x close

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011
 
          สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยความสงบ ความสดชื่น หรือสถานที่ที่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้แบบอันลิมิตเพื่อเป็นการให้ของขวัญกับตัวเองในการพักผ่อนหลังจากต้องทำงานอย่างเคร่งเครียดมาตลอดทั้งปีแล้วล่ะก็ ลองไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วโลกที่ทางเว็บไซต์ travel.nationalgeographic.com ได้แนะนำไว้กันไหมเอ่ย เพราะเขาได้แนะนำแต่ละสถานที่ซึ่งแม้จะเห็นเพียงแค่ภาพและคำบรรยายเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นก็ชวนให้คุณ ๆ รีบไปจัดกระเป๋ากันแทบไม่ทันเลยทีเดียว

          ฉะนั้นแล้ว เราไปดูกันดีกว่าว่า ทั้ง 20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011 ที่เว็บไซต์ travel.nationalgeographic.com แนะนำมานั้น จะมีที่ไหน และสวยงามน่าไปมากน้อยขนาดไหนกันบ้าง..


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  1.  กรุงอูลานบาทาร์ ประเทศมองโกเลีย (Ulaanbaatar, Mongolia)     

          มองโกเลีย ดินแดนแห่งตำนานทะเลทรายโกบี อีกหนึ่งประเทศของโลกที่มีอารยธรรมหลาย ๆ อย่างที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น การสัมผัสวิถีชีวิตขนานแท้ของชนเผ่ามองโกเลีย การนอนในกระโจมแบบดั้งเดิม รวมถึงสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่สำคัญ ๆ ของประเทศ ทั้ง จตุรัสซัคบาทาร์ (Sukhbaatar Square) อนุสรณ์สถานที่ทำขึ้นเพื่อระลึกถึง "ซัค บาทาร์" ผู้ประกาศอิสรภาพแก่มองโกเลีย ในปี 1921 รวมถึงอนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน (Zaisan Memory Hill)

          นอกจากนั้นแล้ว ยังมีที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ทั้ง พระราชวังฤดูหนาวของข่านโบกด์ (Winter Palace of Bogd Khaan) พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ วัดกานดาน (Gandan Monastery) ศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธในประเทศมองโกเลีย และเทศกาลใหญ่ระดับประเทศอย่าง "เทศกาลนาดัม" เป็นต้น


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  2. ทะเลสาบพลิทวิเซ่ ประเทศโครเอเชีย (Plitvice Lakes, Croatia)     

          ทะเลสาบพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes) ตั้งอยู่ที่เมืองลิก้า (Lika) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นธารน้ำไหลบนหินปูน มีชั้นน้ำตกอยู่มากถึง 16 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นยังมีความงดงามของธรรมชาติ ที่สวยงามจนสามารถสะกดสายตาของผู้ที่มาเยี่ยมชมได้อย่างอยู่หมัด โดยทะเลสาบมีลักษณะทอดตัวยาวไปตามแนวร่องระหว่างเทือกเขา และมีเขื่อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ขวางกันทะเลสาบเป็นช่วง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากพวกมอส สาหร่าย และแบคทีเรีย ที่ก่อตัวเป็นเปลือกแข็งห่อหุ้มสลับกันไปเป็นชั้น ๆ แถมยังมีน้ำตก "เวลิกิ สแล็พ" (Veliki Slap) น้ำตกที่ใหญ่และสูงกว่า 70 เมตร ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย

          นอกจากนั้นแล้ว ทะเลสาปพลิทวิเซ่ แห่งนี้ ยังแวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด อาทิเช่น หมีสีน้ำตาล นกอินทรี และนกชนิดอื่น ๆ อีกกว่า 140 สายพันธุ์ ซึ่งเหตุนี้เอง จึงทำให้องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศขึ้นทะเบียน อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1979 อีกด้วย


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  3. เกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี (Sardinia, Italy)     

          เกาะซาร์ดิเนีย ถือเป็นเกาะที่มีความใหญ่เกาะหนึ่งในประเทศอิตาลี มีพื้นที่โดยประมาณที่ 24,090 ตารางกิโลเมตร โดยที่เกาะแห่งนี้จะเป็นสถานที่ยอดนิยมในการมานอนอาบแดดของชาวยุโรปมาก ๆ โดยจุดเด่นของที่นี่ก็คือความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำทะเลสีฟ้าครามและหาดทรายขาวสวย ๆ ฉะนั้น จึงอาจจะบอกได้เลยว่าเกาะซาร์ดิเนีย คืออีกหนึ่งสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบท้องทะเล รวมถึงชื่นชอบการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ

          แต่สำหรับใครที่ไม่อยากเล่นน้ำทะเล หรืออาบแดดให้ร้อนล่ะก็ ที่นี่ก็จะทำให้คุณประทับใจเช่นกัน เพราะคุณสามารถดื่มไวน์ชั้นเลิศ ซึ่งถือเป็นสินค้าส่งออกชั้นนำของอิตาลีแบบดั้งเดิมจากเกาะซาร์ดิเนียนี้ได้แบบไม่อั้นอีกด้วยนะ.. จะบอกให้


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  4. แทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย (Tasmania, Australia)     

          แทสมาเนียถือเป็นรัฐที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศออสเตรเลีย แต่แม้จะเล็กที่สุด แต่ก็ยังถือว่าเป็นรัฐที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่อยู่ไม่น้อย โดยที่รัฐนี้จะมีสถานที่ธรรมชาติมากมาย ทั้ง พื้นที่ลุ่มน้ำ อุทยานสัตว์ป่า ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ และอื่น ๆ อีกมายมากมายสารพัด อย่างไรก็ดี สถานที่แห่งนี้มักจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการมาทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การชมธรรมชาติ การปีนเขา เพราะสภาพอากาศที่นี่ดีและสดชื่นมาก ๆ ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายนั่นเอง

          นอกจากความงามทางธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ต่าง ๆ แล้ว ที่แทสมาเนีย ยังเป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะเป็นที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรมชาวพื้นเมืองอะบอริจิน (Tiagarra Aboriginal Centre) รวมถึงหอศิลป์ต่าง ๆ อีกเยอะแยะเต็มไปหมด


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  5.  ฟยอร์ด ประเทศนอร์เวย์ (Fjord, Norway)     

          "ฟยอร์ด" (Fjord) คืออ่าวแคบ ๆ ที่อยู่ระหว่างหน้าผาสูงชัน ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ำแข็งเข้าไปในหุบเขาสูงชันและคดเคี้ยวไปมาตามชายฝั่ง ซึ่งตามปกติแล้ว ฟยอร์ด จะมีให้เห็นตามประเทศต่าง ๆ ในแถบสแกนดิเนเวีย แต่สำหรับ ฟยอร์ด ของประเทศนอร์เวย์นั้น ถือเป็นฟยอร์ดที่ได้รับการรับรองจากหลาย ๆ เสียงว่ามีความสวยงามที่สุดแล้ว เพราะทิวทัศน์ข้างทาง เช่น ภูเขาสูง น้ำตก และบ้านเรือนของผู้คนนอร์เวย์ ก็สิ่งที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวมาก ๆ

          สำหรับช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศมักจะมาที่นี่ ก็คือ ในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฏาคม ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศของพระอาทิตย์เที่ยงคืนนั่นเอง


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  6. ประเทศอุรุกวัย (Uruguay)     

          ลัดเลาะไปยังประเทศในโซนอเมริกาใต้กันสักนิด โดยเฉพาะประเทศอุรุกวัยด้วยแล้ว จัดเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ถ้ามีโอกาสสักครั้งหนึ่งก็น่าจะไปเยี่ยมเยือนให้ได้ เริ่มตั้งแต่ที่เมืองมอนเตวิเอโอ้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอุรุกวัย ก็มีสีสันและความน่าสนใจคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว เพราะที่นี่จะมีเสียงของกลอง "Candombe" และการออกลีลาท่าทางการเต้นแบบสนุกสุดเหวี่ยงจริง ๆ

          นอกจากนั้นแล้ว ชายหาดของที่นี่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ถึงขั้นที่ว่ามีหัวศิลป์มาสร้างงานศิลปะบนหาดทรายเอาไว้อีกด้วย ซึ่งหลาย ๆ คนที่ได้เคยไปสัมผัสกับอุรุกวัยมาแล้ว ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า จะต้องกลับไปที่นั่นให้ได้อีกครั้งแน่นอน


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  7. เมืองชิมลา ประเทศอินเดีย (Shimla, India)     

          เมืองชิมลา เป็นเมืองหลวงของรัฐหิมาจัลประเทศ (Himachal Pradesh) โดยจุดเด่นหลัก ๆ ของเมืองนี้ก็คือเรื่องของสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ตามแบบตะวันตกดั้งเดิม ตามด้วยรีสอร์ทมากมายที่มีอยู่เต็มหุบเขา ซึ่งนี่เองจึงทำให้ที่เมืองชิมลานี้ เป็นสถานที่ตากอากาศที่นิยมของคนอินเดียและนักท่องเที่ยวมากมาย เนื่องจากมีสภาพอากาศที่ดีตลอดทั้งปีแบบอย่าบอกใครเลยเชียว

          ที่สำคัญ ยังมีรางรถไฟที่พาดผ่านสถานที่สวยงาม ๆ มากมาย เช่นอุโมงค์กว่า 102 อุโมงค์ รวมถึงสะพานหลาย ๆ แห่งที่สูงจากพื้นดินกว่า 1,420 เมตรอีกด้วย ขณะที่ในฤดูหนาวก็จะมีหิมะปกคลุมและเหมาะแก่การเล่นสกีอีกต่างหาก นี่เองจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมที่นี่ถึงได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปกันแบบไม่ขาดสายตลอดทั้งปีเลยทีเดียว


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  8. แคว้นเมสซิเนีย ประเทศกรีซ (Messinia, Greece)     

          ที่นี่รู้จักกันดีในชื่อของสถานที่ซึ่งผลิตน้ำมันมะกอกชั้นดีส่งออกไปทั่วโลก แต่นอกเหนือจากน้ำมันมะกอกอันเลื่องชื่อแล้ว ที่แคว้นเมสซิเนีย ยังมีอีกหลาย ๆ อย่างที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถาปัตยกรรมสวย ๆ ทั้งอาคารบ้านเรือนและโบสถ์ตามแบบฉบับของกรีซ รวมถึงโขดหินสวย ๆ พร้อมกับน้ำทะเลสีใส ๆ ที่ใครเห็นแล้วก็อดใจที่จะไม่กระโจนตัวเองลงน้ำไม่ได้จริง ๆ และด้วยความสวยงามแบบนี้เอง เลยทำให้แคว้นเมสซิเนียเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่าบรรดานกสายพันธุ์ต่าง ๆ กว่า 270 สายพันธุ์อีกด้วยนะเออ  


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  9. ประเทศโดมินิก้า (Dominica)     

          นับได้ว่าเป็นประเทศที่น้อยคนนักจะรู้จักหรือได้ยินชื่อกัน แต่ใครก็ตามที่ได้เคยไปดินแดนแห่งนี้แล้วก็จะรู้ดีเลยว่า ความสวยงามทางธรรมชาติในประเทศนี้ คือ สื่งล้ำค่าที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมมาก ๆ จริง ๆ เพราะสำหรับประเทศโดมินิก้าแล้ว เหล่าบรรดาชั้นน้ำตกน้อยใหญ่ รวมถึงผืนป่าอันเขียวขจี คือสิ่งที่ดึงดูดให้ใครหลาย ๆ คนได้ต้องตาต้องใจกันมานักต่อนักแล้ว

          ขณะที่อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของที่นี่ ก็คือ ทะลสาบน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งมีอุณหภูมิของน้ำสูงถึง 92 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว และเมื่อปีนขึ้นไปบนเขาสูง ๆ ก็จะสัมผัสได้ถึงความสวยงามของพื้นที่ทั้งหมด และสภาพอากาศอันบริสุทธิ์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้เลยนะ 


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  10. ประเทศนามิเบีย (Namibia)     

          สำหรับคนที่ชื่นชอบในความเป็นธรรมชาติแบบลุย ๆ แอดเวนเจอร์หน่อย ๆ แล้วล่ะก็ นามิเบียคือหนึ่งในสถานที่ที่คุณห้ามพลาดโดยเด็ดขาด เพราะที่นี่จะทำให้คุณได้ไปสัมผัสกับเหล่าบรรดาสิงสาราสัตว์ และทะเลอันสวยสดงดงาม ทั้งนี้ สถานที่หลัก ๆ ที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดเมื่อได้ไปเยือนนามิเบียก็คือ  อุทยานแห่งชาติเอโตชา (Etosha National Park) เพราะพื้นที่ในอุทยานแห่งนี้จะทำให้คุณ ๆ ได้เรียนรู้การชีวิตของสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งคุณจะได้เห็นสัตว์ใหญ่ต่าง ๆ แบบใกล้ชิด ทั้ง ฝูงช้าง ยีราฟ แรดดำ สิงโต และอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วนเลยด้วย


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  11. ประเทศลาว (Laos)     

          ไปต่อกันที่ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศลาวกันบ้าง สำหรับประเทศลาวนั้น ถือเป็นประเทศที่มีมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหลมาก ๆ ประเทศหนึ่งของทวีบเอเชียเรา เพราะด้วยระบอบธรรมเนียมประเพณี ความน่ารักด้านการใช้ภาษาและการแต่งกาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่คงไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติ ไม่มีการแต่งแต้มหรือตกแต่งใด ๆ ให้เกินงาม จึงทำให้ผู้คนมากมายอยากที่จะไปสัมผัสกับความสงบเรียบร้อยของประเทศลาวกันมากมาย

          สถานที่สำคัญ ๆ ในลาวที่ไปแล้ว ต้องเดินทางไปเยือนให้ได้ก็มีมากมายหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น "วัดพระธาตุหลวง" ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว "ประตูชัย" อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิต ในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ "ดินแดนสี่พันดอน" บริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีแม่น้ำโขงไหลผ่านกลางและเกิดเกาะแก่งเป็นจำนวนมาก และที่อื่น ๆ ทั่วประเทศอีกมากมายเต็มไปหมด


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  12. เกาะโคดิแอค อลาสก้า (Kodiak Island, Alaska)     

          ข้ามทวีปไปยังอลาสก้ากันบ้าง สำหรับที่นี่แล้ว ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ของโลกนี้ ที่ยังคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ อันจะเห็นได้จากฝูงหมีที่ออกมาหาอาหารให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฏาคม สิงหาคม และเดือนกันยายนด้วยแล้วล่ะก็ จะถือเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหมีทั้งหลายจะออกปรากฏตัวให้เห็นกันเพียบ นอกจากนั้นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดเลย ก็คือเรื่องของการจับปลาแซลม่อน แหล่งอาศัยชั้นดีที่อุดมไปด้วยปลาแซลม่อนตัวโต ๆ มากมาย และปูอลาสก้าอันเลืองชื่อ ซึ่งเป็นอาหารทะเลระดับโลกอีกด้วย


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  13. สก็อตติช ไฮแลนด์ส (Scottish Highlands)     

          สก็อตติช ไฮแลนด์ส เป็นดินแดนทะเลสาบภูเขาอันกว้างใหญ่ของแดนวิสกี้ มีจุดเด่นและความสวยงามทางธรรมชาติที่น่าไปสัมผัสมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศของเมฆหมอกที่ปกคลุมไปทั่วภูเขา ทะเลสาบที่มีแสงแดดสาดส่องสวยงาม หน้าผาสูงชันอันแข็งแกร่งที่ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่ และชายหาดสวย ๆ ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่สุด

          ทั้งนี้ หากใครที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา และอยากจะเข้าถึงความเป็นสก็อตแลนด์แล้วล่ะก็ ที่นี่ก็มีการละเล่นพื้นเมือง รวมถึงการแต่งตัวตามแบบฉบับสก็อตติชให้คุณ ๆ ได้เห็นและได้ลองสวมใส่ด้วย และขอแนะนำว่าช่วงเดือนพฤษภาคมเรื่อยไปจนถึงกลางเดือนกันยายน ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าไปเยือนที่นี่มาก ๆ เพราะเป็นช่วงเวลาที่อากาศดีและมีกิจกรรมสนุก ๆ มากมายรอให้คุณได้ไปสัมผัสอยู่เยอะทีเดียว


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  14. ประเทศตูนิเซีย (Tunisia)     

          แม้ว่าเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะมีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่และดุเดือดเกิดขึ้นในตูนิเซีย แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามของประเทศและความเป็นตูนิเซียนั้น ลดน้อยลงไปแต่อย่างใด สำหรับตูนิเซียแล้วถือเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันหลากหลาย อีกทั้งยังมีเทศกาลต่าง ๆ ไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดทั้งปีอีกด้วย

          สถานที่สำคัญ ๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของตูนิเซียเลยก็ว่าได้นั่นก็คือ โอเปร่าแห่งชาติ ในเมืองตูนิส ที่มีความใหญ่โตอลังการไม่แพ้ที่อื่น ๆ ในโลกเลย นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีสิ่งสวย ๆ งาม ๆ อีกมากมายทั้ง สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือน การขี่อูฐชมทะเลทราย และการพักผ่อนแบบชิล ๆ ริมชายทะเล


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  15. เกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ (Palawan, Philippines)     

          เกาะปาลาวัน เป็นหนึ่งในเกาะของประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีความสวยงามและเป็นที่นิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรป เป็นเกาะที่มีลักษณะป่าฝนในเขตร้อนชื้น ประกอบด้วยถ้ำน้อยใหญ่ มีหาดทรายละเอียดสีขาว ที่นี่คุณสามารถมีชายหาดที่เป็นส่วนตัวของคุณเองได้อย่างสะดวกสบาย อยากนอนกลิ้งไปกลิ้งมา หรือนอนอ่านแดดนิ่ง ๆ อ่านหนังสือไป ฟังเพลงด้วยก็คงเพลิน


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  16. ชายฝั่งทะเลดำ  (Black Sea Coast, Crimea)     

          ชายฝั่งทะเลดำแห่งนี้ เป็นสถานที่มีความสวยงามในแบบที่เรียบหรูและเป็นส่วนตัวมาก ๆ เพราะด้วยบรรยากาศแวดล้อมที่เงียบสงบ สภาพอากาศที่เย็นกำลังดี และทิวทัศน์โดยรอบของน้ำทะเลที่ใสสะอาด ตัดกับท้องฟ้าสีคราม เลยทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่สวย ๆ ที่น่ามาเที่ยวจริง ๆ


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  17. คาบสมุทรกาสเป้ เมืองคิวเบ็ก (Gaspe Peninsula, Quebec)     

          คาบสมุทรนี้ตั้งอยู่ในเขตประเทศแคนาดา และถือว่าเป็นคาบสมุทรที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของโลก อันจะเห็นได้จากฝูงนกจำนวน 250,000 ตัวที่บินมาทำรัง รวมถึงธรรมชาติโดยรอบทั้งโขดหิน น้ำทะเล และการออกจับปลาของชาวประมงแคนาดา และหากใครที่ชื่นชอบการพายเรือคายัค ล่องเรือแคนู ปีนเขา หรือขี่ม้าชิล ๆ ดูสภาพแวดล้องและสูดอากาศที่บริสุทธิ์ล่ะก็ ช่วงที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาทำกินกรรมและสัมผัสบรรยากาศเหล่านั้น ขอให้มากันในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนถึงกันยายน จะดีที่และเหมาะสมที่สุด


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  18. เกาะชิโกกุ ประเทศญี่ปุ่น (Shikoku, Japan)     

          เกาะชิโกกุ เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาสี่เกาะหลัก ๆ ของประเทศญี่ปุ่น โดยพื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะชิโกกุ ประกอบไปด้วยภูเขาสูง - ต่ำ สลับกับที่ราบ อีกทั้งยังเป็นเกาะแห่งตำนานของนกกระยางและบ่อน้ำพุร้อน โดยมีบ่อน้ำพุร้อน "โดโงะ" ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่นี่อีกด้วย แถมด้วยสวนใหญ่สวย ๆ ตามแบบฉบับของญี่ปุ่น ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ก็มีให้เห็นอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  19. ประเทศปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea)     

          ปาปัวนิวกินี เป็นประเทศในแถบโอเชียเนีย และเป็นประเทศที่มีการปกป้องและรักษาวัฒนธรรม รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติของตัวเองได้ดีมาก ๆ ซึ่งนั่นส่งผลให้ที่ปาปัวนิวกีนี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันเป็นมนต์เสน่ห์ให้สถานที่แห่งนี้ ดูมีหลาย ๆ อย่างให้น่าค้นหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้คน วิถีชีวิต สถานที่สวย ๆ งาม ๆ และอื่น ๆ อีกมากมายสารพัด

          ทั้งนี้ ปาปัวนิวกินี ถือเป็นประเทศที่มีชนเผ่าต่าง ๆ อาศัยอยู่เยอะแยะมากมาย แถมยังมีภาษาให้ได้พูดคุยกันมากกว่า 800 ภาษาเลยทีเดียว ขณะเดียวกันก็ทำให้มีประเพณีของชนเผ่าต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไปมากถึง 200 ประเพณีเลยด้วย


20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011

  20. เคอร์ดิสถาน ประเทศอิรัก (Kurdistan, Iraq)     

          เคอร์ดิสถานเป็นเขตปกครองตนเอง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิรัก และจัดได้ว่าเป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เพราะด้วยสภาพของพื้นที่โดยรอบที่เป็นเทือกเขา และมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน รวมทั้งอุณหภูมิแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ จึงทำให้เกิดความสมดุลทางทรัพยากรธรรมชาติมาก ๆ เลยทีเดียว  

          สำหรับสถานที่หลัก ๆ ซึ่งถือเป็นสถานที่เชิดหน้าชูตาของเคอร์ดิสถานก็มีอยู่หลายที่เหมือนกัน ทั้ง ป้อมปราการเออร์บิล (Erbil’s historic citadel) มัสยิดขนาดใหญ่ ซากปรักหักพังของป้อมปราการซาลาฮัดดิน (Salahaddin’s Fortress) หมู่บ้านของชาวบ้านบริเวณเทือกเขาซาโกรส และสถานที่อื่น ๆ อีกเยอะแยะมากมาย


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
20 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกของปี 2011 อัปเดตล่าสุด 28 ธันวาคม 2554 เวลา 14:11:11 11,164 อ่าน
TOP