เที่ยวต่างประเทศ พาชมสถานที่บรรยากาศดี ๆ จากทั่วโลก มีทั้งทะเล ภูเขา อุทยานแห่งชาติ หรือบ้านเมืองที่น่ารักและมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวต่างประเทศน่าสนใจ เผื่อตามไปเช็กอินกัน
การได้ออกไปท่องโลกกว้าง เปิดหูเปิดตากับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในต่างแดน ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันในชีวิตที่สามารถชาร์จพลังใจและเติมเต็มให้ชีวิตมีชีวาได้เป็นอย่างดี และใครที่ไม่รู้จะไปไหนดีเพราะที่เที่ยวทั่วโลกนั้นเต็มไปหมด เอาเป็นว่ามาดู 15 สถานที่ท่องเที่ยวบรรยากาศดี ๆ ที่เราหยิบมาแนะนำกันดีกว่า
1. แองกวิลลา, สหราชอาณาจักร (Anguilla, UK)
แองกวิลลา เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในทะเลแคริบเบียนซึ่งล้อมรอบด้วยหาดทรายสีขาวจั๊วะและน้ำทะเลสีฟ้าที่ต้องบอกว่าใสมากจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติด้วยชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ได้ร่วมมือร่วมใจกันดูแลรักษา โดยพวกเขาไม่อนุญาตให้กระทำการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดมลพิษทุกด้าน เช่น การเล่นเจ็ทสกี ด้วยเหตุผลที่ว่ามันจะทำให้เกิดมลพิษทางเสียงนั่นเอง ที่นี่จึงเป็นจุดหมายยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักความสงบ
2. เกาะนอร์ทสแตรดโบรก, ออสเตรเลีย (North Stradbroke Island, Australian)
เกาะนอร์ทสแตรดโบรกหรือชาวท้องถิ่นเรียกว่าสแตรดดี้ ตั้งอยู่ในเขตควีนส์แลนด์และอยู่ไม่ไกลจากบริสเบน มันเป็นจุดหมายวันหยุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกหรือแม้กระทั่งชาวออสซี่เองก็ตาม ที่อยากให้วันหยุดสุดสัปดาห์ผ่อนคลายไปกับหาดทรายสวย ๆ และน้ำทะเลกว้างใหญ่ พร้อมกับทำกิจกรรมทางน้ำ ทั้งเล่นน้ำทะเล, ตกปลา, เล่นเซิร์ฟ หรือการไต่ผา แถมที่นี่ยังเต็มไปด้วยชายหาดสวยงามกว่า 5 แห่ง และทะเลสาบกว่า 12 แห่งด้วยกัน ยังไม่หมดเท่านั้น ยังมีจุดชมโคอาล่าและจุดชมวาฬแบบใกล้ชิดด้วย
3. เกาะไหหลำ, จีน (Hainan Island, China)
เกาะไหหลำ ตั้งอยู่ทางทะเลจีนใต้ของประเทศจีน มันประกอบไปด้วยชายหาดหลายแห่ง, สวนภูเขาไฟ, ลิงจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของวัดพุทธชื่อดังก้องโลกอย่างวัดเส้าหลิน นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเลให้นักท่องเที่ยวได้ไปสักการบูชา สำหรับใครที่อยากเสพกีฬาแบบเอ็กซ์ตรีม ที่นี่ยังมีเทศกาลการแข่งขันกระดานโต้คลื่นเป็นประจำทุกปีด้วย
4. ฮอคกิ้งฮิลล์ สเตรท พาร์ค, สหรัฐอเมริกา (Hocking Hills State Park, USA)
ฮอคกิ้งฮิลล์ สเตรท พาร์ค ตั้งอยู่ในรัฐโฮไฮโอ มันเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งทางธรรมชาติและกิจกรรมท้าทายต่าง ๆ สำหรับเด็กหรือผู้สูงอายุสามารถเพลิดเพลินไปกับน้ำตก, ฟาร์ม และความสวยงามของทัศนียภาพโดยรอบ ส่วนคนหนุ่มสาวที่มีหัวใจรักความสนุกสนานท้าทายก็ต้องลองกิจกรรมที่ทางพาร์คจัดไว้ให้ไม่ว่าจะเป็น การขับรถ ATV, เดินป่า, ไต่หน้าผา, โหนสลิง หรือกิจกรรมเบา ๆ อย่างพายเรือคายัก
5. เกาะหลีเป๊ะ, ไทย (Koh Lipe, Thailand)
ใครว่ามีแค่ที่เที่ยวต่างประเทศเท่านั้น
เพราะในมุมมองของต่างชาติที่เที่ยวบ้านเราก็สวยงามไม่แพ้ใคร
เพราะเกาะหลีเป๊ะก็ติดอันดับกับเขาด้วยเช่นกัน
โดยเกาะหลีเป๊ะนั้นตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล
และอยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดังราวี จุดเด่นอยู่ที่หาดทรายสีขาวทอดยาวลงทะเล
ทำให้เกิดเป็นภาพทะเลแหวกเล็ก ๆ
ที่มีความสวยงามและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเลย
6. อุทยานแห่งชาติ Gates Of The Arctic, สหรัฐอเมริกา (Gates Of The Arctic National Park, USA)
อลาสกา รัฐที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในอเมริกา แถมยังมีชายแดนติดกับมหาสมุทรอาร์กติกทางตอนเหนือของรัฐด้วย อุทยานแห่งชาติ Gates Of The Arctic ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐจึงเป็นเสมือนประตูสู่มหาสมุทรอาร์ติกนั่นเอง โดยอุทยานถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเลกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยป่าไม้ มันจึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยที่พร้อมจะเอาตัวรอดท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ
7. ชานลึอูร์ฟา, ตุรกี (Sanliurfa, Turkey)
ชานลึอูร์ฟาหรือมีอีกชื่อว่าอูร์ฟาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจในตุรกี นอกจากจะเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีสถาปัตยกรรมงดงามของสิ่งปลูกสร้างที่น่าสนใจหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์หรือมัสยิด นอกจากนี้การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่างวัด Gobekli Tepe ก็ถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมห้ามพลาด เพราะมันเป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความเก่าแก่และคาดว่ามีอายุกว่าหมื่นปีเลยทีเดียว
8. เมือง Kobarid, สโลวีเนีย (Kobarid, Slovenia)
เมือง Kobarid เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณภูเขา Soca ในประเทศสโลวีเนีย มันจึงงดงามด้วยทัศนีภาพของภูเขาและทุ่งหญ้าที่มีความสวยงามแตกต่างกันในทุกฤดูกาล หรือหากคุณอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์ยุคเหล็กหรือสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซึ่งจะให้ความรู้คุณได้ดีเลยล่ะ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยบ้านพักตากอากาศและร้านอาหารรสเลิศหลายแห่ง
9. ภูเขาไฟวีรุงกา, สาธารณรัฐรวันดา (Virunga Volcanoes, Rwanda)
ภูเขาไฟวีรุงกา เป็นแนวภูเขาไฟในแอฟริกาตะวันออก และมีอาณาเขตทอดยาวไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยรวันดา คองโก และยูกันดา แต่ความน่าสนใจอยู่ที่ภูเขาไฟในเขตรวันดาด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เพราะมันเป็นภูเขาไฟที่ยังมีการปะทุอยู่ ดังนั้นรวันดาน่าจะเป็นจุดหมายที่ดีหากคุณอยากมาชมความสวยงามของภูเขาไฟแบบใกล้ชิด และหากคุณขึ้นไปถึงความสูงที่ 15,000 ฟุต คุณจะพบกับความสวยงามของวิวทิวทัศน์เบื้องหน้า อีกทั้งยังมีสัตว์ป่านานาชนิดที่พร้อมทำให้คุณทึ่ง ได้แก่ กอริลลา, ชิมแปนซี และช้างป่า
10. เมือง Schoenau am Koenigssee, เยอรมนี (Schonau am Konigsee, Germany)
Schonau am Konigsee คือเทศบาลเมืองในเขตของ Berchtesgaden รัฐบาวาเรียของเยอรมนี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของทะเลสาบ Koenigssee แถมยังมีอาณาเขตอยู่ติดกับประเทศออสเตรียอีกด้วย นอกจากนี้มันยังเป็นที่พักตากอากาศชั้นดีในช่วงฤดูหนาวที่มาพร้อมกับกิจกรรมโดน ๆ อย่างการเล่นสกี ใครที่อยากสัมผัสอากาศดี ๆ รับลมหนาวท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกก็มาที่นี่เลยจ้า
11. เกาะ Rangiroa, เฟรนช์โปลินีเซีย (Rangiroa, French Polynesia)
เฟรนช์โปลินีเซีย ดินแดนโพ้นทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกของฝรั่งเศสขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นเกาะโบรา โบร่า หรือเกาะตาฮิติ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีเกาะ Rangiroa ซึ่งมีความสวยงามไม้แพ้กับสองเกาะข้างต้นเลย นอกจากการดำน้ำชมแนวปะการังอันสมบูรณ์แล้ว ยังมีทัวร์ฟาร์มหอยมุกให้ได้ชมกันอีกด้วย
12. อุทยานแห่งชาติ Plitvice Lakes, โครเอเชีย (Plitvice Lakes National Park, Croatia)
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอุทยานแห่งชาติ Plitvice Lakes ประเทศโครเอเชียจึงถูกยกให้เป็นมรดกโลก เพราะความสวยงามบวกกับความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ น้ำตก และทะเลสาบ ซึ่งนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความครบครันด้านธรรมชาติและควรค่าแก่การรักษาไว้ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าหายากให้ได้ชมพร้อมกับกิจกรรมมากมายแบบไม่รู้เบื่อ ทั้งการเดินสำรวจป่าบนทางเดินที่ทอดยาว, การส่องนกชมไม้ หรือจะเป็นพายเรือเล่นในทะเลสาบสีสวย
13. เกาะลอมบอก, อินโดนีเซีย (Lombok, Indonesia)
เชื่อว่าบาหลีคงเป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนอินโดนีเซีย และหนึ่งในนั้นยังมีเกาะลอมบอกซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของบาหลี คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับชายหาดสวยงาม, น้ำตก และภูเขาไฟ รวมทั้งอินไปกับวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมของผู้คน นอกจากนี้มันยังเหมาะแก่การพักผ่อนแบบทริปครอบครัวสุขสันต์กับกิจกรรมดำน้ำชมปะการังและการเล่นกระดานโต้คลื่น
14. อูลานบาตอร์, มองโกเลีย (Ulan Bator, Mongolia)
อูลานบาตอร์เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมองโกเลีย แม้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ดึงดูดผู้มาเยือนมากนัก ทว่าความเรียบง่ายเช่นนี้เองที่เป็นมนตร์สะกดให้นักท่องเที่ยวหลงใหลได้ไม่ยาก ใครที่ชอบเดินเท้าสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เชื่อเลยว่าอูลานบาตอร์มีอะไรรอให้คุณค้นหาอีกมากมาย
15. เมือง El Djem, ตูนีเซีย (El Djem, Tunisia)
เมือง El Djem เคยเป็นเมืองท่าสำคัญของแอฟริกาเหนือ แม้ต่อมาภายหลังความนิยมจะจางหายไปตามกาลเวลา แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญอย่างอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่สามซึ่งบรรจุผู้ชมได้มากกว่า 35,000 ที่นั่งก็ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่ นั่นก็มากพอที่จะบ่งบอกได้ว่าดินแดนแห่งนี้เคยรุ่งเรืองมากแค่ไหน และนี่เองที่เป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ควรค่าแก่การมาเยือน
เรียกว่าตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกสไตล์เลย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวขาลุย, นักท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ หรือนักท่องเที่ยวที่เป็นนักอนุรักษ์ตัวยง แถมคุณยังสามารถเที่ยวสนุกได้ทั้งแบบแบ็คแพ็กเกอร์ มากับคนรัก หรือมากับเพื่อนฝูง ใครที่มีเป้าหมายแล้วก็ฟิตร่างกายกันให้ดี ให้ทริปท่องเที่ยวคราวต่อไปของคุณมีแต่รอยยิ้มและประสบการณ์ที่ดีกลับมา :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
huffpost.com และ fodors.com
การได้ออกไปท่องโลกกว้าง เปิดหูเปิดตากับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในต่างแดน ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันในชีวิตที่สามารถชาร์จพลังใจและเติมเต็มให้ชีวิตมีชีวาได้เป็นอย่างดี และใครที่ไม่รู้จะไปไหนดีเพราะที่เที่ยวทั่วโลกนั้นเต็มไปหมด เอาเป็นว่ามาดู 15 สถานที่ท่องเที่ยวบรรยากาศดี ๆ ที่เราหยิบมาแนะนำกันดีกว่า
1. แองกวิลลา, สหราชอาณาจักร (Anguilla, UK)
แองกวิลลา เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในทะเลแคริบเบียนซึ่งล้อมรอบด้วยหาดทรายสีขาวจั๊วะและน้ำทะเลสีฟ้าที่ต้องบอกว่าใสมากจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติด้วยชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ได้ร่วมมือร่วมใจกันดูแลรักษา โดยพวกเขาไม่อนุญาตให้กระทำการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดมลพิษทุกด้าน เช่น การเล่นเจ็ทสกี ด้วยเหตุผลที่ว่ามันจะทำให้เกิดมลพิษทางเสียงนั่นเอง ที่นี่จึงเป็นจุดหมายยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักความสงบ
2. เกาะนอร์ทสแตรดโบรก, ออสเตรเลีย (North Stradbroke Island, Australian)
เกาะนอร์ทสแตรดโบรกหรือชาวท้องถิ่นเรียกว่าสแตรดดี้ ตั้งอยู่ในเขตควีนส์แลนด์และอยู่ไม่ไกลจากบริสเบน มันเป็นจุดหมายวันหยุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกหรือแม้กระทั่งชาวออสซี่เองก็ตาม ที่อยากให้วันหยุดสุดสัปดาห์ผ่อนคลายไปกับหาดทรายสวย ๆ และน้ำทะเลกว้างใหญ่ พร้อมกับทำกิจกรรมทางน้ำ ทั้งเล่นน้ำทะเล, ตกปลา, เล่นเซิร์ฟ หรือการไต่ผา แถมที่นี่ยังเต็มไปด้วยชายหาดสวยงามกว่า 5 แห่ง และทะเลสาบกว่า 12 แห่งด้วยกัน ยังไม่หมดเท่านั้น ยังมีจุดชมโคอาล่าและจุดชมวาฬแบบใกล้ชิดด้วย
3. เกาะไหหลำ, จีน (Hainan Island, China)
เกาะไหหลำ ตั้งอยู่ทางทะเลจีนใต้ของประเทศจีน มันประกอบไปด้วยชายหาดหลายแห่ง, สวนภูเขาไฟ, ลิงจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของวัดพุทธชื่อดังก้องโลกอย่างวัดเส้าหลิน นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเลให้นักท่องเที่ยวได้ไปสักการบูชา สำหรับใครที่อยากเสพกีฬาแบบเอ็กซ์ตรีม ที่นี่ยังมีเทศกาลการแข่งขันกระดานโต้คลื่นเป็นประจำทุกปีด้วย
4. ฮอคกิ้งฮิลล์ สเตรท พาร์ค, สหรัฐอเมริกา (Hocking Hills State Park, USA)
ฮอคกิ้งฮิลล์ สเตรท พาร์ค ตั้งอยู่ในรัฐโฮไฮโอ มันเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งทางธรรมชาติและกิจกรรมท้าทายต่าง ๆ สำหรับเด็กหรือผู้สูงอายุสามารถเพลิดเพลินไปกับน้ำตก, ฟาร์ม และความสวยงามของทัศนียภาพโดยรอบ ส่วนคนหนุ่มสาวที่มีหัวใจรักความสนุกสนานท้าทายก็ต้องลองกิจกรรมที่ทางพาร์คจัดไว้ให้ไม่ว่าจะเป็น การขับรถ ATV, เดินป่า, ไต่หน้าผา, โหนสลิง หรือกิจกรรมเบา ๆ อย่างพายเรือคายัก
5. เกาะหลีเป๊ะ, ไทย (Koh Lipe, Thailand)
6. อุทยานแห่งชาติ Gates Of The Arctic, สหรัฐอเมริกา (Gates Of The Arctic National Park, USA)
อลาสกา รัฐที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในอเมริกา แถมยังมีชายแดนติดกับมหาสมุทรอาร์กติกทางตอนเหนือของรัฐด้วย อุทยานแห่งชาติ Gates Of The Arctic ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐจึงเป็นเสมือนประตูสู่มหาสมุทรอาร์ติกนั่นเอง โดยอุทยานถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเลกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยป่าไม้ มันจึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยที่พร้อมจะเอาตัวรอดท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ
7. ชานลึอูร์ฟา, ตุรกี (Sanliurfa, Turkey)
ชานลึอูร์ฟาหรือมีอีกชื่อว่าอูร์ฟาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจในตุรกี นอกจากจะเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีสถาปัตยกรรมงดงามของสิ่งปลูกสร้างที่น่าสนใจหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์หรือมัสยิด นอกจากนี้การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่างวัด Gobekli Tepe ก็ถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมห้ามพลาด เพราะมันเป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความเก่าแก่และคาดว่ามีอายุกว่าหมื่นปีเลยทีเดียว
8. เมือง Kobarid, สโลวีเนีย (Kobarid, Slovenia)
เมือง Kobarid เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณภูเขา Soca ในประเทศสโลวีเนีย มันจึงงดงามด้วยทัศนีภาพของภูเขาและทุ่งหญ้าที่มีความสวยงามแตกต่างกันในทุกฤดูกาล หรือหากคุณอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์ยุคเหล็กหรือสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซึ่งจะให้ความรู้คุณได้ดีเลยล่ะ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยบ้านพักตากอากาศและร้านอาหารรสเลิศหลายแห่ง
9. ภูเขาไฟวีรุงกา, สาธารณรัฐรวันดา (Virunga Volcanoes, Rwanda)
ภูเขาไฟวีรุงกา เป็นแนวภูเขาไฟในแอฟริกาตะวันออก และมีอาณาเขตทอดยาวไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยรวันดา คองโก และยูกันดา แต่ความน่าสนใจอยู่ที่ภูเขาไฟในเขตรวันดาด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เพราะมันเป็นภูเขาไฟที่ยังมีการปะทุอยู่ ดังนั้นรวันดาน่าจะเป็นจุดหมายที่ดีหากคุณอยากมาชมความสวยงามของภูเขาไฟแบบใกล้ชิด และหากคุณขึ้นไปถึงความสูงที่ 15,000 ฟุต คุณจะพบกับความสวยงามของวิวทิวทัศน์เบื้องหน้า อีกทั้งยังมีสัตว์ป่านานาชนิดที่พร้อมทำให้คุณทึ่ง ได้แก่ กอริลลา, ชิมแปนซี และช้างป่า
10. เมือง Schoenau am Koenigssee, เยอรมนี (Schonau am Konigsee, Germany)
Schonau am Konigsee คือเทศบาลเมืองในเขตของ Berchtesgaden รัฐบาวาเรียของเยอรมนี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของทะเลสาบ Koenigssee แถมยังมีอาณาเขตอยู่ติดกับประเทศออสเตรียอีกด้วย นอกจากนี้มันยังเป็นที่พักตากอากาศชั้นดีในช่วงฤดูหนาวที่มาพร้อมกับกิจกรรมโดน ๆ อย่างการเล่นสกี ใครที่อยากสัมผัสอากาศดี ๆ รับลมหนาวท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกก็มาที่นี่เลยจ้า
11. เกาะ Rangiroa, เฟรนช์โปลินีเซีย (Rangiroa, French Polynesia)
เฟรนช์โปลินีเซีย ดินแดนโพ้นทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกของฝรั่งเศสขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นเกาะโบรา โบร่า หรือเกาะตาฮิติ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีเกาะ Rangiroa ซึ่งมีความสวยงามไม้แพ้กับสองเกาะข้างต้นเลย นอกจากการดำน้ำชมแนวปะการังอันสมบูรณ์แล้ว ยังมีทัวร์ฟาร์มหอยมุกให้ได้ชมกันอีกด้วย
12. อุทยานแห่งชาติ Plitvice Lakes, โครเอเชีย (Plitvice Lakes National Park, Croatia)
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอุทยานแห่งชาติ Plitvice Lakes ประเทศโครเอเชียจึงถูกยกให้เป็นมรดกโลก เพราะความสวยงามบวกกับความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ น้ำตก และทะเลสาบ ซึ่งนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความครบครันด้านธรรมชาติและควรค่าแก่การรักษาไว้ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าหายากให้ได้ชมพร้อมกับกิจกรรมมากมายแบบไม่รู้เบื่อ ทั้งการเดินสำรวจป่าบนทางเดินที่ทอดยาว, การส่องนกชมไม้ หรือจะเป็นพายเรือเล่นในทะเลสาบสีสวย
13. เกาะลอมบอก, อินโดนีเซีย (Lombok, Indonesia)
เชื่อว่าบาหลีคงเป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนอินโดนีเซีย และหนึ่งในนั้นยังมีเกาะลอมบอกซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของบาหลี คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับชายหาดสวยงาม, น้ำตก และภูเขาไฟ รวมทั้งอินไปกับวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมของผู้คน นอกจากนี้มันยังเหมาะแก่การพักผ่อนแบบทริปครอบครัวสุขสันต์กับกิจกรรมดำน้ำชมปะการังและการเล่นกระดานโต้คลื่น
14. อูลานบาตอร์, มองโกเลีย (Ulan Bator, Mongolia)
อูลานบาตอร์เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมองโกเลีย แม้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ดึงดูดผู้มาเยือนมากนัก ทว่าความเรียบง่ายเช่นนี้เองที่เป็นมนตร์สะกดให้นักท่องเที่ยวหลงใหลได้ไม่ยาก ใครที่ชอบเดินเท้าสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เชื่อเลยว่าอูลานบาตอร์มีอะไรรอให้คุณค้นหาอีกมากมาย
15. เมือง El Djem, ตูนีเซีย (El Djem, Tunisia)
เมือง El Djem เคยเป็นเมืองท่าสำคัญของแอฟริกาเหนือ แม้ต่อมาภายหลังความนิยมจะจางหายไปตามกาลเวลา แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญอย่างอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่สามซึ่งบรรจุผู้ชมได้มากกว่า 35,000 ที่นั่งก็ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่ นั่นก็มากพอที่จะบ่งบอกได้ว่าดินแดนแห่งนี้เคยรุ่งเรืองมากแค่ไหน และนี่เองที่เป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ควรค่าแก่การมาเยือน
เรียกว่าตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกสไตล์เลย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวขาลุย, นักท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ หรือนักท่องเที่ยวที่เป็นนักอนุรักษ์ตัวยง แถมคุณยังสามารถเที่ยวสนุกได้ทั้งแบบแบ็คแพ็กเกอร์ มากับคนรัก หรือมากับเพื่อนฝูง ใครที่มีเป้าหมายแล้วก็ฟิตร่างกายกันให้ดี ให้ทริปท่องเที่ยวคราวต่อไปของคุณมีแต่รอยยิ้มและประสบการณ์ที่ดีกลับมา :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
huffpost.com และ fodors.com