ใครที่วางแผนการท่องเที่ยวในปี 2015 ไม่ทัน ก็มาเริ่มต้นกันใหม่ค่ะ และถ้ายังไม่คิดไม่ออกงั้นลองมาดูทางนี้ เพราะทางสำนักพิมพ์และผู้นำทางด้านการเดินทางท่องเที่ยวอย่าง โลนลี่ แพลนเน็ต (Lonely planet) ได้เผยรายชื่อ 10 ประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก 2016 ออกมาแล้วค่ะ ซึ่งก็มาพร้อมกับ 10 เมืองที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก 2016 และ 10 ภูมิภาคที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก 2016 โดยอยู่ใน Best in Travel 2016 และสำหรับ 10 ประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก 2016 จะมีประเทศไหนบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ
1. สาธารณรัฐบอตสวานา (Botswana)
ภาพจาก InnaFelker / shutterstock.com
สาธารณรัฐบอตสวานา ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เป็นประเทศที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเนื้อที่ประมาณ 581,730 ตารางกิโลเมตร ไม่มีทางออกสู่ทะเล ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชนเผ่า Tswana (หรือ Setswana) มีภูมิประเทศเป็นป่าเขาส่วนใหญ่ นั่นจึงทำให้นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในการท่องเที่ยวแบบซาฟารีต้องหลงรักที่นี่ การท่องเที่ยวในบอตสวานาจึงเป็นการท่องเที่ยวในรูปแบบของการเที่ยวซาฟารี มีทั้งกิจกรรมการส่องสัตว์ เดินป่า ปีนเขา และล่องเรือชมความงดงามของธรรมชาติ นอกจากนี้บอตสวานายังเงียบสงบ ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับชีวิตของชนเผ่าต่าง ๆ อย่างแท้จริง เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืมเลยทีเดียว
2. ประเทศญี่ปุ่น (Japan)
สำหรับประเทศญี่ปุ่น คนไทยต่างคุ้นเคยกันดี และปัจจุบันได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮอตฮิตติดอันดับโลกไปเสียแล้ว ซึ่งสิ่งที่ทำให้คนทั่วโลกต่างหลงรักญี่ปุ่นก็คือวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นทางด้านขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษา หรือแม้กระทั่งอาหารการกิน ชาวญี่ปุ่นก็ยังคงรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้สถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ รวมทั้งธรรมชาติ ก็ได้รับการดูแลรักษาด้วยความรักและทะนุถนอมตลอดมา ทำให้ไม่ว่าใครที่ไปเยือนญี่ปุ่นก็จะได้สัมผัสกับความสวยงามเหล่านี้ จนทำให้ต้องหลงรักญี่ปุ่นไปตาม ๆ กัน สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ก็คือ "ภูเขาไฟฟูจิซัง" สัญลักษณ์ที่สำคัญและสวยงามของดินแดนแห่งนี้ ที่ใครต่างก็ต้องไปเห็นด้วยตัวเองกันสักครั้ง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ เมืองโตเกียว, เมืองเกียวโต, เมืองโอซาก้า และเมืองฟุกุโอกะ เป็นต้น
3. สหรัฐอเมริกา (United States)
ถ้าพูดถึงประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางในใจของคนทั่วโลกที่ต้องมีโอกาสไปเยือนให้ได้สักครั้ง หนึ่งในนั้นต้องมีสหรัฐอเมริกาด้วยแน่นอน เพราะที่นี่เป็นดินแดนที่มีความหลากหลาย ผสมผสานไว้ทั้งธรรมชาติสุดอัศจรรย์ และเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความทันสมัย ประกอบไปด้วยรัฐมากกว่า 50 รัฐ บนเนื้อที่มากกว่า 9.8 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งนั่นทำให้แต่ละเมือง แต่ละรัฐมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป โดยเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด อาทิ นิวยอร์ก, ลอสแองเจลิส, ชิคาโก, ซีแอตเทิล, ไมอามี, ลาสเวกัส, บอสตัน, วอชิงตัน ดี.ซี. เป็นต้น
4. สาธารณรัฐปาเลา (Palau)
5. สาธารณรัฐลัตเวีย (Latvia)
หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับชื่อประเทศนี้สักเท่าไร แต่ลัตเวียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจในทวีปยุโรปเลยทีเดียว สาธารณรัฐลัตเวีย ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ริมฝั่งทะเลบอลติก เมืองหลวง คือ เมือง Riga มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 64,589 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยทั้งหมด 4 ภูมิภาค ซึ่งแต่ละภูมิภาคก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่ทำให้ประเทศนี้มีความน่าสนใจก็คือเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งนั่นก็ทำให้มันยังคงมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมดั้งเดิม บ้านเรือนต่าง ๆ มีเอกลักษณ์สวยงาม เงียบสงบ ยังไม่ความวุ่นวายเหมือนกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ที่นี่จึงกำลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของคนที่ต้องการมาเยือนยุโรปแบบเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ
6. ประเทศออสเตรเลีย (Australia)
ประเทศออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีอาณาเขตใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 7.6 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งนอกจากจะมีฐานะเป็นประเทศแล้ว ยังมีฐานะเป็นทวีปอีกด้วย ความยิ่งใหญ่ของออสเตรเลีย ทำให้ที่นี่มีธรรมชาติหลากหลาย มีทั้งทะเล ทะเลทราย ภูเขา ป่าเขา และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งนอกจากธรรมชาติที่โดดเด่นแล้ว เมืองใหญ่ ๆ ในออสเตรเลียยังมีความทันสมัย เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจของโลกอีกด้วย เมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว อาทิ ซิดนีย์, บริสเบน, เมลเบิร์น, เพิร์ท, แคนเบอร์รา, นิวคาสเซิล เป็นต้น
7. สาธารณรัฐโปแลนด์ (Poland)
8. สาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัย (Uruguay)
ภาพจาก byvalet / shutterstock.com
ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยว อุรุกวัยอาจจะไม่ได้อยู่ในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากนัก ด้วยเป็นเพียงประเทศเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่น่าเที่ยว เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่น่าสนใจ และสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย ด้วยความที่ประเทศติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก จึงทำให้หาดทรายและท้องทะเลที่นี่มีความสวยงามไม่แพ้กับเมืองริมทะเลที่ไหนในโลก หาดทรายที่มีชื่อเสียง อาทิ Brava Beach, Punta del Este, Carrasco, Montevideo เป็นต้น
9. เกาะกรีนแลนด์ (Greenland)
เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนในฝันของใครหลายคน ด้วยตั้งอยู่เหนือสุดของโลก จึงทำให้ที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เป็นสถานที่ที่สามารถชมความงดงามของธารน้ำแข็งได้สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวเอสกิโม และธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งในฤดูหนาว พร้อมทั้งแสงเหนือ (Aurora) อีกด้วย ในเดือนมีนาคม ปี 2016 กรีนแลนด์จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Arctic Winter Games ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนกรีนแลนด์ได้อีกมากเลยทีเดียว สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในกรีนแลนด์ อาทิ Ilulissat Icefjord, Uunartoq Hot Springs, Sermermiut Eskimo Settlement, เมือง Tasiilaq, เมือง Nuuk เป็นต้น
10. สาธารณรัฐฟิจิ (Fiji)
ภาพจาก Martin Valigursky / shutterstock.com
สาธารณรัฐฟิจิ เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่มากกว่า 333 เกาะ ที่นี่จึงกลายเป็นสวรรค์แห่งท้องทะเลที่คนรักทะเลไม่ควรพลาด ด้วยมีน้ำทะเลที่ใสสะอาด และมีแนวปะการังที่สมบูรณ์มากมาย พร้อมทั้งที่นี่ยังเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย เหมาะสำหรับการพักผ่อนที่แท้จริง ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนสำหรับเป็นรางวัลของชีวิต ฟิจิก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามจะเห็นได้ว่าทั้ง 10 อันดับ มีทั้งประเทศที่เรารู้จักกันดี และประเทศท่องเที่ยวเกิดใหม่ที่ซ่อนเร้นความสวยงามไว้อีกมากมาย ซึ่งก็เป็นไอเดียดี ๆ ให้กับคนที่กำลังวางแผนไปท่องเที่ยวต่างประเทศ จะได้นำไปเป็นตัวเลือกของทริปในปี 2016 ... ไปเที่ยวเผื่อเราด้วยนะคะ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
botswanatourism.co.bw, sameaf.mfa.go.th, jnto.go.jp, visittheusa.com, www.visit-palau.com, infoplease.com, latvia.travel, australia.com, australia.gov.au, poland.travel, welcomeuruguay.com, greenland.com, fiji.travel