เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ song13 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, เฟซบุ๊ก คุณ 13maysa
ด้วยสภาพแวดล้อม เชื้อชาติ ผู้คนในแต่ละมุมโลกมีความแตกต่างกัน จึงก่อให้เกิดขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่นนั้น ๆ นั่นจึงทำให้หลายคนที่มีโอกาสออกไปเปิดหูเปิดตาในต่างประเทศ ได้สัมผัสความแปลกตาของบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง และเทศกาลอันเป็นสิ่งเฉพาะของดินแดนแห่งนั้น ที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในบ้านของเราเอง
อย่างเช่น งานเทศกาล Kanamara Matsuri ที่เมืองคาวาซากิ ของประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ติดอันดับความแปลกได้เลยทีเดียว เพราะนี่คือการแห่ขบวนองคชาติยักษ์ และมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศชาย แค่ได้ยินชื่อก็อดประหลาดใจไม่ได้แล้วใช่ไหมล่ะ แต่ความหลากหลายของโลกแห่งวัฒนธรรมนี่แหละที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วสารทิศมาเยี่ยมเยียนดินแดนแห่งนี้
ตามมาสัมผัสบรรยากาศแห่งความสนุกจากงานเทศกาล Kanamara Matsuri ฝีมือการถ่ายภาพงาม ๆ ของ คุณ song13 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กันดีกว่า ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าเทศกาลสุดขั้วนี้เป็นอย่างไรบ้างนะ
13maysa เชิญชมประเพณีสุดขั้วของญี่ปุ่น Kanamara Matsuri กระทู้ [18+] จ้า
เทศกาล Kanamara Matsuri 2013 เป็นงานเทศกาล ประเพณีของญี่ปุ่น ที่มีมาช้านาน ซึ่งจากบรรยากาศของงานแล้ว อาจจะขัดกับธรรมเนียมประเพณีบ้านเรา ดังนั้น รับชมด้วยวิจารณญาณ สามารถแชร์แบ่งกันชมได้ตามความเหมาะสมกับวัยด้วยนะครับ
บทความได้จากการสอบถามคนท้องถิ่น การอ่านค้นคว้าในอินเทอร์เน็ต และพูดคุยกับคนไทยที่อยู่ในญี่ปุ่น ข้อมูลอาจมีผิดพลาดไปบ้าง หากท่านใดได้มีความรู้แท้จริง เชิญร่วมแลกเปลี่ยนได้ครับ
เทศกาล Kanamara Matsuri ของศาลเจ้า Kanayama จะจัดขึ้นในแต่ละฤดูใบไม้ผลิที่ Kanayama ในคาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ประมาณในวันอาทิตย์แรกในเดือนเมษายน
การเดินทางมาที่นี่ ก็ไม่ยากตามสไตล์การเดินทางในญี่ปุ่น เพียงนั่งรถไฟสาย JR Yamanote มาลงที่ Shinagawa แล้วก็ต่อสาย Keikyu Main Line มาลงที่ Keikyu Kawasaki จากนั้น ก็ต่ออีกสายนึงคือ Keikyu Daishi Line มาลงที่สถานี Kawasaki Daishi รวมเวลาเดินทางจาก Shinagawa ก็แค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ออกจากสถานีมา ข้ามถนนด้านหน้า ก็เดินตรงมาอีกประมาณ 100 เมตรก็จะเจอกับศาลเจ้า Kanayama
ประวัติ Kanamara Matsuri เกิดขึ้น ณ ศาลเจ้า Kanayama เป็นที่ให้ความเคารพกับคนในท้องถิ่น
ในอดีตกาล ณ เมืองนี้เคยมีผู้หญิงที่ขายบริการทางเพศ วัดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ให้หมู่ผู้หญิงที่อยากจะอธิษฐานสำหรับการป้องกันจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
และอีกมุมมองได้มีการกล่าวว่ายังมีความคุ้มครองของพระเจ้าสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจ และความเจริญรุ่งเรืองในการสืบทอดของตระกูล
การมีบุตรง่ายสำหรับการสมรสคู่
นอกจากนี้ยังมีตำนานของปีศาจฟันคม (sharp-toothed demon) ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในช่องคลอดของหญิงสาว
เพื่อปกป้องโรคร้าย ณ เวลาสองคนในคืนแต่งงานของพวกเขา เป็นผลให้หญิงสาวได้ขอความช่วยเหลือจากช่างตีเหล็ก ทำเครื่องรางรูปลึงค์เหล็กเพื่อที่จะทำลายฟันของปีศาจ (แต่เห็นภาพแล้วปีศาจจะฟันไหมหนอ)
จึงนำไปสู่เทศกาลการแห่อวัยวะเพศชายที่สืบทอดกันมาจนปัจจุบัน การเดินแห่ก็จะเขย่ากล้วยสีชมพู พากันขย่ม ๆๆๆ และตะโกนคำว่า wake up!! wake up!! wake up!! wake up!! กันไปตลอดทาง
ชุมชนร่วมกันแห่เปลโยกที่มีอวัยวะเพศชายอยู่บนเปลที่หลายคนช่วยกันหาม มีจำนวนหลายกลุ่ม แบ่งเป็นหลายยุค บางชิ้นประดิษฐ์ด้วยเหล็ก หรือไม้ ตลอดจนพลาสติก
มีกิจกรรมที่เกี่ยวกับอวัยวะเพศมากมายรอบวัด คุณลุงคนนี้นำหัวไชเท้าขนาดใหญ่จำนวนมากให้ผู้คนได้ร่วมบรรจงเรียนการแกะสลักเป็นรูปกระปู๋ ได้รับความชื่นชอบจากบรรดาสาว ๆ เป็นอย่างมาก
เป็นงานประเพณีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งคนในญี่ปุ่นเองและชาวต่างชาติอย่างสนุกสนาน
โดยธีมหลักของงาน ก็จะเป็นเจ้ากระปู๋เพศชายนี่แหละ สุดจะสร้างสรรค์รูปแบบ คุณลุงจะซื้อเทียนอันนี้ไปจุดทานดินเนอร์กะใครครับเนี่ย
ทั้งรูปปั้น เครื่องแต่งกาย เครื่องรางของขลัง รวมไปถึงขนมลูกอมต่าง ๆ สาว ๆ เลยดีอกดีใจที่ได้มาสามัคคีร่วมกันอมครับ
อมแล้วยิ้มแทบไม่ได้เลยครับ 555
สาว ๆ นิยมถือทั้งอม ทั้งดูด ทั้งเลียอมยิ้มกันอย่างเปิดเผย ขอถ่ายภาพดี ๆ ได้ครับ หากไม่ขอเดี๋ยวโดนของในมือตีเลนส์แตก
หนุ่ม ๆ ก็น้อยหน้าซะเมื่อไหร่ครับ
และขบวนแห่ที่สำคัญ หลากหลายผู้คนที่มาในงานนี้ ก็จะมีเครื่องแต่งกายสุดแปลกแหวกแนวแสนจะพิสดารกันอีกด้วย
ร้านขายของที่ระลึกในงาน
สาว ๆ เลือกหาซื้อกันมากมาย มีให้เลือกหลายขนาด หลายรูปแบบ แน่ะดูสิเธอเอามาเรียงกันเหมือนปลาช่อนลุยสวนหลาย ๆ ตัวเลยนะเธอ
อันนี้เป็นปากกา คุณเลขาควรมีไว้ให้เจ้านายเซ็นเช็ค เวลาเซ็น ยางมันจะเต้นดุ๊กดิ๊ก ๆ น่ารักดี ว่าแต่เจ้านายจะเซ็นถึงนามสกุลหรือเปล่าเท่านั้น
มีคู่มือการใช้งานอย่างละเอียดให้ สมกับเป็นคนญี่ปุ่นจริง ๆ สินค้าทุกชนิดต้องมีคู่มือ
ผู้ชายก็ได้โชว์พลังกันเต็มที่
สาธิตการใช้งานกันแบบไม่ยั้ง
คนขายพวงกุญแจ สาธิตท่าทางการใช้งานสินค้า สามารถขยับให้เห็นอิริยาบถได้ สินค้าแรงคนขายก็แรงได้ใจ
กลับมาที่ประเพณีกันต่อครับ 555 เดี๋ยวคล้อยตามกันไปใหญ่ ผมชอบประเพณีญี่ปุ่นมาก เพราะเขาจะปฏิบัติด้วยกำลังคน แรงกาย และแรงใจ แบก ยก เดินเป็นกลุ่ม ความสามัคคีและร่วมมือเป็นเลิศ งานนี้กลับบ้านเจ็บก้นกันระนาวแน่นอน
ให้ดูมุมกว้างอลังการของการต่อแถวกันอีกภาพ ดูสีหน้าแต่ละคน ท่าจะสุดไปเบย
สาว ๆ รุ่นใหญ่ก็จัดเต็มมากันเป็นทีม
ผู้คนเยอะมากมายครับ แทบจะเดินต่อก้นกันเข้าออกวัดตลอดเลยทีเดียว
แม้อากาศจะประมาณ 12 องศา แต่ก็มีเหงื่อออกและรู้สึกร้อนรุ่ม ก็มีคนเดินมาพรมน้ำให้ ลดอุณหภูมิ ลดอาการหน้ามืดกันไป
สาวน้อยดีใจกันยกใหญ่เป็นวันเดียวที่จะได้เป็นเจ้าของได้หลายอันเลยทีเดียว ปีหนึ่งมีครั้งเดียว ต้องไม่พลาด
แท่งเหล็กของช่างตีเหล็ก ยุคดั้งเดิม ก็มีให้เห็นและให้มาทดสอบการมีส่วนร่วมเล็ก ๆ น้อย ๆ
มอบความรักกันไป อันเล็กเอาสักจุ๊บนึง
อันใหญ่ก็ต้องร่วมสามัคคีกันแบบนี้
ผมฮาอีตาฝรั่งคนนี้มากครับ เขาโชว์ของประดิษฐ์ แต่แกบอกไม่เนียนต้องของจริง 555 แกเดิน ๆ ไป แกล้งทำเป็นเหรียญหล่นจากมือ และท่าก้มเก็บเหรียญ เห็นกางเกงในตัวเล็ก ๆ รูปธงชาติญี่ปุ่นชัดเจน รับเสียงฮากันไปตลอดงาน
ไอดอลไหนจะเริ่ดเท่านี้ไม่มีอีกแล้ว คู่แข่ง โดบัง ชิงกิ ต้องนี่ครับ โด่จัง ชิงกิ ของแท้ ต้องมาโนเนะกันสักแชะนะจ๊ะ
เดินงานมาทั้งวัน เมื่อยก็หาที่นั่งกันเอาเองนะจ๊ะ
แล้วช้านจะซดเหล้าไงหล่ะทีนี้ เวรกำของพิน็อคคิโอ้
เทียนวันเกิดครับ วันเกิดคนเป่าหรือสร้างคนที่จะเกิดไม่แน่ใจ ไว้เป่าสองคนกะแฟน อยากรู้จังเพลงวันเกิดจะร้องออกมาเป็นอย่างไร อันนี้เทียนยืดหยุ่นได้เหมือนวุ้น โอนเอนได้สมจริงมากมาย
ท่านผู้ชายไม่ต้องน้อยใจ ผู้หญิงก็มีอมยิ้มของเขา เราก็มีเหมือนกัน แต่คนละรูปแบบจ้า
สาธิตการกินให้ดู แบบนี้นะจ๊ะ
เอ๊า ทำไม Smalltalk ของน้องเก๋จัง รุ่นใหม่แน่ ๆ เลย ใช้ดูดได้ด้วย
มาดูสิครับว่าทำไม โมโมทาโร่ถึงเกิดจากลูกท้อ เห็นท่านั่งน้องเค้า ผู้ชายไทยอย่างเราก็ท้อแระคับ
เวลาแดดออก แต่อากาศกลับเย็นมาก ๆ กลัวสินค้าจะแข็ง น้องต้องคอยเตรียมผ้ามาเช็ดทั้งวัน
อ่าพี่ครับ จะบูชาชาบูทางไหน เลือกสักทางนะครับพี่
น้องบันนี่ มาสาย รีบวิ่งฝ่าไฟแดงมาอย่างเริ่ดน่าดู
ไปงานนี้ผมก็ได้แฟนใหม่มา 1 คนครับ สาวญี่ปุ่นในชุดนักศึกษาอย่างที่ฝันเลย
ปัจจุบันเทศกาลได้เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก เทศกาลนี้เคยหายไปจากชุมชนมาครั้งหนึ่งและได้กลับมาจัดกันใหม่ แต่ในยุคหลัง ๆ กลายเป็นเทศกาลบันเทิงของกลุ่มคนหนุ่มสาวประเภทสอง ที่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยให้การยอมรับมากนัก นี้คือโอกาสที่พวกเธอเขาเหล่านี้จะได้ออกมาแสดงตนกันอย่างไม่มียั้ง การภาวนาขอให้ตนเองได้กลายเป็นเพศแห่งความหวังอย่างเต็มตัว จึงมีการเขียนลงแผ่นป้ายสวดภาวนาขอพรกัน ณ วัดแห่งนี้ ผนวกกับการแสดงออกอย่างหลุดโลกของชาวต่างชาติที่เห็นเป็นเรื่องสนุก เลยทำให้เทศกาลนี้กลายเป็นภาพที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากประเพณีทั่วไปในโลก
ลากันไปด้วยภาพสุดท้ายครับผม โอกาสหน้ามีอะไรเด็ด ๆ จะนำมาให้ชมอีกครับผม