เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ผลการประชุม เจซี ไทย-กัมพูชา มีข้อสรุปให้ใช้ Single Visa ซึ่งจะทำให้ชาวต่างชาติใน 35 ประเทศ สามารถเข้าออกไทย-กัมพูชา ได้โดยการขอวีซ่าเพียง 1 ครั้งต่อการเดินทาง
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี หรือ เจซี ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 8 โดยนาย สุรพงษ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้ข้อสรุป 3 ด้าน ทั้งทางการเมืองและความมั่นคง การท่องเที่ยว และด้านสังคมและวัฒนธรรม
โดยในเบื้องต้น ทั้ง 2 ประเทศ จะเร่งรัดจัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่สำหรับเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนอง เอี่ยน จังหวัดสระแก้ว ตรงข้ามกับบ้านสตึงบท จังหวัดบันเตียเบียนเจย เพื่อความสะดวกในการขนส่งสินค้าและรองรับการขยายตัวการลงทุน พร้อมเห็นชอบการสำรวจพื้นที่เตรียมเปิดจุดผ่านแดนผ่อนปรน บ้านโนนหมากหมุ่น จังหวัดสระแก้ว ตรงข้ามบ้านไปร่จัน จังหวัดบันเตียนเบียนเจ่ย และหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาลักลอบตัดไม้พยุง โดยให้ตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังประกาศใช้ความตกลงการตรวจลงตราเดียว หรือ ACMECS Single Visa โดยให้มีผลบังคับใช้วันที่ 27 ธันวาคม 2555 ซึ่งจะทำให้ชาวต่างชาติใน 35 ประเทศ สามารถขอวีซ่าเข้าประเทศไทยหรือกัมพูชา 1 ครั้ง แต่ไปได้ทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งเชื่อว่าหากไทยและกัมพูชาประสบความสำเร็จ ประเทศที่เหลือในกลุ่ม ACMECS (พม่าและลาว) จะเข้ามาร่วม Single Visa ด้วยแน่นอน
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ยังรวมถึงการช่วยเหลือกันปรับปรุงผิวถนนและการก่อสร้างสะพานรถไฟ เส้นทางคลองลึก-ปอยเปต ซึ่งจะทำให้การขนส่งสินค้าและการสัญจรข้ามแดนสะดวกขึ้น และยังรวมถึงความร่วมมือด้านการจัดการแรงงาน การโอนตัวนักโทษระหว่างกัน อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นต่อไป ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งรัดผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และหลังจากนี้จะมีการพูดคุยถึงการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีร่วม ระหว่างไทย-กัมพูชา อีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก