เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า สำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ได้เปิดเผยการตรวจวัดความยาวของกำแพงเมืองจีนอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุด ซึ่งพบว่าทอดยาวกว่าเดิมที่บันทึกไว้จาก 8,850 กิโลเมตร เป็น 21,196.18 กิโลเมตร
รายงานระบุว่า จากการสำรวจของนักโบราณคดีร่วมกับสำนักงานการสำรวจและการทำแผนที่จีน ได้ทำการตรวจวัดกำแพงเมืองจีนครั้งใหม่ ตั้งแต่ปี 2007 (พ.ศ.2550) โดยพบว่า กำแพงเมืองจีนขยายทอดยาวไปไกลครอบคลุมถึง 15 มณฑลด้วยกัน รวมถึงเขตปกครองตนเอง และเขตมหานครซึ่งขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง เช่น ปักกิ่ง, เทียนจิน, เหอเป่ย, อินเนอร์ มองโกเลีย, เหลียวหนิง, เฮยหลงเจียง, ซานตง, เหอหนาน, ชานซี, กานซู, ชิงไห่, หนิงเซี่ย และซินเจียง
สำหรับการเปิดเผยผลการค้นพบล่าสุดซึ่งระบุว่า กำแพงเมืองจีนทอดยาวกว่าเดิมถึง 2 เท่า เป็นระยะทาง 21,196.18 กิโลเมตรนี้ นับได้ว่าเป็นครั้งแรก หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2008 (พ.ศ.2551) ซึ่งระบุว่ากำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นเพิ่มเติมในสมัยราชวงศ์หมิง และทอดยาวเป็นระยะทาง 8,850 กิโลเมตร
ทั้งนี้ กำแพงเมืองจีน เริ่มก่อสร้างครั้งแรกราว 500 ปีก่อนคริสตศักราช (ราว 2,500 ปี) หรือก่อนสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกในประวัติศาสตร์จีน จุดประสงค์เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ โดยมีการก่อสร้างเพิ่มเติมจากสมัยของฮ่องเต้องค์ต่อมาอีกหลายพระองค์ กระทั่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2530 ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 11 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม นักโบราณคดียังเปิดเผยข้อมูลด้วยว่า กำแพงเมืองจีน หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้ กำลังค่อย ๆ ถูกบ่อนทำลายลงเรื่อย ๆ โดยน้ำมือของมนุษย์นั่นเอง ซึ่งมาจากการสร้างเหมือง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และธุรกิจการท่องเที่ยวที่แสวงผลกำไร รวมถึงชาวบ้านในท้องถิ่นซึ่งได้นำดินหรืออิฐที่มาจากกำแพงเมืองจีนออกไป และปลูกพืชในบริเวณดังกล่าว ซึ่งสำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีนได้วางแผนว่า จะออกมาตรการแก้ปัญหาเพื่อเป็นแนวทางในการรักษากำแพงเมืองจีนในปี 2015 (พ.ศ.2558) โดยจะมีการเตือนและตรวจตราเพื่อประสิทธิภาพในการอนุรักษ์สมบัติของชาติให้คงอยู่สืบไป
