ไหว้พระทางน้ำ 9 วัด สุพรรณบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี ชวนนักท่องเที่ยวเยือนอำเภอบางปลาม้า ในโครงการวันธรรมดาน่าเที่ยว พร้อมสัมผัสสีสันวิถีชีวิตไทยกับสายน้ำ ณ อำเภอบางปลาม้า
จังหวัดสุพรรณบุรี ดินแดนที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี, หมู่บ้านควายและบ้านทรงไทย, บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ (บึงบัวแดง) และที่พลาดไม่ได้เลย คือ วัดวาอารามหลายแห่ง ได้แก่ วัดป่าเลไลยก์ หรือวัดไผ่โรงวัว แต่วันนี้กระปุกดอทคอมขอพาเพื่อน ๆ ไปไหว้พระทางน้ำ 9 วัด พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำของผู้คนในอำเภอบางปลาม้าไปในตัว ว่าแต่จะมีวัดไหนบ้างนั้น ตามมาเลยค่ะ
ก่อนจะถึงวัดต่าง ๆ เราจะเจอบ้านทรงไทยมากมาย เพราะเชื่อกันว่าหากใครได้ปลูกบ้านเรือนไทยจะแสดงให้เห็นว่าเป็นตระกูลที่มีเงินมีทองนั่นเองค่ะ หรือมองอีกมุมคงเป็นกุศโลบายให้ชาวบ้านอนุรักษ์ความเป็นไทยไว้นั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีเรือโบราณที่ว่ากันว่าในสมัยก่อนที่ใช้เรือเป็นพาหนะหลักในการสัญจรไป-มา ชาวบ้านถึงกับยอมขายไร่นาหลายไร่เพื่อนำเงินไปซื้อเรือเลยทีเดียว
เป็นวัดที่รัชกาลที่ 5 ทรงแวะทอดกฐินในช่วงประพาสต้น ร.ศ. 123 ตามคำบอกเล่าของคนโบราณ ที่วิหารจึงมีตราครุฑ และยังเป็นวัดต้นกำเนิดหลวงพ่อวัดเนียนน้อย เกจิชื่อดังของสุพรรณบุรี นอกจากนี้บริเวณรอบโบสถ์จะมีระฆังโบราณแขวนอยู่จำนวน 88 ใบ ผู้ที่มากราบไหว้ขอพรจึงนิยมตีระฆังรอบโบสถ์เพื่อเสริมสิริมงคล พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด คือ หลวงพ่อแสง ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี ส่วนใครที่อยากร่วมประเพณีตักบาตรกลางน้ำก็มาได้เป็นประจำทุกปี โดยจะจัดขึ้นในทุกวันเสาร์และอาทิตย์ในสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2557
มียักษ์ 2 ตนยืนเป็นยามเฝ้าอยู่หน้าโบสถ์
โบสถ์นั้นมีความวิจิตรงดงามมากเลยค่ะ
เข้ามาในโบสถ์เจอกับหลวงพ่อแสง พระศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดป่าพฤกษ์และรอยพระพุทธบาทให้ชาวพุทธปิดทองกัน
ด้านนอกโบสถ์มีพระประจำวันเกิดให้ได้ทำบุญกัน
เรือสมัยโบราณตั้งให้ชมบริเวณลานวัด
วัดสวนหงส์เป็นวัดเก่าแก่ในสุพรรณบุรี โดยมีอายุกว่า 200 ปี ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่การสักการะหลวงพ่อปลื้ม พระประจำวัดสวนหงส์ที่มรณะภาพไปกว่า 12 ปี แต่สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อยและได้บรรจุอยู่ในโลงแก้ว นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นของหลวงพ่อปลื้มตั้งอยู่หน้าโลงแก้วซึ่งต้องบอกว่ามีลักษณะเสมือนจริงมาก ด้านประเพณีที่น่าสนใจของวัดสวนหงส์ได้แก่ ประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานเป็นประจำทุกปี โดยในปี พ.ศ. 2557 นี้ จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 ซึ่งตรงกับวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2557 ณ แม่น้ำท่าจีน บริเวณหน้าวัดสวนหงส์
รูปปั้นหลวงพ่อปลื้ม ด้านหลังเป็นโลงแก้วที่บรรจุศพของท่าน
มาที่โบสถ์หลังวัดสวนหงส์บ้าง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปอันสวยงาม
ด้านซ้ายมือบริเวณหน้าวัดจะมีสะพานข้ามไปอีกฝั่ง
นี่เอง...ที่เป็นสนามแข่งเรือยาวประเพณี
สักการะรอยพระพุทธบาทจำลองไม้ตะเคียนอายุกว่า 1,000 ปี พร้อมเดินข้ามสะพานแขวนข้ามแม่น้ำสุพรรณบุรีแวะเยี่ยมชมตลาดร้อยปีเก้าห้อง กินอาหารพื้นบ้าน เลือกซื้อของที่ระลึก และของฝากมากมาย
4. วัดบ้านสูตร
วัดที่มีอุโบสถเป็นไม้สักทั้งหลัง และมีชาวบ้านคอยดูแล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อพระพุทธศาสนา จึงเป็นอีกวัดริมน้ำที่ไม่ควรพลาดในการมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
5. วัดน้อย
วัดในตำนานที่พลาดไม่ได้หากมาเยือนสุพรรณบุรี เพราะเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อเนียม ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของพระมหาเกจิอาจารย์ของเมืองสุพรรณ และมีเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมาว่า หลวงปู่เนียมเชี่ยวชาญทางวิปัสสนาธุระและทรงวิทยาคม สำเร็จวาโยกสิณ มีอภิญญาแก่กล้า หยั่งรู้เหตุการณ์ทั้งในอดีตและอนาคต กระทั่งหลวงพ่อเหน่ง วัดคลองมะดัน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ และหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง มาฝากตัวขอเป็นศิษย์
6. วัดบางยี่หน
วัดในตำนานประพาสต้น ร.ศ. 123 ของรัชกาลที่ 5 ทรงแวะเสวยอาหารเย็นและทรงเรียกวัดนี้ว่า "วัดแป๊ะซะ" เนื่องจากชาวบ้านนิยมถวายปลาช่อนแป๊ะซะให้พระองค์เสวย
7. วัดตะค่า (วัดแก้วตะเคียนทอง)
เป็นอีกวัดในตำนานประพาสต้น ร.ศ. 127 ของรัชกาลที่ 5 ที่ทรงมอบปัจจัยจำนวนเงิน 80 บาท เพื่อบูรณะวิหาร และทรงมอบบาตร, ปิ่นโต, เรือ, ตาลปัตร, ที่ย้อมจีวร พร้อมกันนี้เจ้าอาวาสยังยินดีที่จะเล่าขานประวัติความเป็นมาของวัดและการได้มาซึ่งสิ่งของต่าง ๆ นอกจากนี้ต้องมาสักการะหลวงพ่อแสง พระซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงให้ความนับถือและให้หลวงพ่อเป็นผู้อาบน้ำมนต์ให้พระองค์ด้วย
บาตร ปิ่นโต และของใช้สมัยก่อนที่รัชกาลที่ 5 ทรงมอบถวายแด่วัด
8. วัดเจ้าขาว
สักการะวิหารอันเก่าแก่ซึ่งมีอายุกว่า 250 ปี และเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรีจากคำบอกเล่าของหลวงพ่อแผน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนั่งกระเช้าให้อาหารปลากลางแม่น้ำสุพรรณบุรี และคุณยังจะได้เห็นการสัญจรไป-มาของผู้คนที่ใช้กระเช้าเป็นเส้นทางเพื่อข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ
เจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่สูงที่สุดในสุพรรณบุรีตามคำบอกเล่าของหลวงพ่อแผน
ก่อนขึ้นเรือกลับ ได้เห็นการใช้การคมนาคมอีกรูปแบบหนึ่ง ชวนหวาดเสียวไม่น้อยเลย
วัดศุขเกษม เป็นวัดปิดท้ายในโครงการไหว้พระทางน้ำ 9 วัด สักการะหลวงพ่อโตซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพรหรือบนบานสานกล่าวให้ค้าขายร่ำรวย หรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานก้าวหน้า และหากสำเร็จก็จะจัดหนังกลางแปลงมาถวายหลวงพ่อเป็นประจำ
รูปปั้นหลวงพ่อโตประดิษฐานอยู่หน้าโบสถ์
ด้านในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป
เช้าวันใหม่ เริ่มกันที่ตักบาตรริมน้ำ
จากนั้นมาชมการตำน้ำพริกเผาสูตรโบราณของแม่โสภา
ส่วนประกอบของน้ำพริกเผา ได้แก่ พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม กะปิ มะขามเปียก และเกลือ
ส่วนประกอบของน้ำพริกเผา ได้แก่ พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม กะปิ มะขามเปียก และเกลือ
ใส่ส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วก็ตำ ๆ ๆ ๆ ยิ่งดังยิ่งมีเสน่ห์ปลายจวัก ฮ่า
เสร็จแล้วหน้าตาก็เป็นแบบนี้ น่ากินมาก ชิมแล้วจะติดใจเลย ใครที่ผ่านไปผ่านมาก็แวะอุดหนุนกันได้ นอกจากน้ำพริกเผาแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของกลุ่มแม่บ้านตำบลบ้านแหลมมาวางจำหน่ายที่โฮมสเตย์บ้านสวนแผ่นดินแม่ด้วย
จากนั้นมาชมการสาธิตสานตะกร้า กระเป๋า ฯลฯ จากหวาย ซึ่งมีความสวยงามและประณีต และคงทนต่อการใช้งาน กว่าจะเสร็จใบหนึ่งก็กินเวลาเป็นเดือนเลยทีเดียว
มีทั้งของกินของใช้ ครบเลยค่ะ
ก่อนกลับแวะกินอาหารจานเด็ดของบ้านสวนแผ่นดินแม่บนแพริมแม่น้ำ
ใครที่สนใจการไหว้พระทางน้ำ 9 วัด ก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โฮมสเตย์บ้านสวนแผ่นดินแม่ ได้ที่เว็บไซต์ www.baansurnpandinmae.com โทรศัพท์ 035-424018, 080-8718991, 080-0737397 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี ที่เว็บไซต์ www.tatsuphan.net โทรศัพท์ 035-246076-7
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, บ้านสวนแผ่นดินแม่