หากเอ่ยถึงที่เที่ยวแล้วเราก็คงจะนึกไปถึงสถานที่ต่าง ๆ ทั้งสถานที่สำคัญและสถานที่ซึ่งมีความสวยงาม แต่ใครจะรู้ว่าสะพานสวย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ ก็ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจได้เช่นกัน และวันนี้กระปุกดอทคอมก็มีสะพานสวย ๆ ในไทยมาให้ชมกัน ซึ่งนอกจากความเป็นมาของแต่ละสะพานจะน่าสนใจแล้ว บรรยากาศรอบด้านยังงดงามเหมาะแก่การมาเยี่ยมเยือนมากทีเดียว ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ
1. สะพานซูตองเป้, จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เริ่มกันที่สะพานซูตองเป้ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน สะพานไม้เก่าแก่ที่เกิดจากร่วมแรงร่วมใจของพระ เณร และชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้น เพื่อเป็นเส้นทางสำหรับการเดินทางไปทำบุญหรือปฏิบัติธรรมที่สวนธรรมภูสมะ และคำว่า "ซูตองเป้" นั้นเป็นภาษาไทยใหญ่ซึ่งหมายถึง "อธิษฐานสำเร็จ" สะพานแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยเสน่ห์และมนตร์ขลัง นอกจากนี้จุดเด่นอยู่ที่วิวสวย ๆ สองข้างทางที่เป็นทุ่งนาสีเขียวซึ่งสร้างความสดชื่นให้แก่ผู้มาเยือนได้มากทีเดียว
2. สะพานมอญ สังขละบุรี, จังหวัดกาญจนบุรี
สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่า "สะพานมอญ" ถูกสร้างขึ้นโดยดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ. 2529-2530 โดยใช้แรงงานของชาวมอญ เพื่อเป็นสะพานข้ามแม่น้ำซองกาเรีย และใช้เป็นเส้นทางสัญจรไป-มาของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ และปัจจุบันก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี
3. สะพานไม้ข้ามหนองแกดำ, จังหวัดมหาสารคาม
สะพานไม้ข้ามหนองแกดำ ตั้งอยู่ที่เทศบาลตำบลแกดำ อำเภอแกดำ ถือเป็นสะพานไม้เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ทัศนียภาพโดยรอบเต็มไปด้วยความสวยงามของบึงบัวแน่นหนองน้ำ ในยามเช้าอากาศจะสดชื่นเหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนหรือถ่ายรูปสวย ๆ และในช่วงที่ดอกบัวพร้อมใจกันเบ่งบานเป็นสีชมพูก็เช่นกัน ทำให้สะพานไม้แห่งนี้อบอวลไปด้วยความโรแมนติก
4. สะพานแขวนสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี, จังหวัดตาก
ภาพจาก takpao
ภาพจาก ททท.
สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี หรือที่เรียกว่า "สะพานแขวน" สร้างเมื่อ พ.ศ. 2525 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก เพื่อสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยมีขนาดกว้าง 2.50 เมตร ยาว 700 เมตร เพื่อเชื่อมระหว่างตัวเมืองตากและตำบลป่ามะม่วง บนสะพานมียังมีทางเท้าสำหรับเดินชมทิวทัศน์แม่น้ำปิงระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร และมีการประดับไฟสวยงามในยามค่ำคืน อีกทั้งยังเป็นจุดสำคัญสำหรับจัดงานประเพณีลอยกระทงโดยเป็นกระทงที่ทำจากกะลามะพร้าวไปตามแม่น้ำปิง ซึ่งในช่วงประเพณีดังกล่าวจะมีมีผู้มาเยือนสะพานสะพานแขวนสมโภชฯ กันอย่างเนืองแน่นเลยทีเดียว
5. สะพานไม้บึงบัว เขาสามร้อยยอด, จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
6. สะพานแขวนแก่งกระจาน
ภาพจาก dnp
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี แถมยังมีลักษณะเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ หน้าผาที่สวยงาม รวมทั้งสะพานไม้ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวสวย ๆ ในแก่งกระจานด้วย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวสามารถมาชมทะเลหมอกสวย ๆ ได้จากชุดนี้เลยค่ะ
7. ทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน, จังหวัดจันทบุรี
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครอบคลุมพื้นที่อ่าวคุ้งกระเบนและพื้นที่โดยรอบ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ แห่งนี้มีหน้าที่ศึกษาค้นคว้าและวิจัยในเรื่องระบบนิเวศทางธรรมชาติเพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดจันทบุรี และยังเป็นศูนย์ฯ ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาศึกษาสภาพธรรมชาติ เพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องระบบนิเวศในป่าชายเลนและรู้จักใช้ทรัพยากรเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ภายในศูนย์ฯ ยังมีการสร้างสะพานเดินศึกษาธรรมชาติและป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนเป็นระยะทาง 1,600 เมตร เพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติ พร้อมกับสร้างศาลาขนาดเล็กไว้เป็นระยะ แถมยังมีจุดที่ให้ความรู้เกี่ยวกับป่าชายเลนอีกด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้เห็นสัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ อย่างปลาตีน ปูแสม และแมงดาทะเล กระทั่งเมื่อเดินต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะมาถึงจุดสำคัญสุดท้าย คือ ศาลาชมวิว ที่สร้างยื่นออกไปในอ่าว จากจุดนี้สามารถมองเห็นแนวป่าชายเลนที่ทอดตัวขนานไปกับผืนน้ำอย่างสวยงาม ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย
8. สะพานไม้ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ, จังหวัดชลบุรี
ภาพจาก chumchonburi
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ จัดเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดผืนสุดท้ายของจังหวัดชลบุรีที่หลงเหลืออยู่ และยังมีการจัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นสะพานไม้ยาว 2,300 เมตร ซึ่งถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยด้วย โดยผู้เข้าชมจะได้พบเห็นดงต้นโกงกางที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นซึ่งนอกจากจะช่วยกำบังคลื่นลมทะเลได้เป็นอย่างดีแล้ว เรือนรากโกงกางเหล่านี้ยังกลายเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ คุณจึงมองเห็นสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ทั้งลูกปลา ปลาตีน ปูก้ามดาบ กุ้ง นกกินเปี้ยว รวมทั้งนกยางที่บินวนเวียนมาดักซุ่มจับปลากินเป็นอาหาร ถือเป็นที่พักต่างอากาศชั้นดีใกล้กรุงที่ควรค่าแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจ
9. สะพานไม้ ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส, จังหวัดระยอง
ตำบลปากน้ำประแสเป็นชุมชนริมแม่น้ำตั้งแต่สมัยอยุธยา บริเวณนี้มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ชายหาดแหลมสน, ชายหาดประแส รวมทั้งสะพานไม้ชมป่าชายเลน ทุ่งโปรงทอง ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่สร้างจากเงินกองทุนหมู่บ้าน และทอดแนวยาวลัดเลาะไปตามแนวต้นโกงกาง และไปบรรจบกับปลายสะพานทุ่งโปรงทอง โดยสะพานแห่งนี้ทอดไปสิ้นสุดที่ทะเลประแส แถมบริเวณใกล้เคียงยังมีแม่น้ำประแสซึ่งเป็นจุดชมหิ่งห้อยในยามค่ำคืนอีกด้วย
สะพานข้ามลำน้ำงาว หรือ สะพานโยง, ลำปาง
เชื่อเลยว่ายังมีนักท่องเที่ยวหลายคนที่ยังไม่เห็นเมืองไทยในมุมนี้มาก่อน และสะพานสวย ๆ เหล่านี้ก็ควรค่าแก่การไปเยือนจริง ๆ เพราะนอกจากบรรยากาศรอบด้านจะสดชื่นไปด้วยธรรมชาติแล้ว ยังถือเป็นแบ็คกราวด์สวย ๆ ในการถ่ายรูปด้วย ที่สำคัญยังเที่ยวสนุกกันได้ทั้งครอบครัวเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, , , , , taiyai, dnp, chonburi, เฟซบุ๊กแกดำ และ lannapost