ยู้ฮู้... วันนี้เรามีสถานที่ท่องเที่ยวเจ๋ง ๆ มาแนะนำเพื่อน ๆ กันอีกแล้ว... ขอบอกว่าคราวนี้ขอเอาใจคนชอบ "ลมหนาว" (แต่คงไม่อยากเหงาใจ) โดยเฉพาะ เพราะที่นี่อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แถมมีดีไม่แพ้ที่ไหน ๆ นั่นก็คือ... อุทยานแห่งชาติภูเรือ หรือที่ใคร ๆ มักเรียกกันสั้น ๆ ว่า "ภูเรือ" นั่นล่ะ ว่าแล้ว... เราไปทำความรู้จักกับ "ภูเรือ" กันเลยดีกว่า...
อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลก คือ มีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 เดือนที่เหมาะมาเที่ยวคือ เดือนตุลาคม ถึง มีนาคม
เอาล่ะ!! ได้เวลาไปดูกันแล้วว่าที่อุทยานแห่งชาติภูเรือมีจุดไหนน่าสนใจและน่าเที่ยวกันบ้าง
เริ่มกันที่ "จุดชมทิวทัศน์เดโช" เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ในวันที่อากาศดี นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูต่างๆ ของเมืองเลยได้ (ว้าว...) หรือจะเลือกไปจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ขอบอกว่าสวยงามมากๆ ที่ "ผาโหล่นน้อย" อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเรือ ประมาณ 3 กิโลเมตร จากจุดนี้จะมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และทะเลภูเขาสลับซับซ้อน
ต่อกันที่ "ผาซำทอง" อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเรือ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร เป็นหน้าผาสูงชัน และแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเต็มไปทั่ว จึงเรียกว่า "ผาซำทอง" เปลี่ยนแนวไปเที่ยวน้ำตกกันบ้างที่ "น้ำตกห้วยไผ่" ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเรือ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชัน มีความสูงประมาณ 30 เมตร อย่างไรก็ตาม น้ำตกแห่งนี้นำไปใช้ทำน้ำประปาในอำเภอภูเรือด้วย
"ยอดภูเรือ" เป็นจุดที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,365 เมตร บริเวณโดยรอบเป็นลานหินที่มีทุ่งหญ้าขึ้นแซมสลับกับป่าสน มีทั้งสนสองใบที่ขึ้นตามธรรมชาติ และสนสามใบที่เป็นสนปลูก จากจุดนี้... ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแม่น้ำเหือง และแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย - ลาวได้
อย่างไรก็ตาม ที่อุทยานแห่งชาติภูเรือยังมีจุดที่น่าสนใจและน่าเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน หินพานขันหมาก หินพระศิวะ สวนหินเต่า ซึ่งหินเหล่านี้มีรูปร่างตามชื่อเรียก ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าช่วงปลายฝนต้นหนาวมีดอกไม้เล็กๆ ขึ้นอยู่ทั่วไปสวยงามมากๆ ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และรายละเอียดการท่องเที่ยวได้ที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ โทร. 0-4288 -4144 ... แล้วเจอกันที่ "อุทยานแห่งชาติภูเรือ" นะคะ
อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลก คือ มีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 เดือนที่เหมาะมาเที่ยวคือ เดือนตุลาคม ถึง มีนาคม
เอาล่ะ!! ได้เวลาไปดูกันแล้วว่าที่อุทยานแห่งชาติภูเรือมีจุดไหนน่าสนใจและน่าเที่ยวกันบ้าง
เริ่มกันที่ "จุดชมทิวทัศน์เดโช" เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ในวันที่อากาศดี นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูต่างๆ ของเมืองเลยได้ (ว้าว...) หรือจะเลือกไปจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ขอบอกว่าสวยงามมากๆ ที่ "ผาโหล่นน้อย" อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเรือ ประมาณ 3 กิโลเมตร จากจุดนี้จะมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และทะเลภูเขาสลับซับซ้อน
ต่อกันที่ "ผาซำทอง" อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเรือ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร เป็นหน้าผาสูงชัน และแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเต็มไปทั่ว จึงเรียกว่า "ผาซำทอง" เปลี่ยนแนวไปเที่ยวน้ำตกกันบ้างที่ "น้ำตกห้วยไผ่" ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเรือ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชัน มีความสูงประมาณ 30 เมตร อย่างไรก็ตาม น้ำตกแห่งนี้นำไปใช้ทำน้ำประปาในอำเภอภูเรือด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่อุทยานแห่งชาติภูเรือยังมีจุดที่น่าสนใจและน่าเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน หินพานขันหมาก หินพระศิวะ สวนหินเต่า ซึ่งหินเหล่านี้มีรูปร่างตามชื่อเรียก ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าช่วงปลายฝนต้นหนาวมีดอกไม้เล็กๆ ขึ้นอยู่ทั่วไปสวยงามมากๆ ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และรายละเอียดการท่องเที่ยวได้ที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ โทร. 0-4288 -4144 ... แล้วเจอกันที่ "อุทยานแห่งชาติภูเรือ" นะคะ
การเดินทาง
จากตัวเมืองเลยใช้ทางหลวงหมายเลข 203 (เลย - ภูเรือ) ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตร 49 - 50 ตรงที่ว่าการอำเภอภูเรือ เข้าไปเป็นทางลาดยางประมาณ 8 กิโลเมตร รถยนต์สามารถขึ้นได้ และมีทางเดินเท้า 700 เมตร ก็จะถึงยอดภูเรือ
จากตัวเมืองเลยใช้ทางหลวงหมายเลข 203 (เลย - ภูเรือ) ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตร 49 - 50 ตรงที่ว่าการอำเภอภูเรือ เข้าไปเป็นทางลาดยางประมาณ 8 กิโลเมตร รถยนต์สามารถขึ้นได้ และมีทางเดินเท้า 700 เมตร ก็จะถึงยอดภูเรือ