ฮอยอัน ในวันฝนพรำ

ฮอยอัน Hoi An
ฮอยอัน Hoi An


ฮอยอัน ในวันฝนพรำ (Lisa)

          สัมผัสวิถีและลีลาของเมืองเก่าอายุนับพันปีแต่ทว่ายังมีลมหายใจจวบจนวันนี้

          หากมองข้ามตำแหน่ง "มรดกโลกทางวัฒนธรรม" ซึ่งเป็น "มายาคติ" ที่มาพร้อมกับกระแสทุนนิยม เมืองฮอยอัน ที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของ เวียดนาม นับว่ามีสิ่งล่อตาล่อใจให้อยากไปสัมผัสไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเมืองโบราณอายุกว่าพันปีที่ยังมีลมหายใจจนถึงปัจจุบัน เมืองที่ท้องทะเลยังพิสุทธิ์ใส หรือกระทั่งเมืองที่ผู้คนยังใส่ชื่อไร้มารยา ฯลฯ ว่ากันว่าการไปเยี่ยมเยือนเมืองแห่งนี้ในช่วงที่สายฝนพรำ ถือเป็นช่วงที่งดงามที่สุด เพราะต้นไม้ใบหญ้าก็ระเริงรื่นด้วยสายฝน ผู้คนที่เป็นหัวใจของเมืองก็มีสีหน้าฉ่ำชื่นเนื่องด้วยข้าวและปลาอุดมสมบูรณ์


ฮอยอัน Hoi An
 ฮอยอัน Hoi An


เมืองพันปี แต่ยังมีลมหายใจ

          ฮอยอัน (Hoi An) แห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองถึงขนาดที่ว่าเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรจามปา (ร่วมสมัยกับทวารวดี) ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม เป็นดินแดนที่ได้ชื่อว่าอุดสมบูรณ์แห่งหนึ่งของโลก เพราะตั้งอยู่บนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำทูโบน เล่ากันว่าเมื่อกว่าพันปีที่แล้วฮอยอันมีชาวต่างชาติต่างภาษาเข้ามาติดต่อค้าขายมากมาย ผู้คนเหล่านั้นมาสร้างความเจริญให้ฮอยอัน ปรากฏหลักฐานเป็นงานสถาปัตยกรรมในรูปแบบเฉพาะของฮอยอัน ซึ่งดูแล้วก็ผสมปนเปในหลาย ๆ วัฒนธรรม จะว่าอินเดียก็ไม่ใช่ จีนก็ไม่เชิงหรือตะวันตกก็ยังไม่เหมือน

          งานสถาปัตยกรรมดังกล่าวเป็นเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวหลายคนหลงใหล และทั้งหมดยังมีลมหายใจ คือยังมีผู้คนอยู่อาศัย ยกเว้นเพียงพระราชวังเท่านั้นที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว จากเหตุผลข้อนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว UNESCO จึงได้ยกฐานะฮอยอันขึ้นเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งกินอาณาบริเวณทั้งตัวเมือง ส่งผลให้ทุกวันนี้ฮอยอันเป็นหนึ่งในปลายทางของนักท่องเที่ยวผู้โหยหาอดีต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้เห็นอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ บาร์ร้านอาหาร รวมถึงโรมแรมทันสมัยที่แข่งขันกันผุดขึ้นทั่วทั้งเมือง


ฮอยอัน Hoi An
 ฮอยอัน Hoi An
 

ถนนสายวัฒนธรรม

          "ถนนตรันฝ" ที่ตัดผ่านเมืองฮอยอันถือเป็นศูนย์กลางของเมืองโบราณแห่งนี้ สองฟากฝั่งถนนเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์โบราณมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของคหบดีชาวจีนที่อพยพมาตั้งรกรากตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2388-2488 สถานที่ที่ควรไปเยี่ยมชมของถนนสายวัฒนธรรมแห่งนี้ เช่น จั่วฟุกเกี๋ยน หรือสมาคมชาวจีน ซึ่งเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่สุดของถนนสายนี้ มีอายุเกือบ 200 ปี

          ภายในคฤหาสน์แห่งนี้ ยังมีวัดที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่พระนางเทียนเห่า (เทวีแห่งความอุดมสมบูรณ์) ส่วนสถานที่แห่งที่สองที่อยากให้ไปเยี่ยมชมก็คือ "บ้านเลขที่ 101" ซึ่งเป็นคฤหาสน์ของตระกูลเก่าแก่ที่สุดของฮอยอัน นั่นก็คือตระกูล "Tan Ky" จากอดีตจนถึงปัจจุบันหฤหาสน์หลังนี้ผ่านการอยู่อาศัยมาแล้วกว่า 7 ชั่วคน นับเป็นบ้านไม้ที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดของเมืองฮอยอัน ภายในแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนตามวัฒนธรรมเวียดนามได้อย่างลงตัว สองฟากฝั่งของถนนตรันฝูยังมีร้านรวงขายสินค้าพื้นเมืองเวียดนามรวมถึงอาหารพื้นเมืองรสชาติน่าลิ้มลอง


ฮอยอัน Hoi An
 ฮอยอัน Hoi An


ความงามสองฟาก "ทูโบน"

          จากวันวานจนถึงวันนี้ แม่น้ำทูโบนถือว่าเป็นสายเลือดหลักของฮอยอัน หากมาฮอยอันแล้วไม่ได้มานั่งเรือชมความงามสองฟากฝั่งแม่น้ำ ก็ถือว่ายังมาไม่ถึงฮอยอัน แม่น้ำทูโบนในอดีตถือเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางที่โลกตะวันตกมาพบกับโลกตะวันออกก็ว่าได้ แต่หลังจากแม่น้ำทูโบนเริ่มตื้นเขิน เรือสินค้าขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้ามาเทียบท่าได้ เมืองดานังที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้จึงขึ้นมาเป็นเมืองท่าสำคัญแทน ในปัจจุบันสายน้ำแห่งนี้ก็ยังคงรินไหล ภาพชีวิตก็คล้ายแบบเดิม ๆ คือยังมีชาวบ้านแจวเรือออกหาปลาและใช้แม่น้ำเป็นเส้นทางสัญจร ดังนั้น การมาชมลีลาของผู้คนทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำ จึงคล้ายกับว่าเรากำลังเดินทางย้อนเวลากลับไปหาอดีตยังไงยังงั้น


ฮอยอัน Hoi An
 ฮอยอัน Hoi An


ต้องมนต์อีกครั้งที่ "หาดเกาได๋"

          นอกจากฮอยอันจะมีอาคารแบบซิโน-โปรตุกีสโคโลเนีล หรือแบบที่เก่าแก่กว่านั้นให้เสพชมแล้ว เลยออกไปจากฝั่งเมืองเก่าไม่มากนัก (คนละฝั่งของแม่น้ำทูโบน) ยังเป็นที่ตั้งของชายหาดที่สวยจนอาจลืมไม่ลง ซึ่งมีชื่อว่า "เกาได๋" เสน่ห์ของชายหาดแห่งนี้ก็คือภาพของทรายสีขาวเนื้อละเอียดตัดกับน้ำทะเลสีเขียวความที่อยู่เบื้องหน้า ที่สำคัญชายหาดแห่งนี้ค่อนข้างสงบงาม คือนักท่องเที่ยวยังไม่พลุกพล่านมากนัก แต่ก็มีกิจกรรทางน้ำให้เลือกสนุกมากมาย นอกจากนี้ ฝั่งตรงข้ามของชายหาดยังมีโรงแรมระดับคุณภาพเปิดให้บริการอย่างหลากหลาย รวมถึงมีร้านอาหารทะเลที่น่าลิ้มลอง หากอยากสัมผัสอาหารเลสไตล์เวียดนามแท้ ๆ หาดเกาได๋ควรเป็นหนึ่งในจุดหมายที่คุณห้ามมองข้าม


ฮอยอัน Hoi An
 ฮอยอัน Hoi An


Extra Tips

          สำหรับการเที่ยวชมเมืองฮอยอัน ต้องซื้อบัตรเข้าชม หากเป็นชาวต่างชาติท่านละ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถเข้าชมได้ 5 สถานที่ ภายในในหนึ่งวัน หากเป็นสถานที่ที่ 6 ต้องจ่ายค่าเข้าชมเพิ่มสถานที่ละ 2 คอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสถานที่จำหน่ายบัตรก็คือบริเวณหัวถนนตรันฝู จะเลือกชมเมืองเก่าด้วยการเดิน ปั่นจักรยาน หรือใช้บริการสามล้อถีบก็ได้ตามแต่ความพึงพอใจ

          อาหารพื้นเมืองสไตล์เวียดนามแท้ ๆ จะแตกต่างจากอาหารเวียดนามที่จำหน่ายในเมืองไทย ทั้งชื่อเรียกหน้าตา และส่วนผสม ดังนั้น หากอยากลิ้มลองอาหารเวียดนามแท้ ๆ ควรถามชื่อส่วนผสม และรสชาติก่อนสั่ง ซึ่งอาหารเวียดนามแท้ ๆ จะมีเอกลักษณ์สำคัญคือ มีผักจานโตเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียง อาหารเวียดนามที่ฮอยอันรสชาติค่อนข้างจืด และไม่ว่าจะเป็นภัตตาคารระดับคุณภาพหรือร้านอาหารข้างทาง จะหนักไปที่การใช้ผงชูรสเป็นเครื่องปรุงรสหลัก ดังนั้น หากแพ้หรือไม่รับประทานผงชูรสก็ควรกำชับคนปรุงให้ดี

Fast Facts

          จากจังหวัดมุกดาหารสามารถขับรถไปเมืองฮอยอันได้ โดยข้ามสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 สู่แขวงสะวันเขต (สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) และเข้าสู่ประเทศเวียดนามที่เมืองลาวบาว เว้ ดานัง และเมืองฮอยอัน โดยใช้เวลาในการขับรถไม่เกิน 3 ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ ถือเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดสำหรับการเดินทางจากเมืองไทยสู่ฮอยอัน ณ วันนี้

          หากไม่สะดวกเดินทางโดยรถยนต์ก็สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้ แต่ต้องไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮานอย (ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ชั่วโมง) จากนั้นก็นั่งรถไฟล่องลงมาสู่ฮอยอัน (ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง)
 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


Vol.10 No.32 19 สิงหาคม 2552



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฮอยอัน ในวันฝนพรำ อัปเดตล่าสุด 8 มีนาคม 2567 เวลา 17:09:17 5,982 อ่าน
TOP
x close