูปหล่อ พระพุทธรูปนิกายมหายานแบบทิเบตที่เป็นของเก่า อายุเป็นร้อย ๆ ปีเพียบ คือถ้าใครชอบประวัติศาสตร์และของโบราณ พี่ว่าต้องมีครึ่งวันเป็นอย่างน้อย ในการเข้าชมพระราชวังฤดูหนาวแห่งนี้ พี่เองก็ปาไปหลายชั่วโมง ! จนไกด์ค้อนคว่ำแล้วคว่ำอีก 555

มองโกเลีย

มองโกเลีย

          จุดต่อไป...จุดชมวิวที่สูงที่สุดในอูลานบาตอร์ Zaizan Memorial อนุสาวรีย์ชัยสไตล์มองโกเลีย ที่รัสเซียเค้ามาสร้างไว้ให้ !!! (เอ๊ะ ??)

มองโกเลีย

          อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่บนยอดเขา Zaisan ทางตอนใต้ของอูลานบาตอร์ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของทหารโซเวียต ในสงครามโลกครั้งที่ 2 (แล้วพี่มาสร้างอะไรไว้ที่บ้านเค้าเนี่ย ?) อนุสาวรีย์ทรงกลมวงแหวนประดับภาพเขียนสีที่เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่าโซเวียตแน่ ๆ ค่ะคุณผู้ชม เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหภาพโซเวียตและมองโกเลีย เช่น ภาพของโซเวียตให้การสนับสนุนการประกาศเอกราช (จากจีน) ของมองโกเลีย ในปี ค.ศ. 1921 และการเข้ามาช่วยรบกับญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1939 (อ๋อ....เลยมาสร้างอนุสาวรีย์ให้ตัวเองที่บ้านเค้าอย่างงี้ !) *‪#‎ป๊าบ ! พี่โดนปูตินตบ*

มองโกเลีย

          บันไดทางขึ้นไม่โหดมาก แต่พี่หอบ !!! 555 ความสูงชันระดับบันไดเขาวงพระจันทร์ กับระยะ 300 กว่าขั้นจากที่จอดรถในเลเวล 2 สำหรับผู้ที่ฟิตมาก ๆ มีความเป็นนักกีฬาสูงพี่แนะนำให้เดินตั้งแต่เลเวล 1 เบ็ดเสร็จบันได 600 กว่าขั้น ชิล ๆ เพราะวิวด้านบนนี่สวยสมค่าการเดินปีนขึ้นมาหอบยิ่งนัก !! ใครชอบถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น-ตก พี่แนะนำเลย สวยมาก ๆ (ปีนเหนื่อยมาก ๆ ด้วย 555)

มองโกเลีย

          Day 3 อนุสาวรีย์เจงกิสข่านที่ใหญ่ที่สุดในโลก

          นั่งรถออกจากตัวเมืองไม่นาน ราว ๆ 1 ชั่วโมง เราก็มาถึงอนุสาวรีย์ที่ใหญ่ที่สุดของท่านเจงกิสข่าน มหาบุรุษผู้ครองโลกไปแล้วเกินครึ่ง ในปี ค.ศ. 2008 ทางการมองโกเลียได้สร้างอนุสาวรีย์เจงกิสข่าน (Genghis Khan Equestrian Statue) เพื่อรำลึกถึงความเกรียงไกรในอดีตชนชาติมองโกล บริเวณนี้มีตำนานเล่าว่าได้ค้นพบแส้ทองของอดีตข่านผู้ยิ่งใหญ่ นับเป็นอนุสาวรีย์รูปปั้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมองโกเลีย มีความสูงประมาณ 40 เมตร น้ำหนักกว่า 250 ตัน ซึ่งตัวรูปปั้นสร้างมาจากสเตนเลสที่สะท้อนแสงแสบตาสว่างสุกใสท่ามกลางความเวิ้งว้าง

มองโกเลีย

          สามารถขึ้นลิฟต์มาถึงด้านบน (ประมาณอกท่านเจงกิสข่าน) ชมวิวไกลสุดลูกหูลูกตา หรือจะมาเซลฟี่กับท่านเจงกิสข่านก็ยังได้

มองโกเลีย

          ใต้ฐานของอนุสาวรีย์เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์และมีจุดให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก มีชุดประจำชาติมองโกลแบบต่าง ๆ ให้ลองใส่ ที่สำคัญ "ฟรี" ค่ะคุณผู้ชม !

          *Tips* ให้เขาถ่ายให้ อัด พรินท์กันตรงนั้นสนนราคาก็ไม่แพง (5 USD)

มองโกเลีย

          คารวะลาท่านเจงกิสข่านแล้วเราก็นั่งรถต่อมาอีก 1 ชั่วโมง เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ Teralj แวะถ่ายภาพกับหินรูปเต่า เต่าจริง ๆ มองมุมไหนก็เป็นเต่าค่ะ 5555

มองโกเลีย

          ลาเต่าแล้วเราก็นั่งรถต่อมาอีกประมาณ 10 นาที คุณน้องไกด์อูซี่ย์พาพี่มาเดิน Trekking ขึ้นเขาเข้าวัดเบา ๆ คราวนี้ใครไม่ฟิตจริงมีหอบเล็กน้อยแน่นอนค่ะ เพราะทางเป็นทางลาดชัน แต่ระหว่างทางก็สบาย ๆ ค่ะ หอบไปอ่านคำสอนทางพระพุทธศาสนาไป

มองโกเลีย

          ถึงตีนบันไดวัดก็พอดีค่ะ ...ยังไม่บรรลุนะ แต่เหนื่อย 555 ตามด้วยบันไดอีก 108 ขั้น สวย ๆ 555

มองโกเลีย

          แนะนำเลยค่ะ เดินเหนื่อยนิด แต่วิวสวย สงบ แน่นอน รับประกันคุ้มค่าเหนื่อยแน่ ๆ อิชั้นรับประกัน !

มองโกเลีย

          เดือนเมษายนที่มองโกเลียฟ้าจะมืดก็เวลาจะ 3 ทุ่มละค่ะ เพราะฉะนั้นเรามีเวลาเที่ยวยันฟ้ามืดแน่นอน 5555 โปรแกรมสุดท้ายของวันในวันนี้ถือเป็นไฮไลท์ ซูเปอร์สุดยอดปรารถนาของการมาเยือนมองโกเลียเลยค่ะ นั่นคือการได้มาใช้ชีวิตอยู่กับชาวมองโกเลีย โนแมดส์ (ชาวเผ่าเร่ร่อน) แท้ ๆ แบบที่ไม่ใช่ปลอมแปลงมาเพื่อรับลูกค้าทัวร์

          เราออกจากหินเต่าได้ประมาณ 30 นาที คุณพี่คนขับก็จอดเลียบ ๆ เคียง ๆ ข้างทางอย่างกับว่าจะถามทางคุณพี่ที่จอดมอเตอร์ไซค์อยู่

มองโกเลีย

          เราคาดผิดค่ะ พี่คนขับไม่ได้จอดถามทาง แต่คุณพี่มอเตอร์ไซค์นี่ล่ะค่ะคือปะป๊าเจ้าของเกอร์ (แคมป์) ที่เราจะไปพักด้วยในวันนี้ ป๊ามารับค่ะ เพราะทางไปบ้านยากมาก ไปเองหลงแน่นอน 555 ขับรถตู้ 4WD ตามเข้าไปอีกประมาณ 30 นาที ผ่านป่าสน ลำธาร ทุ่งหญ้า สวยมาก สวยลืมโลก สวยไม่รู้บรรยายยังไง

          *เอารูปไปดูค่ะ*

มองโกเลีย

          สักพักก็ถึงทางลงเนินเขา...และเบื้องหน้าเกอร์ของป๊าอยู่ด้านล่างตรงหุบเขานั้น ...

มองโกเลีย

          คืนนี้เราจะพักกับป๊าและหม่าม๊าที่นี่ค่ะ !

มองโกเลีย

          เกอร์สำหรับแขกที่มาพัก ภายในมี 4 เตียงค่ะ มีที่นอน หมอน ผ้าห่ม เตาผิง (อุ่นมากแต่ต้องคอยเติมฟืน) ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มี Wi-Fi ห้องน้ำอยู่กลางทุ่งห่างจากรั้วบ้านออกไป 200 เมตร ไม่ใช่ปัญหา 555 เราพร้อมมาก !

มองโกเลีย

          น้องไกด์เตรียมถุงนอนสะอาดเอี่ยมไว้ให้เราด้วย เผื่อกลางคืนหนาว (หนาวจริง หนาวหลับตายไปเลย 555) วิวหน้าเกอร์เรา ... สวยไหม

มองโกเลีย

          นั่งพักสักครู่ ป๊าก็มาเชิญเราไปที่เกอร์เจ้าบ้าน ป๊ากับม๊าเตรียมนมอุ่น ๆ ใส่เกลือไว้ต้อนรับเราพร้อมขนมกะละมังใหญ่

มองโกเลีย

          ชวนกันคุยโดยผ่านน้องไกด์ (เสื้อแดง) พี่คนขับนั่งกลาง ส่วนป๊านั่งอยู่ขวามือสุดค่ะ ...

มองโกเลีย

          แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเม้าท์กันเองมากกว่า 555 ได้ความว่าป๊ากับม๊ามีลูกสาว 3 คน เรียนหนังสืออยู่ในเมืองหลวง ปิดเทอมถึงจะกลับมาบ้าน พวกเขาย้ายไปตามโลเคชั่นต่าง ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ที่ตรงนี้จะอยู่ช่วงฤดูหนาว เดือนเมษายนนี่เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้วก็จะฤดูร้อน แล้วก็จะย้ายไปอยู่แถว ๆ ริมแม่น้ำ ย้ายคือเอาไปหมดทั้งบ้านทั้งรถ ทั้งฝูงสัตว์ค่ะ ก็มานั่งจินตนาการว่าตอนย้ายบ้านคงสนุกดี (บอกป๊าไว้คราวหน้าจะมาช่วยย้ายบ้าน 555)

          อิ่มขนมกับชาเรียบร้อยแล้ว ป๊าและน้องอูซี่ย์ก็พาเราไปขี่ม้าเที่ยว ม้ากับชาวมองโกลเป็นของคู่กัน

มองโกเลีย

          ชาวมองโกลที่ไม่ขี่ม้าเปรียบเสมือนอินทรีที่ไม่มีปีก เด็กชาวมองโกลทุกคนขี่ม้าเป็นตั้งแต่อายุยังไม่เข้าเกณฑ์โรงเรียน !! สมกับเป็นทหารเอกเจงกิสข่านจริง ๆ ค่ะ

มองโกเลีย

          ขี่เหยาะ ๆ ไปข้างหน้า ทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา ป๊านำไปพลางร้องเพลงไปพลาง อากาศเย็นสบาย (หนาว 555) แดดอ่อน ๆ (ทุ่มหนึ่งแล้ว !!) มองขวามองซ้ายมีแต่ความเวิ้งว้าง มีแต่เสียงเพลงเบา ๆ จากป๊า เสียงคุยกันจุ๋งจิ๋งของสายลม นับเป็นช่วงเวลา 1 ชั่วโมง ที่มีความสุขมาก

มองโกเลีย

          และแล้วก็ถึงเวลาอาหารค่ำ วันนี้เจ้าบ้านและเจ้าถิ่นภูมิใจนำเสนอ "มองโกเลียนบาร์บีคิว" เป็นการปรุงอาหารแบบมองโกลแท้ ๆ โดยใช้หินเผาไฟร้อน ๆ อบแกะและผักให้สุกในกะละมังใบใหญ่ !

มองโกเลีย

          คนขับรถของเรารับหน้าที่ช่วยป๊าวางเนื้อแกะลงกะละมังอย่างพิถีพิถัน

มองโกเลีย

          น้องอูซี่ย์และน้องแว่น (ซิมบา) บอกว่ารออีก 30 นาที นะยู เดี๋ยวเสร็จแล้วไอจะไปเรียก .... น้องแว่นซิมบานี่มีประโยชน์ คือน้องทำกับข้าวเป็น และตัวฉันเองก็ไม่กินเนื้อแกะ น้องเลยผัดไก่กับซอสแดงมาให้ น้ำตาจะไหล อร่อยมากค่ะ !! (จานเล็ก ๆ นั่นไงกับข้าวพิเศษ 555)

มองโกเลีย

          อิ่มหนำสำราญใจกันแล้วป๊ากับม๊าก็ขอตัวไปพักผ่อน พวกเราที่เหลือก็เลยปลีกตัวเข้ามาที่เกอร์ของตัวเอง จัดเตรียมที่นอน รอดาวขึ้นเต็ม ๆ ฟ้า แล้วแบกอุปกรณ์กันหนาวออกไปสู้จุดเยือกแข็งด้านนอกเกอร์ ดาวสวยมาก ! ขออภัยที่ถ่ายภาพอะไรมาฝากไม่ได้เลย 5555555 หนาวเกิน !!!!! คืนนั้นนอนหลับสบายยันตี 4 ตี 5 ก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะความหนาว เตาผิงเริ่มมอด เริ่มขดตัวอยู่ในถุงนอน สักพักม๊าก็เปิดประตู ป๊าเข้ามาเติมฟืนให้ !!!! รอดตายไปค่ะคุณผู้ชม !!!!!

          ก่อนจบวันที่ 3 : ภูมิใจนำเสนอ "ห้องน้ำที่วิวสวยที่สุดในโลก"

มองโกเลีย

          ❤️ Day 4 โตบนรถ ทรหดกับพายุทราย ไปนอนเมืองหลวงเก่าคาราโครัม (Kharakhorum /Khakhoryn)


          ตื่นเต็มตาฟ้าสว่างพอดี น้อง ๆ ไกด์ทำอาหารเช้ามาเสิร์ฟเป็นขนมปัง ไข่ดาว กาแฟและแยม ออกมาถ่ายภาพยามเช้า เดินดูป๊ากับม๊าทำงานรอบ ๆ ที่พัก เล่นกับหมา ดูวัวดูม้าไปตามเรื่อง สาย ๆ ก็ได้เวลาร่ำลาเจ้าของบ้านกันค่ะ ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกก่อนจากลา โอกาสหน้าพบกันใหม่ วันนี้หนทางเรายังอีกยาวไกลกว่าจะถึง Kharakhorum

มองโกเลีย

          ระยะทางจาก Teralj National Park ถึง Kharakhorum ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง สภาพถนน 60% ศรีทนได้ เพราะวิวสองข้างทางทำเอานอนไม่หลับ (แต่ก็มีหลับ 555)

มองโกเลีย

          เราแวะกลางทาง เป็นทุ่งหญ้าสีน้ำตาลบรรดาไกด์แสนดีก็ปล่อยเราวิ่งเล่นอยู่ในทุ่ง ระหว่างที่พวกเค้าทำอาหารกลางวันให้เรากิน วันนี้มีสปาเกตตีไก่ อร่อยมากอีกเช่นเคย (ยกนิ้วให้น้องแว่นซิมบา)

มองโกเลีย

          อิ่มหนำแล้วเดินทางต่อค่ะ ตามโปรแกรมเราต้องแวะขี่อูฐที่ Sand Dune แต่โชคไม่ดีเราเจอพายุทรายโครงการขี่อูฐเลยเป็นอันพับไป

มองโกเลีย

          บึ่งเข้าที่พักเลยดีกว่า วันนี้พักเกอร์เช่นเคยค่ะ แต่เป็นเกอร์แบบทำไว้ให้นักท่องเที่ยวพัก เป็นโรงแรมในสไตล์เกอร์ว่าอย่างนั้น เกสต์เฮ้าส์ที่เราพักชื่อว่า Mönkhsuuri Guesthouse ภายในที่พักสะอาด เตียงนิ่ม ผ้าห่มหนานุ่ม มีเตาสโตฟแบบใช้น้ำมันเตาให้ความอบอุ่นได้นานกว่าเตาแบบฟืน ห้องน้ำเป็นส้วมหลุมอยู่ เพิ่มเติมคือมีห้องมิดชิดแถมมีโถนั่งด้วยนะคุณ (แต่ด้านล่างก็ยังหลุมอย่างเดิม 555)

มองโกเลีย

          ที่เด็ดสุดของเกสท์เฮ้าส์นี้ก็คือมันห่างจาก Erdene Zuu Monastery แค่ 900 เมตร เกินไปก็ยังได้ชะเง้อมองก็ยังเห็นวิวยามเย็นสวยมากกกกกก ! อธิบายไม่ถูกเอารูปไปดูค่ะ

มองโกเลีย

          คืนนี้มื้อเย็นคุณไกด์ทำผัดก๋วยเตี๋ยวมาให้กิน รสคือผัดซีอิ๊วบ้านเรา กินอิ่มนอนหลับ วันนี้มีปลั๊กให้ชาร์จแบต คือดีงาม 555

มองโกเลีย

          รถตู้ประจำตำแหน่ง 4WD ซะด้วยนะคุณ !

          ❤️ Day 5 เมืองหลวงเก่าแห่งประวัติศาสตร์ชาติมองโกล, Erdene Zuu Monastery, Great imperial map monument แวะ Selfie กับอูฐสองหนอก กลับเมืองหลวง Ulanbatar

          วันนี้ตื่นสาย ๆ อากาศดีฟ้าแจ่มมาก ๆ ค่ะ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่เลขตัวเดียวเวลากลางวัน กลางคืนก็ติดลบเลขตัวเดียวนิดหน่อย แต่ด้วยอานุภาพของเตาผิงในเกอร์ ความหนาวของมองโกเลียก็ไม่ได้โหดร้ายกับมนุษย์เมืองร้อนอย่างเรามากนัก วันนี้เป็นวันแห่งความรู้ค่ะ เมืองคาราโครัม (คนมองโกลออกเสียงว่า ฮาราโฮรุม) ปัจจุบันอยู่ในเขตเมือง Khakhoryn เป็นอดีตราชธานีของอาณาจักรมองโกลที่มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อระหว่างเอเชียและยุโรป รวมไปถึงเส้นทางสายไหมอันลือชื่อ

          วันนี้จุดแรกที่แนะนำว่าควรแวะไปเยือนก็คือพิพิธภัณฑ์ Karakorum Museum เป็นสุดยอด 1 ในพิพิธภัณฑ์ที่เคยดูมา ทั้งข้อมูล การอธิบาย หลักฐานทางประวัติศาสตร์และการจัดแสดงโบราณวัตถุ ทำได้ดีมากค่ะ ครบถ้วนและเข้าใจง่าย ใครชอบประวัติศาสตร์ชาติมองโกลห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ !

มองโกเลีย

          ได้รับความกรุณาจากศาสตราจารย์ท่านผู้บรรยายในการให้ความรู้อย่างเต็มที่ ถ้ามีโอกาสแนะนำเลยค่ะ ควรมาเยือนอย่างยิ่ง !

มองโกเลีย

          พาสปอร์ตเล่มแรก ๆ ของโลกก็ว่าได้ !! พาสปอร์ตของ Marco Polo นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่

มองโกเลีย

          ป.ล. ภายในสามารถถ่ายภาพได้โดยมีค่าธรรมเนียมนะคะ

          จากนั้นเราก็มาเยือนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองคาราโครัม Erdene Zuu Monastery ว่ากันว่าเป็นวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดที่หลงเหลืออยู่ในมองโกเลีย

มองโกเลีย

          ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1585 โดย Abtai Sain Khan ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาพุทธจากทิเบตมาเผยแพร่ในมองโกเลีย

มองโกเลีย

          เดิมเคยมีหมู่วัดรวมอยู่ถึง 100 วัด ภายในกำแพง แต่วัดส่วนใหญ่ได้ถูกคอมมิวนิสต์ทำลายลงในปี ค.ศ. 1937-1938 และยังคงเหลืออยู่เพียง 3 วัดเท่านั้น

มองโกเลีย

          สภาพโดยรอบจะเห็นซากปรักหักพังของสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่เหลืออยู่

มองโกเลีย

มองโกเลีย

          ท่านผู้นำชมภายในบริเวณรอบ ๆ วัด แน่นทั้งข้อมูลประวัติศาสตร์และข้อมูลทางศาสนา

มองโกเลีย

มองโกเลีย

          จากนั้นห่างออกไปจากวัด Erdene Zuu ราว 200 เมตร ก็มีแหล่งโบราณคดีที่กำลังจะเปิดให้เข้าชมเร็ว ๆ นี้ค่ะ....ตอนเราไปยังไม่เปิด ก็ได้แต่ชมเต่าอายุหลายร้อยปีอยู่ด้านนอก

มองโกเลีย

          Great imperial map monument

          ขับรถจาก Erdene Zuu Monastery ออกมานอกเมืองประมาณ 5 นาที เดินขึ้นเขาด้วยบันไดอีกนิดหน่อย เราก็จะพบอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2004 บนยอดเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Kharkhoryn  ตัวอนุสาวรีย์ประกอบไปด้วยกำแพงทรงกลมสามด้าน แต่ละด้านแสดงภาพอาณาเขตของอาณาจักรมองโกลอันรุ่งเรืองในอดีต 3 ยุคด้วยกัน ยุค Hunnu 300-200 ก่อนคริสตกาล, ยุค Turkic ในช่วงคริสต์ศักราช 600-800 และยุค Mongol ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13

มองโกเลีย

          ตรงส่วนกลางของอนุสาวรีย์มีกองหิน Ovoo ขนาดใหญ่ ในความเชื่อของชาวมองโกเลียเชื่อกันว่าเจ้ากองหิน Ovoo นี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาภูเขาและท้องฟ้า ส่วนใหญ่สร้างบนพื้นที่สูง เช่น ยอดเขาหรือเนินเขา มักสร้างจากหินและไม้ พบเห็นได้ทั่วไปตลอดการเดินทางในมองโกเลีย ชาวมองโกเลียเชื่อว่าสามารถขอพรได้โดยเดินวนรอบกองหิน 3 รอบ แล้วโยนหิน 3 ก้อน เข้าไปเพื่อเป็นการบูชาและขอพร บางคนก็โยนลูกอม ขนม ผลไม้ รวมถึงวอดก้าเป็นขวด ๆ ก็มีค่ะ 555

มองโกเลีย

          จุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของเมือง คุ้มค่ากับการปีนบันไดขึ้นมาชมแน่นอนค่ะ

มองโกเลีย

          เรากลับไปกินข้าวกลางวันกันที่เกสต์เฮ้าส์ วันนี้เป็นซุปไก่ฝีมือน้องแว่นซิมบา รสชาติดีทีเดียวค่ะ อิ่มหนำกันแล้วก็ได้เวลาบอกลาคาราโครัม ออกเดินทางกลับสู่เมืองอูลานบาตอร์

มองโกเลีย

          ระหว่างทางแวะถ่ายเซลฟี่กับบรรดาอูฐสองหนอก วันนี้ไม่มีพายุทรายค่ะ อากาศแจ่มใสมาก ทัวร์นี้จริง ๆ เรารวมขี่อูฐด้วย 1 ชั่วโมงค่ะ แต่เราตัดสินใจยกเลิก เพราะกลัวว่าจะกลับเข้าถึงตัวเมืองดึกเกินไป

มองโกเลีย

          เราใช้เวลาอีกประมาณ 5 ชั่วโมงนิด ๆ ก็เดินทางถึงเมืองอูลานบาตอร์ สภาพการจราจรตอนเย็นในเมืองนี่ก็น้อง ๆ สุขุมวิทเลยค่ะ กลับถึง Danista Nomads ได้เราก็หมดแรงนอนแผ่กันเลยทีเดียว !! แต่ยังค่ะ เรายังนอนไม่ได้ !!! เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ชั่วโมง ที่เราจะได้อาบน้ำ !! เย่ !! (จริง ๆ คิดว่ายังทนอยู่ได้อีกหลายวัน 555)

มองโกเลีย

          ❤️ Day 6 เดินเที่ยวเอง Gandantegchinlen Monastery-National Museum (ควรดูมาก ๆ)-Chinggis Square-ร้านกาแฟกรุบกริบ

          วันนี้เราจะพาเดินเที่ยวเอง !! ไม่ยากเลยค่ะ จากโฮสเทลที่เราพักเดินออกมาไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เท่าไร อากาศเย็น ๆ เดินพอขาตึง ๆ 555 กางแผนที่ (แนะนำเตรียมแผนที่ดี ๆ เพราะป้ายบอกทางในอูลานบาตอร์พึ่งพาไม่ได้ !!!)

มองโกเลีย

          แต่ถ้าใครอยากลองแท็กซี่ก็สามารถนะคะ แท็กซี่ที่นี่มี 2 ประเภท (เท่าที่เห็น) แบบแท็กซี่จริง ๆ กับแท็กซี่สมัครเล่น (คือไม่ใช่แท็กซี่แต่อยากหารายได้พิเศษ 555 ราวกับว่ารถทุกคันบนถนนในอูลานบาตอร์สามารถเรียกเป็นแท็กซี่ได้ !) สนนราคาตกลงกันให้ดีก่อนกระโดดขึ้นรถนะคะ ส่วนตัวไม่ได้ลองค่ะ แต่แท็กซี่สมัครเล่นจอดกวักมือเรียกกันเกรียวตลอดทาง (หน้าตาดูหลงสุดฤทธิ์)

มองโกเลีย

          วันนี้ตามกำลังขาจะเดินไหวของเรา เราไปได้ 3 ที่ค่ะ เริ่มด้วย

          1. วัด Gandantegchinlen Monastery

          หนึ่งในวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดของมองโกเลีย ค่าเข้าประมาณ 2 USD (4,000 Tugrik) เป็นวัดที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีกิจกรรมทางพุทธศาสนาหลายอย่างน่าสนใจ ขนาดเราไปแต่เช้ามากแล้วยังพบว่าไปเช้าไม่เท่าชาวมองโกเลียค่ะ ที่วัดวันนั้นคลาคล่ำไปด้วยพุทธศาสนิกชนมาทำบุญกันเพียบ

มองโกเลีย

          พิธีกรรมบางอย่างก็คล้ายบ้านเรามาก เช่น การจุดตะเกียง การถวายน้ำมันตะเกียง มีพิธีคล้าย ๆ สะเดาะเคราะห์แบบคลุมผ้า (น่าจะคุ้นเคยกันดี เช่น พิธีถวายผ้าห่มหลวงพ่อโต ที่วัดพนัญเชิง) กิจกรรมทางศาสนาเยอะเสียจนเชื่อว่านี่เป็นวัดศูนย์รวมใจของชาวมองโกเลียก็ว่าได้ค่ะ

มองโกเลีย

          ศาสนาพุทธในมองโกเลียเป็นแบบนิกายมหายาน หมวกเหลือง มีต้นกำเนิดมาจากทิเบต เราจึงเห็นลามะชุดเหลืองชุดแดงเดินกันขวักไขว่ มีพระลามะจำพรรษาที่วัดนี้ราว 150 รูป

มองโกเลีย

          ภายในวิหารใหญ่ยังมีพระพุทธรูปยืน (ในร่ม) สูงที่สุดในโลก เป็นพระพุทธรูปของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ สูง 26.5เมตร บูรณะสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1996

มองโกเลีย

          *Tips* ภายในวิหารถ่ายภาพเสียค่าธรรมเนียม 5 USD ค่ะ

          2. National Museum of Mongolia

          พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมองโกเลีย หากคุณชื่นชอบในประวัติศาสตร์ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ ! ค่าเข้า 5,000 Tugrik (2.5 USD)

มองโกเลีย

          มีนิทรรศการจัดแสดงตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ไดโนเสาร์ตัวแรกของโลกในมองโกเลีย ไปจนถึงยุคเรืองรองของเจงกิสข่าน จักรพรรดิผู้ครองโลก ไปจนถึงการเข้ายึดครองของจีนและรัสเซีย จวบจนสมัยปัจจุบัน คือตั้งแต่ 0-100 ประวัติศาสตร์มองโกเลียถูกรวบรวมไว้ที่นี่ ยอมรับเลยว่าการจัดแสดง ข้อมูล เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการนำเสนอระดับโลกมาก ๆ เดินอยู่ครึ่งวันยังรู้สึกว่าเวลาน้อยไปจริง ๆ 555

          ส่วนตัวชอบส่วนจัดแสดงเสื้อผ้าของชาวมองโกลเผ่าต่าง ๆ จากยุคต่าง ๆ มากค่ะ (เสียดาย/ไม่ได้ถ่ายภาพข้างในมา จำได้ว่าถ่ายได้นะคะ แต่ต้องมีค่าธรรมเนียม)

          3. Sukhbaatar หรือ Chingghis Khan Square

          "สนามหลวง"  ของอูลานบาตอร์ ! ยามเย็นจะพบเห็นชาวมองโกเลียมาแฮงก์เอาท์กันที่นี่ค่ะ

มองโกเลีย

          ทั้งวัยรุ่นวัยผู้ใหญ่ เด็กเล็กเด็กน้อย มาสังสรรค์เฮฮากัน มีกิจกรรมรอบ ๆ จัตุรัสน่าสนใจอยู่หลายอย่าง ทั้งจักรยาน สเกตบอร์ด โรลเลอร์เบลด รวมไปถึงหนุ่มน้อยสาวน้อยขับรถเบนซ์หลากหลายรุ่นหลากหลายสีดูเป็นที่สนุกสนาน !
มองโกเลีย

          ...แต่จะให้ป้าไปเล่นกับหนูนั้น ... คงจะไม่ได้ 5555

          เดินเหนื่อยแล้วอูลานบาตอร์ก็ยังมีเซอร์ไพรส์มาให้อยู่ไม่ขาดค่ะ ร้านกาแฟสัญชาติเกาหลีอย่าง Caffe Bene\' / CODE หรือแม้กระทั่ง Coffee Beans ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไปในเมืองหลวง สนนราคาพอ ๆ กับบ้านเราค่ะ ส่วนตัวชอบร้าน CODE มาก ได้ไปใช้บริการสาขาหนึ่งที่เดินผ่านก่อนถึง National Museum พูดเลยบรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ยุโรปยังไงยังงั้น ที่สำคัญ Wi-Fi ฟรีและดีมาก ๆ !!!

มองโกเลีย

          ------------------------------------------

          ❤️ Day 7 วันเดินทางกลับ (แวะเที่ยวฮ่องกง) ถึงกรุงเทพฯ วันที่ 8

          จบทริป 1 ในความทรงจำ Trip of a Lifetime จริง ๆ ค่ะ ได้แต่หวังไว้ว่าจะได้มีโอกาสกลับมาเยือนอีกครั้ง ครั้งหน้าตั้งใจจะไปให้ถึงทะเลทรายโกบีและทะเลสาบไบข่าน ขอเวลาทำงานเก็บงบสักแป๊บ ไว้พบกันใหม่นะ "มองโกเลีย"

มองโกเลีย

          ฝากเพจนิด ติดตามกันได้ค่ะ : เฟซบุ๊ก ww4travel

          หรือถ้าใครชอบดูรูปเชิญที่อินสตาแกรมได้นะคะ @nickywwork4travel

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ babyblink111 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก ww4travel


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลัดฟ้าเที่ยวมองโกเลีย 7 วัน สนุกสุดมันส์ใครไม่ไปไม่มีทางรู้ อัปเดตล่าสุด 9 สิงหาคม 2564 เวลา 13:28:04 43,724 อ่าน
TOP
x close