ประเทศสวาซิแลนด์
ภาพจาก Attila-JANDI / shutterstock.com
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หลายคงคงเคยได้ยินชื่อประเทศสวาซิแลนด์มาแล้ว แต่น้อยคนที่จะรู้จักกับอาณาจักรแห่งนี้อย่างแท้จริง และสำหรับใครที่อยากรู้จักกับชาวสวาซีให้มากขึ้น ตามมาพบเรื่องราวของ สวาซิแลนด์ กันเลย...
เชื่อว่าในตอนนี้หลาย ๆ คนคงจะเคยสะดุดหูกับชื่อประเทศสวาซิแลนด์ จากประเพณีระบำต้นกกอันโด่งดัง และการออกกฎหมายห้ามแม่มดขี้ไม้กวาดบินสูงกว่าระดับที่กำหนดจนกลายเป็นที่ฮือฮาไปทั่วทั้งโลก ซึ่งจากกฎหมายที่ดูแปลกพิลึกพิลั่นนี้เองที่ทำให้หลาย ๆ คนเกิดความสนใจในประเทศที่ยังดูลึกลับและยังไม่เป็นที่รู้จักนักสำหรับชาวไทย
ประวัติความเป็นมา อาณาจักร สวาซิแลนด์
สำหรับ สวาซิแลนด์ (Swaziland) นั้น มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ (Kingdom of Swaziland) เป็นดินแดนเล็ก ๆ ในภูมิภาคแอฟริกาใต้ ที่ยังอยู่ภายใต้ระบอบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดย กษัตริย์ สวาซิแลนด์ คนปัจจุบันก็คือ สมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่สาม (King Mswati III) ซึ่งขึ้นครองราชย์มาตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2529
เมื่อย้อนกลับไป เดิมทีชนชาติสวาซีเป็นชนเผ่างูนี ซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่ทางแอฟริกากลาง ก่อนจะเคลื่อนย้ายมายังที่ตั้งของราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ในปัจจุบันเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2293 แต่ต่อมาหลังจากมีการขุดพบทองคำในภูมิภาคนี้ จึงทำให้ชาวยุโรปจำนวนมากเดินทางเข้ามาแสวงโชค ก่อนที่ชาวดัตช์จะยึดดินแดนสวาซิแลนด์เป็นเมืองขึ้น และต่อมาชาวอังกฤษก็ได้อพยพเข้ามาในภูมิภาคนี้และได้ทำสงครามชนะชาวดัตช์ สวาซิแลนด์จึงกลายเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ก่อนจะได้รับเอกราชย์เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2511 และนั่นทำให้วันที่ 6 กันยายน ของทุกปี ถือเป็นวันชาติของสวาซิแลนด์นั่นเอง
ในส่วนของสภาพภูมิประเทศนั้น สวาซิแลนด์ เป็นดินแดนที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงและภูเขา มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างแอฟริกาใต้และโมซัมบิก มีพื้นที่ของประเทศรวมประมาณ 17,364 ตารางกิโลเมตร สวาซิแลนด์ มีเมืองหลวง คือ กรุงอึมบาบาน (Mbabane) ใช้ภาษาอังกฤษและภาษาซิสวาตี (Siswati) เป็นภาษาราชการ และมีหน่วยสกุลเงินตรา คือ ลิลังเจนี (Swazi lilangeni-SZL)
สำหรับสภาพอากาศของสวาซิแลนด์ มีอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกันตลอดทั้งปี โดยมีฤดูหนาวในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 13 องศาเซลเซียส และมีฤดูร้อนระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ย 20 องศาเซลเซียส
ด้านประชากรนั้น พบว่าร้อยละ 60 ของประชาชนทั้งประเทศนับถือศาสนาคริสต์ ขณะที่ประชาชนส่วนที่เหลือยังคงนับถือความเชื่อแบบดั้งเดิมอยู่ ซึ่งนั่นทำให้ไม่เป็นน่าแปลกใจที่สวาซิแลนด์จะมีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแม่มดหรือความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์ เพราะคนจำนวนมากยังมีความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์อย่างจริงจังอยู่นั่นเอง
ประเพณี ระบำต้นกก สวาซิแลนด์
ด้วยความมุ่งมั่นของผู้คนที่พยายามจะรักษาวัฒนธรรมของชนเผ่าไว้ ทำให้สวาซิแลนด์ยังเป็นดินแดนที่มีวัฒนธรรมของชนเผ่าสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และยังกลายเป็นที่รู้จักกันอย่างมากสำหรับนานาประเทศ ดังเช่น งานอัมลังกา หรืองานเต้นระบำต้นกก (Reed Dance) ซึ่งเป็นงานเทศกาลประจำปี ที่หญิงสาวบริสุทธิ์จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเต้นระบำในชุดเปลือยท่อนบน สวมเพียงกระโปรงสั้นที่ปกปิดเฉพาะด้านหน้า และเปิดด้านหลัง ให้สมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 ได้ทอดพระเนตร ก่อนที่พระองค์จะคัดเลือกหญิงสาว 1 ในนั้นมาเป็นชายา
ภาพจาก meunierd / shutterstock.com
สถานที่ท่องเที่ยว สวาซิแลนด์
หากจะพูดถึงในส่วนของการท่องเที่ยวของสวาซิแลนด์นั้น แม้ว่าจะยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและเบื่อหน่ายแสงสีของเมืองใหญ่ สวาซิแลนด์น่าจะเป็นจุดหมายที่ดีในการหลบหนีความวุ่นวาย ไปดื่มด่ำกับทัศนียภาพของธรรมชาติ ที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายศิลปะของงานฝีมือและประเพณีท้องถิ่นของชาวบ้าน ที่ อีซุลวีนี แอนด์ มัลเคิร์นส์ วัลเลย์ส (Ezulwini & Malkerns Valleys) ซึ่งอยู่เลยหมู่บ้านโลบอมบา (Lobamba) ในกรุงอึมบาบานไปราว 18 กม. ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับหุบเขาเขียวชอุ่ม และมีแหล่งให้ชมงานฝีมือของชาวบ้านในท้องที่ให้ได้ชมกัน
นอกจากนั้น สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้ก็คือ อุทยานหลวงแห่งชาติฮเลน ซึ่งเป็นสถานที่ชมสัตว์ป่าจำพวก แรดขาว กวาง ช้าง สิงโต เป็นต้น ทั้งยังมีกิจกรรมการเดินป่า ให้เช่าจักรยานภูเขา ขับรถชมสัตว์ป่า เยี่ยมชมหมู่บ้านและวัฒนธรรมชนเผ่า การแสดงการเต้นรำชนเผ่า อีกด้วย
แต่สำหรับใครที่เพลิดเพลินกับธรรมชาติจนจุใจ และอยากจะแสวงหาความตื่นเต้นในดินแดนแห่งนี้ อีซุลวีนี วัลเลย์ (Ezulwini Valley) ก็ยังรอต้อนรับเหล่านักแสวงโชคทั้งหลายให้มาเยี่ยมชมที่คาสิโน สถานบันเทิงยามราตรี สนามกอล์ฟ โรงแรม แต่ก็ยังคงกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วยการสร้างบ้านตามแบบดั้งเดิมของชาวสวาซีไว้ให้ไปเยี่ยมชมใน หมู่บ้านวัฒนธรรมสวาซี (Swazi Cultural Village) อีกด้วย
สวาซิแลนด์ กับประเทศไทย
ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมา สวาซิแลนด์และไทยทีความสัมพันธ์อันดีกันมาโดยตลอด มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง และสวาซิแลนด์ให้การสนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศเสมอมา นอกจากนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 ก็ยังทรงแสดงความชื่มชมในพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนาประเทศตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาพลังงานชีวภาพเป็นอย่างมาก ภายหลังจากที่ได้ทอดพระเนตรโครงการตามพระราชดำริระหว่างการเสด็จฯ เยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลเพื่อเข้าร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน พ.ศ. 2549 นั่นเอง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, arunsawat.com, thaiza.com, กระทรวงการต่างประเทศ