วันนี้เราหยิบเอาอีกหนึ่งบันทึกการเดินทางที่น่าสนใจของ คุณ นายสองสามก้าว สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้มีโอกาสนั่งรถไฟฟรี (ฟรี) ไปปั่นชิลชมวิว @ เขาล้อมหมวก อ่าวประจวบคีรีขันธ์ และอ่าวมะนาว ขอบอกเลยว่ารีวิวนี้เหมาะมาก ๆ กับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวหรืออยากจะไปท่องเที่ยวแบบสบาย ๆ เพลิน ๆ ค่ะ เอาล่ะ ! ถ้าพร้อมก็ตามไปหวานเย็นกันเลย
ฉึกฉัก...ฉึกฉัก ผมชอบนั่งรถไฟครับ หวานเย็นไปเรื่อยถึงจุดหมายกี่โมงก็ช่าง และมีอยู่สถานที่หนึ่งซึ่งผมเฝ้าสังเกตการณ์มานานแต่ต้องพลาดมาหลายครั้ง คือ การนั่งรถไฟไปประจวบคีรีขันธ์ หมายถึงนั่งไปเที่ยวตัวเมืองประจวบฯ นะ ไม่ใช่แค่หัวหินหรือเลยไปบ้านกรูดเหมือนที่ผมเคยนั่งมาก่อนแล้ว
ตอนนี้หน้าร้อนแดดดี ๆ พอว่างปุ๊บ 17-19 มีนาคม วันธรรมดากลางสัปดาห์เลยจัดทริปปั๊บไม่ให้เสียโอกาสอีกต่อไป อาศัยข้อมูลจากกระทู้ต่าง ๆ ในพันทิปนี่แหละครับทำให้รู้ว่าการเที่ยวเมืองประจวบฯ หรือเมืองสามอ่าวทำได้ไม่ยาก ตีธงไว้ว่าจะนั่งรถไฟฟรีไปเช่าจักรยานปั่นเที่ยว เดินทางลำพัง ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ก่อนเที่ยวต้องมาว่าถึงแผนที่ทิศทางเสียก่อน ตัวเมืองประจวบฯ ตั้งอยู่กึ่งกลางจังหวัดที่ยาวที่สุดของบ้านเรา เขาเรียกเมืองประจวบฯ เก๋ ๆ ว่าเมืองสามอ่าว เพราะตรงใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของอ่าวสามอ่าวเรียงกัน จากทิศเหนือ คือ อ่าวน้อย อ่าวประจวบฯ และอ่าวมะนาว
เป้าหมายของทริปคือการขึ้นเขาช่องกระจก ซึ่งตั้งอยู่เกือบกลางอ่าวประจวบฯ กับเขาล้อมหมวกที่อยู่ปลายอ่าวประจวบฯ ด้านทิศใต้ เป็นภูเขาที่กั้นระหว่างอ่าวประจวบฯ กับอ่าวมะนาว ที่เหลือคือการเที่ยวถ่ายภาพเล่นตามชายหาด นั่นเป็นความตั้งใจคร่าว ๆ ของทริปครับ...พร้อมแล้วก็ลุยโลด Let\'s go เก็บกระเป๋าแบกเป้ไปเลยดีกว่า
ทริปนั่งรถไฟไปประจวบฯ ออกตัวง่ายสุดที่สถานีรถไฟธนบุรี บางคนเรียกบางกอกน้อย ถนนจรัญสนิทวงศ์ เพราะเป็นรถไฟฟรี (อยากเสียตังค์ขึ้นที่หัวลำโพงก็ได้ แต่ช่วงเช้ามีเฉพาะรถด่วนพิเศษหรือสปรินเตอร์ ราคาประมาณ 450 บาท) รถเที่ยวเช้าสุด คือ ขบวนที่ 255 ธนบุรี-หลังสวน จังหวัดชุมพร เป็นรถธรรมดา หมายถึงรถหวานเย็นจอดทุกสถานี รับประกันว่านั่งยาวแน่นอน (ฮา ๆๆ)
ตามตารางรถออก 07.30 น. ก็เรทมานิดหน่อยตามฟอร์ม ช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอม มหาวิทยาลัยปิดภาค วัยรุ่นวัยเรียนเดินทางเที่ยวกันเพียบ รถไฟจึงแน่นขนัดกว่าปกติ เป้าหมายของพวกเขาอยู่ที่ชะอำกับหัวหินครับ นั่งหวานเย็นมาเรื่อย ๆ หลับบ้าง สัปหงกหัวโขกที่นั่งบ้าง ผ่านจังหวัดนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ฟังดูเหมือนนิดเดียวแต่กว่าจะผ่านแต่ละจังหวัดก็นานโขอยู่นะ ถึงประจวบฯ ราวบ่ายสองโมงครึ่ง สายหนึ่งชั่วโมงถือว่าไม่มากนัก เมื่อเทียบกับมาตรฐานรถไฟสายนี้
เพิ่งเคยลงรถที่นี่ครับ สถานีรถไฟประจวบฯ แจ๋วจริงนะตัวเธอ เพราะอยู่ใจกลางตัวเมือง ห่างชายทะเลแค่ห้าร้อยเมตร ลงรถแล้วสามารถเดินเท้าไปชายหาดสบาย ๆ
ภารกิจแรก คือ หาห้องหับหลับนอน เดินจากสถานีนิดเดียวก็เจอโรงแรมชื่อยุติชัยตั้งอยู่ริมถนน สังเกตป้ายราคาแล้วโดนใจมากครับ ห้องพัดลมราคาแค่ 160-250 บาท แต่ด้วยเพราะผมยังไม่เคยมาเลยขอสำรวจเส้นทางสักหน่อย เลือกเดินไปดูวิวแถวชายทะเลก่อน
ริมหาดประจวบดูเงียบสงบดี มีโรงแรมพอสมควรเลยล่ะ แต่สุดท้ายตัดสินใจเดินกลับไปโรงแรมยุติชัยครับ ปรากฏว่าห้องพัดลม..."เต็มค่ะ" พนักงานยิ้มให้ เล่นเอาผมรู้สึกจุกอกเหมือนวิมานที่วาดไว้ล่มสลายลงตรงหน้า แถมเหลือห้องแอร์ห้องเดียว 500 บาท ก็ไม่เป็นไรครับเพราะตั้งงบประมาณไว้ราวนี้แหละ มองโลกแง่ดี คือ หน้าร้อนนอนห้องแอร์ก็สบายดีนะ ที่นี่ไม่มีอาหารเช้า แต่มีจักรยานให้เช่าวันละ 50 บาท ไม่ต้องไปเช่าตามร้านแถวชายหาด ถือว่าสะดวกดีครับ
พักให้หายล้านิดหน่อยแล้วก็ลุยโลด ถนนในตัวเมืองประจวบฯ ค่อนข้างโล่ง รถน้อย เหมาะกับการปั่นจักรยานมาก ผมลัดเลาะชมเมืองสักพักแล้วจึงไปเป้าหมายแรก คือ เขาช่องกระจก ที่ตั้งของวัดเขาช่องกระจกนั่นแหละ เป็นภูเขาลูกย่อม ๆ อยู่ใจกลางอ่าวประจวบฯ เคยได้ยินชื่อมานานจะได้สัมผัสสักที
ความโด่งดัง (ในแง่ลบ) ของฝูงลิงที่เขาช่องกระจกนี่มีหลายคนเคยบอก พอเจอกับตัวต้องยอมรับว่าลิงที่นี่ค่อนข้างเกเร โดยเฉพาะพวกที่อยู่ด้านบน แยกเขี้ยวขู่ฟอด ๆ มีเรียกพวกมาช่วยกันรุมขู่ด้วยนะเออ แถมบางตัวตีเนียนอ้อมมาข้างหลังตลอด เวลาถ่ายรูปเลยไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร ใครขึ้นไปก็เตรียมรับมือพวกมันด้วยครับ แต่แลกกับวิวสวย ๆ แล้วนับว่าคุ้มค่าอยู่
ฝั่งนี้มองเห็นคลองบางนางรมไหลลงทะเล โชคดีมีเจ้าจ๋อมาประกอบฉากเท่ ๆ ด้วยแฮะ
ลงมาจากเขาช่องกระจกก็ใกล้เย็นแล้วครับ เรื่องของกินหาไม่ยากเพราะตรงที่ว่าการอำเภอฯ เยื้องกับโรงแรม มีตลาดของกินยามค่ำทุกวัน กินตามอัธยาศัยสบายกระเพาะในราคาประหยัด เป็นอันปิดวันแรกเท่านี้แหละครับ
วันที่สองเป้าหมายหลักของทริป คือ ขึ้นเขาล้อมหมวก ผมตั้งใจขึ้นช่วงสาย ๆ ก่อนเที่ยง วาดหวังจะได้ฟ้าใสแดดดี เรื่องตัวดำตัวไหม้อย่าได้ไปแคร์ พอหาข้าวเช้ากินเสร็จก็ปั่นจักรยานจากโรงแรมชมวิวอ่าวประจวบไปเรื่อย ๆ จนถึงทางกองบิน 5 ที่ตั้งของเขาล้อมหมวก ถนนเลียบหาดโล่งมากแทบไม่มีรถรา ปั่นไม่ไกลครับ ชิลมาก ๆ
บรรยากาศภายในกองบิน 5 ครับ
เอาล่ะได้เวลาเหงื่อตก ทางขึ้นเขาล้อมหมวกช่วงแรกเป็นบันไดหลอกให้เราดีใจ แต่พอสุดบันไดก็ต้องเดินไต่ลัดเลาะไปตามเขาหินปูน ง่ายบ้าง ยากบ้างสลับกัน ช่วงที่ยากจะมีเชือกไว้ให้คอยยึดจับ เส้นทางโดยรวมสำหรับผมยังถือว่าไม่โหดมากครับ ตลอดทางมีจุดชมวิวเป็นระยะ ส่วนมากวิวที่เห็นจะเป็นฝั่งอ่าวมะนาว
ตอนคุยกับพี่ทหารอากาศด้านล่างผมแย็บถามเขาว่าสักสองชั่วโมงเดินถึงไหม เขาบอกว่าถ้าร่างกายฟิตหน่อยก็ถึง ป๊าด ! ผมไม่ค่อยจะฟิตเสียด้วยเลยตั้งเป้าไว้สักสองชั่วโมงครึ่งแล้วกัน แต่เอาเข้าจริงแล้วใช้เวลาประมาณชั่วโมงเดียวเองครับ
ขึ้นมาถึงแล้วสดชื่นสุด ๆ ความรู้สึกเหมือนจะบินได้เลยแฮะ ด้านบนเป็นที่ตั้งของพระมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง เดินชมวิวได้โดยรอบทุกองศา วิวที่เห็นจะเป็นสองฝั่งคืออ่าวประจวบฯ กับอ่าวมะนาว
ฝั่งอ่าวประจวบฯ มีเกาะน้อยใหญ่อยู่สี่เกาะที่เรียงกันจากบนลงล่าง คือ เกาะหลัก เกาะหลำ เกาะร่ม ส่วนเกาะทางขวา คือ เกาะแรด ส่วนภูเขาปลายอ่าวอีกฝั่งที่เห็นไกล ๆ คือ เขาตาม่องลาย ถัดออกไป คือ อ่าวน้อยครับ แต่วันนั้นไอหมอกและไอทะเลหนามากทัศนวิสัยเลยเลือนรางเต็มที
ฝั่งอ่าวมะนาวโค้งชายหาดสวยไม่แพ้กัน เกาะขนาดเล็กที่เห็น คือ เกาะแอ่น ส่วนภูเขาสุดอ่าวด้านโน้น คือ เขาคลองวาฬ
ผมขึ้นถึงยอดเขาล้อมหมวกประมาณสิบโมงครึ่ง พกข้าวซองที่แกะกินได้เลยขึ้นไปเป็นข้าวเที่ยงบนนั้นด้วย บอกเลยว่าถึงรสชาติจะไม่ค่อยอร่อยแต่ยามเหนื่อยยามโหยมีประโยชน์มาก อยู่ข้างบนสักสองชั่วโมงกว่า ๆ ค่อยลงมา ด้านล่างของภูเขาเป็นแหล่งอนุรักษ์ค่างแว่นถิ่นใต้ ตอนลงไปนักท่องเที่ยวกำลังให้อาหารพอดี เลยเก็บภาพมานิดหน่อย
เดินเล่นอีกสักพักในกองบิน 5 อำลาเขาล้อมหมวกจากข้างล่างครับ ทางขวาในภาพคือยอดเขา มองเห็นพระมณฑปเล็กนิดเดียว สูงขนาดนี้แหละที่ลากสังขารเดินปีนป่ายขึ้นไป
ได้เวลาปั่นต่อไปอ่าวมะนาว โค้งเวิ้งทอดยาวของอ่าวมะนาวเป็นเขตทหารอากาศทั้งหมดครับ เขาแบ่งเป็นเขตควบคุมซึ่งไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปใช้พื้นที่ กับเขตที่เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีเตียงผ้าใบ มีร้านขายอาหารของกิน
ผมว่าถ้าจะมาเล่นทะเลที่เมืองประจวบฯ ก็ต้องที่อ่าวมะนาวนี่แหละ บ้านพักและร้านอาหารบรรยากาศดีพอสมควร ชิล ๆ แบบไม่ต้องสวยเว่อร์มาก แถมเป็นเขตทหารเลยสะอาดสะอ้านไม่พลุกพล่าน
อยู่ที่อ่าวมะนาวจนพอใจแล้วก็ปั่น ปั่น ปั่น ผ่านกองบิน 5 กลับทางเดิมสู่อ่าวประจวบฯ คราวนี้เลยเขาช่องกระจกไปอีกฝั่งของอ่าว คือ ทางปากคลองบางนางรม ปั่นไป จอดไป ถ่ายรูปไป เป็นเส้นที่เหมาะกับการปั่นจักรยานเหลือหลาย
วันนี้ทั้งขึ้นเขาและปั่นจักรยานไป ๆ มา ๆ เล่นเอาล้าพอสมควร กินข้าวเย็นหน้าที่ว่าการอำเภอฯ เสร็จสรรพ กลับถึงโรงแรมแทบสลบเหมือดเชียว นอนห้องแอร์มันก็มีข้อดีเหมือนกันนะนี่
วันสุดท้ายครับ เก็บเป้เช็กเอาท์และฝากของกับทางโรงแรมเรียบร้อย สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ตรวจสอบเวลาการเดินรถไฟ ตามตารางรถไฟฟรี หลังสวน-ธนบุรี ขบวน 254 (หากเช็กในเว็บไซต์การรถไฟจะไม่พบขบวนนี้นะครับ เพราะตารางในเว็บไม่อัพเดต) จะถึงประจวบฯ ราวสิบโมง แต่สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าวันนี้จะมาสาย (เป็นเรื่องปกติ) เข้าถึงสถานีตอนสิบโมงสี่สิบ ผมเลยมีเวลาเที่ยวเก็บภาพอีกเล็กน้อย
จักรยานคันเดิมปั่นไปศาลหลักเมืองประจวบฯ เล็งไว้ตั้งแต่วันแรกแล้วครับว่าจะมาในวันสุดท้าย
จากนั้นไปเขาช่องกระจกอีกสักรอบ เก็บตกภาพต่าง ๆ กับมุมมองช่วงครึ่งวันเช้า ขึ้นไปคราวนี้คงเพราะแดดสายแรงจ้า พวกเจ้าจ๋อเลยหลบแดดกันหมดไม่ค่อยมีมากวนใจ
เร่งทำเวลานิดหน่อยเพื่อจะได้กินข้าว คืนจักรยาน แล้วค่อยเดินไปสถานีรถไฟ เจอตารางใหม่บอกว่าขบวน 254 เพิ่มเวลาสายเป็นห้าสิบนาที คือ จะมาถึง 11.10 น. และพอเอาเข้าจริงกว่ารถจะเทียบชานชาลาก็ปาเข้าไป 11.20 น. รักษามาตรฐาน รฟท. ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ขากลับเป็นการนั่งที่ทรหดดีครับ ผมปิดทริปกลับถึงเมืองกรุงใกล้จะทุ่ม สายกว่าตารางสองชั่วโมงเศษ เป็นทริปที่ให้ความรู้สึกยาวนาน แต่ก็สนุกสนาน ประทับใจ และที่สำคัญคือประหยัด (นี่ถ้าได้ห้องพักลมคงสบายกระเป๋าสตางค์มาก) รับประกันว่าจะต้องกลับไปซ้ำรอยตัวเองแน่นอน เพราะผมตกหลุมรักเมืองสามอ่าวเข้าแล้วเต็มเปาแล้วล่ะ
--------------------------------------------------------------------------
สรุปเวลาการเดินทาง
วันแรก
07.30 น. ขึ้นรถไฟธนบุรี-หลังสวน
14.30 น. ถึงประจวบคีรีขันธ์
15.10 น. เช็กอินโรงแรมยุติชัย
16.00 น. ขึ้นเขาช่องกระจก
วันที่สอง
09.30 น. ขึ้นเขาล้อมหมวก
13.00 น. เที่ยวอ่าวมะนาว
16.00 น. เที่ยวอ่าวประจวบ
วันที่สาม
08.30 น. เช็กเอาท์-ฝากของโรงแรม
09.00 น. ไปศาลหลักเมือง-เขาช่องกระจก
10.00 น. รอรถที่สถานีรถไฟ
11.20 น. ขึ้นรถไฟ หลังสวน-ธนบุรี
18.50 น. ถึงกรุงเทพฯ ป้ายหยุดรถจรัญสนิทวงศ์
---------------------------------------------------------------------------
ใครสนใจอยากอ่านกระทู้รีวิวอื่นของผม เชิญกันได้ครับ เน้นเฮฮาถ่ายภาพมากกว่ากินกับนอน
หรืออยากคุยเรื่อยเปื่อย สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) ชวนเที่ยวก็ยินดียิ่งครับ
หมายเหตุ : กองบิน 5 (อ่าวมะนาว) อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ แจ้งเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวพิชิตเขาล้อมหมวก ตั้งแต่เวลา 06.00-12.00 น. โดยสามารถดูตารางได้ที่ tiewpakklang.com
**โดยจะมีทางเจ้าหน้าปิดรับลงทะเบียน 10.00 น.** ทั้งนี้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก TAT PRACHUAP
**โดยจะมีทางเจ้าหน้าปิดรับลงทะเบียน 10.00 น.** ทั้งนี้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก TAT PRACHUAP