ท่องดอยสูงจากขุนวาง-แม่กลางหลวง (ลิซ่า)
ต้อนรับสายลมหนาวกับเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนดอยอินทนนท์
12 องศาเซลเซียส เป็นความเย็นจากลมหนาวแรกของปีนี้ที่เรามีโอกาสได้สัมผัสขณะอยู่บนดอยสูง ก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่าโลกใบนี้มีแต่ร้อนขึ้นทุกปี ปีที่แล้วก็แทบนับนิ้วได้เลยว่ามีวันที่อากาศหนาวจนได้ใส่เสื้อกันหนาวสวย ๆ สักกี่วันเชียว เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยชักชวนเราขึ้นดอยไปสัมผัสอากาศหนาวตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศในภาคเหนือ...มีรึที่สาวขี้หนาวแต่ใจรักอากาศหนาวอย่างเราจะปฏิเสธ
เบญจมาศบานฉ่ำที่ขุนวาง
จากแดดบาง ๆ บนพื้นราบตัวเมืองเชียงใหม่ สู่เขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อากาศเย็นลงพร้อม ๆ กับไต่ความสูงสู่ 1,200 - 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเลเพื่อไปยังศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวางบนดอยอินทนนท์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงส่งเสริมให้ชาวบ้านที่นี่ ปลูกพืชเมืองหนาวเป็นอาชีพแทนการปลูกฝิ่นเหมือนสมัยก่อน
ดอกเบญจมาศสีชมพู - ขาว บานสะพรั่งตลอดทั้งปี ดึงดูดภมรหนุ่มสาวอย่างเราได้เต็ม ๆ แต่ที่เรียกความสนใจได้ไม่แพ้กันคือโรงเรือนปลูกวานิลลาที่อยู่ในขั้นศึกษาทดลอง เนื่องจากปัจจุบันเป็นพืชนำเข้าราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 6 หมื่นบาท แต่ถ้าโครงการนี้สำเร็จ วานิลลาของไทย จะขายกันที่กิโลกรัมละหนึ่งหมื่นบาทเท่านั้น ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองผสมพันธุ์เกสรวานิลลาแล้วติดป้ายชื่อคุณเอาไว้ อีก 3 ปีหากมีโอกาสกลับมาก็จะได้ชื่นชมฝักวานิลลาจากฝีมือตัวเอง ภายในโครงการมีแปลงพืชเมืองหนาวอีกหลายชนิดทั้งพืชผัก ผลไม้ และดอกไม้สีสวย ๆ ให้เดินชมได้ทั้งวัน
โครงการหลวงแห่งนี้มีหมู่บ้านในเขตรับผิดชอบ 7 หมู่บ้าน ทั้งไทยพุทธ - คริสต์ ชาวกะเหรี่ยงและม้งครั้งนี้เราจึงได้ชมชาวม้งรำฟ้อน ทำเครื่องจักสานชมผืนผ้าทอใยกัญชงจากฝีมือแม่บ้านชาวม้ง และวิธีตำข้าวปุกหรือขนมที่ใช้เลี้ยงฉลองกันในวาระพิเศษ เช่น งานปีใหม่ที่จัดขึ้นกลางเดือนธันวาคมของทุกปี ซึ่งถ้าไปเที่ยวในช่วงนั้นละก็ จะได้ชมชาวม้งตีลูกช่วงยิงลูกข่าง และการฟ้อนรำอื่น ๆ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เขายังรักษาไว้
หลังเดินท่องโครงการหลวงคืนนั้นท่ามกลางอากาศเย็น 12 องศา เราหลับไปพร้อม ๆ กับความอิ่มสบายจากอาหารเย็นที่ปรุงจากผักสดในโครงการ ตบท้ายด้วยผลไม้อย่างสตรอวเบอร์รี่ กีวี กูสเบอร์รี่สดฉ่ำ แล้วซุกตัวใต้ผ้าห่มในห้องพักแสนอบอุ่น
แม่กลางหลวงในทุ่งรวงทอง
หมอกยามเช้าบนยอดดอยกับโจ๊กปกากะญอร้อน ๆ เติมพลังให้เราออกเดินทางไปดูงานฝีมือทำผ้าย้อมห้อม-ครามของชาวแม่แจ่ม เมืองเล็ก ๆ กลางหุบเขา แล้วไปชมโบสถ์หลังเก่ากับบ่อน้ำผุดที่วัดพุทธเอิ้นและภาพจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถวัดป่าแดดโดยช่างฝีมือไทยใหญ่ ก่อนมุ่งสู่หมู่บ้านปกากะญอที่มีอาชีพเสริมด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนด้วยตัวเอง เพื่อเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยจุดหมายแรกอยู่ที่น้ำตกผาดอกเสี้ยวที่สวยงาม ทั้งยังเป็นฉากถ่ายทำในหนังเรื่อง "รักจัง" จนตอนหลังใคร ๆ ก็เรียก น้ำตกรักจัง จนติดปาก
จากน้ำตกเดินเรื่อย ๆ ไปตามไหล่เขา อากาศเย็นขึ้น กำลังสบาย ไม่นานก็มองเห็นทุ่งสีทองอร่ามเบื้องล่างที่ถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้และขุนเขา นั่นคือทุ่งข้าวของชาวปกากะญอที่ทำนาแบบขั้นบันได บ้างก็ปลูกชา บ้างก็ปลูกกาแฟ บรรยากาศสวย ๆ อย่างนี้เล่าถึงได้กลายเป็นโลเกชั่นในหนัง "หนึ่งใจ...เดียวกัน" รวมถึงใน มิวสิกวิดีโอของพี่เบิร์ด - ธงไชย ทริปเดินป่าสิ้นสุดที่ศูนย์กาแฟสดแม่กลางหลวง เพื่อชิมรสชาติกาแฟแท้พันธุ์อาราบิกาที่ปลูกตามวิถีธรรมชาติ ผ่านกรรมวิธีคั่วบดตามสูตรดั้งเดิมของชาวปกากะญอ รสเข้มข้นถูกใจคอกาแฟกันทั่วหน้า
ภาพทุ่งข้าวสีทองยังตรึงตา ผสานกลิ่นกรุ่นหอมกาแฟสด อากาศเริ่มเย็นลงอีกครั้ง ใจหวังไม่อยากให้โลกร้อนไปกว่านี้ ไม่งั้นเราคงไม่มีโอกาสได้ขึ้นดอยมาจิบกาแฟกลางอากาศหนาวเช่นนี้อีก
โจ๊กปกากะญอ : ข้าวโจ๊กนุ่มกำลังดี ปรุงรสกลมกล่อม สำคัญที่เครื่องเสริมด้วยผักสดพื้นบ้านอย่างยอดฟักแม้ว ข้าวโพดหวาน เห็ด และเนื้อไก่ กินคู่กับหมั่นโถวทอด เป็นมื้อเช้าต้อนรับฤดูหนาวที่วิเศษจริง ๆ
• ติดต่อเที่ยวชมศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง โทร. 053-229-645, 08-1993-6778 มีบริการบ้านพักรับรอง เช่าเต็นท์และถุงนอน
• หากต้องการพักที่หมู่บ้านแม่กลางหลวง มีโฮมสเตย์ให้บริการพร้อมกิจกรรมเที่ยวน้ำตกเดินป่า ดูการทำกาแฟสด ติดต่อได้ที่คุณ สมศักดิ์ ศีรีภูมิทอง โทร. 08-1960-8856
• ในพื้นที่ดอยอินทนนท์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีก เช่น อ่างกาหลวง น้ำตก แม่ยะ น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกผาดำฯ