สรุปข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ททท.
ไม่ว่าเราจะมาฤดูกาลไหน ๆ พระตำหนักเขาค้อ ที่ตั้งอยู่บนเนิน เขาย่า ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของ เขาค้อ ก็เต็มไปด้วยอากาศดี ๆ ให้เราได้สัมผัส มีสายลมวิ่งวนผ่านทิวสนต้นสีทองเสียงดังเสนาะหู รู้สึกได้ถึงความสดชื่น นอกจากนั้นยังมองเห็นทัศนียภาพได้อย่างสวยงาม และเป็นบทพิสูจน์แห่งความแข็งแกร่งด้วยการเดินตามรอยนักรบเขาค้อ ขึ้นไปพิชิตยอดเขาย่าเพื่อชมวิว 360 อาศา เมืองเขาค้อหรือ "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย"
อำเภอเขาค้อนั้นเป็นดินแดนทางประวัติศาสตร์ทางการทหารของเมืองไทยอีกแห่งหนึ่ง มีภูมิประเทศที่สวยงาม เป็นที่ราบเชิงเขาและภูเขาสูงสลับสับซ้อนมากมาย อากาศเย็นและเต็มไปด้วยหมอกขาวแทบทั้งปี และยิ่งถ้าเป็นในฤดูหนาว เมืองเขาค้อแห่งนี้จะหนาวเหน็บและเต็มไปด้วยทะเลหมอกทั้งเมือง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ หลายแห่งให้เราได้เข้าไปเยี่ยมชม
ซึ่งวันนี้เราจะพาไป ท่องเที่ยว เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ กัน 3 แบบ 3 สไตล์ เริ่มจากการไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ "พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก" เจดีย์ขนาดใหญ่บนเนินเขาสูง จากนั้นขึ้นไปรับอากาศดี ๆ ชมทิวสนต้นสีทองและดอกไม้สวย ๆ ที่ "พระตำหนักเขาค้อ" ส่งท้ายด้วยการเดินตามรอยนักรบเขาค้อพิชิต "ยอดเขาย่า" เพื่อชมวิวสวย ๆ เมืองเขาค้อแบบ 360 องศา
เราเริ่มด้วยการเข้าไปกราบไหว้บูชา "พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก" ซึ่งเป็นองค์พระเจดีย์ขนาดใหญ่สวยงามและมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเขาค้อและบุคคลทั่วไป สร้างขึ้นโดยกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยส่วนราชการ พลเรือน และประชาชนชาวไทย ได้ร่วมจัดสร้างน้อมเกล้าถวาย เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2539 และเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เป็นองค์พระมหาเจดีย์ที่มาจากพลังศรัทธาของประชาชนอีกองค์หนึ่งครับ สวยและใหญ่มาก ๆ ทำเป็นสีขาวทั้งองค์
"พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก" มีเอกลักษณ์ที่ผสมผสานสวยงามลงตัว มีการออกแบบให้เป็นศิลปะพุทธสถานทางภาคเหนือ เป็นสถาปัตยกรรมสมัยสุโขทัยและรัตนโกสินทร์ประยุกต์ ที่ผนังของฐานด้านล่าง เป็นแบบย่อมุมไม้สิบสอง ซึ่งมีการใช้ตั้งแต่สมัยอยุธยา ฐานชั้นบน มีผนังเป็น 8 เหลี่ยม เป็นลักษณะที่มีการใช้ตั้งแต่สมัยทวารวดี บริเวณเหนือซุ้มคูหา ตอนบนของ องค์เจดีย์ เป็นกลีบบัวรับองค์ ระฆังทรงกลม แบบสมัย อยุธยา ถัดขึ้นไปตอนบนเป็นบัลลังค์รับบัวกลุ่ม 5 ชั้น ทางคติมีความเชื่อหมายถึงพระเจ้า 5 พระองค์ บริเวณฐานชั้นล่างนี้มีซุ้มคูหา 4 ด้าน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ทิศ และบริเวณบาน 8 เหลี่ยม ตอนบนมีซุ้มคูหาขนาดใหญ่ และเล็กสลับกัน ซึ่งซุ้มคูหาขนาดใหญ่
ภายในเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูป 4 ทิศ และมีพระพุทธรูปสำคัญของเมืองไทยอีกหลายองค์ องค์พระบรมธาตุเจดีย์ มีความสูง 69 หลา เพื่อเป็นนิมิตหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุครบ 69 พรรษา ฐานเจดีย์กว้าง 39 หลา หมายถึงปีพุทธศักราช 2539 ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากประเทศศรีลังกา เป็นองค์เจดีย์ขนาดใหญ่และมีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย
หลังจากที่เรากราบไหว้บูชา "พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก" แล้วเราก็เดินทางไปยัง "พระตำหนักเขาค้อ" ซึ่งเป็นพระตำหนักที่ประทับของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่บนเนินเขาย่า สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,100 เมตร จัดสร้างโดยบรรดาข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ภายหลังการต่อสู้ด้วยอาวุธกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงแล้ว จึงได้รวบรวมทุนทรัพย์ริเริ่มการก่อสร้าง "พระตำหนักเขาค้อ" ขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และเป็นที่ทรงงาน หรือแปรพระราชฐานมาประทับแรม ในวโรกาสที่พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จมาตรวจเยี่ยมโครงการตามพระราชดำริ ในพื้นที่เขาค้อ
ภายในพระตำหนักประกอบด้วยอาคารเชื่อต่อกันลักษณะรูปวงแหวน มีเรือนข้าราชบริพารเป็นส่วนเชื่อมต่อกับพระตำหนัก อาคารมีลักษณะโค้ง 2 ชั้น บริเวณด้านหน้าพระตำหนักมีสวนหย่อม และแปลงไม้ดอกมีลักษณะเป็นวงกลม ณ จุดศูนย์กลางของวงกลมเป็นที่ตั้งของเสาธงมหาราช มีความสูง 60 เมตร บริเวณโดยรอบพระตำหนักเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงามหลากหลายชนิด และแนวต้นสนป่าที่เรียงรายกันเป็นแนวยาวลำต้นสนมีน้ำยางไหลออกมา ทำให้ลำต้นเป็นสีทองสวยงามเต็มเนินเขาย่า อากาศเย็นสบาย มีลมพัดมาตลอดเวลา อากาศบน "พระตำหนักเขาค้อ" จะเย็นตลอดทั้งปี และในฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวเย็นค่อนข้างมาก
ภายในบริเวณมีร้านค้าสวัสดิการบริการอาหารเครื่องดื่มและมีกาแฟแบบทหารให้ลองชิมด้วย นอกจากนั้นยังมีบ้านพักทหารม้าบริการให้นักท่องเที่ยวเช่าพัก จำนวน 2 เรือนแถว และมีลานกางเต้นท์บริเวณใกล้กับบ้านพัก การขึ้นไปพักแรมต้องเตรียมเครื่องนอนไปให้พร้อม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นที่สูง ตอนกลางคืนอากาศหนาวเย็นมาก
หลังจากที่เราชมดอกไม้สวย ๆ รับอากาศดี ๆ บริเวณหน้า "พระตำหนักเขาค้อ" แล้ว เราก็เดินขึ้นไปพิชิต "ยอดเขาย่า" ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,305 เมตร เพื่อขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของอำเภอเขาค้อ ที่เห็นได้ในระยะไกลแบบ 360 องศา โดยใช้เส้นทางนักรบเขาค้อที่เดินขึ้นไปยังศูนย์ปฏิบัติการเขาย่า สำหรับผู้ที่เดินพิชิตเขาย่าได้ จะมีใบประกาศเกียรติคุณมอบให้เป็นที่ระลึก เพราะเส้นทางเดินนั้นท้าทายเหลือเกิน อีกทั้งยังเป็นมุม 45 องศา ตลอดเส้นทาง ระยะทางประมาณ 770 เมตร ด้านบน "ยอดเขาย่า" ในสมัยก่อนนั้นใช้เป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร ที่ใช้ในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
ตลอดสองเส้นทางขึ้นไป "ยอดเขาย่า" เต็มไปด้วยต้นไม้ป่านานาพันธุ์ และต้นดอกไม้ป่าสีสวย ที่กำลังเบ่งบานรับแสงอาทิตย์อวดสีสันกันเต็มผืนป่า เราสามารถใช้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติไปด้วยอีกกิจกรรมหนึ่ง ทางเดินขึ้นไปท้าทายมาก เพราะทางชันและเป็นทางขึ้นเนินอย่างเดียว คนที่ไม่แข็งแรงหรือว่าเป็นโรคหัวใจหรือว่ามีโรคประจำตัวไม่แนะนำอย่างยิ่ง การเดินเท้าพิชิตฎ "ยอดเขาย่า" เป็นบทพิสูจน์แห่งความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง และเมื่อเราเดินทางมาถึง "ยอดเขาย่า" เราก็สามารถชมวิวได้โดยรอบ และมองลงมายัง "พระตำหนักเขาค้อ" ด้านล่างได้ทั้งหมด อีกทั้งบน "ยอดเขาย่า" มีจุดชมทิวทัศน์เป็นศาลาชื่อ "ศาลาพระเทพ" โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ได้เคยเสด็จขึ้นไป ณ ศาลาแห่งนี้
โดยเราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้แบบ 360 องศา สมกับความมุ่งมั่นความเหนื่อยยากและความอดทนของเราจริง ๆ และยิ่งถ้าเราขึ้นมาในยามเช้า ๆ เราก็จะมองเห็นเขาค้อเป็นเหมือน "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" เลยทีเดียว เพราะเต็มไปด้วยหมอกสีขาวทั้งเมือง อากาศบนยอดเขาย่าเย็นมาก ๆ มีลมพัดค่อนข้างแรง สบายสุดๆ
สถานที่ติดต่อ
พระตำหนักเขาค้อ ตั้งอยู่บนเนินเขาย่า อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วน พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ตั้งอยู่บนทางหมายเลข 2196 บริเวณที่ว่าการอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้งสองแห่งเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 6.00-18.00 น. ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ หมายเลข 0-5672-2011, 0-5672-1934 การเข้าชมพระตำหนักนั้นต้องแต่งกายให้เรียบร้อยทั้งหญิงและชาย และทุกคนต้องสวมใส่รองเท้าผ้าใบเท่านั้น
แผนที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์
การเดินทาง
พระตำหนักเขาค้อ
การเดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 2196 ถึงกิโลเมตรที่ 9 ตรงสี่แยกสะเดาะพง จากสี่แยกสะเดาะพงใช้เส้นทางหมายเลข 2258 ตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ไปประมาณ 1 กิโลเมตร ช่วงนี้เส้นทางจะชันมาก ให้ขับรถอย่างระมัดระวัง และจะเจอทางแยกให้รถขึ้นและลงคนละทาง ให้ไปตามทางขึ้นจนถึงประตำหนัก ส่วนการขึ้นพระตำหนักเขาค้อ ทางขึ้นเขาค่อนข้างชัน การขึ้นเขาต้องใช้ความระมัดระวังมาก และรถที่ใช้ต้องมีสภาพดี เครื่องยนต์กำลังสูง ในพื้นที่จะมีรถโดยสารบริการรับส่งขาขึ้น-ขาลง
พระบรมธาตุเจดีย์
เดินทางจากสี่แยกสะเดาะพง ไปตามทางหลวงหมายเลข 2196 ผ่านที่ว่าการอำเภอเขาค้อไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษกอยู่ติดถนนด้านขวา
ใครอยากไปสัมผัสความสวยงามของทัศนียภาพและธรรมชาติที่หาชมได้ยากยิ่งในเมืองกรุง เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ คงเป็นอีกคำตอบหนึ่งที่คุณจะตัดสินใจไปท่องเที่ยวได้ไม่ยากเลย
การเดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 2196 ถึงกิโลเมตรที่ 9 ตรงสี่แยกสะเดาะพง จากสี่แยกสะเดาะพงใช้เส้นทางหมายเลข 2258 ตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ไปประมาณ 1 กิโลเมตร ช่วงนี้เส้นทางจะชันมาก ให้ขับรถอย่างระมัดระวัง และจะเจอทางแยกให้รถขึ้นและลงคนละทาง ให้ไปตามทางขึ้นจนถึงประตำหนัก ส่วนการขึ้นพระตำหนักเขาค้อ ทางขึ้นเขาค่อนข้างชัน การขึ้นเขาต้องใช้ความระมัดระวังมาก และรถที่ใช้ต้องมีสภาพดี เครื่องยนต์กำลังสูง ในพื้นที่จะมีรถโดยสารบริการรับส่งขาขึ้น-ขาลง
พระบรมธาตุเจดีย์
เดินทางจากสี่แยกสะเดาะพง ไปตามทางหลวงหมายเลข 2196 ผ่านที่ว่าการอำเภอเขาค้อไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษกอยู่ติดถนนด้านขวา
ใครอยากไปสัมผัสความสวยงามของทัศนียภาพและธรรมชาติที่หาชมได้ยากยิ่งในเมืองกรุง เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ คงเป็นอีกคำตอบหนึ่งที่คุณจะตัดสินใจไปท่องเที่ยวได้ไม่ยากเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก