ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองเบิร์น มรดกโลกทางวัฒนธรรม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เป็นเมืองที่ถูกยกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกเมืองหนึ่ง สำหรับ "เบิร์น" (Bern) เมืองหลวงของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ อาจเป็นเพราะความงดงามทางสถาปัตยกรรม ความคลาสสิกของอาคารบ้านเรือน ธรรมชาติที่แวดล้อม รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉกเช่นอดีต ทำให้ องค์การยูเนสโก (UNESCO) ไม่ลังเลที่จะประกาศให้ เมืองเบิร์น ขึ้นทำเนียบเป็นมรดกโลก และเป็นเมืองเดียวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

          เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมก็จะพาเพื่อน ๆ เข้าไปสำรวจเมืองมรดกโลก พร้อม ๆ กับหา "ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองเบิร์น" มาแนะนำกันด้วย...แต่ก่อนอื่นเราต้องไปทำความรู้จักกับ เมืองเบิร์น กันซะก่อน


          เบิร์น (Bern) เป็นเมืองหลวงของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่และโรแมนติก สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ มีประชากรประมาณ 130,000 คน ภาษาราชการที่ใช้ในเมืองเบิร์นคือ ภาษาเยอรมัน แต่คนในเมืองส่วนใหญ่นิยมพูดภาษาเยอรมันเบิร์น ซึ่งเป็นภาษาถิ่น

          ส่วนคำว่า เบิร์น (Bern) มาจาก "Baren" ในภาษาเยอรมัน ที่แปลว่า "หมี" หรือ "Bear" ในภาษาอังกฤษ เพราะในอดีตผู้ครองเบิร์นได้ออกล่าสัตว์ และสัตว์ตัวแรกที่ล่าได้ คือ หมี จึงได้ตั้งชื่อเมืองนี้ว่า "เบิร์น" ดังนั้น ธงประจำเมืองนี้เลยเป็นสัญลักษณ์ "รูปหมี" อีกทั้งยังมี "บ่อหมี" (Bear Pit) เป็นเอกลักษณ์สำคัญของเมืองเบิร์น


          สำหรับ ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองเบิร์น สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือน "เบิร์น" นอกจากจะไปชม "บ่อเลี้ยงหมีของเมือง" คือต้องไปสัมผัสกับความอลังการของ หอนาฬิกา Zeitglockenturm สัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองอีกอย่างหนึ่ง สำหรับ หอนาฬิกา Zeitglockenturm ในช่วงปี ค.ศ. 1191 - 1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน และดัดแปลง Zeitglockenturm ให้กลายมาเป็นหอนาฬิกา พร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป

          อย่างไรก็ตาม ผู้คนยังแวะเวียนไปชื่นชม หอนาฬิกา Zeitglockenturm พร้อมกับเก็บภาพ หอนาฬิกา Zeitglockenturm ไว้เป็นที่ระลึก และก็อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นเจ้าพ่อในวงการนาฬิกา เพราะฉะนั้น ทั่วทั้งเมืองจะมีนาฬิกาตั้งโดดเด่นให้ได้ชมมากมาย


          โบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า และยังมีหอคอยให้นักท่องเที่ยว เดินขึ้นบันไดวนไปชมทัศนียภาพของเมืองเบิร์นได้ด้วย รวมไปถึง พิพิธภัณฑ์บ้านไอน์สไตน์ บ้านหนึ่งใน 5 หลังของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ระดับโลก ที่เขาพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ระหว่างปี ค.ศ. 1903 - 1905 ซึ่งเป็นช่วงที่เขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานประวัติศาสตร์ขึ้นมาถึง 5 ชิ้น โดยภายใน พิพิธภัณฑ์บ้านไอน์สไตน์ จะมีการจำลองชีวิตความเป็นอยู่ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในสมัยที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ให้ชม

          บ้านและลานของรัฐสภา บ้านของรัฐสภาเป็นที่นั่งของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ National Council และ Council of States สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1852 และเสร็จในปี ค.ศ. 1902 ทั้งนี้ ลานของรัฐสภาเป็นสัญลักษณ์ในเรื่องของสถานที่ ที่มีความหมายมากที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งหากมีโอกาสควรไปเที่ยว ตลาดนัดชาวนา ซึ่งจัดขึ้น 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ที่หน้ารัฐสภาของเมืองแห่งนี้ด้วย


          นอกจากนี้ เพื่อน ๆ ยังสามารถเดินทอดน่อง ค่อย ๆ ซึมซับเอาความสวยงามของเมืองเก่าที่ น่ารักอย่าง "เบิร์น" ได้ทั่วทั้ง บ้านหินทราย โบสถ์ที่มีประวัติอันยาวนาน ถนนที่ปูด้วยอิฐ และมีรูปปั้นตัวเล็ก ๆ ตลอดเส้นทางเดิน เมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านสะพานที่เก่าแก่ ส่วนเรื่องการขนส่งสาธารณะ ในเมืองเบิร์นมีรถราง รถไฟ S-Bahn และรถประจำทาง ที่เชื่อมต่อกับเมือง สถานีรถไฟตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองเก่า ซึ่งเดินไม่กี่นาทีก็จะถึงโรงแรม และศูนย์กลางของเมืองที่มีขนาดเล็ก

          และนี่เป็นเพียง ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองเบิร์น เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราหยิบมานำเสนอ เพื่อกระตุ้นต่อมนักเดินทางทั้งหลายค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, donutja.ob.tc, vacationzone.co.th และ switzerlandhotel.net