x close

ขุนสถานบ้านในหุบเขา


ขุนสถานบ้านในหุบเขา

ขุนสถานบ้านในหุบเขา

ขุนสถานบ้านในหุบเขา
 (อสท.)

ธเนศ งามสม...เรื่อง
ธเนศ งามสม โสกณ บูรณประพฤกษ์...ภาพ

 1. ใครบางคนกล่าวไว้ว่า บางคราว อาจต้องออกเดินทางไปแสนไกล จึงจะพบความหมายของคำว่า "บ้าน"

           ที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน จังหวัดน่าน ณ ความสูง 1,380 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง

           ท่ามกลางสายลมเหน็บหนาว ผมแหงนมองฝูงนกแอ่นบ้านบินร่อน แล้วก็นึกถึงวันคืนที่ผ่านมา

           สำหรับนกแอ่นบ้าน พวกมันคือนักเดินทางโดยแท้ ชีวิตจำต้องออกโบยบินในฤดูหนาว เพราะแผ่นดินเกิดอากาศหนาวเหน็บเกินจะอยู่รอดได้ พวกมันพากันบ่ายหน้าลงได้ เพื่อแสวงหาอากาศอบอุ่นและอาหาร

           ชีวิตของนกแอ่นบ้านเป็นเช่นนั้น โบยบินไปตามเส้นทางของวันวาร ฤดูแล้วฤดูเล่า ปีแล้วปีเล่า เนิ่นนาน

           จะว่าไป ทุกชีวิตบนโลกก็คล้ายคลึงเช่นนั้น ฝูงปลาบางสายพันธุ์แหวกว่ายทวนน้ำ เพื่อจะฝากฝังทายาทไว้กับลำธารบนภูเขา ฝูงสัตว์จำต้องอพยพโยกย้าย เมื่อปรากฏทุ่งหญ้าในอีกฟากฟ้ากว้าง

           และสำหรับเรา ใช่หรือไม่ ชีวิตก็คือการเดินทาง

ขุนสถานบ้านในหุบเขา

 2. ที่ขุนสถาน ปลายเดือนธันวาคมคือฤดูกาลอันเหน็บหนาว

           ในยามเช้า อุณหภูมิจะลดต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ม่านหมอกหนาวเหน็บจะห่มคลุมภูเขา น้ำค้างเย็นเยือกเกาะพราวไปทั่วราวป่า

           "ปีนี้ดูจะหนาวนะครับ" อเนก แสนซุ้ง มิตรใหม่ชาวม้งเอ่ย ขณะเราไต่ความชันชื้นไปบนไหล่ดอย ปลาทางของเราอยู่ที่น้ำตกสายย่อมที่ชื่อ "ขุนลี"

          หมู่บ้านขุนสถานที่เพิ่งจากมาค่อย ๆ ลับหาย ดอยธงเสียดยอดโดดเด่นอยู่เบื้องหน้า

           "แต่ก่อนแถบนี้เป็นป่าหมดล่ะครับ" อเนกเล่าระหว่างเราเดินผ่านไร่เก่า "สมัยก่อนสัตว์เยอะ พ่อเล่าว่า เวลาไปนอนในไร่ต้องก่อไฟไว้ตลอด ไม่งั้นเสือจะเช้ามากวน"

          สำหรับผู้คนแห่งขุนเขา เรื่องดังกล่าวคือส่วนหนึ่งของชีวิต

          เนิ่นนานมาแล้ว ที่พี่น้องชาวม้งอพยพลงมาจากจีนตอนใต้ หลายครอบครัวเดินทางมาถึงที่นี่ ลงแรงบุกเบิกผืนดินรกเรื้อ แล้วก่อร่างสร้างเรือนตาย

          "แต่ก่อนเราใช้ม้าต่าง นาน ๆ ทีเราจะเอาของป่า พวกเนื้อสัตว์ ลูกชิด สมุนไพร ต่างม้าลงไปแลกของในเมือง" ชายหนุ่มเล่าน้ำเสียงเรียบ ๆ จังหวะก้าวเดินมั่นคง ขณะรอยทางไต่เลาะขึ้นไป

          ลมหนาวพัดกรูเกรียว สารภีป่าซึ่งผลิดอกส้มนวลเอนไหว ดอกแมงวายปลิดปลิวไปกับสายลม ล่องลอยเป็นจุดขาวพราว

          จากไหล่ดอย รอยทางค่อย ๆ วกลงต่ำ ไม่นานเราก็พบว่ากำลังก้าวอยู่ริมหน้าผา เสียงน้ำไหลรินอยู่เบื้องล่าง ดังแว่วราวกับอยู่ในหุบเขาโบราณ

          จนตะวันลอยสูง เหงื่อผุดเต็มเนื้อตัว เราจึงลงมาถึงตรงหน้าผาน้ำตก

          อากาศเย็นชื่น นำใสพาดสายลงมาตามแผ่นผา นกเอี้ยงถ้ำตัวหนึ่งกระโดดไต่ไปตามก้อนหิน แล้วบินลับขึ้นไปยังชั้นน้ำตกด้านบน ซึ่งสูงลิ่วจนต้องแหงนคอมอง

ขุนสถานบ้านในหุบเขา

 3. เหมือนเช่นทุกวัน ภาพตรงหน้านั้นกล่าวได้ว่า "ราวภาพวาด"

           อุณหภูมิลดต่ำ อากาศหนาวเหน็บ ปุยหมอกขาวนวลค่อย ๆ ลอยห่มคลุมภูเขา จันทร์ที่แขวนค้างให้อารมณ์รับรู้มากหลาย ทั้งสงบ เศร้าสร้อย เงียบงัน และงดงาม

           เช้าวันอาทิตย์เช่นนี้ ที่ทำการอุทยานฯ ขุนสถานมีผู้มาเยือนสม่ำเสมอ พวกเขาส่วนใหญ่เดินทางมาจากเมืองไกล ช่างต่างจากฝูงนกแอ่นบ้าน พวกเขามาตามหาสายลมเหน็บหนาว

           คล้ายกับเรา

           ภาพม่านหมอกห่มภูเขาคือสิ่งที่เราคาดหวัง ราวกับว่าภูเขามีบางอย่างที่ขาดหาย และม่านหมอกก็ดูคล้ายจะเติมเต็มที่ว่างนั้น...

           ทว่าสำหรับหมู่บ้านแห่งหุบเขา โมงยามหมอกละลายคือช่วงเวลาที่หลายคนเฝ้ารอ เพราะมันหมายถึงแสงแดดอบอุ่น และห้วงยามของความกระจ่างชัด หญิงชราได้สอดเข็มปักลวดลายบนเนื้อผ้า หนทางดูชัดเจนเวลาแห่งการงานได้เริ่มต้นอีกวัน

           ที่ด้านเหนือของขุนสถาน ใต้แสงตะวันฉาย ครอบครัวหนึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับการงานใหม่ในไร่

ขุนสถานบ้านในหุบเขา

           "ทดลองดูก่อนครับ ว่าปีนี้จะได้ผลดีไหม" โซ้ง แสนย่าง บอกขณะถอนหญ้าในแปลงสตรอว์เบอร์รี นี่เป็นพืชที่ครอบครัวของโซ้งกำลังทำความรู้จัก

           สำหรับหมู่บ้านในหุบเขา การปลูกข้าวโพดและกะหล่ำปลีคืออาชีพอันชำนาญ ข้าวโพดหมายถึงรายได้ที่แน่นอนในรอบปี และกะหล่ำปลีอาจหมายถึงเงินก้อนโต

           "เราปลูกกะหล่ำปีละ ๒ ครั้ง ข้าวโพดปีละครั้ง กะหล่ำบางปีราคาไม่ดีเลย แต่บางปีดีมาก" โซ้งเล่า ใบหน้าระบายยิ้ม สำหรับคนที่นี่ การงานคือชีวิต คือความสบายใจ

           สตรอว์เบอร์รีไร่นี้คือความสบายใจของครอบครัว มันเป็นพืชชนิดใหม่ที่ญาติ ๆ ทางเยงใหม่แนะนำ ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้พื้นที่น้อย ราคาดี ทว่าสำหรับโซ้ง...

           "ผมได้ขายเอง และก็ได้พูดคุยกับคนที่มาเที่ยวด้วยครับ" เขาพูดแล้วก็หัวเราะอารมณ์ดี

           ถัดไปไม่ไกล มีแปลสตอรว์เบอร์รีอีก 2 แปลง แปลงหนึ่งเป็นของลุงจื้อ ชายชราที่เราแวะไปเยือน ข้ามหุบดอยไปทางทิศตะวันออก คือที่ตั้งโครงการขยายผล โครงการหลวงขุนสถาน

           "เราเป็นโครงการย่อยจากเชียงใหม่ครับ" ไพโรจน์ แสนซุ้ง ชายหนุ่มแห่งหมู่บ้านบอกกับเรา

           เขาเรียนจบทางด้านเกษตร กลับมาอยู่บ้านเพราะมีหลายอย่างให้ลงมือทำ

           "เราส่งเสริมให้ปลูกพืชมีราคา ลดการใช้พื้นที่ภูเขา ลดการใช้ยาเคมีน่ะครับ" ชายหนุ่มอธิบาย ล่วงปีที่ 3 นี้ โครงการหลวงลงกาแฟไปแล้วกว่า 40 ไร่ อีกทั้งพลับและอะโวกาโดก็รอให้เก็บเกี่ยวผล

           นี่อาจเป็นความหวังใหม่ของหมู่บ้านในหุบเขา

           "คนที่นี่อยู่ได้ด้วยข้าวโพดกับกะหล่ำจริง ๆ ครับ เราต้องลงมือทำให้เขาเห็น ให้เขาเข้าใจ" ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงมุ่งมั่น ดวงตาคล้ายบรรจุความฝันบางอย่างไว้ข้างใน

ขุนสถานบ้านในหุบเขา

 4. เช้าวันนี้ อากาศดูจะหนาวเหน็บว่าทุกวัน อุณหภูมิลดลงมาที่ 8 องศาเซลเซียส ฝูงนกแอ่นบ้านยังทยอยบ่ายหน้าลงได้

          สำหรับพวกมัน เวลากำลังนับถอยหลัง ขณะบ้านเกิดค่อย ๆ คลี่คลุมด้วยหิมะเย็นยะเยือก ทว่าไม่ใช่ที่ขุนสถาน

          ถัดจากที่ทำการอุทยานฯ ลงไป เป็นที่ตั้งสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน นางพญาเสือโคร่งต้นแรกกำลังผลิบานดอก ผลิบานรับสายลมหนาว เกสรในดอกสีชมพูนั้นเชื้อเชิญบรรดานกมากหลาย

          กินปลีคอแดงตัวกระจิริด ปลีกล้วยปากโค้งยาว แซงแซวสีเทา-นักเดินทางซึ่งมาพร้อมสายลมหนาว แว่นตาขาวตัวกลมเล็ก ซึ่งดูราวกับสวมแว่นตากรอบขาวตลอดเวลา...

          นอกจากการงานฟื้นฟูพื้นที่ต้นน้ำ สถานทีวิจัยฯ ยังปลูกพรรณไม้สวยงามไว้หลายชนิด เช่น กุหลาบป่า คริสต์มาส บีโกเนีย รวมถึงพญาเสือโคร่งดงกว้าง ซึ่งจะบานสะพรั่งเป็นผืนสีชมพูในราวเดือนมกราคมของทุกปี

          รอบ ๆ สถานีวิจัยฯ เป็นหมู่บ้าน ทั้งหมดเป็นหมู่บ้านของพี่น้องชาวม้ง คล้ายคลึงกับพญาเสือโคร่ง ล่วงสู่ฤดูหนาว ทั้งหมู่บ้านก็ดูราวกับมีงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง

          อีกไม่กี่วันจะถึงเทศกาลปีใหม่และไหว้บรรพบุรุษ ลูกหลานที่จากบ้านไปไกลจะได้หวนคืนมา

ขุนสถานบ้านในหุบเขา

          "วันที่ 25 ธันวาคมนี้เราจะทำพิธีไหว้บรรพบุรุษค่ะ" ปั้งใจ เด็กสาวชาวม้งบอกคนแปลกหน้า แล้วก็ยิ้มเอียงอาย

          เราตามไปที่โรงเรียนของเธอ วันนี้นับเป็นโอกาสพิเศษ มีแขกมาเยือนหมู่บ้าน ทั้งเด็ก ๆ และผู้ใหญ่จึงแสดงการละเล่นของชนเผ่า มอบแด่แขกเสมือนน้ำใจไมตรี

ขุนสถานบ้านในหุบเขา

          ที่ลานดินของโรงเรียน ทั้งชายชราและเด็กหญิงเต้นรำในจังหวะรื่นเริง เสียงเครื่องเป่าสอดประสาน ทั้งจังหวะแว่ว หวานและเริงใจ ทุกคนล้วนแต่งกายในชุดชนเผ่า เสื้อและกระโปรงพราวด้วยลวดลายปักหลากสี เครื่องเงินซึ่งประดับตรงโน้นตรงนี้สะท้อนแดดวับวาว

          เหลืออีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปีใบหน้าและดวงตาของทุกคนจึงระบายยิ้ม การงานในไร่ใกล้ลุล่วง เสื้อที่เย็บอย่างประณีตด้วยด้ายใกล้สำเร็จ ลูกช่วงที่หญิงสาวถักทอเตรียมมอบให้ชายหนุ่มก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์

          ใกล้ถึงโมงยามแห่งความรื่นรมย์...

          เย็นวันนั้น ระหว่างทางออกจากหมู่บ้าน ผมพบเพิงขายเผือกมันตั้งอยู่ริมทาง มีย่ามปักเลื่อมลายฝีมือดีแขวนเรียงหลายคนเริ่มเตรียมตัวต้อนรับผู้มาเยือน

          ตรงริมทางท้ายหมู่บ้าน เราจอดรถชมวิวทิวดอย ผู้หญิง 2 คนกำลังเดินกลับจากไร่ เราต่างยิ้มทักทาย แล้วเธอก็ยื่นกะหล่ำปลีสมบูรณ์สุดในย่ามให้...

          แดดสุดท้ายฉายอาบทิวดอย

          ท้องฟ้ากระจ่างเป็นสีครามใส จันทร์แขวนค้าง ฝูงนกแอ่นบ้านโบยบินลงใต้ ดูคล้ายจุดประเล็ก ๆ สีดำบนท้องฟ้ากว้าง

          จู่ ๆ ผมก็นึกถึงการเดินทางครั้งที่ผ่านมา

          ในบางคราว การงานนำพาไปสู่หนทางอันคดโค้งบนภูเขา บ้างเลาะเลียบลำน้ำมากสาย บ้างก็บ่ายหน้าลงใต้คงจริงดังที่ใครบางคนกล่าวไว้ในบางคราว อาจต้องออกเดินทางไปแสนไกล จึงจะพบความหมายของคำว่า "บ้าน" ไม่ว่าจะเป็นฝูงนกแอ่นบ้าน ฝูงสัตว์ป่า ฝูงปลาบางสายพันธุ์ หรือว่าเรา



ขุนสถานบ้านในหุบเขา

ขุนสถานบ้านในหุบเขา

คู่มือนักเดินทาง

            ทิวดอยขุนสถานเริ่มสำรวจเตรียมจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2551 ครอบคลุมเนื้อที่ 252,826 ไร่ ในเขตอำเภอนาน้อยและอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน

            ที่ทำการอุทยานฯ บรรยากาศดี เพราะทำเลอยู่บนไหล่ดอย จึงมองเห็นทิวทัศน์ได้เต็มตา อีกทั้งอากาศยังหนาวเย็นตลอดปี

            นอกจากทิวทัศน์และอากาศดี ใกล้ ๆ ที่ทำการอุทยานฯ ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 2.5 กิโลเมตรทอดขึ้น ดอยภูคา ที่ความสูง 1,726 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในอุทยานฯ มีน้ำตกน่าไปเยือน 4 แห่ง คือ น้ำตกขุนลี ตาดลี ลีหลวง และผาแดง

            ยอดดอยธง หรือดอยกู่สถาน ก็เป็นอีกที่ซึ่งน่าไปเยือน มีเวลา 2 วัน เดินขึ้นไปค้างแรมบนยอดดอย ชมทิวทัศน์รอยต่อระหว่างแพร่กับน่าน

            หากมีเวลาน่าแวะไปชมถ้ำละโอ่ง ในบางโถงถ้ำ หินงอก หินย้อยยังเป็น ดูอ่อนช้อยแปลกตา

การเดินทาง 

          ไปอุทยานแห่งชาติขุนสถานสะดวกสุดโดยทางหลวงหมายเลข 101 (แพร่-น่าน) ผ่านอำเภอร้องกวางไปราว 20 กิโลเมตร เลี้ยวขวาใช้ทางหลวงหมายเลข 1216 ไปตามทางภูเขา 26 กิโลเมตรถึงที่ทำการอุทยานฯ

ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก

          อุทยานแห่งชาติขุนสถานมีบ้านพักรับรอง เต็นท์ และลานกางเต็นท์ให้บริการ ร้านสวัสดิการมีอาหารขายเฉพาะช่วงฤดูหนาว ควรสอบถามล่วงหน้าก่อนเดินทาง

สอบถามเพิ่มเติม

          อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ตู้ ปณ. 5 อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 โทร. 054-701121 , 087-1738549 





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ขุนสถานบ้านในหุบเขา อัปเดตล่าสุด 9 มีนาคม 2555 เวลา 16:02:25 2,852 อ่าน
TOP