เที่ยวไอซ์แลนด์ ดินแดนสวรรค์ที่มีที่เที่ยวสวยงามอลังการมากมาย ทั้งน้ำตกสุดยิ่งใหญ่ ธารน้ำแข็งขนาดมหึมา และธรรมชาติที่งดงามอื่น ๆ อีกมากมาย วางแผนไปเที่ยวไอซ์แลนด์มาดูที่เที่ยวไอซ์แลนด์ทางนี้เลย
1. The Great Geysir
น้ำพุร้อนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยววงแหวนทองคำ (Golden Circle Tour) ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสุดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไอซ์แลนด์ ด้วยความที่ไอซ์แลนด์เป็นดินแดนแห่งภูเขาไฟเป็นทุนเดิม จึงทำให้มีภูมิทัศน์ที่งดงามมาก ๆ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสุดอัศจรรย์มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ The Great Geysir ที่น้ำพุร้อนจะพวยพุ่งจากพื้นขึ้นสู่ฟ้าสูงถึง 30 เมตรเลยทีเดียว เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ได้อย่างน่าทึ่งสุด ๆ
2. Gullfoss
ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของไอซ์แลนด์ ชื่อของน้ำตก Gullfoss ต้องติดอยู่ในลำดับต้น ๆ แน่นอน เพราะที่นี่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามไม่แพ้น้ำตกไนแองการา บริเวณรอยต่อของประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกาเลยล่ะ น้ำตก Gullfoss ตั้งอยู่บนเส้นทางท่องเที่ยววงแหวนทองคำ อยู่ในแม่น้ำ Hvita ที่ไหลมาจากธารน้ำแข็ง Langjokull ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เกิดจากระดับแผ่นดินในแม่น้ำลดต่ำลงเป็นชั้น ๆ ขนาดกว้างใหญ่ มีความลึกประมาณ 32 เมตร เมื่อมวลน้ำมหาศาลในแม่น้ำไหลผ่านช่วงนี้ จึงกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามจับตาสุด ๆ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกด้วย เพราะในช่วงก่อนศตวรรษที่ 20 บริษัทต่างชาติจะซื้อน้ำตกแห่งนี้จากชาวบ้านเพื่อสร้างเป็นที่ผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะทำลายความสวยงามของน้ำตก Gullfoss แต่ Sigriour Tomasdottir หญิงแกร่งที่เติบโตมากับน้ำตกแห่งนี้ ได้คัดค้านและต่อสู้จนกระทั่งไม่มีการสร้างสิ่งดังกล่าว และน้ำตก Gullfoss ก็ได้กลายมาเป็นสมบัติของประเทศไอซ์แลนด์ในที่สุด
3. Blue Lagoon
หลังจากที่ National Geographic ได้ยกให้บลูลากูน (Blue Lagoon) เป็น 1 ใน 25 สถานที่สุดอัศจรรย์ของโลก ที่นี่ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสาย ด้วยบลูลากูนเป็นบ่อน้ำแร่ที่มีน้ำสีฟ้าใสสวยงาม อันเกิดจากเกลือแร่ (Minerals), แร่ซิลิกา (Silica) และสาหร่าย (Algae) โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนคึกคักมาก ๆ แม้ว่าอากาศโดยรอบจะติดลบก็ตาม แต่การที่พวกเขาได้นอนแช่ในน้ำแร่ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ย 50 องศาเซลเซียสนั้น ทำให้พวกเขาผ่อนคลายและสดชื่นแบบสุด ๆ เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสวรรค์ที่คนทั่วโลกต่างต้องการมาสัมผัสเลยทีเดียว
ภาพจาก Robert Hoetink / shutterstock.com
4. Hallgrimskirkja Church
ตั้งอยู่ในเมืองเรคยาวิก (Reykjavik) ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสวยงามแห่งหนึ่งของโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของประเทศไอซ์แลนด์ โบสถ์แห่งนี้ออกแบบโดย Guojon Samuel เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1937 โดยเขาได้รับแรงบัลดาลใจมาจากรูปร่างของหินบะซอลต์ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ลาวานั้นเย็นตัวแล้ว มีหอคอยสูงประมาณ 73 เมตร ซึ่งด้านบนยังสามารถชมวิวเรคยาวิกแบบกว้างไกลได้อีกด้วย นอกจากตัวอาคารจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ภายในโบสถ์ยังมีการตกแต่งอย่างเรียบหรู ให้ความรู้สึกที่เงียบสงบและผ่อนคลาย
5. Kirkjufell
ภูเขาทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ (West Iceland) เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์อีกหนึ่งสิ่งของประเทศไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ ซึ่งช่างภาพมืออาชีพจากทั่วโลกที่มาเยือนไอซ์แลนด์ต่างก็ต้องมาแชะภาพของที่นี่กลับไปเป็นที่ระลึก ภูเขา Kirkjufell มีความสูงประมาณ 463 เมตร ล้อมรอบไปด้วยวิวทิวทัศน์สุดอัศจรรย์ทั้งหาดทรายชายทะเล และน้ำตก ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่จะมองเห็นภูเขา Kirkjufell ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงออโรร่าเป็นฉากอยู่เบื้องหลัง
6. Skogafoss
อีกน้ำตกที่มีความงดงามอลังการมาก ๆ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะไอซ์แลนด์ บนเส้นทาง Southern Ring Road ห่างจากชายฝั่งทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์เพียงแค่ไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น น้ำตกแห่งนี้มีความกว้างถึง 25 เมตร และสายน้ำจากหน้าผาจนถึงพื้นดินสูงประมาณ 60 เมตรเลยทีเดียว เมื่อเข้าไปยืนใกล้ ๆ เราจะกลายเป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ ทันที มวลน้ำมหาศาลจะไหลลงสู่พื้นด้านล่างซึ่งเป็นทรายภูเขาไฟสีดำ รอบด้านจะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวและดอกไม้ป่าสีสันสดใส บางวันมีสายรุ้งทอดผ่านน้ำตกอย่างงดงาม ในช่วงหน้าหนาวบริเวณโดยรอบน้ำตกจะเต็มไปด้วยหิมะ น้ำตกบางส่วนกลายเป็นน้ำแข็ง มีสายน้ำบาง ๆ ไหลผ่านลงมาจากหน้าผาสูงชัน เป็นความสวยงามอีกรูปแบบที่ต้องไปสัมผัสกันสักครั้ง
ภาพจาก ronnybas / shutterstock.com
7. Seljalandsfoss
เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ภายในฟาร์ม Seljaland บนเส้นทาง Southern Ring Road ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะทั้งยิ่งใหญ่และมีบรรยากาศโดยรอบที่น่าประทับใจสุด ๆ น้ำมากมายจะไหลผ่านหน้าผาสูงกว่า 60 เมตร ลงสู่พื้นด้านล่างอย่างสม่ำเสมอ มีทางเดินเล็ก ๆ ให้นักท่องเที่ยวเดินลัดเลาะเข้าไปที่หลังน้ำตก ซึ่งจะเห็นวิวของสายน้ำที่ไหลลงมากระทบพื้น พร้อมกับมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สีเขียวอยู่เบื้องหลัง เป็นภาพที่งดงามจนกลายไปเป็นภาพวอลเปเปอร์และอยู่บนปฏิทินหลายฉบับ
8. Jokulsarlon Glacier Lagoon
ทะเลสาบธารน้ำแข็ง Jokulsarlon เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางห้ามพลาดของประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ ภายในอุทยานแห่งชาติ Vatnajokull ซึ่งเป็นอุทยานธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ห่างจากเมืองเรคยาวิกประมาณ 370 กิโลเมตร ความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้อยู่ที่มีก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาที่หักออกจากธารน้ำแข็ง Breioamerkurjokull ลอยอยู่กลางทะเลสาบมากมาย ซึ่งทะเลสาบไม่ได้กว้างมาก แต่ลึกมากถึง 250 เมตร และยังมีหาดทรายสีดำที่เต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งอันงดงามอีกด้วย ซึ่งหากนักท่องเที่ยวต้องการที่จะเที่ยวชมทะเลสาบแห่งนี้ให้ทั่วถึง สามารถที่จะใช้บริการทัวร์นั่งเรือชมทะเลสาบและธารน้ำแข็งได้เช่นกัน
9. Hvitserkur
หินรูปทรงสวยงามแปลกตา บริเวณชายฝั่งทางด้านตะวันออกของคาบสมุทร Vatnsnes ทางตอนเหนือ (North Iceland) ของเกาะไอซ์แลนด์ โดยหินก้อนนี้มีรูปร่างคล้ายกับช้างสีดำ เป็นหินบะซอลต์สูงประมาณ 15 เมตร บริเวณชายหาดยังเป็นทรายสีดำ มีทิวทัศน์ด้านหลังเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ซึ่งตัดกันอย่างเด่นชัด เป็นจุดถ่ายภาพสำคัญที่ต้องมาเซลฟี่กันให้ได้
10. Black Sand Beach
หาดทรายสีดำอันเลื่องชื่อของไอซ์แลนด์ หรือเรียกอีกชื่อว่า Reynisfjara ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Vik เขต Myrdalur ทางตอนใต้ของเกาะ เป็นหาดทรายยาวจากหินภูเขาไฟ จึงมีสีดำสนิท บรรยากาศเงียบสงบ วิวทิวทัศน์สวยงาม โดยบริเวณหนึ่งที่เป็นแนวหน้าผาหินจะเห็นหินมีรูปร่างคล้ายกับแท่งหินห้าเหลี่ยมหกเหลี่ยมเรียงตัวลดหลั่นกันลงมาตามชายหาด ซึ่งเกิดจากการที่ลาวาอันร้อนระอุไหลมากระทบกับน้ำทะเลจนเย็นตัวลงนั่นเอง นอกจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติแล้ว เราก็ยังจะได้พบเห็นกับเจ้านกพัฟฟินสุดน่ารักมากมายในบริเวณนี้อีกด้วย
มาถึงดินแดนแห่งน้ำแข็งอย่างไอซ์แลนด์แล้วจะพลาดการเข้าชมถ้ำน้ำแข็งไปได้อย่างไร
ซึ่งถ้ำน้ำแข็งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์จะอยู่ที่บริเวณ
Jokulsarlon Glacier Lagoon ภายในธารน้ำแข็ง Vatnajokull
เป็นถ้ำน้ำแข็งที่มีความสวยงามมาก ๆ บริเวณด้านในมีลักษณะเป็นฟองอากาศ
เมื่อถูกแสงแดดส่องจะกลายเป็นสีฟ้าใสราวกับคริสตัล จึงเป็นที่มาของชื่อ Crystal Ice Cave
12. Snaefellsjokull Glacier ไอซ์แลนด์มีธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีธารน้ำแข็งที่สวยงามหลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ ธารน้ำแข็ง Snaefellsjokull ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของไอซ์แลนด์
นักท่องเที่ยวนิยมที่จะเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
เพื่อขึ้นไปชมความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งแห่งนี้ ซึ่งมีระยะทางมากกว่า 100
กิโลเมตร ในวันที่ท้องฟ้าสดใส
จะสามารถมองเห็นไปจนถึงฝั่งของกรีนแลนด์เลยทีเดียว
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ของไอซ์แลนด์เท่านั้น
เชื่อเถอะว่าถ้าคุณได้ลองไปสัมผัสดินแดนแห่งนี้สักครั้ง
คุณจะหลงรักและไม่อยากให้ถึงวันกลับบ้านเลยเชียว :)ขอบคุณข้อมูลจาก
icelandtravel.is, visiticeland.com, gullfoss.is, bluelagoon.com, en.hallgrimskirkja.is, visitreykjavik.is, west.is, south.is, guidetoiceland.is, visiticeland.com, seljalandsfoss.com, icelagoon.is, vatnajokulsthjodgardur.is, vatnajokull.com, northiceland.is, guidetoiceland.is, glacierguides.is และ adventures.com