ปักหมุด 10 แหล่งท่องเที่ยวเมืองเฉิงตู เปิดประตูสู่ประเทศจีน

          รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวเมืองเฉิงตู ที่จะทำให้คุณหลงรักประเทศจีน ไปผจญภัยเมืองแห่งนี้กับเราได้เลย

          เมืองเฉิงตู (Chengdu) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่สำคัญของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ครอบคลุมเนื้อที่ราว ๆ 12,300 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศจีน มีชื่อเสียงอย่างในการที่เป็นเมืองที่พรั่งพร้อมไปด้วยวัฒนธรรมและศิลปะที่หลากหลาย รวมทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำที่สำคัญหลายสาย

          และด้วยความที่เฉิงตูเป็นเมืองใหญ่ จึงทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวจีนที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งการคมนาคมที่สะดวกสบาย จึงทำให้เมืองแห่งนี้น่าสนใจไม่น้อย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ที่ต้องการมาเยือนประเทศจีน ซึ่งเราได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองเฉิงตูมาไว้ที่นี่แล้ว ไปผจญภัยเมืองแห่งนี้กับเราได้เลย
 

1. ชมความน่ารักของแพนด้า

 
          เป็นที่ทราบกันดีว่ามณฑลเสฉวนเป็นบ้านเกิดของเจ้าตัวอ้วนกลม สีเขียวสลับดำ เบ้าตาสีดำ ขนนุ่มปุกปุย หรือแพนด้านั่นเอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมการดำเนินชีวิตที่แท้จริงของแพนด้าได้อย่างใกล้ชิด

เฉิงตู

          ศูนย์วิจัยและเพาะเลี้ยงแพนด้าอยู่ห่างจากตัวเมืองเฉิงตูไปเพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้น แถมยังมีสภาพแวดล้อมของธรรมชาติที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินชีวิตที่แท้จริงของแพนด้า เหมาะสมที่สุดในการที่จะเลี้ยงและทำการปรับปรุงพันธุ์เจ้าตัวอ้วนปุกปุยนี้ ตลอดจนการดูแลสัตว์ป่าหายาก เช่น นกกระสาคอดำ นกกระสาขาว แพนด้าเล็ก เป็นต้น ซึ่งธรรมชาติภายในศูนย์วิจัยฯ แวดล้อมไปด้วยป่าไผ่เขียวขจี ดอกไม้นานาชนิดสีสันสดใส ทัศนียภาพที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับวันท่องเที่ยวแบบเบา  ๆ
 

2. วัดวูเฮา (Wuhou Temple)


          วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเฉิงตู สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่จูกัดเหลียง (Zhuge Liang) หรือขงเบ้ง บุคคลสำคัญในยุคสามก๊ก (ค.ศ. 220-280) ตั้งอยู่ชานเมืองทางตอนใต้ของเมืองเฉิงตู มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 37,000 ตารางกิโลเมตร ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่มีการบูรณะในปี ค.ศ. 1672

เฉิงตู

          ในส่วนหลักของวัดวูเฮาถูกแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ไล่ไปตั้งแต่ทางด้านใต้ขึ้นเหนือ คือส่วนของประตูทางเข้า, ประตูที่สอง, ส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับเล่าปี่, บริเวณทางเดิน และส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับขงเบ้ง สิ่งที่มีคุณค่าทางด้านวัฒนธรรมของวัดวูเฮา คือ "ศาลาเสาหิน" สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 809 สูง 372 เซนติเมตร และกว้าง 95 เซนติเมตร ถูกเรียกว่า ศาลาเสาหินแห่งความสำเร็จ 3 ประการ (Triple-Success Stele)
 

3. ถนนโบราณจินหลี่ (Jinli Street)

 
          ถนนโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดวูเฮา ถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ช่วงต้นราชวงศ์ฉิน (ปี ค.ศ. 221-206 ก่อนคริสตกาล) มีชื่อเสียงมากในเรื่องของการซื้อ-ขายผ้าเนื้อดี เป็นย่านการค้าที่รุ่งเรืองมากในช่วงอาณาจักร Shu (ปี ค.ศ. 221-263) และเพื่อเรียกคืนสู่ความรุ่งเรืองของถนนแห่งนี้อีกครั้ง จึงได้รับการบูรณะและเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปเที่ยวชมเมื่อปี ค.ศ. 2004 และนับตั้งแต่นั้นมาถนนแห่งนี้ก็คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ

เฉิงตู
ภาพจาก Keitma / Shutterstock.com

          ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการค้าขายในอดีต ท่ามกลางบ้านเรือน ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ไปพร้อม ๆ กับการลิ้มรสอาหารท้องถิ่น สามารถหาของเก่า งานเย็บปักถักร้อยแบบโบราณ ผลิตภัณฑ์เคลือบ งานหัตถกรรมพื้นบ้าน ฯลฯ ได้จากบนถนนเส้นนี้ และถึงแม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมากมายแค่ไหนแต่บรรยากาศของร้านค้าและพื้นที่โดยรอบก็ยังคงให้ความรู้สึกที่เงียบสงบและผ่อนคลาย
 

4. หุบเขาจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou Valley)

 
          หุบเขาจิ่วจ้ายโกว มีทัศนียภาพและธรรมชาติที่งดงามดั่งเป็นสวรรค์บนดิน ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 600 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยทะเลสาบสีฟ้าใส น้ำตก ป่าเขียวขจี ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวทิเบต (Tibetan) และเชียง (Qiang)

เฉิงตู

         สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในหุบเขาแห่งนี้ก็คือ "ทะเลสาบสีฟ้า" ซึ่งเกิดจากการที่มีแร่ธาตุอยู่ในพื้นดินใต้ทะเลสาบ จึงทำให้มันสะท้อนขึ้นมาบนน้ำ กลายเป็นสีฟ้าสวยใส นอกจากนี้ยังมีพืชยืนต้นอีกกว่า 2,576 สายพันธุ์ พืชล้มลุกและคลุมหน้าดินอีกกว่า 400 สายพันธุ์ สัตว์ป่ามีกระดูกสันหลัง 170 สายพันธุ์ นกนานาชนิดกว่า 140 สายพันธุ์ และสัตว์ป่าหายากอีกประมาณ 17 สายพันธุ์
 

5. เขื่อนตูเจียงเอี้ยน (Dujiangyan Irrigation Project)

 
          ด้วยความที่เมืองเฉิงตูอยู่ใกล้กับแม่น้ำหมินเจียง (Minjiang River) ทำให้ในอดีตเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเมืองเฉิงตูอยู่หลายครั้ง นั่นจึงทำให้รัฐบาลท้องถิ่นสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วม ซึ่งเขื่อนแห่งนี้สร้างอยู่ที่บริเวณแม่น้ำหมินเจียง ปัจจุบันโครงการนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติที่สำคัญของมณฑลเสฉวน มีบทบาทสำคัญในการป้องกันน้ำท่วมสู่เมืองเฉิงตู จัดการชลประทานเพื่อการเกษตรแก่ชาวบ้านโดยรอบ และเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญมายาวนาน

เฉิงตู

         โครงการเขื่อนตูเจียงเอี้ยน ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก คือ

          - Yuzui ลุ่มน้ำที่จะแบ่งเป็นแม่น้ำด้านในและด้านนอก

          - Feisha Yan ฝายน้ำล้นที่กรองทรายและหินของแม่น้ำด้านในที่จะไหลไปสู่แม่น้ำด้านนอก

          - Baoping Kou เป็นส่วนที่นำน้ำจากแม่น้ำหมินเจียงเข้าสู่แม่น้ำด้านใน และคอยควบคุมจำนวนของน้ำที่เข้ามาให้เหมาะสม

          ภายในเขื่อนแวดล้อมไปด้วยต้นไม้และทัศนียภาพที่สวยงาม มีสะพาน Anlan Cable Bridge พาดผ่านระหว่างแม่น้ำหมินเจียง สามารถชมวิวที่สวยงามของเขื่อนตูเจียงเอี้ยนได้จากจุดนี้ ด้านบนภูเขาทางด้านขวาของแม่น้ำหมินเจียงเป็นที่ตั้งของวัด Erwang ซึ่งมีสถาปัตยกรรมในยุคของราชวงศ์ชิง (ปี ค.ศ. 1644-1911)

เฉิงตู


6. ภูเขา Qingcheng

 
          ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเขื่อนตูเจียงเอี้ยน เป็นภูเขาที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของลัทธิเต๋า และยังมีจุดชมวิวที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดที่ขึ้นอยู่เต็มภูเขา เขียวขจีตลอดทั้งปี ได้รับฉายานามว่าเป็นภูเขาที่เงียบสงบและงดงามเบื้องล่างของสรวงสวรรค์ (The Most Peaceful and Secluded Mountain Under Heaven)

เฉิงตู
ภาพจาก outcast85 / Shutterstock.com

          ภูเขาแห่งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือด้านหน้าและด้านหลัง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 15 ตารางกิโลเมตร ที่เชิงเขาเป็นที่ตั้งของพระราชวัง Jianfu ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง (ปี ค.ศ. 618-907) ที่บนยอดสุดของภูเขาเป็นที่ตั้งของศาล Laojun สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูเขา Qingcheng เช่น ถ้ำ Tianshi, อาคาร Ciyun, สะพาน Fangning, พระราชวัง Zushi และพระราชวัง Shangqing เป็นต้น

เฉิงตู
 

7. พิพิธภัณฑ์ Sanxingdui (Three-Star Piles Museum)

 
          พิพิธภัณฑ์นี้อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูไปทางเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่ของการจัดการแสดงประมาณ 4,000 ตารางเมตร ได้ทำการเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1997 เพื่อเป็นสถานที่ในการเก็บรักษาและแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมโบราณของเมืองเสฉวน เช่น หยกสีสดใสโบราณ ทัพพีหินหัวนก รูปสำริดศีรษะมนุษย์กับหน้ากากทอง หยกรูปหัวลูกศร ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา
 

8. อุทยานธารน้ำมังกรเหลือง (Huanglong)

 
          อุทยานธารน้ำมังกรเหลือง หรือฮวงหลง ได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1992 ด้วยมีธรรมชาติที่งดงาม โดดเด่นด้วยทะเลสาบหลากสี ยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมอย่างงดงาม เป็นหุบเขาที่สวยงามและบริสุทธิ์ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Songpan ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเสฉวน

เฉิงตู

          มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เช่น สระ Yingbin งดงามด้วยความใสของน้ำสีฟ้า ซึ่งเกิดจากการที่มีแร่ธาตุแคลเซียมคาร์บอเนตผสมอยู่ใต้ผืนน้ำ, น้ำตก Feipuliuhui ที่ไหลลงมาตามโขดหินสีน้ำตาล, ถ้ำ Xishen, วัดฮวงหลง เป็นต้น  สิ่งที่โดดเด่นแห่งอุทยานแห่งนี้ ก็คือ "สระน้ำใสสีฟ้า" ซึ่งโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ที่เขียวสดใส เมื่อถึงฤดูกาลที่ใบไม้เปลี่ยนสี ทะเลสาบแห่งนี้ก็จะเปลี่ยนสีตามไปด้วย

เฉิงตู
 

9. เมืองซงฟาน (Songpan Ancient Town)


          เมืองโบราณซงฟานอยู่ไม่ไกลจากเมืองเฉิงตู ห่างออกไปเพียงแค่ 200 ไมล์เท่านั้น ด้วยความที่เมืองนี้ได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ จึงเป็นฐานทัพของทหารในสมัยราชวงศ์ถัง (ปี ค.ศ. 618-907) มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจไม่แพ้เมืองอื่น ๆ ของจีนเลยทีเดียว

เฉิงตู
ภาพจาก beibaoke / Shutterstock.com

          ในส่วนของทางเข้าเมือง นักท่องเที่ยวจะประทับใจด้วยกำแพงเมืองหินอันยิ่งใหญ่และเก่าแก่ สร้างส่วนของประตูให้มีรูปร่างโค้ง ฐานหินตรงส่วนประตูมีการแกะสลักลวดลายอย่างละเอียดอ่อน ซึ่งก้อนหินที่นำมาสร้างนั้นแต่ละก้อนยาวถึง 10 นิ้ว กว้าง 5 นิ้ว และหนา 5 นิ้ว หนักประมาณ 30 กิโลกรัม กำแพงเมืองมีความยาวประมาณ 4 ไมล์ และสูงมากกว่า 33 ฟุต แบ่งเมืองออกเป็น 2 ส่วน คือ เมืองด้านนอกและเมืองด้านใน มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง ลักษณะบ้านเรือนยังคงรักษาไว้ซึ่งรูปแบบดั้งเดิม ยังคงรักษาศิลปะและวัฒนธรรมพื้นเมืองไว้อย่างครบถ้วน

เฉิงตู
 ภาพจาก beibaoke / Shutterstock.com

10. พระใหญ่เล่อซาน (Leshan Grand Buddha)

           
          เคารพสักการะและขอพรจากพระองค์ใหญ่ ณ หุบเขาเล่อซาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหินแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดของโลก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเฉิงตู อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเล่อซาน สร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์ถัง (ปี ค.ศ. 713-803) เป็นงานชิ้นยิ่งใหญ่ของชาวบ้านในสมัยนั้น ที่ต้องแกะสลักพระพุทธรูปจากภูเขาหิน มีความสูง 71 เมตร ยาว 8.3 เมตร หลังเท้ากว้าง 9 เมตร และช่วงไหล่กว้าง 24 เมตร

เฉิงตู

          พระใหญ่เล่อซาน เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในอิริยาบถนั่ง วางมืออยู่บนหน้าตักทั้งสองข้าง ใบหน้ายิ้มแย้ม แสดงถึงความเมตตาและความเงียบสงบ ประชาชนจากทั่วสารทิศจึงไปนมัสการเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของชีวิต ทั้งนี้พระใหญ่เล่อซานได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกร่วมกับภูเขาเอ๋อเหม่ ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1996
 
         เมืองเฉิงตูยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย หากใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวประเทศจีน แต่ไม่รู้ว่าจะไปผจญภัยที่มุมไหนดี เมืองเฉิงตูก็เป็นเมืองที่เหมาะมาก ๆ สำหรับนักเดินทางทัวร์จีนมือใหม่ เพราะมีธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงาม อีกทั้งการเดินทางยังปลอดภัย สะดวกสบาย ผู้คนเป็นมิตร ค่าครองชีพไม่แพง เป็นการเปิดประสบการณ์สู่เมืองจีนในอีกรูปแบบที่อาจจะทำให้คุณหลงรักประเทศนี้ไปเลยก็ได้
 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
travelchinaguide.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปักหมุด 10 แหล่งท่องเที่ยวเมืองเฉิงตู เปิดประตูสู่ประเทศจีน อัปเดตล่าสุด 9 เมษายน 2567 เวลา 14:05:15 147,729 อ่าน
TOP
x close