"ภาคเหนือ" ไม่ได้มีแค่เพียงจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น แต่ยังมีจังหวัดอื่น ๆ ที่น่าเที่ยวไม่แพ้กัน ลองขยับลงมาเที่ยวทาง "จังหวัดพะเยา" หรือ "จังหวัดน่าน" ก็จะได้บรรยากาศของธรรมชาติที่ฟินเว่อร์เช่นกัน ซึ่งนอกจากธรรมชาติของป่าเขาที่เขียวขจี อุดมสมบูรณ์ชุ่มฉ่ำ อากาศเย็นสบายสดชื่นแล้ว ทั้ง 2 จังหวัดนี้ยังมีอะไรที่น่าเที่ยวอีกมากมาย และ คุณ Library my Life สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ได้มาแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางของเธอ เมื่อครั้งที่เยือนพะเยาและน่าน ซึ่งเรื่องราวของเธอยังบ่งบอกอีกว่าการเดินทางคนเดียวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ซึ่งเธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นจากบันทึกการเดินทางครั้งนี้ เรื่องราวจะน่าติดตามและทั้ง 2 จังหวัดนี้จะสวยงามแค่ไหน ตามไปชมกันเลยค่ะ
ลุยเดี่ยวเที่ยว พะเยา-น่าน แบบใส ๆ วัยไหน ๆ ก็ชอบบบบ
สวัสดีเพื่อน ๆๆๆ ในพันทิปทุกคน แหม...จั่วชื่อกระทู้มาบางคนคงนึกว่านี่มาตามหาเต้าหมิงซื่อคู่แข่งซันไช่ในรักใสใสหัวใจสี่ดวงหรือเปล่า ?? 555555 แต่ปะปะเปล่านะ เราจะมาเล่าประสบประการณ์ลุยเดี่ยวเที่ยวพะเยา-น่าน ทั้งหมด 4 วัน และนี่ก็เป็นการรีวิวครั้งแรกของเราด้วย ตอนช่วงที่เราไปคือช่วงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นวันหยุดยาว (คือดองไว้นานมาก 55555) แต่คือเราเห็นบรรยากาศตอนนี้ช่วงจะปลายฝน จะต้นหนาว ซึ่งมันเหมาะกับการเที่ยวอะไรแบบกรีน ๆๆ เป็นที่สุด เราเลยอยากแบ่งปันความสวยของธรรมชาติในสายตาเรา ถ่ายทอดออกมาจากเลนส์กล้องให้เพื่อน ๆ ได้ชมกัน
เรื่องการเดินทางของเราส่วนใหญ่เน้นรถโดยสาร จั๊ก (จักรยาน) และก็เดิน เนื่องจากเราขับรถยนต์ไม่เป็น มอเตอร์ไซค์ก็ไม่แข็ง TT ส่วนใครอยากหลบหนีความวุ่นวาย และใครอยากลองเที่ยวคนเดียวบ้าง เชื่อเราสิทริปนี้คือคำตอบบบบบบบ ยังไงก็ลองติดตามรับชมกันดูนะ เป็นกำลังใจให้เราด้วย แฮร่
มีปุ่มโหวตด้วย เหมือนรายการเดอะวอยซ์เลย 55555 ขอโค้ชโหวตให้เราด้วยนะ ขอบคุณค่ะ
**ใครอยากดูสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของเราดูได้ที่นี่นะ INSTAGRAM : wawowwy
ก่อนการเดินทางครั้งนี้เราต้องบอกเลยว่าเราเป็นพวกประเภทชีพจรลงเท้าขั้นหนักมากกกกก คือเสาร์-อาทิตย์มีโอกาสไปแจมกับใครเขาเราก็ไป ไปคนเดียว ไปจอยกับคนอื่นเราก็สู้ แต่อยู่ดี ๆ เกิดเหตุการณ์ดาร์กกกกกกของชีวิตขึ้น....คงเดาไม่ยาก อาการประมาณหวิว ๆ เหม่อ ๆ เซ็ง ๆ เฮ้ยเดี๋ยว ๆ นี่ติดยาเหรออาการแบบนี้ โอ๊ยจะบ้าเหรอ ฉันอกหักเฟร้ยยยย TT ความรู้สึกดาร์กครั้งนั้นมันทำให้เรารู้สึกไม่อยากออกเดินทางไปไหนเลย อยากอยู่เฉย ๆ ร่วมสองเดือน จนมีประโยคจากเพื่อนสนิทประโยคหนึ่งว่า "เฮ้ยยยย มุงจะมาเพ้อโอดครวญแบบนี้ไม่ได้นะ ชีวิตต้องเดินต่อสิวะ..." เราก็แบบ...เออใช่ !!! ชีวิตต้องเดินต่อสิวะ…!!! มันก็เลยทำให้เรากลับมาเป็นสาวบางแคชีพจรลงเท้าคนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือไขมันอีกครั้ง 5555
หลายคนเริ่มสงสัย นี้มันกระทู้ชวนเที่ยวหรือชวนดราม่ากันแน่ 5555 เออน่าก็ขอเกริ่นบ้างอะไรบ้างเนอะ :& หลังจากเริ่มฟื้นตัวจากอาการดาร์กชีวิตได้นั้น เราก็มานั่งคิด….หยุดยาวตั้ง 4 วัน ไปไหนดีที่คนน้อย ไม่วุ่นวาย ไปเรื่อย ๆ เดินทางง่าย ๆ และอะไรไม่รู้ดลใจมาว่า...น่านไง ไม่ได้ชี้อะไรนะ เราหมายถึงจังหวัด "น่าน" ไง เราก็เริ่มหาข้อมูลนิด ๆ หน่อย ๆ เลยได้ข้อสรุปว่าเราจะไป "พะเยา-น่าน" ในวันหยุดยาว 4 วัน
เราว่าสองจังหวัดนี้เที่ยวง่าย เดินทางสะดวก เหมาะสำหรับสาว ๆ (หนุ่ม ๆ) ในการเริ่มต้นการท่องเที่ยวคนเดียวนะ :& เกริ่นมานานแล้วเรามาเริ่มเก็บความทรงจำดี ๆ แบบ Special journeys กันดีกว่า แล้วจะรู้ว่า "เที่ยวคนเดียวมันเวรี่ง่ายมากกกกกกกกก (กอไก่ล้านตัว)"
ทริปคร่าว ๆ ของเรา
เชียงคำ (พะเยา) - ภูลังกา (พะเยา) - ปัว (น่าน) - เวียงสา (น่าน) - ดอยเสมอดาว (น่าน) - ตัวเมือง (น่าน)
บางชื่ออาจแปลก ๆ แต่รับรองบรรยากาศเด็ด ฟิน ชิค คูล จ๊าบ เจ๋ง สุโค่ยแน่ ๆๆ
ป.ล. หากกระทู้ใช้คำไม่เหมาะสม หรือศัพท์วัยรุ่นมากเกินไปขออภัยไว้ ณ บัดนาวด้วยนะ :& คำเตือน เช็กเน็ตแรง ๆ เพราะกระทู้นี้รูปเยอออออออออออออะมาก 5555555
Special No : 1 เริ่มต้นการเดินทาง
โอเคเริ่ม !!! เราเดินทางคนเดียวแบบใส ๆ พร้อมหัวใจที่กลับมาเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม (มั้ง) เราเลือกเดินทางด้วยรถทัวร์ของสมบัติทัวร์ สายกรุงเทพฯ-เชียงของ (ต้องขึ้นที่วิภาวดี) เราจองผ่านคอลเซ็นเตอร์ของสมบัติทัวร์ เค้าจะแจ้งเลขมาและก็พรินท์ใบสำหรับธนาคารที่เราจะไปจ่าย เราก็สามารถจ่ายที่ธนาคารได้เลย
เนื่องจากที่ทำงานเราไม่ไกลจากวิภาวดีเท่าไร เราเลยเก็บของมาจากบ้านเลย พอเลิกงานปุ๊บ เย่ ๆๆๆ เตรียมตัวออนเดอะเวย์ เรารีบขึ้น BTS ลงหมอชิต ภาพที่เห็นคือรถติดมากกกกกกกกก เราเห็นพี่วิน (มอเตอร์ไซค์) เลยรีบโบก ถามพี่เขาไปสมบัติทัวร์ (วิภาวดี) คิดเท่าไร ?? พี่เขาคิด 60 บาท เราต่อเหลือ 50 บาท ก็ไม่ให้ เสียใจจัง 5555
ใช้เวลาไม่นานเพียง 10 กว่านาทีก็มาถึงสมบัติทัวร์วิภาวดี เหลือเวลาตั้งเยอะ รองท้องกันหน่อย จัดอาหารญี่ปุ่นไป 1 ถ้วย (มาม่า) ขนมจีบปู 4 ลูก คือต้องรีบกิน ถ้าเกิดปวด...จะได้รีบปล่อยก่อนขึ้นรถ 55555
คนหนาแน่นมากกกกกกกกกก
รอไม่นานสักพักรถทัวร์ก็มา ตอนแรกคิดว่าจะเลท แต่ไม่เลยเวลาตรงเป๊ะ (คือโชคดีมาก ๆ ที่ได้ขึ้นที่วิภาวดี เพราะพี่เราบอกว่าหมอชิตกว่าจะออกมาได้ เล่นเอาเป็นชั่วโมง) คืนนี้นอนบนรถทัวร์นะ ยาวไป ๆๆ Zzzzzzz Zzzzzzzzz Zzzzzzzzzzz
Special No : 2 ถึงพะเยาแล้ว เช้านี้ที่เชียงคำ
ถึงเชียงคำประมาณหกโมงเช้าได้ เราตั้งสติเล็กน้อยเพราะเพิ่งตื่น เข้าห้องน้ำจัดการตัวเอง ล้างหน้าแปรงฟัน เอ้าพร้อมมมลุย !!! คือรถที่จะไปภูลังกามาที่ขนส่งเชียงคำประมาณ 11 โมง เราก้มมองดูนาฬิกานี่มันเพิ่งจะ 6 โมงเช้าเองเหรอ...เราเลยสะพายเป้และเดินออกมาเรื่อย ๆ รู้ว่าที่นี่มีวัดแต่ไม่รู้ชื่อว่าวัดอะไร เราเลยถามทางคนแถวนั้นไปเรื่อย เค้าก็แนะนำให้มา "วัดนันตาราม" เดินจากขนส่งประมาณ 2 กิโลเมตรได้มั้ง เรื่อย ๆ ร้อนดี
เมืองเขาสงบดีเนอะ
ถึงแล้ว...วัดนันตาราม
ขอมุ้งมิ้งหน่อย
พอไหว้เสร็จชักหิว เลยถามคนแถวนั้นว่าอะไรเด็ด ๆ อร่อย ๆ เค้าแนะนำมาว่าร้านก๋วยเตี๋ยวเดินไปอีก 200 เมตร อร่อยนะไอ้หนู ...จัดไปสิรออะไร
เพื่อน ๆ เคยมีกลิ่นก๋วยเตี๋ยวในดวงใจกันปะ คือเราชอบก๋วยเตี๋ยวแบบหอม ๆ อารมณ์แบบกลิ่นก๋วยเตี๋ยวริมคลองอะ คือได้กลิ่นทีไรน้ำลายยายไหลย้อยทุกที หลายคนสงสัยก๋วยเตี๋ยวริมคลองกลิ่นเป็นยังไง 5555 คือเราไม่รู้อะ แต่เราได้กลิ่นและรู้สึกถึงความมีอัตลักษณ์ในตัวก๋วยเตี๋ยวมาก ฮ่า ๆ
หลังจากนั้นเลยออกมาเดินเล่น ตอนเดินก็คิดในใจ แหมถ้ามีเสื้อยีนส์คลุมสักตัวคงจะชิคกาปู้น่าดู 555555 เดินไปเดินมาเจอร้านขายเสื้อยีนส์เฉย เฮ้ยรู้ใจอะ เลยถอยมาหนึ่งตัว ทีแรกก็จะไม่ใส่เลยหรอก แต่พี่คนขายยุให้ใส่เลย เขาบอกใส่แล้วสวย (อันหลังมโนเองแรงมาก 555555) ใส่เลยก็ได้ แชะอวดลงโซเชียลสักหน่อย
เหลือเวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง กว่ารถเชียงราย-น่าน จะมาเราก็ขี้เกียจเดินแล้ว เลยหาร้านกาแฟนั่งชิล ๆ กินกาแฟไม่เป็น เลยจัดไปชาเย็นแก้วหนึ่ง
11 โมงนิด ๆ รถเชียงราย-น่าน ก็มาถึง แต่...รถเต็ม !!!! คือมีสายนี้สายเดียวที่ผ่านภูลังกาด้วย ทำยังไงเนี่ย TT
พี่คนขับเลยบอกงั้นไปคันนี้แทนนะหนู (ประจำสายนี้ไม่ผ่านนะ)
แต่นั่งตรงนี้โอเคไหม (พร้อมชี้ไปที่นั่งพิเศษ) ดีกว่าตกรถ นั่งมันตรงบันไดนี่ล่ะ...ตอนถึงรีสอร์ทเราบอกพี่เจ้าของว่านั่งรถเชียงราย-เชียงคำ มา เพราะเชียงราย-น่าน รถเต็ม พี่เจ้าของบอกรถสายนี้ไม่วิ่งผ่านทางนี้นะ สงสัยคนจะเยอะจริง ๆ เพื่อน ๆ อย่าเผลอไปขึ้นผิดล่ะ เราฟลุคเอง 555555
ก่อนขึ้นรถมีผู้หญิงคนหนึ่งทักเรามาว่า
นิวแก๊ง 1 : เธอ ๆ ไปภูลังกาเหมือนกันเหรอ
เรา : ใช่ ๆๆๆ เธอมาคนเดียวเหรอ
นิวแก๊ง 1 : ใช่ ๆ เรามาคนเดียว
เฮ้ยยยยยย เราได้เพื่อนร่วมทริปแล้ว นั่งมันด้วยกันตรงบันไดนี่แหละ คุยกันตลอดทางเหมือนรู้จักกันมาเป็นแรมปี (เขาชอบดนตรี เราก็ชอบดนตรี เนื้อเรื่องเลยมีแต่ดนตรี 5555)
ชิล ๆ
ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ๆ ถึงแล้วภูลังการีสอร์ท
หลังจากเก็บเสื้อผ้าเสร็จเลยออกมาเดินเล่น เจอผู้ชายคนหนึ่งนั่งกินข้าวคนเดียว เลยยิ้มทักทาย และคือพี่เขาก็มาคนเดียวเหมือนกัน 5555 สรุปเราสามคนต่างมาคนเดียว เลยคุยกันว่าเดินลงเขาไปถ่ายรูปเล่นกันดี เจอรถก็โบกไปเรื่อย ๆ ดีกว่า และระหว่างกำลังหารถลง มีคนขับรถออกมาจากภูลังการีสอร์ท และถามว่าจะไปไหนกันเหรอ เราบอกเขาไปว่าไม่รู้พี่ไปเรื่อย ๆ 555 พี่เขาเลยถามว่าไปด้วยกันไหม (พี่เขามาคนเดียว) ไปสิรออะไร รีบเลย สรุปนิวแก๊งเรามี 4 คน สำหรับทริปภูลังกา และต่างคนต่างมาคนเดียว และคือห้องที่เรานอนติดกันด้วย ชักสนุกแล้วสิ 55555
พี่เขาบอกเพื่อนส่งรูปหนึ่งมาให้ดู และบอกตามหาวิวนี้ให้หน่อย....คือในรูปที่เราเห็นเป็นภูเขา ออกแนว ภูเขาไฟฟูจิ (มโนหนักมาก) เรากับเพื่อนเลยมองหาวิวระหว่างพี่เขาขับ
มองซ้าย
มองขวา
สักพักหันหลัง
ก็...เฮ้ยย ๆๆๆๆๆๆ พี่จอด ๆๆๆๆ นี่ไง ๆๆๆ ใช่เลย ๆๆ ฟูจิพะเยา จอด ๆๆ พี่ถ่ายกับฟูจิพะเยาหน่อย คือตื่นเต้นมากกกกกกกก
แชะ
(เหมือนฟูจิไหม หรือเรามโนแรงไป 55555)
เรามารู้ที่หลังว่าตรงนี้เป็นเขตจังหวัดน่านแล้ว แต่คือเรากับเพื่อนก็ยังเรียกกันอยู่ว่า "ฟูจิพะเยา" อย่างว่าเนอะคนเรามักจะจำได้ดีกับความรู้สึกแรกเสมอ ... (ไม่เอาไม่ดราม่า T__T)
บอกแล้วว่าไม่มีที่หมาย เลยขับรถต่อไปเรื่อย ๆ ก็เจอจุดชมวิวอีกที่หนึ่ง คือวันนี้อาการแปลก ๆ นิดหนึ่ง 5 นาที ฝนตก 5 นาที แดดออก 5 นาที หมอกลง เป็นแบบนี้จริง ๆ สงสัยฟ้าฝนประจำเดือนจะมา อากาศแปรปรวนจังปรับสภาพร่างกายไม่ถูกเลย เดี๋ยว ๆ นี่มันประเทศไทย ทำอย่างกับอยู่สวิตเซอร์แลนด์ 5555555
ทางขึ้น
วิวถนน
พี่เขาบอกอยากไป "วนอุทยานภูลังกา" ขับไปไกลอยู่เหมือนกัน แต่เรามาช่วงไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว ต้นไม้เลยปล่อยรก มองไม่ค่อยเห็นอะไร
เราเดินทางด้วยรถคันนี้กัน ขึ้นเนินทีกลั้นหายใจทั้งคัน (คือคิดว่าการกลั้นหายใจทำให้น้ำหนักลดลงชั่วคราว 555 มโนผิด ๆ) ตะลอนมาทั้งวันถึงเวลากลับที่พัก ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำ (คือตั้งแต่ลงรถทัวร์ตอนเช้าจนเย็นเท่าที่จำความได้ คือแต่ละคนยังไม่ได้อาบน้ำกันเลย เที่ยวจนลืม 5555 ซกมกเนอะ) ลืมเล่าให้ฟัง ตอนขึ้นไปที่วนฯ ภูลังกา เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดไม่คาดฝันขึ้น !!! คือเราดันทำมือถือตกพื้นจ้า หลายคนคงแบบแล้วไง ใคร ๆ ก็เคยทำตก แต่คือมือถือจอแตกกกกกไม่มีชิ้นดี TT
ร้องไห้หนักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก และคือก่อนหน้านี้เราเพิ่งทำตกทะเลมาด้วย TT เสียใจจัง เสียตังค์อีกแล้วเหรอ ร้าวรานไม่พอสีเพี้ยนอีก TT ชีวิต...
ส่วนคืนนี้มีภารกิจก็คือจิบเบียร์เล็กน้อย นอนสบายเลย อากาศก็ดี เบียร์ก็เย็น บรรยากาศมันน่า...Zzzzz
ติ๊ดตะริ๊ดติ๊ดติ๋ดดดดดดด... ตี 5 เสียงนาฬิกาปลุกดัง พร้อมกับเสียง ซู่ ซู่ ซู่ ...ใช่แล้วฝนตกแต่เช้าเลยจ้า T___T แต่บรรยากาศก็แปลกไปอีกแบบ หมอกจับตัวยากมาก วิ่งไวกว่าจรวดอีก ขอบรรยายด้วยภาพละกัน
อยากมีโมเม้นท์แบบนี้บ้างจัง
อันนี้เค้าบอกว่าคือมุมซ่อนกิ๊ก 555555
เหมาะในการจู๋จี๋จริง ๆๆๆ อะ ยาวไป ๆๆๆๆ
ก่อนกลับจากภูลังกาขอแวะมุมมหาชนหน่อยนะ นิวแก๊งเราเอง พี่อีกคนไปไหนไม่รู้
เจอเด็กน้อยพูดกับพ่อว่า "พ่อฮับ ขอกล้องถ่ายรูปหน่อยยยฮับบบบ" น่ารักจังลูกกกกกกก
บะบ๊ายยนะภูลังกา รูปนี้คือวันแรกที่มาถึงเลย ตั้งขา เล็งมุม ตั้งเวลา และวิ่งสิรออะไร
เนื่องจากแต่ละคนมีจุดหมายต่างกัน
นิวแก๊ง 1 : จะไปตัวเมืองน่าน
นิวแก๊ง 2 : จะไปบ่อเกลือ
นิวแก๊ง 3 : จะกลับเชียงรายเพราะมีทำงานต่อ
ส่วนเรา นิวแก๊ง 4 : จะไปปัว
คือประมาณเที่ยงจะมีรถโดยสารเชียงราย-น่าน (ที่เรานั่งมาจากพะเยา) ผ่านหน้ารีสอร์ทไปถึงตัวเมืองน่าน** แต่ถ้ารอรถโดยสารรอบเที่ยงพี่นิวแก๊ง 2 ไปบ่อเกลือไม่ทันแน่ ๆ เราเลยคุยกันว่าเดินไปเรื่อย ๆ ละกันเนอะ เจอรถผ่านมาค่อยโบกกกกกกก !!!!! ลงกันที่ท่าวังผา และต่างคนค่อยแยกย้ายไปจุดหมายของตัวเองละกัน
โบกคันแรกเขาต้องไปทำสวน...เลยอด
รถวิ่งผ่านเส้นทางนี้น้อยมาก หรือยังเช้าอยู่ก็ไม่รู้ (เก้าโมงกว่า) สักพักได้ยินเสียงแว่ว ๆ มีรถผ่านมา โบกอีกที ถามน้องคนขับว่าไปไหน ... น้องบอกไปท่าวังผา เฮ้ยไปจุดหมายเราพอดี ขึ้นสิรออะไรลูกกกกกกก
ผ่านฟูจิพะเยาอีกแล้ว
น้องขับแรงมากกกกกกก ซิ่งสุดติ่งกระดิ่งแมวเลย ซิ่งเร็วมาก แค่ชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึงท่าวังผา (ถ้ารถโดยสาร มีสองชั่วโมงอัพ) แรงไม่แรงดูรูป แบ็คกราวนด์จรวดมาก 5555555
ถึงท่าวังผาแล้วนี่ต้องแยกย้ายกันแล้วเหรอ TT บะบายนะทุกคนนนนนน แล้วเจอกันใหม่ แลกไลน์ แลกเฟซบุ๊กกันเรียบร้อย ชื่อกรุ๊ป แจกันที่ภูลังแก ฮ่า ๆ เตรียมลุยเดี่ยวต่อแล้วสินะ ....
มุ่งหน้าสู่...ปัว
เราเลือกมาที่นี่เพราะเรามีโจทย์ให้กับตัวเองว่า "อยากเห็นอะไรกรีน ๆ อยากได้รูปที่มีทุ่งนา ภูเขา หมอก และตัวเรา อยู่ในองค์ประกอบเดียวกัน !!!" 55555555 โจทย์ยากไหมอะ แต่เราอยากได้โมเม้นท์นี้จริง ๆๆ นะ
จากท่าวังผามีรถโดยสารไปปัว รอรถได้ตรงป้อมตำรวจ ถ้าจำไม่ผิดรถน่าจะมาทุก ๆ 30 นาทีมั้ง ตรงนี้ก็สามารถรอรถไปตัวเมืองน่านได้เหมือนกันนะ รถมีเยอะ ไม่ต้องกลัวนะ
ไม่นานรถก็มา .... คลาสสิกดีเนอะ
หลังจากเรานั่งรถโดยสาร ท่าวังผา-ปัว ไม่นานก็มาถึงปัว พี่ที่ไปบ่อเกลือก็ต่อรถไปบ่อเกลือที่นี่แหละ ส่วนเราเดินมุ่งหน้าไปที่พักที่ได้จองไว้ก่อนหน้านี้ 2 วัน ซอยที่พักเราอยู่เยื้องกับโลตัสปัว สามารถเดินได้สบาย ๆ ถึงแล้ว ปวินท์ศิลป์ รีสอร์ท ที่นี่ตกแต่งด้วยภาพศิลปะน่านซะส่วนใหญ่ ใหม่เอี่ยมมาก ๆ
นั่งพักสักพักเลยลงไปถามพี่เจ้าของรีสอร์ทว่าสามารถเที่ยวในปัวได้อย่างไรบ้าง พี่เขาบอกมีมอเตอร์ไซค์กับ จั๊ก (จักรยาน) เราเลยขอเลือกจั๊ก เพราะขับมอเตอร์ไซค์ไม่แข็ง TT พี่เขาบอกให้ไปขับฟรีเลยน้อง ขับได้ใช่ไหม ปากก็บอกขับได้พี่ แต่ในใจทำไมเบาะมันจัง TT เนื่องจากที่พักจะติดกับทุ่งนา เราเห็นมีทางลงไปทุ่งนา จัดไป เข็นจั๊กลงไปกลางทุ่งนา คิดในใจจะได้เป็นฮิปสเตอร์แล้วเว้ยยยยยย 55555
ทางเดินเป็นทางดินแดงทั้งหมด ทั้งทุ่งมีเราคนเดียว นี่ถ้าเจ้าของมาเห็นจะคิดว่ามาขโมยข้าวไหมเนี่ย 555555 เราก็เดิน ๆ หามุมถ่ายรูปไปสักพัก อยู่ดี ๆ ก็ ยวบบบบบ !!!!! โคลนนนนนนนดูดขาจ้า ดูดแบบครึ่งแข้ง พยายามดึงขา ดึงแล้วดึงอีกขาก็หลุดออกมาจากดินโคลน แต่ !!!! รองเท้าฉันจมลงไปในโคลนน TT สรุปคือเดินเท้าเปล่ารอบทุ่ง โหย...ยังไม่ได้เป็นฮิปสเตอร์เลย
จุดเกิดเหตุ
ถ่ายไปเรื่อย ๆ
เรื่อย ๆ
และเรื่อย ๆ
หลังจากถ่ายรูปเสร็จคิดในใจ ตรูจะไปล้างขาที่ไหนดีเนี่ยยยยยยย...ถ้าไปรีสอร์ทเขาจะด่าไหม ขาเละไม่พอ จั๊กเค้าเละด้วย ทำยังไงดีวะ...เหมือนสายตาดลใจให้เห็นอะไรบางอย่าง ทุ่งนาติดวัด... ใช่ !!! วัดไง เรารีบปั่นจั๊กที่เลอะโคลน พร้อมเท้าเปล่าปั่นเข้าไปหาห้องน้ำวัด
คำเดียว...เละ !!!!
กลับมาสะอาดสดใสเหมือนเดิมแล้ว ขอบคุณนะคะ
แต่ !!! ไม่มีรองเท้า
เลยขับจั๊กต่อด้วยเท้าเปล่าเข้าไปในตัวเมืองปัว เห็นเซเว่นฯ แหล่งรวมทุกสิ่งอย่าง เดินเท้าเปล่าเข้าเซเว่นฯ... นี่ถ้ามอมแมมหน่อยเขาคงคิดว่าเรา.... 5555555555 ก่อนเข้าเซเว่นฯ มีพี่ผู้ชายคนหนึ่งทัก
พี่ : น้องทำไมเดินเท้าเปล่าอย่างงี้ล่ะ
เรา : รองเท้าโดนจุ่มโคลนพี่
พี่ : เขาขำหนักมาก... (น่าขำตรงไหนฟะ) 555555
เดินเท้าเปล่าเข้าเซเว่นฯ แบบใส ๆ
สาบานนี่ล้างเท้าแล้ว ฮ่า ๆ ถอยมาแล้วรองเท้าคู่ใจคู่ใหม่ จัดไปสีเขียวเหมาะกับกรีนซีซั่นฝุด ๆ
หลังจากออกจากเซเว่นฯ ไม่นานฝนก็ตก เลยนั่งแถวนั้น หาอะไรกินเล่น ๆ ไส้อั่วอร่อยมากกกกกกกก ไม้โต 15 บาทเอง
หมูปิ้งรสชาติใช้ได้
แถมอะไรเขียว ๆๆๆ 55555
สักพักฝนก็หยุดตกเลยขับจั๊กเล่น ๆ ขับไปเรื่อย ๆ เงยหน้ามองฟ้า เฮ้ยยยยย "รุ้งกินน้ำ" ว้าววววววววววว ตื่นเต้นนนนนน 55555555 (ใครตื่นเต้นไหมไม่รู้ เราตื่นเต้นมาก)
อารมณ์รุ้งสวย ๆ บรรยากาศทุ่งนาและภูเขา ของจริงสวยมาก แต่เราสามารถถ่ายออกมาได้แค่นี้แหละ TT ตากแดดทั้งวันเหนื่อยแล้ว กลับที่พักหาอะไรเย็น ๆ กินดีกว่า เลยจัดไปกระป๋อง... 55555555555
ตกดึกชักหิว พี่เจ้าของรีสอร์ทบอกแถวนี้มีตลาดโต้รุ่ง แต่เมื่อตอนเย็นฝนตกทำให้ของขายน้อย
เราเลยขับออกมา เห็นร้านหนึ่งเมนูแปลกดี ถ้าจำไม่ผิดชื่อร้าน "ล้านข้าวปั้น" มั้ง จัดไปสองจาน
Special No : 5 เช้า ๆ บรรยากาศแบบปัว...ปัว
เราตั้งนาฬิกาปลุกแต่เช้าตรู่ เปิดประตูระเบียงออกมาก็เจอแบบนี้เลยย โอ๊ยวิวดี แต่เสียอย่างเดียวไร้คู่
คู่ใจ เช็กรถพร้อมก่อนออกตะลุยโลกสีเขียววววว
ไหน ๆ บรรยากาศดีแบบนี้เราต้องตอบโจทย์ตัวเองที่อยากมาปัวให้ได้ นั่นคืออยากเห็น เรา ภูเขา ทุ่งนา หมอก รวมเป็นองค์ประกอบเดียวกัน....ยังไม่ล้มเลิกนะ ฮ่า ๆ ขับจั๊กไปเรื่อย ๆๆ มองนู่นนี่ไปเรื่อย และสักพักเห็นอะไรเขียว ๆ ที่หางตาในซอยเล็ก ๆๆ เลี้ยวจั๊กอย่างไว เข่าแทบติดพื้น (อันนี้เว่อร์เอง 55555) ก่อนเข้าไปขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อนนะ เดี๋ยวโดนปืนลั่น 555555
พอเดินเข้าไป...โห !!! บรรยากาศหลังบ้านหลังนี้ดีมาก อิจฉาเว่อร์ ๆ
ลมมันเย็นโชว์สักหน่อยย ฮ่า ๆๆๆ (ได้รูปแล้วเย่)
เป็นไง เรา ภูเขา ทุ่งนา หมอก องค์ประกอบเดียวกัน ฮ่า ๆ ... คู่หู
ถ่ายรูปสักพักเรารู้สึกอยากเห็นภูเขาเมฆหมอกแบบใกล้ ๆๆ เลยขับจั๊กไปลึกอีก ลึกอีก ลึกจนไปเจอ...เจ้าถิ่นจ้า !!! ไม่ต้องถามว่าเป็นใคร ตรูเจอน้องมะหมาสี่ขาเต็มซอย เห่าซะประหนึ่งเป็นโจรขโมยกระทะเจ้าของมัน รออยู่ใยปั่นสิเอ๋ ปั่นเท้าเป็นระวิงเลย TT พอหนีหมาสักพักเงยหน้าไปสิ่งที่เห็นคือ...วิวนี้
สดชื่นจริง ๆ
วิวนี่หลักล้าน
บางแคหาไม่ได้นะ 55555
ขอเล่าด้วยภาพยาว ๆๆๆๆ
ขับจั๊กไปซ้ายมองวิว ขวามองน้องหมา กลัวมันไล่ เยอะจริง ๆ ขอบคุณนะน้องมะหมาที่ไล่เรา ฮ่า ๆ หนีพวกแกเหนื่อยอะ ขอสงบกายสงบใจที่วัดแป๊บ...
หลังจากพักเหนื่อยแป๊บหนึ่ง ปั่นสักพักหิวแล้วสิ ไปสะดุดร้านหนึ่งเพราะคำว่า "กับแกล้ม"
คาดว่าขี้เมา กับข้าวต้องเด็ด สั่งเลยคะน้าหมูกรอบ
อร่อยเด็ดจริง แถมคุยถูกคอกับพี่เจ้าของร้าน พี่เขาทิ้งเบอร์ไว้ให้และบอกว่าถ้ามาอีกพาแก๊งมาเดี๋ยวพี่พาทัวร์ คนน่านนี่ใจดีจริง ๆ
น้ำตกหน้าร้าน
จินตนาการล้ำมาก
ก่อนกลับขอตะลอนรอบปัวอีกสักหน่อยละกันเนอะ
ร้านตัดผมที่คลาสสิกมาก ๆ ชอบจัง
หนูยังต้องหัวเกรียนอีกนานลูก
แวะทำบุญวัดปรางค์ก่อนกลับสักหน่อย ไหน ๆ ก็แอบไปใช้ห้องน้ำวัดมาละ ขอบคุณนะคะ สาธุ
ธนาคารกสิกรไทย สไตล์น่าน
เวลาล่วงมาสักพัก ใกล้ถึงเวลาเช็กเอาท์ที่พักแล้วสินะ ขอนั่งชมวิวตรงที่พักสักหน่อย
กรีนดีจริง ๆ ชอบจัง
หลังจากเช็กเอาท์เสร็จก็มาศาลารอรถโดยสารตรงข้ามวัดปรางค์ (วัดที่เราเข้าไปใช้ห้องน้ำ ฮ่า ๆ) เพื่อหารถโดยสารไปอำเภอนาน้อยต่อ
สถานีต่อไปคือ "ดอยเสมอดาว" เราต้องนั่งรถจากปัวไปในตัวเมืองน่านก่อนเพื่อหารถต่อไปเวียงสา และค่อยไปนาน้อยต่อ รถจากปัวไปตัวเมืองมาทุก ๆ 15-30 นาที มีรถสองแบบ คือแบบสองแถวและแบบรถเมล์ท้องถิ่น รอสักพักรถสองแถวก็มา
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึงแล้ว บขส. น่าน หิวมากเลยหาอะไรรองท้องสักหน่อย อร่อยทุกอย่างเลย
คนเดียวก็ฟาดเรียบนะจ๊ะ มีแรงแล้วพร้อมเดินทางต่อ จาก บขส. มีรถตู้ไปอำเภอเวียงสา (คันซ้ายนะ 555555)
ใช้เวลา 30 นาทีก็มาถึงเวียงสา ถามคุณลุงคนหนึ่งว่ารถไปนาน้อยออกกี่โมง คุณลุงบอกออก 4 โมงเย็น (รถมีทุก ๆ หนึ่งชั่วโมง และสี่โมงคือรอบสุดท้าย) และลุงบอกลุงเองแหละเป็นคนขับ ณ ตอนนั้นนาฬิกาเราประมาณบ่ายสามนิด ๆ เราพอทราบมาว่าที่เวียงสามีพิพิธภัณฑ์จักรยานเก่าอยู่ (เมืองน่านเมืองจักรยานนิเนอะ) เลยถามทางคุณลุง คุณลุงบอกพิพิธภัณฑ์ชื่อ "เฮือนรถถีบ" เดินตรงไป เลี้ยวขวาไม่ไกล อยู่ในปั๊มเชลล์เลย และคุณลุงบอกให้รอลุงที่ปั๊มก็ได้นะ เดี๋ยวลุงต้องไปเติมน้ำมันอยู่ดี โอเคจัดไป เราฝากกระเป๋าเป้ไว้ที่รถ พกกล้องและของมีค่าไป ระหว่างทางเดิน
โอ๊ยยยยย อยากมีโมเม้นท์นี้บ้างจัง
ถึงแล้วเฮือนรถถีบ
จักรยานรุ่นเก่า ๆ เยอะมาก เราว่าใครชอบจักรยานหรือของเก่า ๆ น่าจะชอบที่นี่นะ คนน้อยไม่วุ่นวายด้วย พี่คนดูแลบอกว่าถ้าเกิดมาแล้วเห็นประตูปิด สามารถไปตามพี่เขาได้ที่บ้านเรือนไทยข้าง ๆ ได้ พี่เขาจะมาเปิดประตูให้ ใครผ่านมาเวียงสาก็อย่าลืมแวะไปนะ
หลังจากเดินเล่นสักพักมองดูนาฬิกายังไม่สี่โมงเลย เราเลยจะเดินกลับทางเดิมเพื่อไปที่ท่ารถ แต่…คุณลุงแว้นมอเตอร์ไซค์มารับที่ปั๊มเชลล์จ้า ตกใจเล็กน้อย คุณลุงบอกว่าลุงบอกทางเดินไปอีกทาง แต่รถลุงต้องออกอีกทาง กลัวหนูเดินสวนทางกันและตกรถ ลุงเลยยืมมอเตอร์ไซค์คนแถวนั้นมารับหนู ซึ้งน้ำใจคนน่าน TT ขอบคุณมาก ๆๆ ค่ะคุณลุง
เตรียมพร้อมไปนาน้อยแล้ว
ช่วงบ่ายของวันนี้เดินทางทั้งวันจริง ๆ แต่เราชอบนะ บรรยากาศข้าง ๆ ทำให้ลืมเรื่องเวลาในการเดินทางไปเลย อากาศเย็น ๆ มองไปทางไหนก็กรีนไปหมด แถมเจอแต่คนใจดี หลงรักเมืองน่านจัง
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ จาก "เวียงสา" มา "นาน้อย" หลังจากถึงนาน้อยก็หาที่พัก ไปเจอที่พักหนึ่งมา ติดถนนใหญ่แต่จำชื่อไม่ได้อะ
มีร้านกาแฟเล็ก ๆ ใต้ที่พัก แต่งร้านน่ารักดีจัง
วันนี้เดินทางทั้งวันพักผ่อนเตรียมขึ้นดอยเสมอดาวพรุ่งนี้ดีกว่า Zzzzzzz *ลืมบอก ตอนเราไปเป็นช่วงหน้าฝน ดอยเสมอดาวก็เลยไม่ให้ขึ้นไปกางเต็นท์ แต่เรามารู้ทีหลังว่าผาชู้ที่อยู่ใกล้ ๆ ดอยเสมอดาวกางเต็นท์ได้ TT เสียดายจัง
Special No : 6 สวัสดีดอยเสมอดาวอีกครั้ง ทั้งดอยมีเราคนเดียว
เราตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ตี 5 แต่คือฝนยังตกอยู่เลย และข้างนอกก็ไม่มีรถวิ่ง สักประมาณ 6 โมงเช้าข้างนอกเริ่มเช้าแล้ว เรากะจะโบกรถขึ้นดอยเสมอดาวซะหน่อย แต่…รถแทบไม่มีวิ่ง เงียบเหงามากกกกกกกก
เลยเดินไปที่ศาลาริมทาง เห็นป้ายเขียนว่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างขึ้นดอยเสมอดาว มีให้เลือก 3 คนด้วยกัน เราโทรหาพี่คนแรก พี่เขาไม่ว่างเพราะต้องไปทำสวน ก็เหลือคนที่สองและสาม เราเห็นรูปคนที่สองยังหนุ่มอยู่เลยกลัวนิด ๆ 555555 (เหมือนตรูจะสวยยยยยยยย) เลยเลือกคุณพี่คนที่สาม เพราะดูไม่วัยรุ่นไป ไม่แก่ไป โทรหาเลยจ้า รอคุณพี่มารับ นัดกันที่ศาลานี่ล่ะ (ราคาถ้าไปอย่างเดียว 200 บาท แต่เราขอไป-กลับ และพาแวะเที่ยว เค้าคิด 300 บาท)
มีพี่คนหนึ่งเดินมาที่ศาลาและถามเราว่า
พี่ : จะไปไหนเหรอน้อง
เรา : จะขึ้นไปดอยเสมอดาวค่ะพี่
พี่ : ไปยังไง เหมารถกระบะไปไหม
เรา : ไม่เป็นไร ๆ ค่ะ หนูโทรหาคุณพี่คนที่สามแล้วค่ะ (พร้อมชี้ไปที่รูปที่พ่วงด้วยเบอร์โทร)
พี่ : โหยน้องกล้าไปได้ยังไงเนี่ย ลุงแล้วไม่ใช่พี่ เผลอ ๆ ตาด้วยมั้ง ลุงแกอายุจะ 80 ปี อยู่แล้ว กล้าไปได้ยังไง พี่นี่ยังไม่กล้าซ้อนแกเลย ฝนตกถนนลื่นด้วย ฮึ่ยยยยยยพี่กลัว
เรา : ………. กรรมมมมมม แล้วจะพูดให้ตรูกลัวทำไม
จะโทรไปยกเลิกคุณลุงก็ไม่ทัน คุณลุงมาละ แหม…ในรูปดูหนุ่มเชียวนะลุง คุณลุงขอแวะเติมน้ำมันแป๊บ
เอาวะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ไปก็ไปเชื่อใจในลุง ลุงต้องแก่ประสบการณ์แน่ ๆ คุณลุงพร้อมลุย !!!!!
ขับไปสักพักเห็นอะไรฟุ้ง ๆ ขาว ๆ ทีแรกนึกว่าหมอก แต่เปล่าจ้า รถลุงควันออก โอ๊ยยยยยยยยย ตรูมาทำอะไรที่นี่ แต่ลุงไม่สนใจเร่งเครื่องต่อไป โอเคเชื่อใจลุงนะ TT ในที่สุดก็มาถึงดอยเสมอดาวอย่างปลอดภัย
แต่… สิ่งที่ทึ่งคือทั้งดอยมีเราคนเดียว เพื่อน ๆ ฟังไม่ผิดหรอก ทั้งดอยไม่มีใครเลย เราคนเดียวจ้า ตอนแรกคุณลุงเป็นห่วงบอกไปเป็นเพื่อนไหมหนู แต่คือเราเป็นห่วงลุงมากกว่า เราเลยเดินขึ้นไปคนเดียว อากาศแปรปรวนลมแรง มองไม่เห็นทาง รู้สึกกลัวซอมบี้โผล่กลางหมอกขาว ๆ นี้จังเลย แหมนี่มันประเทศไทยนะ...
ตั้งขาตั้งกล้อง 12 วินาที และวิ่งงงงงงงงงงงงง แชะ
เราจำได้ครั้งแรกที่ได้มาเยือนคือเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน จุดไฟเย็นเคาท์ดาวน์ช่วงปีใหม่ หมอกสวย ฟ้าใส บรรยากาศดีมาก แต่คนก็เยอะมาก ๆๆ และมันก็นานมากแล้วแทบจำอะไรไม่ค่อยได้ แต่บรรยากาศแบบวันนี้ก็แปลกไปอีกแบบ และแน่นอนว่าเราจะกลับมาดอยเสมอดาวครั้งที่ 3 อีกแน่นอน ฮิฮิ มีบ้านพักของเจ้าหน้าที่อยู่หลังหนึ่ง พี่เขาชื่อพี่วีระ เราเลยขอเบอร์พี่วีระไว้ และบอกแกว่าเดี๋ยวสัก 10 โมง หนูโทรมาใหม่ ถ้าฟ้าเปิดหนูอาจจะขึ้นมา
โอเคเราไปจุดหมายต่อไปดีกว่า คุณลุงพามา "เสาดินนาน้อย" แน่นอนมีแต่เราคนเดียวเช่นเดิม ชอบจังไม่ต้องไปแย่งวุ่นวายกับใคร
นั่งมอเตอร์ไซค์กับลุงนี่เมื่อยตูดใช่เล่นนะ ไม่ใช่มันไกลอะไรหรอก แต่แบบเราเกร็งไง นั่งไปลุ้นไปกลัวลุงแกวูบ ฮ่า ๆ
เอารูปแอบเซลฟี่คุณลุงมาอวด ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะคุณลุง
สรุปคือเราก็ไม่ได้ขึ้นไปดอยเสมอดาวอีก เพราะเราโทรไปหาพี่วีระพี่แกบอกว่าอากาศแบบเดิมเลยฟ้าไม่เปิด เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกตลอดทั้งคืน
คอมเม้นท์นี้ให้ลุงเป็นพระเอกเลยละกันนะ 5555555 เตรียมตัวเดินทางต่อดีกว่า วันนี้ต้องเตรียมตัวกลับแล้วสินะ … เวลาเดินไวจัง TT พร้อมลุยยยยยยยยยย !!!!
Special No : 7 ลุยตัวเมืองน่านแบบ (อัน) สโลววววววไลฟ์
เราเดินมารอรถโดยสารจากนาน้อยเพื่อไปเวียงสา รอนานจนได้เพื่อนเป็นเด็กประถมแถวนั้น น้องตกใจมากที่เรามาเที่ยวคนเดียว 5555555 สักพักรถก็มา เจอคุณลุงคนเดิมเลย นี่ทั้งคิวมีลุงขับอยู่คนเดียวเปล่าเนี่ย 555555 เหมือนเดิมเลย พอถึงเวียงสาก็ต่อรถไปอำเภอเมืองน่าน
ถึงตัวเมืองน่านตอนบ่าย 3 โมง และรอบรถทัวร์ที่เราจองกลับกรุงเทพฯ รอบทุ่มหนึ่ง เหลือเวลาอย่างมากคือ 3 ชั่วโมง ในการตะลอนตัวเมืองน่าน
เดินออกจาก บขส. ซ้ายมือจะมีร้านเช่าจักรยาน ซึ่งเค้าว่ากันว่าเมืองน่านเป็นเมืองที่ Slow Life ปั่นจักรยานแบบใส ๆ แต่ !!!! เราสโลว์ไม่ไหว เพราะมีเวลาแค่ 3 ชม. The fast life แบบเราเลยจัดมอเตอร์ไซค์แบบออโต้เลย ขับก็ไม่แข็ง...เน้นใจกล้าเอาตัวรอดล้วน ๆ ตื่นเต้นมาก ๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่ขับมอเตอร์ไซค์ฝ่าฟันถนนใหญ่แถมต้องขึ้นเขาอีก
พี่คนให้เช่าบอกว่ามอเตอร์ไซค์เช่าครึ่งวัน 150 บาท เราเลยขอเช่าครึ่งของครึ่งวัน 75 บาท ได้ไหม 55555 พี่อึ้งสักพักคงคิดในใจนี่ต่อขนาดนี้เลยเหรอ กล้าขอคงกล้าให้ สรุปพี่ขอราคา 80 บาทแทน โอเคจัดไป เตรียมแว้นมอเตอร์ไซค์ตะลอนเมืองครั้งแรก ตื่นเต้น ๆๆๆ
ระหว่างขับลงเขาฝนตกหนักมากกกกกก เลยแวะร้าน น.น่าน café หลบฝนก่อนละกัน กินกาแฟไม่เป็นเช่นเดิม เลยสั่งโกโก้แก้วหนึ่ง
สโลว์ไลฟ์ไหมล่ะ จั๊กเต็มเลย
ทำยังไงฝนก็ไม่หยุดตกสักที เราเลยรอฝนซาและเตรียมตะลุยต่อ นี่ต้องขอบพระคุณกล้องถ่ายรูปเราจริง ๆ ที่มันสามารถกันน้ำได้ ทนทานจริง ๆ ดูโอ้ของฉัน
สถานที่ที่สองตัวเมืองน่านคือ "วัดพระธาตุแช่แห้ง" ซึ่งจะอยู่คนละฝั่งกับวัดพระธาตุเขาน้อย สงบมาก ๆ มีเราคนเดียวเช่นเคยที่สักการะอยู่
สถานที่ที่สามตัวเมืองน่านคือ "พิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน" เช่นเคย…มีเราคนเดียวไม่ต้องแย่งกับใครเลย
พิพิธภัณฑ์ปิดปรับปรุงอยู่
สถานที่ที่สี่ตัวเมืองน่านคือ "ศาลหลักเมืองน่าน"
เวลา 3 ชั่วโมง ของการใช้ชีวิตแบบ the fast life ของเรา สามารถแวะที่เที่ยวขึ้นชื่อของเมืองน่านได้ถึง 5 ที่ หลังจากคืนมอเตอร์ไซค์เสร็จเราก็นั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ และมาทำงานต่อ...สวัสดีวันจันทร์ การเดินทางในตัวเมืองน่านอาจจะไม่ละเอียดอะไรนะ ในมือเรามีแผนที่ก็จริง แต่ยังไงก็หลงอยู่ดี TT เราว่าแผนที่ที่ดีที่สุดคือปากของเรานี่แหละ ^___^ ไปไหนไม่ถูกก็ถามเลย ขนาดไปตามทางที่บอกเรายังหลงได้เลย 5555 นี่ล่ะเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิง คือมีแผนที่อยู่ในมือแต่มันก็สามารถหลงทางได้
Special No : 8
เราว่าการเดินทางของเราครั้งนี้ไม่ได้หวือหวาอะไรนะ แต่มันคือการใช้ชีวิตอย่างหนึ่งเลย ที่มันทำให้สามารถลืมอะไรบางอย่างได้บ้าง ถึงมันจะแค่ชั่วคราวก็เถอะ…
ขอบคุณผู้คนน่ารักทั้งที่พะเยาและน่าน
ขอบคุณนิวแก๊งทั้ง 3 คน ที่ทำให้ทริปนี้มีสีสัน
ขอบคุณน้องหมาที่เห่าไล่ทำให้ได้เห็นวิวสวย ๆ
ขอบคุณกล้องถ่ายรูปดูโอ้คู่ใจ ที่ฝนตกแค่ไหนแกก็ไม่เป็นอะไร ลุยไปกับเราได้
ขอบคุณหัวไหล่ที่แบกขาตั้งกล้องหิ้วไปหิ้วมาได้สบาย
ขอบคุณอะไรบางอย่างที่ทำให้เราต้องออกเดินทางเพื่อให้ลืมอีกครั้ง
และขอบคุณทุก ๆ คนที่ติดตามมานะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Library my Life สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม