ผมตื่นมาเวลาประมาณ 05.30 น. เพื่ออาบน้ำแต่งตัวออกเดินทางจากหอพัก ไปยังสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) เพื่อให้ทันรถไฟรอบ 07.30 น.
ประมาณ 06.10 น. ผมก็ได้นั่งรถเมล์สาย 40 ซึ่งวิ่งผ่านหน้าหอพักผม ยาวไปจนถึงสถานีรถไฟเลย
เริ่มเจอปัญหาตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง รถเมล์เสีย ติด ๆ ดับ ๆ ผมได้แต่ภาวนาให้ไปทันรถไฟด้วย แล้วก็มาถึงสถานีรถไฟธนบุรีเวลาประมาณ 07.20 น. ครับ
รถไฟออกจริง ๆ เวลาประมาณ 07.50 น. ครับ ช้าตั้งแต่เริ่มเลย 555 ขาออกต่างจังหวัดในเช้าวันจันทร์คนน้อย เลือกที่นั่งได้ตามใจเลย
บนรถไฟฟรีสายธนบุรี-หลังสวน ตามกำหนดการจะไปถึงเมืองชุมพรประมาณเกือบห้าโมงเย็น บนรถไฟก็จะเหมือนรถไฟฟรีชั้น 3 ทั่วไป มีชาวบ้าน เด็กตัวเล็ก ๆ นักท่องเที่ยว และแม่ค้าที่คอยหาบเร่อาหารอร่อย ๆ เดินกันให้ควั่กเลย
เอาเข้าจริงก็ไปถึงเมืองชุมพรประมาณ 19.00 น. ครับ นั่งกันเมื่อยตูดพอสมควร แต่ผมว่าเพลินดีนะ ช่วงนี้ฤดูฝน ฟ้าปิด ลมเย็นดีมาก มีแดดออกแค่เป็นช่วง ๆ ครับ ^__^
มาถึงท่าเรือแล้ว ถึงตอนประมาณ 20.00 น. ถึงแล้วก็แวะซื้อตั๋วก่อนเลย เรือนอนจะออกประมาณ 23.00 น. ของทุกวันนะครับ ฤดูท่องเที่ยวควรโทรมาจองล่วงหน้าเพื่อความมั่นใจครับ
ท่าเรือมีลักษณะเป็นลานกว้างสว่างไสวไม่ต้องกลัวครับ มีรถเข้าออกตลอดเพราะเขารับ-ส่งสินค้าไปเกาะเต่าด้วย ไม่เหงา...นักท่องเที่ยวเยอะเลย
ภายในห้องโดยสารเรือนอนมีลักษณะเป็นเตียงสองชั้น ไม่รู้ว่าเตียงแคบไปสำหรับผมหรือผมตัวใหญ่ไป 555 มีปลั๊กให้ชาร์จไฟคนละ 1 รูครับ
หลับตาลงไม่ทันไร ด้วยความเหนื่อยล้าผสมกับกระแสคลื่นทำให้รู้สึกนอนสบายเหมือนนอนในเปล รู้ตัวอีกที 05.00 น. เรือนอนก็เทียบเกาะเต่าแล้วจ้า
เกาะเต่าตอนตีห้าร้างผู้คน บ้านเมืองหลับใหลไม่รับรู้การมาถึงใด ๆ ของเราเลย (ว้าเหว่มาก ๆ)
เกาะเต่ามืดจริง ๆ ครับ ไม่กล้าเดินไปไหนเลย เดินมาถึงหน้าธนาคารสีม่วงมีไฟสว่าง ๆ กับม้าหินอ่อนและกล้องวงจรปิด หย่อนตูดรอเวลาพระอาทิตย์ขึ้นค่อยเริ่มออกเดินหาที่พักดีกว่า เวลาประมาณ 05.45 น. รู้สึกว่าฟ้าเริ่มสว่างขึ้น (นิดหนึ่ง) และเริ่มเห็นรถแท็กซี่รับ-ส่งนักท่องเที่ยวมากขึ้น จึงวางใจและออกเดินทางจากท่าเรือแม่หาด (ท่าเรือหลัก) ไปยังหาดทรายรี แหล่งที่ (คิดเอาเอง) ว่านักท่องเที่ยวต้องอาศัยอยู่เยอะที่สุดแน่ ๆ
และแล้วก็มาถึงหาดทรายรี เส้นทางในเกาะเต่าช่างไม่เหมาะกับการเดินสุด ๆ ทั้งมืดทั้งสูงชัน ถึงหาดทรายรีประมาณ 07.00 น. จ้า ที่พักยังไม่ค่อยเปิดให้วอล์คอิน เดินเล่นริมหาดไปก่อนละกัน (ที่นี่น้องหมาเยอะมาก รักเลย <3)
และแล้วประมาณ 08.00 น. ที่พักก็เริ่มเปิด เราเดิน ๆ ดูและสนใจที่นี่ เป็นโฮสเทลชื่อว่า Ban\'s Avenue จึงตกลงใจพักที่นี่ครับ
ห้องพักแยกหญิงชาย นอนรวม ห้องหนึ่งจะมีห้องอาบน้ำ 2 ห้อง ห้องส้วม 2 ห้อง โดยรวมสะอาดดีครับ ทั้งห้องที่ผมอยู่เป็นเอเชีย 2 คน (รวมผม) ที่เหลือเป็นทางตะวันตกหมดเลยครับ
หลังจากได้ที่พัก จัดข้าวของเรียบร้อยก็ประมาณเกือบ ๆ เก้าโมง ออกไปหาอะไรทานเป็นมื้อเช้าสักหน่อยก่อนจะออกไปเที่ยวทั้งวัน
ด้านหน้าที่พักมีแผนที่แจกฟรีครับ หยิบได้เลย และควรหยิบมาก ๆ เพราะมันคือกุญแจสำคัญที่จะพาเราไปทุกที่ แผนที่จะทำการอัพเดททุก ๆ ปีครับ ดีมากเลย
แวะร้านอาหารไทยร้านหนึ่ง อาหารบนเกาะก็มีราคาแพงเป็นเรื่องปกติ พยายามสั่งของที่ถูกที่สุดในร้านมากิน เปิดเมนูอยู่นานมากครับ เปิดไปเช็ดเหงื่อไป จะอยู่รอดไหม 2 วัน บนเกาะเต่า...
ป.ล. ลูกเจ้าของร้านนี้น่ารักดีนะครับ ขาว ๆ ตี๋ ๆ จัดฟัน
หลังจากกินข้าวก็กลับมาอาบน้ำ แต่งตัว พักผ่อน เตรียมออกเดินทางไปเกาะนางยวนครับ
10.30 น. ที่บริเวณหาดทรายรีจะมีแท็กซี่โบ๊ทให้บริการเยอะมาก แล้วแต่เราจะเลือกเลยครับ ตกลงเวลากลับเอาเอง ส่วนใหญ่ก็ประมาณ 16.00 น. กันนะ ผมก็กลับเวลานี้เช่นกัน อ้อ ! ผมเช่าสน็อกเกิลไว้ดำน้ำด้วยครับ
แล้วก็มาถึงเกาะนางยวนครับ ถึงประมาณ 11.00 น. เศษ ๆ มีเก็บค่าธรรมเนียมคนไทย 30 บาท ที่นี่นักท่องเที่ยวเยอะมาก นี่ขนาดพยากรณ์อากาศบอกว่ามรสุมเข้า เมฆเยอะ แต่คุณพระคุณเจ้าแดดเมืองไทยส่องทะลุเมฆหนาลงมาให้ได้ร้อนระอุกันอย่างไม่แคร์ใคร
มีเต็นท์เรียงรายเลยครับ 150 บาท ต่อเปล 2 ผืน เอาไว้วางของ+เอนกาย ของที่ควรนำมาคือครีมกันแดดกับผ้าเช็ดตัว ใครจะเอากางเกงมาเปลี่ยนเพิ่มก็ดีครับ
สิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อมาถึงเกาะนางยวนคือการไปยังจุดชมวิวที่อยู่สูง ๆ นู่น บอกเลยว่าระยะทางค่อนข้างชัน แต่ไม่หนักมาก เดินระวัง ๆ กันด้วยนะครับ
แหงนหน้าไปจะมีเหล่าผู้กล้าที่ปีนป่ายขึ้นไปจับจองพื้นที่ส่วนตัวกัน ส่วนตัวขอบาย มาถึงนี่ได้ก็ถือว่าเก่งละครับ ปลอบใจตัวเอง 555
กิจกรรมหลักของเกาะนางยวนคือการดำน้ำดูปะการัง อาบแดด และขึ้นมาชมวิว ระยะเวลา 11.00-16.00 น. ที่อยู่บนเกาะนางยวนได้เปลี่ยนสีผิวผมให้กลายเป็นคนใหม่ ยอมใจแดด ขนบาน่าโบ๊ทมาหมดทะเลก็สู้ไม่ไหว
พอถึงเวลานัด 16.00 น. ก็ต้องขึ้นเรือกลับครับ ไปถึงท่าเรือเกาะนางยวนพี่เขาก็จะโบกมือให้เรา (พี่คนเดิมที่มาส่งเรา) ขากลับนี่มีพี่ฝรั่งตัวเล็กมาจับจองพื้นที่ข้างหน้าด้วย พี่เขาพูดคุยสนุกดีครับ
กลับถึงที่พักก็ตกตะลึงกับสีผิวตัวเองพักใหญ่ ถึงกับไลน์ไปปรึกษาปัญหานี้กับกลุ่มเพื่อน ๆ เพราะมันทั้งแสบทั้งแดงไปหมด T-T ประมาณ 18.00 น. ผมก็เริ่มออกเดินหาของกินถูก ๆ อร่อย ๆ เติมพลังสักหน่อย หาดทรายรีตอนเย็นคึกคักขึ้นเรื่อย ๆ ไปตามเวลา
ทานข้าวเสร็จก็ประมานทุ่มกว่า ๆ มองหาร้านนั่งดื่มชิล ๆ ให้หายเหนื่อยจะได้หลับสบาย
เดินวนไปวนมารอบ ๆ หาดก็กลับมาได้ร้านที่อยู่ตรงข้ามกับที่พักซะงั้น คิด ๆ ไว้ว่าเวลาหอบร่างไร้สติกลับจะได้ไม่ลำบาก เป็นคนไม่ชอบทานแรง ๆ เลยสั่งที่เป็น Bucket ใส่วอดก้า+สไปรท์มา เพราะชอบทานหวานและร้านนี้มีโปรฯ ซื้อ 1 ถัง แถม 1 ถัง ด้วย จะพลาดได้ไง อิอิ ปรากฏว่า Bucket ที่นี่แรงมาก ๆ ดูดอึกแรกก็ฉุนกึกว้อดก้าเลย แต่มันหวานสไปรท์เลยทานต่อไปเรื่อย ๆ จัดไป 2 ถัง แรงมาก เลื้อยผนังร้านไปแล้ว จะหลับเอาเสียตรงนั้นให้ได้ ดึงสติหน่อยน่ากลับมานอนที่ห้องได้สำเร็จ เผลอหลับไปพักใหญ่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงกุกกักจากเมทเปลี่ยนเสื้อผ้า ลืมตาตื่นมาเมทอยู่ในสภาพกางเกงในตัวเดียว...โอเค ตาสว่างแล้ว ไปถอดคอนแทคเลนส์นอนดีกว่า 555
ตื่นมาประมาณเก้าโมงเช้า โล่ง โปร่ง และง่วงมาก ๆ อาบน้ำ เก็บกระเป๋าและเช็กเอาท์เสร็จตอนประมาณ 11.00 น. ออกเดินไปหาอะไรทาน ไม่รู้อะไรดลใจให้กลับไปทานที่ร้านเดิมตอนวันแรกที่มาถึง พี่คนเดิมก็เป็นคนรับออร์เดอร์ แต่เพิ่มเติมที่เขามาชวนผมคุยนิดหนึ่ง เขาสนใจกล้องผมว่าใช้ยากมั้ย อะไร ยังไง เขาอยากได้กล้องอยู่พอดี นึกในใจถ้าย้อนไปได้คงทิ้งไลน์ไว้แลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องกล้องกัน 555
เกาะเต่าเป็นเกาะที่มอเตอร์ไซค์พลุกพล่านมาก โดยเฉพาะในย่านชุมชนอย่างหาดทรายรี ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ตามหาเช่ามอเตอร์ไซค์ถูกและดีสักคันหนึ่งเหมือนกัน ราคาจะอยู่ที่ 150-200 บาทต่อวัน มัดจำก็มีตั้งแต่ 0-8,000 บาท โอ้โห ! 8,000 บาท นี่กดเอทีเอ็มก็แล้ว ทุบเอทีเอ็มก็แล้วยังไม่พอมาจ่ายมัดจำเลยจ้า เดินหาจนได้ร้านคุณลุงขายของชำคนหนึ่งเขามีมอเตอร์ไซค์เก่า ๆ คันหนึ่งให้เช่า มีเกียร์ด้วย แถมไม่มีมัดจำ จะรอช้าอยู่ไย ถ่ายรูปมอเตอร์ไซค์รอบคันเพื่อเป็นหลักฐานว่าเราจะไม่ทำให้รถเค้าเป็นรอยเพิ่ม โอเค 150 บาท เติมน้ำมันอีก 50 บาท เที่ยวทั้งวัน...ลุย !
ก่อนอื่นเลย นี่ก็ประมาณ 12.30 น. แล้ว ขับไปซื้อตั๋วเรือนอนไว้เลยดีกว่า วันนี้ (วันพุธที่ 8 กรกฎาคม 2558) เรือออกจากเกาะเต่าจะเป็นของพรทวีสินครับ เดินเข้าไปซื้อได้เลย
จากนั้นก็ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปเรื่อย ๆ ตามแผนที่ล้ำค่าที่เราเก็บรักษาเป็นอย่างดี ปลายทางคือหาดอิสระหรือที่รู้จักกันในนาม "Freedom Beach"
ที่นี่มีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ตามต้นไม้มีเปลือกหอยน่ารัก ๆ แขวนเต็มไปหมดเลย วันนี้แอบมีพระอาทิตย์ทรงกลด (หรือเปล่า ?) ด้วยครับ
กินลมชมวิวไปสักพักก็ไปต่อที่หาดอื่น ขับรถไปเจอป้ายชี้ไปหาดทรายแดง โอเค...ไปก็ได้จ้า อื้อหืออยากจะบอกว่าเส้นทางบนเกาะเต่านั้นมันช่างสูงชันยิ่งนัก แน่นอนว่าขาไปยิ่งชันเท่าไร ขากลับก็ชันเท่านั้น โอ้โห ! ทั้งเกาะไม่เคยวิ่งเกินเกียร์ 3 เลย ทดเกียร์ 1-2 ตลอด ตอนลงนี่จะกำเบรกก็กลัวไหม้ กลัวรถปัดล้ม แนะนำว่าคนจะขับมอเตอร์ไซค์ควรมีทักษะในระดับหนึ่งครับ ทางชันจริง ๆ ยอมใจ เอียงขนาดนี้ไปเกิดเป็นสไลเดอร์ดีกว่ามั้ย อย่าเป็นถนนเลยเธอ 555
มะหมาที่หาดทรายแดง
พักผ่อนได้สักพักก็ประมาณ 15.00 น. แล้ว มุ่งหน้าไปยังจุดชมวิว Mango Viewpoint ดีกว่า บอกเลยว่าทุกเส้นทางที่ไปมาในวันนี้นั้นยังต้องยอมสยบให้กับทางไป Mango Viewpoint ทั้งแคบ ทั้งชัน ทั้งกันดาร โผล่อีกทีอาจมาถึงดวงจันทร์แล้วก็เป็นได้ ทดเกียร์ 1 ไปเรื่อย ๆ ตามประสาคนขับรถไม่ค่อยเก่ง จนมาถึงจุดที่พีคที่สุด ชันมาก ประมาน 70 องศา ได้มั้งครับ มองเห็นร้านบาร์อยู่ร้านหนึ่งข้างหน้า มือนี่ก็บิดสุดแรง จนเกือบสุดทางชันจนจะถึงบาร์แล้ว...รถดับ...บรรลัยละ สองเท้าจิกพื้นคอนกรีตไม่คิดชีวิตประคองรถไม่ให้ล้ม ท่องไว้ ค่าปรับหนักมาก อาจกลับไม่ถึงบ้านก็เป็นได้ ตอนนี้รู้สึกว่ารถหนักมากจริง ๆ ดึงสติหน่อยน่าแล้วสตาร์ทใหม่ โอเค ค่อย ๆ บิดจนมาพักที่ร้าน Butterfly Garden ยอมแพ้ เอาแค่นี้และ ที่เหลือขอเดินเอาละกันนะจ๊ะ 555
ชันจริง ๆ นะ แคบด้วย รถมาส่งน้ำต้องบีบแตรตลอด เพราะรถสวนกันไม่ได้เลย วิ่งได้ทีละคัน โชคร้ายเจอรถก็ต้องรีบพุ่งเค้าพงหญ้าข้างทาง เอาปลอดภัยไว้ก่อน
ขึ้นมาถึงเจอพี่คนหนึ่ง พี่คนนี้เขาเคยช่วยผมเอาขาตั้งลงตอนที่ไปซื้อตั๋วที่ท่าเรือ ตอนนั้นขาตั้งมันแข็ง ๆ นะครับ 555 พี่เขาก็ไปไม่ไหวเหมือนกันเลยจอดพักแล้วจะเดินไปจุดชมวิว เลยโอเคเดินไปด้วยกันก็ดีเหมือนกันครับ ทนเหนื่อยนิดหน่อย
เส้นทางที่ต้องเดิน...
วิวจริง ๆ ถือว่าสวยมากในระดับหนึ่งครับ เสียดายมากที่มรสุมเข้า ฟ้าปิด แดดไม่ส่องเลย เพราะโอกาสหน้าถามว่าจะมาใหม่มั้ยคงคิดหนักพอสมควร 555
ขอกินดีอยู่ดีสัก 1 มื้อ ก่อนกลับละกันครับ 555 ทานอาหารเย็นและนั่งเล่นที่ร้านนานมาก เพราะบรรยากาศดีสุด ๆ ลมเย็น อาหารอร่อย จนเกือบ ๆ หนึ่งทุ่มค่อยเอารถไปคืนให้ที่ร้าน ตรวจสอบไม่พบร่องรอยเพิ่มเติม ไม่โดนชาร์จ เย่ !
หลังจากไร้ยานพาหนะสิ่งที่จะส่งเราไปยังท่าเรือแม่หาดได้ ก็คือ 1. แท็กซี่ (แพง) 2.ขา โอเคจ้า ขามาก็ขาเรา กลับก็กลับด้วยขาเรานี่แหละ ลุย เดิน ๆ หยุด ๆ เพราะชันเหลือเกิน ช่วงทางลงนี่อยากจะกลิ้งลงมาก ๆ มืดก็มืด เปลี่ยวก็เปลี่ยว โชคดีที่ผมเป็นผู้ชายคงไม่มีใครคิดฉุด มาถึงท่าเรือก็ประมาณ 20.30 น. ครับ รอเรือออก 23.00 น.
ก่อนเรือออกผมไปเดิน ๆ หาร้านที่พอจะอาบน้ำได้ เจอร้านอาหารชื่อพี่ปุ๊กอาหารไทย เขาบอกว่าจริง ๆ ให้แต่คนที่มาแบบทัวร์อาบ แต่เห็นผมเดินเหงื่อซกมาด้อม ๆ มอง ๆ เลยให้อาบเป็นกรณีพิเศษ 50 บาท โชคดีมากเลยครับ ขึ้นเรือกลับกันครับ เรือพรทวีสิน ที่นอนกว้างใหญ่กว่ามากพอสมควร ความสะอาดพอ ๆ กันครับ สุดยอด ๆ ^___^
ตื่นมาอีกที 05.30 น. เรือนอนทอดสมอที่ท่าเรือเมืองชุมพรเรียบร้อย เก็บสัมภาระลงมาจะมีรถสองแถวมารอรับนักท่องเที่ยวกลับเข้าไปในเมืองครับ อยากลงไหนก็บอกเขาก่อน
ขอเท้าความไปถึงแพลนเที่ยว ก่อนหน้านี้แพลนไว้ว่าวันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2558 จะซื้อทัวร์ไปดำน้ำที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เพราะเคยได้ยินว่าสวยมาก ๆ แต่หลังจากได้ดำน้ำที่เกาะนางยวนแล้ว ก็ขอยอมแพ้ให้กับแดดเมืองไทย วันพฤหัสบดีนี้ขอนอนพักในโรงแรมที่จองไว้ล่วงหน้าละกัน ถือซะว่าพักผ่อน ไม่เสียค่าทัวร์ด้วยครับ ไว้โอกาสหน้าผมจะกลับมาดำน้ำที่นี่แน่นอน สัญญาเลย
เมืองชุมพรตอน 06.00 น. ครับ เงียบเหงา
จองที่พักไว้ที่โรงแรมนานาบุรีครับ อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เดินแป๊บเดียวถึง
เช็กอิน...เก็บข้าวของแล้วแวะไปฝากท้องกับร้านติ่มซำเลื่องชื่อที่ขยายสาขามาจากหาดใหญ่ โชคดีแต่เตี๊ยมครับ
กลับไปอาบน้ำอาบท่าที่ โรงแรม หลับยาวเลยครับทีนี้ ตื่นอีกทีก็ 14.30 น. แล้ว สมเป็นวันพักผ่อนจริง ๆ เลยเปลี่ยนแพลนใหม่เป็นทัวร์กินแทน จะได้ดูมีเรื่องราวบ้างในวันพักผ่อน ใช้เวลาชั่วโมงกว่าเปิดหาร้านอร่อยในแอพพลิเคชั่นวงใน
ร้านแรกมาถึงตอนเกือบสี่โมงเย็น ชื่อร้านย่งฮงฮวด ตั้งอยู่บนถนนศาลาแดง เป็นร้านเก่าแก่ ขายข้าวหมูกรอบ หมูแดง ข้าวหน้าเป็ด สั่งแบบรวมมิตรมาลอง อร่อยดีครับ น้ำราดออกไปทางเค็ม ๆ
เดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ ผ่านซอยท่าตะเภาทะลุออกถนนนวมินทร์ร่วมใจ แวะร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังอย่าง ป.ปัญญ์ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เด็ดมาก ! คราวหน้าถ้ากลับมาดำน้ำผมจะกลับมาร้านนี้อีกแน่นอนครับ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเผ็ดเปรี้ยว เครื่องทะเลใส่มาคุ้มราคามาก ๆ ชามนี้ 50 บาท
จังหวัดชุมพรเป็นจังหวัดไม่ใหญ่มาก ผมเดินสบายมาก ๆ เดินแป๊บ ๆ ถึง แป๊บ ๆ ถึงตลอด เหมือนทุกสถานที่อยู่ใกล้กันไปหมดเลย ออกเดินเล่นย่อยอาหารไปตามถนนนวมินทร์ร่วมใจที่เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟชุมพร เลี้ยวขวาออกถนนกรมหลวงชุมพร ตอนนี้ก็เกือบ ๆ หกโมงเย็นแล้ว ร้านรวงของกินเปิดข้างถนนเต็มไปหมดเลย ดู ๆ แล้วก็เหมือนเยาวราชขนาดย่อมเหมือนกัน น่าเดินมาก ๆ ครับ
แวะฝากท้องตอนเย็นกับร้านโรตีชื่อดัง โรตีฟารีดา ตั้งอยู่ในย่านของกินบนถนนกรมหลวงชุมพร ใกล้กับห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นอย่างโอเชี่ยนช้อปปิ้งมอลล์
วันสุดท้ายแล้วครับ วันนี้ตื่นตั้งแต่ 06.00 น. อาบน้ำอาบท่าเก็บข้าวของ เช็กเอาท์เดินจากโรงแรมมาถึงสถานีรถไฟก็ประมาณ 07.00 น. เตรียมขึ้นรถไฟหลังสวน-ธนบุรี ที่จะออกประมาณ 07.10 น. แต่ออกจริง ๆ ก็ 07.30 น. เลยยังมีเวลาได้เดินหาข้าวเช้าทานบ้าง
บรรยากาศบนรถไฟขากลับครับ
และแล้วการเดินทางอันแสนยาวนานของผมก็ได้สิ้นสุดลง ถึงสถานีธนบุรีประมาณ 18.00 น. ประสบการณ์ที่ได้จากการไปเที่ยวคนเดียวครั้งนี้มากมายจริง ๆ
แวบหนึ่งในระหว่างเที่ยว ผมเคยอยากมีบรรยากาศสโลว์ไลฟ์ จิบกาแฟ อ่านหนังสือ ปล่อยตัวเองไปกับสายลมและแสงแดด ฯลฯ เหมือนกับที่หลาย ๆ คนกำลังเป็นอยู่ แต่เมื่อผมหันซ้ายก็เจอผับ หันขวาก็เจอบาร์ หันหน้าก็เจอทะเล หันหลังก็เจอผู้คนมากมาย ความคิดสโลว์ไลฟ์ของผมก็พลันหายวับไปเพราะทำไม่ถูกและเริ่มไม่เป็น สรุปแล้วเที่ยวให้เป็นตัวเองที่สุดผมว่าก็เป็นทางออกที่ดีเหมือนกันนะครับ เป็นตัวเอง ความสุขในแบบของเราเอง คือความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะเข้ามาดูการผจญภัยของผมนะครับ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครได้บ้าง สวัสดีครับ
สรุปค่าใช้จ่ายครับ จดละเอียดแค่วันที่ 6-8 กรกฎาคม 2558 วันที่ 9 กรกฎาคม 2558 กินเยอะมาก จดไม่ค่อยทัน 555
วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม
รถเมล์สาย 40 = 17 บาท วินเข้าไปในสถานีรถไฟ = 10 บาท อาหารเช้าข้างสถานีรถไฟ = 50 บาท อาหารบนรถไฟ = 110 บาท ข้าวเย็นที่สถานีรถไฟชุมพร = 40 บาท วินไปท่าเรือ = 100 บาท ค่าเรือนอน = 400 บาท จิปาถะ = 25 บาทรวมวันแรก = 752 บาท
วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม
ค่าที่พัก = 400 บาท ค่าอาหารเช้า = 70 บาท Snack = 52 บาท แท็กซี่โบ๊ท+สน็อกเกิล = 300+50 บาท ค่าธรรมเนียมเกาะ = 30 บาท เปลนอน = 150 บาท อาหารเย็น = 110 บาท น้ำใส ๆ = 360 บาทรวมวันที่สอง = 1,522 บาท
วันพุธที่ 8 กรกฎาคม
อาหารเช้า = 170 บาท ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ =150 บาท ค่าน้ำมัน = 50 บาท ค่าตั๋วเรือนอน = 400 บาท Snack = 24 บาท ค่าธรรมเนียมเข้าจุดชมวิว = 20 บาท อาหารเย็น = 220 บาท อาบน้ำ = 50 บาท ซื้อขนมเพื่อถามข้อมูลแม่ค้า = 20 บาท หาย 1 บาทรวมวันที่สาม 1,205 บาท
วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม (คร่าว ๆ)
ค่าสองแถวประมาณ = 50 บาท ค่าโรงแรม = 700 บาท อาหารเช้าประมาณ = 136 บาท ย่งฮงฮวด = 50 บาท ป.ปัญญ์ = 50 บาท อาหารรายทางประมาณ = 32 บาท โรตีฟารีดา = 105 บาทรวมวันที่สี่ประมาณ = 1,132 บาท
วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม
อาหารเช้า = 41 บาท อาหารบนรถไฟ = 110 บาท ค่าวินไปป้ายรถเมล์ = 20 บาท ค่ารถเมล์กลับหอ = 16 บาทรวมวันที่ห้าประมาณ = 200 บาท
จบห้าวันประมาณ 4,811 บาท หรือคร่าว ๆ ก็ 5,000 บาท
จริง ๆ อะไรตัดได้ก็ตัดนะครับ อดได้ก็อด 555 เอาจริง ๆ ผมว่าถ้าแค่เกาะเต่าไม่เอาชุมพร 4,000 บาท ก็เอาอยู่สบาย ๆ ครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ ^___^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณธนาคารความรัก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
