x close

พลาดไม่ได้ 30 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น น่าไปเช็กอิน

          ทริปญี่ปุ่นครั้งต่อไปต้องไม่พลาด กับสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยม ทั้งวัด ศาลเจ้า ปราสาท บ่อน้ำพุร้อน พิพิธภัณฑ์ และแหล่งช้อปิ้ง

          กระแสการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นกำลังฮิตติดลมบนกันเลยทีเดียว มีเพื่อน ๆ หลายคนเคยไปสัมผัสดินแดนอาทิตย์อุทัยกันมาแล้ว และก็มีบางคนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งสำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นอยู่นั้น ต้องรีบมาอ่านโดยเร็ว เพราะเราได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังวางแผนหรือหาข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น เอาเป็นว่าลองไปดูกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่ยังไม่เคยไปกัน หรือสถานที่เที่ยวแห่งไหนจะต้องไปให้ได้ในทริปตะลอนทัวร์ญี่ปุ่นครั้งต่อไป
 
1. ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)

          ศาลเจ้าที่สำคัญของลัทธิชินโต ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงเกียวโต มีความโดดเด่นตรงที่มีประตูโทริอิสีแดงนับพันตั้งเรียงรายยาวจนถึงเขตป่า Inari ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ทางด้านหลัง มีความยาวประมาณ 233 เมตร เป็นจุดที่สามารถถ่ายภาพได้สวยงามอีกจุดหนึ่ง

เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก superjoseph / Shutterstock.com


2. อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะ หรือโดมปรมาณู (Hiroshima Atomic Bomb Dome)

          โดมแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของความเงียบสงบ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1915 โดยสถาปนิกชาวเช็ก มันไม่ได้ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังคงหลงเหลือโครงสร้างดั้งเดิมไว้อย่างชัดเจน จึงได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1996 บริเวณรอบข้างล้อมรอบไปด้วยสวนสวยงาม ต้นไม้เขียวขจี ด้านหนึ่งติดกับแม่น้ำ นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือชมความสวยงามของอาคารและสวน ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิดอกซากุระจะบานสะพรั่งงดงาม 

เที่ยวญี่ปุ่น

3. ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (Itsukushima Shrine)


          ศาลเจ้าลัทธิชินโตที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลบนเกาะอิสึกุชิมะ เมืองฮะสึไกชิ จังหวัดฮิโรชิมา มีอายุมากกว่า 1,400 ปี มีเสาประตูโทริอิตั้งอย่างสง่างามกลางทะเล นั่งท่องเที่ยวนิยมมาชมบรรยากาศยามเช้าและพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ยิ่งงดงาม

เที่ยวญี่ปุ่น

4. วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)

          วัดที่สำคัญของเมืองนาระ (Nara) สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 752 เป็นวัดในศาสนาพุทธ จุดเด่นของที่นี่ก็คือ พระพุทธรูป Daibutsuden ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นจากไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงประมาณ 15 เมตร อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือประตู Nandaimon ซึ่งเป็นประตูไม้ที่มีรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ บริเวณโดยรอบวัดยังร่มรื่นไปด้วยต้นไม้อีกด้วย

เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก Luciano Mortula - LGM / Shutterstock.com

5. วัดเออิคันโดะ หรือวัดเซนรินจิ  (Eikando Zenrinji Temple)

          วัดพุทธของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามในเมืองเกียวโต โดดเด่นไปด้วยต้นไม้มากมายรายล้อม ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ที่อยู่ทั่วทั้งวัดจะเปลี่ยนสีอย่างสวยงาม บรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวจึงนิยมที่จะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน

เที่ยวญี่ปุ่น

6. อุทยานลิงภูเขา (Jigokudani Yaen Koen)

          ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับแม่น้ำ Yokoyu ในเมืองนากาโน มีพื้นที่เป็นหน้าผาสูงชัน มีไอหมอกทั่วทั้งบริเวณป่า และมีหิมะยาวนานถึง 1 ใน 3 ของปี แต่ที่นี่คือสวรรค์ของลิงภูเขาแก้มแดง ในฤดูหนาวลิงเหล่านี้จะลงไปแช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน อวดแก้มแดงก่ำและความน่ารักให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

เที่ยวญี่ปุ่น

7. วัดโอคุโนอิน (Okunoin Temple)

          ตั้งอยู่ที่จังหวัดวะกะยะมะ เป็นสถานที่ฝังศพของ Kobo Daishi มีสะพาน Ichinohashi รูปทรงดั้งเดิมเป็นทางเชื่อมไปยังด้านใน อันเป็นที่ตั้งของสถานที่ฝังศพ ซึ่งมีมากถึง 200,000 หลุม ถือว่าเป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความงดงามตรงที่พื้นที่แห่งนี้ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจี เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจได้ดีเลยทีเดียว

เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก Phuong D. Nguyen / Shutterstock.com

8. การแสดง Samruai Kembu Theater

          โรงละครแห่งนี้อยู่ในเมืองเกียวโต เป็นการแสดงฟันดาบของเหล่าซามูไรในสมัยก่อนของญี่ปุ่น ผู้เข้าชมจะได้ชมศิลปะการต่อสู้ของซามูไร เริ่มตั้งแต่การเตรียมตัว การฝึกซ้อม จนกระทั่งการต่อสู้จริง ดูรายละเอียดของการแสดงและราคาบัตรเข้าชมได้ที่ samurai-kembu

9. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)

          พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก รวบรวมสัตว์น้ำมากมายจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่ มีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่เรียกว่า The Kuroshio Sea Tank เป็นแท็งก์น้ำในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถมองเห็นสัตว์ทะเลที่ตัวมหึมาอย่างฉลามได้อย่างชัดเจน โดยเปิดทุกวัน ในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ จะเปิดตั้งแต่เวลา 08.30-18.30 น. ในช่วงเดือนมีนาคม-กันยายน เปิดตั้งแต่เวลา 08.30-20.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ oki-churaumi

เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก Moddy / Shutterstock.com

10. พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่ (Hakone Open-Air Museum)

          ตั้งอยู่ที่จังหวัดคะนะงะวะ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและศิลปะเข้ากันได้อย่างลงตัว มีการแสดงผลงานทางด้านศิลปะครบทุกแขนง พื้นที่โดยรอบถูกโอบล้อมไปด้วยป่าไม้และภูเขาสีเขียวขจี เป็นสถานที่เรียนรู้งานการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ที่ดีมากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น  เปิดตั้งแต่ 09.00-17.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hakone-oam.or.jp

เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก TungCheung.jpg / Shutterstock.com

11. วัดคินกะกุ (Kinkaku-ji Temple)

          วัดคินกะกุ สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 14 เพื่อเป็นที่พักของซามูไรนามว่า Ashikaga Yoshimitsu ภายหลังได้กลายมาเป็นวัดในศาสนาพุทธ มีความโดดเด่นด้วยศาลาสีทอง ซึ่งโอบล้อมไปด้วยสระน้ำใสและต้นไม้อันร่มรื่น ภาพของปราสาทสีทองสะท้อนลงน้ำพร้อมกับใบไม้หลากสีสันจะหาชมได้ที่นี่เท่านั้น

เที่ยวญี่ปุ่น

12. สวน Shinjuku Gyoen

         สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าชินจุกุ (Shinjuku Station) เมืองโตเกียว เป็นสวนที่ใหญ่และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น เพราะมีต้นไม้นานาพรรณ มีการจัดสวนอย่างเป็นระเบียบ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นซากุระมากมาย จึงเป็นสถานที่ที่ดีมากสำหรับการชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ รวมทั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ได้ชมกันอีกด้วย สวนแห่งนี้เหมาะสำหรับการเดินออกกำลังกาย นั่งพักผ่อน ปิกนิก ฯลฯ

เที่ยวญี่ปุ่น

13. วัดนาริตะซัง (Naritasan Shinshoji Temple)

          ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดชิบะ ใกล้กับสนามบินนาริตะ มีอายุเกือบ 1,000 ปี เป็นวัดพุทธนิกายชินงอน (Shingon) มีเจดีย์ตั้งอยู่กลางวัดเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญ ล้อมรอบไปด้วยสวนสีเขียวอันร่มรื่น บริเวณทางเข้าวัดจะมีชุมชนร้านค้าขายของที่ระลึกและอาหารท้องถิ่นจำนวนมาก เรียกว่า Omotesando นักท่องเที่ยวจึงได้ทั้งช้อปปิ้งและเสพความสวยงามของบรรยากาศภายในวัด

เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก 501room / Shutterstock.com

14. สวนเคนโรคุเอ็น (Kenrokuen Garden)
 
          สวนเคนโรคุเอ็นตั้งอยู่ที่จังหวัดอิชิกะวะ เป็นสวนที่มีความสวยงามที่สุด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ภายในสวนเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด มีการจัดสวนอย่างสวยงาม พร้อมสระน้ำเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับพื้นที่แห่งนี้ ในฤดูใบไม้ผลิสวนเคนโรคุเอ็นจะมีดอกซากุระบานสะพรั่งสวยงามไปทั่วสวน ยามฤดูใบไม้ร่วงก็มีสีสันของใบไม้ที่สดใสงดงามไม่แพ้กัน

เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก Joshua Hawley / Shutterstock.com

 15. ภูเขาไฟฟูจิซัง

          ถือได้ว่าเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดมากที่สุดเมื่อไปเยือนญี่ปุ่น ด้วยความที่เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านโดดเด่น มีความสูงถึง 3,776 เมตร เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ภาพที่ชินตามากที่สุดคือบนยอดภูเขาไฟจะมีหิมะสีขาวปกคลุม ตลอดทั้งปี สามารถเดินทางไปเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบายจากเมืองโตเกียว และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอยู่รอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิซังให้ได้เที่ยวแวะชมกันอีกด้วย
 
เที่ยวญี่ปุ่น

16. ปราสาทมะสึโมะโตะ (Matsumoto Castle)

          ตั้งอยู่ที่จังหวัดนากาโน่ (Nagano) ปราสาทเก่าแก่อีกแห่งของญี่ปุ่น เป็นปราสาทสีดำ ตัดกับสีท้องฟ้าดูโดดเด่นสวยงามยิ่งกว่าปราสาทไหน ๆ ที่สำคัญยังมีเจแปนแอลป์เป็นฉากหลังอันงดงาม ปราสาทแห่งนี้ยังมีลักษณะที่เอื้อต่อการชมจันทร์ จึงสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของขุนนางในสมัยก่อนของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิบรรยากาศจะงดงามมาก เพราะสวนที่อยู่รอบ ๆ ปราสาทจะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ matsumoto-castle.jp
 เที่ยวญี่ปุ่น

17. ย่าน Minato Mirai 21 โยโกฮามา

          Minato Mirai 21 เป็นเขตเมืองใหม่ในเมืองโยโกฮามา (Yokohama) ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 เป็นเขตที่มีความทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีแต่ตึกสูงและเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีสุดทันสมัย จุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Queen\'s Square Yokohama  และ Yokohama Landmark Tower ซึ่งมีความสูงมากถึง 296 เมตร มีทั้งหมด 70 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองโยโกฮามาได้ที่ชั้น 69 นอกจากนี้บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงที่สำคัญ (Yokohama Cosmoworld) ซึ่งมีชิงช้าสวรรค์ยักษ์ให้ได้ขึ้นไปชมความงดงามของเมืองแห่งนี้ทั้งยามกลางวันและกลางคืน

เที่ยวญี่ปุ่น

18. สวนกวางนารา (Nara Park)

          ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนารา มีเนื้อที่ทางด้านตะวันตกถึงทางด้านตะวันออกประมาณ 4 กิโลเมตร และทางเหนือจรดใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร สิ่งที่เป็นนางเอกของที่นี่ก็คือกวางจำนวนมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถชมได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ภายในสวนยังมีวัด Todai-ji และศาลเจ้า Kasuga Taisha ให้ได้ไหว้ขอพรด้วย ภายในสวนร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ รวมทั้งต้นเชอร์รีหรือซากุระ จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมซากุระของญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่น

19. การแสดงเกียร์ (Gear Theater)


          เกียร์ เป็นการแสดงที่ไม่ใช้คำพูด โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับความทันสมัยในโลกอนาคต มีการใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้การแสดงสนุกสนานและมีความน่าตื่นเต้น ระยะเวลาของการแสดงประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที มีรอบการแสดงทุกวัน ยกเว้นวันอังคารและวันพฤหัสบดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ gear.ac

20. ภูเขา Misen 

          ตั้งอยู่ที่เกาะมิยาจิมะ (miyajima island) มีความสูงถึง 535 เมตรจากระดับน้ำทะเล "Virgin Forest Misen" เป็นป่าที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นป่าอนุรักษ์ ด้วยมีส่วนผสมของธรรมชาติที่ลงตัว เพราะมีต้นสนหลากหลายสายพันธุ์และมีต้นไม้จากหลากหลายแห่ง มีความอุดมสมบูรณ์และมีอากาศสดชื่น โดยที่จุดสูงสุดสามารถมองเห็นวิวทะเลและเกาะน้อยใหญ่ได้อย่างสวยงาม

เที่ยวญี่ปุ่น

21. ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอะซะคุสะ (Asakusa Culture Tourist Information Center)

          นอกจากที่แห่งนี้จะเป็นแหล่งข้อมูลของนักท่องเที่ยวแล้ว สิ่งที่เป็นจุดโดดเด่นอีกอย่างก็คือสถาปัตยกรรมของตึกที่มีลักษณะแปลกตา เป็นตึกสูง 8 ชั้น อยู่ใจกลางย่านอาซากุสะ ใช้บานเกล็ดไม้ล้อมรอบทั้งอาคาร โดยมีผนังเป็นกระจกทั้งหมด จึงทำให้ดูโปร่งโล่ง น่าสนใจ ใครที่ไปเที่ยวโตเกียวก็อย่าลืมแวะไปแชะภาพกัน

เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก Chatchawat Prasertsom / Shutterstock.com

22. วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple)

          วัดที่เก่าแก่และโดดเด่นที่สุดในเมืองคามาคุระ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 736 อาคารหลักเป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปไม้แกะสลักที่ใหญ่อีกแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ด้วยความสูง 9.18 เมตร ระฆังที่อยู่ภายในวัดถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ รอบ ๆ วัดมีการตกแต่งด้วยสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ มีความร่มรื่นเป็นอย่างมาก
 
เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก Various images / Shutterstock.com

23. หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go Village)

          หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Mt. Haku-san ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดกิฟุ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่สร้างอยู่ท่ามกลางทุ่งนาสีเขียวขจี ในยามหน้าหนาวก็จะเต็มไปด้วยหิมะ บ้านเรือนภายในหมู่บ้านมีการสร้างอย่างเป็นเอกลักษณ์ คือมีการมุงหลังคาด้วยวัสดุธรรมชาติ มีโครงสร้างหลังคาคล้ายกับการพนมมือ ไม่ใช้ตะปูในการยึดเหนี่ยว ปัจจุบันมีหลงเหลืออยู่มากกว่า 100 หลังคาเรือน ชาวบ้านใช้ชีวิตเรียบง่าย มีการทำเกษตรกรรมและขายของที่ระลึกให้แก่นักท่องเที่ยว ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1995

เที่ยวญี่ปุ่น

24. วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusangendo Temple)

          อีกหนึ่งวัดที่สำคัญของกรุงเกียวโต เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป Senju Kannon-zo ซึ่งมีมือมากถึง 1,000 มือ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปจำนวนมากมายตั้งอยู่ในวัดแห่งนี้ด้วย เปิดให้เข้าชมทุกวัน ฤดูหนาวจะเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ฤดูร้อนจะเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

เที่ยวญี่ปุ่น

25. ศาลเจ้าเมจิ (Meiji-jingu Shrine)
 
          ศาลเจ้าเมจิ ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียว เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1921 เพื่อถวายแด่สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง ศาลเจ้าเมจิตั้งอยู่ใจกลางป่าอันเขียวขจีกลางเมืองโตเกียว เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนเมืองใหญ่ได้เป็นอย่างดี เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี ไม่เสียค่าเข้าชม (เฉพาะบริเวณเขตศาลเจ้า)

เที่ยวญี่ปุ่น

26. ย่านชิบูย่า (Shibuya)
 
          หากต้องการเห็นวัยรุ่นญี่ปุ่นเขาใช้ชีวิตและแต่งกายกันอย่างไร ต้องไม่พลาดการไปเดินในย่านชิบูย่า เพราะเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นชาวญี่ปุ่น ในช่วงวันหยุดจะเห็นวัยรุ่นแต่งตัวตามตัวละครในการ์ตูนหรือภาพยนตร์ต่าง ๆ หรือที่เราเรียกว่าการแต่งคอสเพลย์ ออกมาประชันกันอย่างสวยงาม นอกจากนี้ก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นให้ได้เดินเลือกซื้อมากมาย

เที่ยวญี่ปุ่น

27. พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (Toyota Commemorative Museum of Industry and Technology)
 

          แหล่งเรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะทำให้เด็กรุ่นใหม่เข้าใจเรื่องความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรถยนต์ได้ง่ายขึ้น ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1911โดย Sakichi Toyoda มีผลงานที่จัดแสดงอยู่มากกว่า 4,000 ชิ้น โดยผลงานส่วนใหญ่จะอธิบายถึงความมหัศจรรย์ของกระบวนการทำงานของเครื่องจักรและเครื่องยนต์ เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.30-17.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tcmit

เที่ยวญี่ปุ่น

28. อาราชิยาม่า (Arashiyama)

          สำหรับใครที่ชื่นชอบภาพป่าไผ่ที่เรียงรายเป็นซุ้มโค้งเขียวขจีสวยงาม ต้องไม่พลาดการไปเยือนอาราชิยาม่า ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเกียวโต เป็นพื้นที่ที่มีต้นไม้นานาพรรณ ร่มรื่น เงียบสงบ จุดเด่นของที่นี่คือซุ้มโค้งของป่าไผ่ ซึ่งมีความเขียวสดชื่น เหมาะแก่การถ่ายภาพ บริเวณรอบ ๆ ยังประกอบไปด้วยสวนและต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย สวยงามตลอดทั้งปี

เที่ยวญี่ปุ่น

29. สนามกีฬาแห่งชาติเรียวโงะกุ (Ryogoku Kokugikan)

          กีฬาซูโม่ เป็นกีฬาที่เก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นที่ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน มีการจัดการแข่งขันในทุก ๆ ปี ซึ่งจะมีการแข่งขันในรอบที่สำคัญที่สนามกีฬาแห่งชาติเรียวโงะกุ เมืองเกียวโต สามารถบรรจุคนได้ทั้งหมด 11,098 คน สะดวกสบายในการเดินทาง นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นจึงควรหาโอกาสในการไปชมการแข่งขันซูโม่สักครั้งในชีวิต

เที่ยวญี่ปุ่น
ภาพจาก J. Henning Buchholz / Shutterstock.com

30. กรุงโตเกียว

          จุดหมายอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะต้องมาแวะเยี่ยมเยือน ด้วยเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ที่มีความศิวิไลซ์ เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและความทันสมัย แต่ยังคงสอดแทรกวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ได้อย่างดีเยี่ยม มีสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมากมายและยังเป็นศูนย์กลางในการไปเยือนยังภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นได้อีกด้วย

เที่ยวญี่ปุ่น

          อันที่จริงประเทศญี่ปุ่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราได้ไปค้นหาอีกมากมาย เอาเป็นว่าหากมีโอกาสอย่าพลาดบินลัดฟ้าไปดื่มด่ำกับประเทศที่มีอารยธรรมที่สวยงามแห่งนี้กันเลย :)

หมายเหตุ : ข้อมูลลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : soranews24.com, jnto, tcmit, meijijingu, shirakawa, hasedera, visit-miyajima, gear.ac, go-nagano, kanazawa-tourism, japan-guide, oki-churaumi, samurai-kembu, igokudani, visit-miyajima-japan, visithiroshima
 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พลาดไม่ได้ 30 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น น่าไปเช็กอิน อัปเดตล่าสุด 23 กันยายน 2565 เวลา 14:15:02 46,763 อ่าน
TOP