
Harry Potter Studio Tour London : Hogwarts in the snow
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Paririm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ Prim-Suntornpac
"แฮร์รี่ พอตเตอร์" (Harry Potter) จากวรรณกรรมชื่อดังของนักประพันธ์ชาวอังกฤษ เจ. เค. โรว์ลิง ที่ก้าวสู้ภาพยนตร์แนวแฟนตาซีเรื่องเยี่ยมที่หลาย ๆ คนนิยมชมชอบ และเราเชื่อว่าเหล่าบรรดาสาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์ คงต้องอยากไปเยือนต้นกำเนิดเรื่องราวที่น่าสนใจในโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์...จริงไหม เหมือนกับ คุณ Paririm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มีโอกาสได้ไปสัมผัสกับ Harry Potter Studio Tour London : Hogwarts in the snow พร้อมกับนำประสบการณ์เจ๋ง ๆ มาเล่าสู่กันฟัง เอ้า ! ขอบอกว่าแฟนพันธุ์แท้แฮร์รี่ พอตเตอร์ ห้ามพลาดนะจ๊ะ ตามมาเลย...
++++++++++++++++++++++
เราเป็นคนหนึ่งที่โตมากับหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ เรื่องนี้เป็นหนังสือเรื่องแรกที่ทำให้เราอ่านหนังสือเกินแปดบรรทัด ซาบซึ้งแป๊บ...ก็เว่อร์ไป แต่อ่านอะไรยาว ๆ ได้ก็เพราะเรื่องนี้แหละนะ ด้วยความที่เป็นแฟนแฮร์รี่มาตั้งแต่เด็ก ๆ หนังออกมากี่ภาคเรานี่ไม่พลาดเลยจ้า จนป่านนี้ถ้ามีโอกาสได้ดูเราก็ยังนั่งดู ถึงแม้ว่าใครจะถามว่าดูบ่อย ๆ ไม่เบื่อเหรอ 555 ถ้าจำไม่ผิดภาคแรกกับภาค 7.2 นี่เราว่าเราดูเกินสี่รอบแน่ ๆ (แต่เราเชื่อว่ายังมีแฟนแฮร์รี่ที่ดูมากกว่าเราอีกเยอะ)
Warner bros. คงเข้าใจหัวอกติ่ง (จริง ๆ คือเล็งเห็นประโยชน์จากตรงนี้อ่ะนะ) เลยเปิดให้เข้าชมสตูดิโอที่ใช้ถ่ายทำ ซึ่งสถานที่ตั้งก็คือประเทศอังกฤษต้นกำเนิดของแฮร์รี่...นั่นหมายถึงของและฉากอยู่ในหนังแฮร์รี่ทั้ง 7 ภาคนั้นแฟน ๆ จะได้เห็นของจริงที่นี่
ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว...เราได้มีโอกาสไปอังกฤษ สิ่งแรกที่เราคิดตอนที่รู้ว่าจะไปอังกฤษเลย คือ เราจะต้องไปเที่ยวสตูดิโอแฮร์รี่ให้ได้ !! (ดูมันติ่ง) และเราก็ได้ไปจริง ๆ ฝันเป็นจริงไปอีกหนึ่ง (อีกที่คือ Wizarding World of Harry Potter ที่อเมริกากับที่ญี่ปุ่น)
ขออนุญาตเพิ่มเติมนะคะ
ค่าเข้าชม : ตอนที่เราไปค่าเข้า (บัตรผู้ใหญ่) อยู่ที่ 29 ปอนด์ (เราเลือกแบบตั๋วเข้าสตูดิโออย่างเดียว ไม่เอา Digital Guide กับ Paperback Souvenir Guidebook) แต่ปีนี้ราคาเพิ่มเป็น 31 ปอนด์ และปีหน้าเป็น 33 ปอนด์ค่ะ ตามนี้


ป.ล. จริง ๆ แล้วทริปนี้เป็นทริปที่ผ่านมาแล้วปีหนึ่งเต็ม ๆ แต่เราก็ยังอยากมาเล่าเพราะเห็นว่าช่วงนี้ คือ เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เป็นช่วงที่สตูดิโอจัดตกแต่งเป็นช่วงคริสต์มาส และฮอกวอตส์จะถูกตกแต่งด้วยเอฟเฟกต์หิมะพอดี เอาไว้เผื่อใครอยากชมสตูดิโอช่วงนี้ค่ะ (อย่าลืมเปิดแอร์เย็น ๆ แล้วดูไปด้วยนะ)
(ถ้าหาก) ใครอยากอ่านเรื่องตอนเราไปเที่ยวอังกฤษและที่อื่น ๆ ไปอ่านได้ที่ https://pinblog.me/user/Prim-Suntornpac ได้นะคะ ถ้าวันไหนว่างอีกอาจจะเอามาเล่าในนี้ค่ะ
เริ่มต้นด้วย...ชานชาลาที่ 9 ¾
เราไม่ได้ไป...จบ (ตึ่งงงงง) 55 เนื่องด้วยเราต้องการประหยัดเวลาในการเดินทางให้มากที่สุด (หรือก็คือกลัวไปสาย) เราเลยเลือกที่จะไม่แวะที่ King\'s cross แต่ตรงไปยังสถานี Euston เลยและต่อรถไฟไปยัง Watford Junction จริง ๆ ขบวนที่ไปจะเป็นขบวนที่ออกต่างจังหวัด (ขบวนของเราเป็นสายที่ไป Birmingham-ลองดูเลือกสายที่แวะจอดน้อย ๆ จะไปถึงเร็วกว่า) ใครที่มีบัตร oyster สามารถใช้ได้เลยนะคะ แต่ต้องมีเงินในบัตรไม่ต่ำกว่า 9 ปอนด์ ส่วนใครที่ไม่อยากไปรถไฟทางสตูดิโอมีบริการรถทัวร์ที่จะพาไปยังสตูดิโอด้วย แต่ราคาจะแพงกว่าไปเองอยู่หลาย สำหรับเราเที่ยวแบบเขียม ๆ ก็นั่งรถไฟไปดีกว่า (เราชอบนะ ได้บรรยากาศดี)

เมื่อไปถึงที่ Watford Junction จะเจอรถบัสที่เขียนอย่างชัดเจนเลยว่าไปสตูดิโอแฮร์รี่ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอ คือมันชัดทั้งรถอ่ะ ตกแต่งเป็นลายแฮร์รี่ทั้งคัน ค่ารถบัสนี้คนละ 2 ปอนด์ ไป-กลับ (เก็บตั๋วไว้ดี ๆ เพราะต้องใช้ขากลับด้วย) รถบัสนี้จะไปส่งที่หน้าสตูดิโอเลยค่ะ
เมื่อเราไปถึงหน้าสตูดิโอบอกได้คำเดียวเลยว่า..วิ่งสิจ๊ะ จะถึงเวลาแล้วจ้า (ขนาดกะเวลาไว้เยอะแล้วนะ แต่มันก็ยังกระชั้นชิดจริง ๆ)
ขั้นแรกที่มาถึงเลย เราต้องเอาเมลคอนเฟิร์มที่เราพริ้นท์มาไปแลกเป็นตั๋วค่ะ มันจะเป็นตู้กดอิเล็กทรอนิกส์ และถ้าจำไม่ผิดจะมีพนักงานคอยช่วยทำให้นะคะ เมื่อได้ตั๋วมาแล้วก็เตรียมตัวเข้าสตูดิโอได้เลย การปล่อยให้เข้าสตูดิโอเขาจะปล่อยเป็นรอบ ๆ ตามตั๋วที่เราจองไว้ค่ะ (เราจองไว้รอบบ่ายครึ่ง) ตอนต่อคิวก็มีห้องใต้บันไดที่แฮร์รี่ใช้ซุกหัวนอน สมัยที่ยังถูกโขกสับ (เว่อร์อีกละ แฮร์รี่ค่ะไม่ใช่นางทาส) ตั้งไว้ให้ถ่ายรูปเล่นจะได้ไม่เบื่อตอนขณะเข้าแถว

เมื่อตรวจตั๋วเสร็จแล้วเขาจะให้เข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง และฉายวิดีโอเพื่อเป็นการเกริ่นก่อนที่จะได้เข้าไปข้างในกัน

เมื่อวิดีโอฉายจบผนังก็เปิดออก แล้วเราก็ได้เห็นฉากอันแสนคลาสสิกตรงหน้า..

มันคือภาพของประตูห้องโถงใหญ่นั่นเองค่ะ อลังการดาวล้านดวงจริง ๆ ที่หน้าประตูมีเจ้าหน้าที่มาทักทายและบอกกฎข้อบังคับพอเป็นพิธี (มั้ง...ตอนนั้นตื่นเต้นถ่ายรูปอย่างเดียว) เมื่อเจ้าหน้าที่พูดจบประตูห้องโถงก็เปิดออก วินาทีที่เดินเข้าห้องโถงไปนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้หนูแฮร์รี่ตอนได้มาฮอกวอตส์เป็นครั้งแรกเลยจริง ๆ




ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่ง คือ ชุดคอสตูมของนักแสดงในเรื่องค่ะ เช่น ชุดเครื่องแบบของนักแสดงนำ เครื่องแบบแยกตามบ้านต่าง ๆ และชุดของอาจารย์แต่ละคน นอกจากนี้ก็มีโต๊ะให้เราให้ลองนั่งถ่ายรูปได้ค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถนั่งโต๊ะยาวเหมือนในเรื่องจริง ๆ ได้ แต่ก็พอได้แอ็คท่าถ่ายรูปแก้ขัดไปก่อน (แต่แค่นี้ติ่งก็ดีใจแล้ววววว)

นี่คือวิธีการทำเทียนลอยในเรื่อง ตอนแรกเราคิดว่าใช้คอมทำล้วน ๆ แต่จริง ๆ แล้วเป็นการชักรอกเทียนขึ้น ๆ ลง ๆ จริง ๆ แล้วค่อยตัดต่อไปไว้บนเพดานอีกที จริงๆมีลูกสนิชด้วยแต่เนื่องจากมันมืดและมันอยู่สูง เลยถ่ายออกมาได้เบลอมาก ประมาณเป็นเม็ดสีทอง ๆ วืด ๆ อยู่บนอากาศ เกรงว่าจะดูไม่ออก

โซนต่อมาจะเป็นช่วงตอนงานประลองเวทไตรภาคี จะมีชุดเครื่องแบบของโรงเรียนต่าง ๆ ชุดงานเลี้ยงเต้นรำ และอุปกรณ์ตกแต่ง อย่างน้ำแข็งแกะสลักรูปโบสถ์นี้ก็สวยงามมาก ๆ


ชุดราตรีในตำนานของรอน วีสลีย์



อุปกรณ์แต่งหน้าแต่งผมต่าง ๆ จะเห็นได้ว่ามีโน้ตแปะอยู่ละเอียดทีเดียว

ชุดคอสตูม แจ็คเก็ตแฮร์รี่หนึ่งแบบมีอยู่หลายตัวทีเดียว สังเกตดี ๆ รอยขาดและความโทรมจะแตกต่างกันเพิ่มระดับไปเรื่อย ๆ

ประตูรั้วโรงเรียนฮอกวอตส์ นี่เพิ่งรู้ว่ารูปปั้นเป็นรูปหมูป่ามีปีกล่ะ จริง ๆ ฉากนี้มันใหญ่พอควรเลย ความสูงเป็นสองเท่าครึ่งของเรา

ฉากในร้านหม้อใหญ่รั่ว

ในรูปอาจจะดูไม่ชัดเพราะถ่ายได้มุมเอียง แต่ของจริงมันใหญ่และรั่วมากจริง ๆ

ส่วนอันนี้เป็นทางเดินในร้านหม้อใหญ่รั่ว ฉากนี้เป็นฉากที่เล่นกับมุมมอง หลอกตาเหมือนมันลึกเข้าไปจริง ๆ ของจริงตื้นนิดเดียว

ห้องนอนของหนุ่ม ๆ กริฟฟินดอร์ ที่ตรงนี้ที่แฮร์รี่และรอนนั่งคุยกันก่อนนอนและนอนหลับอย่างมีความสุข
ป.ล. ลองดมแล้วไม่มีกลิ่นเหม็นของหอนอนชายแต่อย่างใดค่ะ

กระจกเงาแห่งแอริเซด กระจกเงาที่จะสะท้อนสิ่งที่เราปรารถนา เมื่อเราลองส่องกระเจาบานนี้ก็พบกับ !! ตัวเองจ้า อิอิ

รูปภาพสุภาพสตรีอ้วนประตูเข้าหอบ้านกริฟฟินดอร์ เสียดายนางขยับไม่ได้ ถ้าขยับได้จะให้ร้องเพลงโอเปราโชว์ซะหน่อย

ห้องนั่งเล่นรวมของบ้านกริฟฟินดอร์ ฉากที่ออกมาแทบทุกภาค บรรยากาศอบอุ่นแบบช่วงคริสต์มาส

ผ้าคลุมล่องหน ข้างในเป็นสีเขียว ไว้ทำเอฟเฟกต์เวลาล่องหน

นาฬิกายักษ์ ของจริงสวยมาก ๆ

รูปปั้นหน้าห้องศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ (อย่าลืมรหัสลับ คือ เลมอนเชอร์เบ็ต)

และก็มาถึงห้องของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ห้องนี้เรารู้สึกประทับใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนได้เข้ามาในห้องดัมเบิลดอร์จริง ๆ (ถึงจะเดินเข้าไปที่โต๊ะไม่ได้ก็เถอะ)


ในห้องก็มีตู้เก็บของดาบของกริฟฟินดอร์ตั้งโชว์อยู่ และเพนชิป (อยากจะหัวไปจุ่มจริง ๆ เลยแหม)


มองขึ้นไปก็มีรูปอาจารย์ใหญ่ในอดีตติดเรียงรายอยู่

Accessories ต่าง ๆ ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสร้อยนาฬิกาย้อนเวลาของเฮอร์ไมโอนี่ ที่เปิดไฟของดัมเบิลดอร์ บันทึกของริต้า สกีตเตอร์ ศิลาอาถรรพ์ ถ้วยอัคนี ฯลฯ ทุกอย่างทำออกมาเหมือนของจริงมาก ๆ


ถ้วยไตรภาคีและไข่ทองคำ

ตู้นี้เป็นตู้รวมฮอร์ครักซ์ 6 อย่าง ขาดไปหนึ่งคนที่ดูหรืออ่านคงรู้ว่าคืออะไร


โซนห้องใต้ดิน ห้องเรียนปรุงยา มีหุ่นคอสตูมสเนปกับสลักฮอร์นยืนอยู่ บรรยากาศดูวังเวง




รูปภาพบางรูปเป็นกรีนสกรีน เอาไว้ใส่ CG รูปภาพเคลื่อนไหวได้

เหล่าสารพัดสัตว์ที่ได้เป็นนักแสดงในเรื่องทั้งหมด

ประตูห้องแห่งความลับ

กระท่อมของแฮกริด มีเจ้าเขี้ยวยืนเฝ้าอยู่ด้วย



อันนี้รวมฉากบินได้ทั้งหลาย จริง ๆ มีไม้กวาดด้วย แต่คนเยอะมากเลยไม่ได้ถ่ายรูป จริง ๆ น่าจะถ่ายเนอะ เห็นแต่หัวคนก็ยังดี

บ้านโพรงกระต่าย

จริง ๆ มีอีกหลายฉาก มีห้องของอัมบริจน์ หุ่นคอสตูมของกลุ่มศาสตร์มืด กระทรวงเวทมนตร์ แต่พี่ ๆ ที่มาด้วยกันเดินออกกันไปหมดแล้ว เราเลยต้องดูรีบ ๆ จึงไม่ได้ถ่ายรูป (นึกแล้วยังคงกรีดร้องในใจ...โฮ)
ออกจากส่วนแรกมาก็จะเป็นด้านนอกมีซุ้มบัตเตอร์เบียร์และอาหารอื่น ๆ ขายอยู่ แน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะลองชิมบัตเตอร์เบียร์แน่ เคยเอาเนยใส่เบียร์พ่อแล้วลองกิน (แล้วเททิ้ง) มาแล้ว แต่บัตเตอร์เบียร์ที่นี่ไม่มีแอลกอฮอล์นะ เขาดัดแปลงให้เหมาะสมกับเด็กและเยาวชนค่ะ


ผลที่ได้...อร่อยค่ะ อยากจะเบิลอยู่แต่ต้องกินอยู่อีกหลายมื้อจ้า ดื่มบัตเตอร์เบียร์เสร็จก็เดินดูฉากที่เป็น outdoor ดูบ้าง มีทั้งรถเมล์อัศวินราตรี อ๊ะ ๆ เล่นเป็นสแตน ชันไพก์แป๊บ

มีรถบินของครอบครัววีสลีย์ให้ขึ้นไปนั่งด้วยนะ

หมู่บ้าน Privet Drive และบ้านของครอบครัวพอตเตอร์ที่ก็อดดิก ฮอลโลว์

สะพานไม้ทางเข้าฮอกวอตส์ เสียดายเข้าไปเดินไม่ได้ แต่แค่มองเข้าไปก็ประทับใจละ


กลับมาในโซน indoor อีกครั้ง เจ้ามาจะเป็นโซน effect ต่าง ๆ จะมีหุ่นโมเดลและเทคนิคการทำทั้ง make up effect, computer graphic

ด็อบบี้ อย่าเป็นอะไรนะ

แขนเอลฟ์และหุ่นนกฟินิกซ์ตอนแรกเกิด

ภาพนี้อาจจะสะเทือนใจเล็กน้อย

นางเงือกที่เป็นขั้วตรงข้ามกับลิตเติลเมอร์เมด

บัคบีค...ขยับได้ด้วยนะ

หนังสือวิชาปีศาจว่าด้วยปีศาจ อันนี้ขอลงเป็นวิดีโอ...น่ากลัว
จริง ๆ มีหุ่นอีกหลายตัวที่ขยับได้ เช่น ต้นแมนแดรก เฮ็ดวิก ทารกวอเดอร์มอร์ที่สถานีคิงครอส
ผู้คุมวิญญาณ อันนี้ขอปรับภาพเป็นขาวดำเพื่อให้ได้อรรถรสมากขึ้น

อาราก็อกสุดที่รักของแฮกริด มาเจอใกล้ ๆ แบบนี้เข้าใจหัวอกรอนขึ้นมาทันที

โซนต่อมาหลาย ๆ คนอาจจะรออยู่

ตรอกไดแอกอนนั่นเองงงงงงง รู้สึกเหมือนเป็นไอ้หนูแฮร์รี่ตอนภาคแรกอีกแล้ว



มีทั้งร้านไม้กายสิทธิ์ของโอลิแวนเดอร์ ธนาคารกริงกอตส์ ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์


แบบร่างและ Mock Up ต่าง ๆ ในเรื่อง รวมถึงแบบแปลนและต้นแบบก่อนสร้างปราสาทฮอกวอตส์

เรียกได้ว่ากว่าจะมาเป็นปราสาทฮอกวอตส์ที่เห็นในหนังได้นั้น ต้องผ่านขั้นตอนที่ต้องใส่ใจทุกรายละเอียด ราวกับจะสร้างปราสาทจริง ๆ...ไม่แปลกใจเลยที่ทำให้เราอินไปกับหนังได้อย่างไม่สะดุด
และห้องต่อไป...คงเป็นห้องที่เราอยากจะมาเห็นด้วยตาตัวเองที่สุด (และเชื่อว่าแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์ คงจะอยากเห็นด้วยตาตัวเองเช่นกัน) นั่นคือ "ปราสาทฮอกวอตส์" ที่ถูกประดับประดาด้วยหิมะ

โมเดลปราสาทฮอกวอตส์นี้ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ของจริง แต่ทุกรายละเอียดผ่านการออกแบบที่ประณีต บอกได้คำเดียวเลยว่า...มันอลังการมากจริง ๆ




ปิดท้ายสตูดิโอทัวร์ด้วยภายในร้านไม้กายสิทธิ์ สถานที่แรก ๆ ที่แฮร์รี่ได้เดินทางมายังโลกเวทมนตร์

ก่อนจะบอกลาด้วยข้อความจาก J. K. Rowling

"The stories we love best do live in us forever. So whether you come back by page or by the big screen, Hogwarts will always be there to welcome you home.”
"เรื่องราวที่เรารักจะอยู่กับเราตลอดไป ดังนั้นไม่ว่าคุณจะกลับมาอ่านหรือดูมันเมื่อใด ฮอกวอตส์จะอยู่ที่เดิมและรอคุณกลับมาอยู่เสมอ"
เจ.เค. โรว์ลิ่ง
ซึ่งเราก็อยากบอกว่ามันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ทุก ๆ ครั้งที่อ่านหรือดูหนังเรื่องนี้จะรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเก่าเสมอ
หลังจากจบสตูดิโอทัวร์ ก็จะออกมาเจอกับร้านขายของฝาก ซึ่งเราหมดไปกับที่นี่ค่อนข้างเยอะทีเดียว (ไอ้คนที่บอกว่าจะเที่ยวอย่างเขียม ๆ มันหายไปไหนแล้วคะ) ของมันน่าซื้อจริง ๆ มันมีแทบทุกอย่างที่จะคิดออกว่าจะทำออกมาขายได้เลย (เครื่องประดับและของวิเศษนี่แทบมีครบทุกอย่าง ไหนจะเสื้อผ้า เครื่องเขียน ฯลฯ) ขอเตือนแฟนแฮร์รี่ทุกคนเลยว่าเข้ามาในนี้ต้องมีสติค่ะ ! จับกระเป๋าตังค์ให้แน่น ถ้าไม่แน่นก็หมดตัว ถ้าไม่หมดตัวก็รูดการ์ดสร้างหนี้ค่ะ 555
หลังจากช้อปปิ้งเสร็จแล้วก็เดินทางกลับเลยจ้า จำตั๋วขึ้นรถทัวร์ 2 ปอนด์นั่นได้ไหม ยังไม่ได้เอาไปคายหมากฝรั่งใช่มะ ว่าแล้วก็หยิบตั๋วนั้นขึ้นรถทัวร์เพื่อไปยังสถานีรถไฟแล้วกลับสู่ที่พักกันเลย
ปิดท้ายขอจบกระทู้ด้วยการแถมอีกฉากหนึ่งที่ปรากฏในหนังเรื่องนี้ Borough Market

อย่าค่ะ...อย่าเพิ่งงงว่ามันออกมาตอนไหนหว่า มันคือ..


ที่ที่รถเมล์อัศวินราตรีผ่านในภาค 3 นั่นเอง อิอิ
โอเค ๆ ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ หวังว่าทุกท่านจะสนุกและฟินไปด้วยไม่น้อย ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามนะคะ มีอะไรสงสัยถามได้เลย
พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีค่ะ ^___^