ที่เที่ยวหน้าหนาว 2562 ชวนไปชิล 25 ที่เที่ยวหน้าหนาว

รวมที่เที่ยวหน้าหนาว 2562 เอาใจคนที่กำลังวางแผนลิสต์รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อไปปักหมุดเช็กอินพักผ่อนช่วงวันหยุด มีทั้งภูเขา ทะเลหมอก ทุ่งดอกไม้ และทะเลสวย ๆ ให้ได้ไปชิลกัน

หน้าหนาวเที่ยวไหนดี ? ... คำถามยอดฮิตเมื่อสายลมหนาวแวะเวียนมาทักทาย ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวหน้าหนาวเพื่อชวนแก๊งเพื่อนไปพักผ่อน จูงมือแฟนไปสวีตหวาน หรือพาครอบครัวไปท่องเที่ยวประจำปีต้องมาชมกันทางนี้เลย เพราะเรามีที่เที่ยวหน้าหนาว มาแนะนำกัน แต่ละสถานที่นั้นนอกจากจะหนาวเหน็บได้ใจแล้ว ทัศนียภาพรอบข้างก็ยังงดงามมาก ๆ เอาเป็นว่าใครที่ยังไม่รู้ว่า "หนาวนี้ไปเที่ยวไหนดี" ก็ตามเราไปเก็บข้อมูลกันดูว่ามีที่เที่ยวหน้าหนาวที่ไหนให้ไปสูดอากาศดี ๆ ยืนรับลมเย็น ๆ กันบ้าง

1. ดอยผาหมี จังหวัดเชียงราย

          หมู่บ้านเล็ก ๆ ในตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว ๆ 1,400 เมตร เป็นหมู่บ้านของชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามจับตา อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีร้านกาแฟวิวดี ร้านอาหารบรรยากาศดี พร้อมทั้งโฮมสเตย์รูปแบบทันสมัย และจุดกางเต็นท์ให้บริการ นักท่องเที่ยวจะได้จิบกาแฟอุ่น ๆ รสชาติเข้มข้น ไปพร้อมกับการชมวิวภูเขาสายหมอกอันสวยงาม อีกทั้งยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวบ้าน ได้ชมไร่กาแฟและรู้จักกับกระบวนการผลิตกาแฟอย่างลึกซึ้ง ได้ลองกินอาหารพื้นเมืองสุดอร่อย และได้พักผ่อนอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ถือได้ว่าที่นี่เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่ไม่ควรพลาด

          แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวในและใกล้ ๆ กับหมู่บ้านดอยผาหมี เช่น ร้านกาแฟ A h p o K a f e i, ร้านกาแฟโอโซน, ร้านกาแฟออกซิเจนผาหมี, ร้านกาแฟดอยผาหมี, ร้านกาแฟ 71 coffee view, ร้านอาหารและโฮมสเตย์ภูฟ้าซาเจ๊ะ, บูซอ โฮมสเตย์ เป็นต้น

          ที่อยู่ : ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
          เบอร์โทรศัพท์ : งานประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลตำบลเวียงพางคำ โทรศัพท์ 0 5364 6569

2. ทุ่งดอกทานตะวัน จังหวัดลพบุรี

          ลพบุรีเป็นจังหวัดที่มีการปลูกทานตะวันมากที่สุดในประเทศไทย โดยช่วงที่ดอกทานตะวันเริ่มแย้มกลีบบานอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคมของทุกปี นอกจากทุ่งทานตะวันเหล่านี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดแล้ว ยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านด้วยเช่นกัน เราจึงเห็นแหล่งปลูกทานตะวันกระจายอยู่ทั่วไปทั้งจังหวัด ตั้งแต่ในเขตอำเภอพัฒนานิคม อำเภอชัยบาดาล บริเวณเขาจีนแล ตำบลโคกตูม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกชมความสวยงามของทุ่งทานตะวันไปตามเส้นทางเหล่านี้ และแวะถ่ายรูปเพื่อสัมผัสความงดงามได้ตามใจชอบ

          ที่อยู่ : ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 035 246076-7

3. ไร่สตรอว์เบอร์รีเชียงใหม่

          อากาศเย็น ๆ ช่วงปลายปี หลายคนน่าจะวางแผนกันไปเที่ยวภาคเหนือ เราเลยมีอีกหนึ่งกิจกรรมเที่ยวหน้าหนาวห้ามพลาดมาแนะนำ นั่นก็คือการเที่ยวไร่สตรอว์เบอร์รี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมีนาคม ถือได้ว่าเป็นช่วงนาทีทองของคนรักสตรอว์เบอร์รีมาก ๆ และแน่นอนว่าถ้าใครอยากไปถึงแหล่งจริง ๆ แล้วละก็ เห็นจะหนีไม่พ้น…อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีพื้นที่ปลูกสตรอว์เบอร์รีเป็นพัน ๆ ไร่ โดยผลสตรอว์เบอร์รีจะทยอยออกจากไร่กันมาเรื่อย ๆ และให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเก็บสตรอว์เบอร์รีภายในไร่ ได้สัมผัสกับอากาศเย็น ๆ และเรียนรู้วิถีชีวิตของคนทำไร่สตรอว์เบอร์รี รวมถึงกระบวนการผลิต ทำให้ได้รู้ว่ากว่าจะได้สตรอว์เบอร์รีแต่ละลูกให้เราได้ทาน ต้องผ่านความใส่ใจและการดูแลมากน้อยแค่ไหน เช่น

          ++ ไร่สตรอว์เบอร์รีวงศ์วาน

          ที่ตั้ง : เลขที่ 269 หมู่ 1 ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 096 354 0602
          เฟซบุ๊ก : ไร่สตรอเบอรีวงค์วาน

          ++ ไร่สตรอว์เบอร์รีนภ-ภูผา

          ที่ตั้ง : ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 088 404 2553, 081 603 9800
          เฟซบุ๊ก : ไร่นภ-ภูผา

          ++ ไร่สตรอว์เบอร์รีไผ่สีทอง

          ที่ตั้ง : บ้านแม่สาบ ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 086 312 5680, 081 180 5258
          เว็บไซต์ : strawberrychiangmai.com

          ++ ไร่ดอยนกสตรอว์เบอร์รี

          ที่ตั้ง : ถนนหมายเลข 1269 บ่อแก้ว-สะเมิง อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 082 878 7617
          เฟซบุ๊ก : Doi Nok Strawberry Resort -ดอย นก สตรอเบอร์รี่ รีสอร์ท

          ++ สะเมิงฟาร์ม

          ที่ตั้ง : อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 064 339 0022
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก สะเมิงฟาร์ม : Samoeng Farm

          ++ สวนกอยแก้ว

          ที่ตั้ง : 103/5 หมู่ 5 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 084 803 9905
          เฟซบุ๊ก : สวนดอยแก้ว suandoikaew สตรอเบอร์รี่ปลอดสาร

4. แม่กำปอง

ภาพจาก SF11 / Shutterstock.com

          ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนหมู่บ้านแม่กำปอง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ก็รอต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ โดยเฉพาะหน้าหนาวที่อากาศจะเย็นจับใจ อีกทั้งยังมีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อน ซึ่งนอกจากการมาสัมผัสวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้านแล้ว บริเวณรอบ ๆ หมู่บ้านก็มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย แต่ไฮไลต์ที่มาถึงแม่กำปองแล้วต้องไปเซลฟี่เก็บไว้ ก็จะมีบ้านลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง บ้านไม้เก่าแก่สุดน่ารักริมลำธาร, ร้านกาแฟชมนกชมไม้ จิบกาแฟชมวิวหมู่บ้านกลางหุบเขา, น้ำตกแม่กำปอง น้ำตกสวยแห่งเดียวในหมู่บ้าน, วัดแม่กำปอง ชมโบสถ์เล็กกลางลำธารอันเย็นฉ่ำ, กิ่วฝิ่น จุดชมวิวดอยสูงและทะเลหมอกสวย ๆ เป็นต้น

          การเดินทางไปเที่ยวแม่กำปอง สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถขับไปได้เองค่ะ โดยใช้เส้นทางผ่านอำเภอดอยสะเก็ด หรือไปทางอำเภอสันกำแพง ตรงมายังอำเภอแม่ออน แล้วเข้าสู่ทางหลวงชนบท ชม.3005 ขับผ่านโครงการหลวงตีนตกขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอหมู่บ้านแม่กำปอง

          ที่อยู่ : หมู่บ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0 53 24 8604-5

5. จุดชมวิวดอยหลวงเชียงดาว (บ้านนาเลาใหม่) จังหวัดเชียงใหม่

จุดชมวิวดอยหลวงเชียงดาวแห่งนี้อยู่บริเวณบ้านนาเลาใหม่ ตั้งอยู่ที่ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว เป็นหมู่บ้านของชาวเขาอันเงียบสงบ ซึ่งอยู่บริเวณเชิงเขาดอยหลวงเชียงดาว เป็นอีกจุดที่สามารถมองเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างสวยงามสุด ๆ และเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่าการขึ้นไปเที่ยวเชียงดาว ถ้าจะให้ครบสูตรต้องไปนอนพักบ้านแบบโฮมสเตย์ราคาหลักร้อย แต่จะได้ชมวิวระดับหลักล้านกันเลยทีเดียว เช้าตื่นมาก็ได้เห็นสายหมอกลอยละล่องอยู่กับทิวเขาเขียว ๆ ยามค่ำคืนก็มีดวงดาวนับล้านลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้าให้ได้ชม อีกทั้งบรรยากาศยังเป็นส่วนตัว มีอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ ให้ได้ลิ้มลอง คุ้มเกินคุ้ม

ที่อยู่ : หมู่บ้านนาเลาใหม่ ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

6. บ่อเกลือ จังหวัดน่าน

          อำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดน่าน เป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย มีลำน้ำมางไหลผ่าน พร้อมทั้งโอบล้อมไปด้วยขุนเขา จึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนคลายสมอง มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น บ่อเกลือสินเธาว์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อเกลือใต้ เป็นชุมชนที่มีการทำบ่อเกลือมาหลายชั่วอายุคน, อุทยานแห่งชาติขุนน่าน เต็มไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ป่าเขาเขียวขจี และมีจุดชมวิวสวย ๆ มากมาย เช่น จุดชมวิวหน่วยพิทักษ์ห้วยตี๋ จุดชมวิวดอยมงคล น้ำตกสะปัน น้ำตกบ้านเด่น ฯลฯ บางจุดยังสามารถไปนอนกางเต็นท์ดูดาว รับอากาศหนาวสุดเย็นฉ่ำได้ด้วย

          ภูเข้ เป็น 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในเมืองไทย มีความสูงราว ๆ 2,079 เมตร เอกลักษณ์สำคัญคือบนยอดดอยจะมีหลักดินแดนที่แสดงอาณาเขตระหว่างไทย-ลาว หรือโครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนา เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ถิ่นทุรกันดารให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามบริเวณโดยรอบโครงการ มีกาแฟสดรสชาติเข้มข้น รวมไปถึงชาคุณภาพดีไว้รองรับ อีกทั้งยังมีสินค้าสวย ๆ ในโครงการภูฟ้าให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบ้านพักให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน

          ที่อยู่ : อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่ (แพร่-น่าน) โทรศัพท์ 054 521 118

7. ดอยทูเล จังหวัดตาก

ภาพจาก Jamoo / Shutterstock.com

          ภูเขาที่สูงที่สุดในอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก โดยสูงจากระดับน้ำทะเล 1,350 เมตร ทอดตัวขนานกับแม่น้ำเมย ชาวปกาเกอะญอเรียกภูเขาแห่งนี้ว่า "ทูเลโค๊ะ" หมายถึง ภูเขาสีทอง เพราะในช่วงหน้าหนาวกลางเดือนพฤศจิกายน-มกราคมของทุกปี ทุ่งหญ้าเขียวขจีจะเปลี่ยนเป็นทุ่งสีทองท่ามกลางทะเลหมอกและมีอากาศหนาวเย็น เหมาะสำหรับการกางเต็นท์นอนชมดาวและเก็บภาพอาทิตย์ขึ้นและตกดิน ในยามเช้าของช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกสีขาวโพลนที่ทอดตัวยาวสวยงามสุดสายตา

          ทั้งนี้หากจะมาสัมผัสดอยแห่งนี้อาจจะต้องใช้พละกำลังกันเยอะหน่อย เนื่องจากเส้นทางการเดินเป็นเส้นทางชัน อีกทั้งต้องขึ้นและลงภูเขาจึงต้องใช้กำลังมากพอดู ดังนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อม

          ที่อยู่ : ตำบลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตาก โทรศัพท์ 0 5551 4341-3

8. ทะเลหมอกวัดผาตากเสื้อ จังหวัดหนองคาย

          ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตบ้านดงต้อง อำเภอสังคม เป็นสถานปฏิบัติธรรม มีจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน สามารถมองเห็นเมืองริมน้ำโขงอย่างอำเภอสังคม แม่น้ำโขงที่ไหลโค้งไปมาอย่างสง่างาม และยังสามารถมองเห็นฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันมีการสร้างสกายวอล์กกระจกใสแห่งแรกของเมืองไทย เป็นจุดชมวิวใหม่ของอีสาน เป็นทางเดินกระจกใสยื่นจากหน้าผาออกไป 6 เมตร สามารถรองรับน้ำหนักได้ประมาณ 20 คน และสร้างราวกั้นตลอดแนวสองด้าน อีกทั้งยังปรับปรุงภูมิทัศน์รอบด้านให้สวยงาม เพื่อให้เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงสุดอันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดหนองคายและประเทศไทย

          ที่อยู่ : บ้านดงต้อง ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
          เบอร์โทรศัพท์ : 0 4290 1013
          เฟซบุ๊ก : วัดผาตากเสื้อ

9. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

          หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นจุดหมายปลายทางในฝันที่ไม่ว่าใครก็อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง จนได้รับสมญานามว่า "สวิตเซอร์แลนด์แดนสามหมอก" ... ปางอุ๋ง ตั้งอยู่ในโครงการสวนป่าในพระราชดำริปางตอง 2 เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันเกิดจากการที่ทรงต้องการที่จะส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรให้พื้นที่มีชีวิตที่ดีขึ้น จากอดีตที่เคยเป็นพื้นที่อันตราย และมีการบุกรุกทำลายป่า มาวันนี้ได้รับการพัฒนา ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

         ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมของทุกปี เป็นช่วงหน้าเทศกาลที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวปางอุ๋งเป็นจำนวนมาก ซึ่งไฮไลต์ที่นี่คือการได้เห็นภาพของหมอกยามเช้าบนผิวน้ำเหนือทะเลสาบ พร้อมกับอากาศเย็น ๆ บอกเลยว่าบรรยากาศโรแมนติกแบบสุด ๆ นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์นอนพักค้างแรมได้

         ที่อยู่ : โครงการสวนป่าในพระราชดำริปางตอง 2 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
         เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 053 612 982

10. ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

          ทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในไทย จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดแห่งหนึ่งของแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันทุ่งดอกบัวตองมีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 500 ไร่ เวลาที่ดอกบัวตองบานสะพรั่งจะเห็นเป็นภูเขาสีเหลืองทั่วทั้งหุบเขา นักท่องเที่ยวมักจะขึ้นไปยังจุดชมวิว เพื่อชมทุ่งดอกบัวตองในมุมสูง ซึ่งจะเห็นทั้งทุ่งบัวตองและถนนทางหลวงชนบท มส.4009 ที่คดเคี้ยวไปมาท่ามกลางหุบเขา ช่วงเวลาที่ดอกบัวตองบานจะอยู่ประมาณช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และจะบานอยู่เพียงแค่ประมาณ 1 สัปดาห์

          ที่อยู่ : ดอยแม่อูคอ ตำบลขุนยวม อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
          เบอร์โทรศัพท์ : องค์การบริการส่วนตำบลแม่อูคอ โทรศัพท์ 0 5361 5987 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 0 5361 2982

11. ขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่

          แหล่งปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งที่เยอะมากอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน แบ่งออกเป็น Site A และ Site B โดยจุดที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมมากที่สุดจะอยู่บริเวณ Site A จริง ๆ แล้วขุนช่างเคี่ยนเป็นสถานที่วิจัยและปลูกกาแฟอาราบิก้า มีร้านกาแฟเล็ก ๆ ไว้รอต้อนรับ แต่ได้มีการนำต้นนางพญาเสือโคร่งมาปลูกทำรั้ว พอถึงฤดูกาลที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นยอดดอยที่สวยงาม

         ดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยนจะบานในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งจะบานช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และจะบานเพียงแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น และต้องทำความเข้าใจกันสักนิดว่าขุนช่างเคี่ยนไม่ใช่สถานที่ที่จัดทำขึ้นเพื่อการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปนนะคะ

         ที่อยู่ : ถนนแม่บัวมุง ตำบลดอนแก้ว อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
         เบอร์โทรศัพท์ : ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0 5394 4052 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0 5324 8604-5, 0 5324 8607

12. หมู่บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช

          หมู่บ้านเล็ก ๆ ในตำบลกำโลน อำเภอลานสกา ที่นี่นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงสายใยการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนและธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมนักท่องเที่ยวหลายคนถึงติดใจและหลงเสน่ห์ของบ้านคีรีวงกันเป็นแถว ๆ เสน่ห์ของบ้านคีรีวงที่เป็นที่กล่าวขานในหมู่นักท่องเที่ยว นั่นคือความสงบและความเงียบ การสัมผัสวิถีชีวิตแบบชนบท อิ่มไปกับบรรยากาศหมู่บ้านกลางหุบเขา ฟังเสียงน้ำไหล ผ่านแก่งหินต่าง ๆ ไหลรวมเป็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ ผ่านกลางหมู่บ้าน จนกลายเป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

          จุดท่องเที่ยวไฮไลต์ เช่น สะพานบ้านคีรีวง เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายรูป, หนานหินท่าหา มีลักษณะเป็นลำคลอง ช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำที่บริเวณนี้กันอย่างสนุกสนาน, สะพานแขวน-ท่าหา อยู่ไม่ไกลจากหนานหินท่านา เป็นสะพานแขวนเล็ก ๆ ล้อมรอบด้วยวิวป่าเขา เอาไว้เป็นอีกหนึ่งที่ถ่ายรูปสวย ๆ ของบ้านคีรีวง และตลาดบ้านคีรีวง ตลาดเล็ก ๆ อยู่ไม่ไกลจากสะพานบ้านคีรีวง นักท่องเที่ยวจะได้เดินเลือกซื้อของกินต่าง ๆ มากมาย จนอยากซื้อติดมือกลับไปเป็นของฝากให้กับคนที่บ้าน

          ที่อยู่ : ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
          เบอร์โทรศัพท์ : องค์การบริหารส่วนตำบลกำโลน โทรศัพท์ 075 533 111

13. สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

         อำเภอเล็ก ๆ กลางหุบเขาที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ และเรื่องราววัฒนธรรมที่น่าหลงใหลของชาวไทย - มอญ สิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ ในสังขละบุรีก็คือ "สะพานมอญ" สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในเมืองไทย ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีไปแล้ว อีกทั้งความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบของที่นี่ ก็ทำให้สังขละบุรีน่าหลงใหลขึ้นอีกเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นเมืองบาดาล อันซีนไทยแลนด์กับเมืองใต้ผืนน้ำในเขตเขื่อนเขาแหลมหรือเขื่อนวชิราลงกรณ ที่จะโผล่ขึ้นอวดโฉมในฤดูแล้ง

          วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) ตั้งอยู่ทางฝั่งหมู่บ้านมอญ เป็นศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญของชาวสังขละบุรี, เจดีย์พุทธคยา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) ในจุดที่แม่น้ำ 3 สายมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกรวยสี่เหลี่ยม มียอดแหลม สีเหลืองทองทั้งองค์เจดีย์ มีรูปปั้นสิงห์คู่แบบมอญตั้งอยู่ด้านหน้า ภายในยอดเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะได้อัญเชิญมาจากประเทศศรี และถนนคนเดินสังขละบุรี ตั้งอยู่บริเวณตลาดใหม่ ใกล้กับโรงพยาบาลสังขละบุรี เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ส่งเสริมให้คนในชุมชนได้นำสินค้าท้องถิ่นของตนเองมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะมีทั้งอาหารพื้นบ้าน ขนมโบราณ สินค้าแฮนด์เมด สินค้าพื้นเมือง ราคาย่อมเยา จะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ เป็นต้น

          ที่อยู่ : อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี โทรศัพท์ 034 511 200

14. เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย

ภาพจาก gopfaster / Shutterstock.com

          หนึ่งในที่เที่ยวหน้าหนาวที่นักท่องเที่ยวสายผจญภัยต่างอยากจะขึ้นไปพิชิตให้ได้สักครั้ง ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติรามคำแหง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดสุโขทัย ด้วยความสูงระดับ 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ประกอบด้วย 4 ยอดเขา คือยอดพระเขาเจดีย์ ยอดเขาพระแม่ย่า ยอดเขาภูกา และยอดเขานารายณ์ ระยะทางสำหรับเส้นทางพิชิตเขาหลวง จากที่ทำการอุทยานไปจนถึงยอดเขาเป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร (เป็นทางเดินขึ้นลูกเดียว) โดยจะเปิดให้ขึ้นเวลา 08.00 น. และทางอุทยานจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นยอดเขาหลวงหลังเวลา 15.30 น.

          เมื่อถึงบริเวณจุดกางเต็นท์ ใช่ว่าถึงจุดความสวยงามของเขาหลวง การเดินทางไปยังจุดชมวิวต่าง ๆ นักท่องเที่ยวต้องเดินต่อจากจุดกางเต็นท์ ถ้าอยากชื่นชมบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดินให้มาที่ "เขาพระแม่ย่า" ถ้าอยากชื่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ให้มาที่ "เขาพระนารายณ์" ระยะเวลาการเที่ยวบนเขาหลวง สุโขทัย ปกตินักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน แต่ถ้าอยากเที่ยวให้ทั่วต้อง 3 วัน 2 คืน

          ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติรามคำแหง อำเภอบ้านด่านลานหอย และอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย
          เบอร์โทรศัพท์ : อุทยานแห่งชาติรามคำแหง โทรศัพท์ 087313 7897

15. ภูลมโล จังหวัดเลย

          จุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นประจำทุกปีตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมจนถึงเดือนมกราคม ดอกนางพญาเสือโคร่งจะผลิกลีบสีชมพูบาน บนพื้นที่กว้างกว่า 1,200 ไร่ เป็นดินแดนสีชมพูสวย ที่ไม่ว่าใครมาเห็นเป็นต้องประทับใจแบบสุด ๆ โดยการขึ้นไปเที่ยวภูลมโลจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมเฉพาะช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานเท่านั้น และในช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานทางอุทยานไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขับรถขึ้นไปเอง เพราะเส้นทางบางช่วงชันและแคบ อาจจะเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุได้

         ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวภูลมโล นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถนำเที่ยวขึ้นภูลมโลได้ 3 จุด คือ

          - ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลกกสะทอน จะมีจุดรับ-ส่งสำคัญของภูลมโลอยู่ที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถมาจอดไว้ที่ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลกกสะทอน แล้วจะมีรถกระบะของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวกกสะทอนรอรับ-ส่งอยู่

          - ชุมชนบ้านร่องกล้า มีบริการรถนำเที่ยวชมภูลมโลทุกวัน (เฉพาะช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน) ตั้งแต่เวลา 05.00-16.00 น.

          - อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีรถบริการทุกวัน (เฉพาะช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน) ตั้งแต่ช่วง 05.00-16.00 น.

           การเดินทางไปยังภูลมโลสามารถขึ้นได้ 2 เส้นทาง คือจากทางฝั่งบ้านร่องกล้า ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และจากทางฝั่งบ้านกกสะทอน ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย

          ที่อยู่ : พื้นที่ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย โทรศัพท์ 0 4281 2812 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์ 0 5525 2742-3

16. จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จังหวัดนครราชสีมา

          จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม นอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับผ้าไหมแล้ว ปัจจุบันยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตทางภาคอีสานและเป็นแหล่งชมดอกไม้หน้าหนาวที่สวยงามอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยเลยทีเดียว โดยได้มีการเปิดให้เข้าชมฟาร์มเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น

          ในปีนี้มีการจัด "จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2562" ระหว่างวันที่ 7 ธันวาคม 2562 - 5 มกราคม 2563 ณ จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้ชื่องานว่า "ต่ำหูก แต้มผ้า - เล่าอีสานผ่านงานทอ" สนุกและเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน สนุกไม่แพ้ปีที่ผ่านมา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.jimthompsonfarm.com

          ที่อยู่ : อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา
          เบอร์โทรศัพท์ : 02-700-2566
          เฟซบุ๊ก : Jim Thompson Farm

17. เกาะกูด จังหวัดตราด

          อีกหนึ่งที่เที่ยวทะเลที่สวยงามและเป็นเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำตะวันออกของไทย นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องท้องทะเลและชายหาดที่สวยงามจนได้รับการขนานนามให้เป็น "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอื่น ๆ ที่น่าสนใจอยู่เพียบ เช่น น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกคลองยายกี๋ มีหาดสวย ๆ ป่าชายเลน และแนวปะการังหลากชนิด เป็นต้น ซึ่งฤดูกาลที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวที่เกาะกูด อยู่ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปลอดมรสุม

        ในแต่ละหาดของเกาะกูดจะมีที่พักไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว เราขอแนะนำว่าการจะไปพักที่เกาะกูดควรโทรศัพท์ไปจองล่วงหน้าให้เรียบร้อย ใครที่คิดว่าจะไปหาเอาดาบหน้า อาจผิดหวัง เพราะที่พักแต่ละที่ตั้งอยู่คนละหาด ไม่สามารถเดินถึงกันได้ ซึ่งการเดินทางจะต้องใช้เรือ และควรสอบถามให้เรียบร้อยว่าที่พักที่เราเลือกนั้น ต้องขึ้นท่าเรือที่ไหน เพราะที่พักแต่ละที่จะจอดเรือรับคนละที่กัน อีกทั้งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักนิยมซื้อแพ็กเกจทัวร์ของรีสอร์ตต่าง ๆ ซึ่งจะรวมทั้งค่าเรือ ค่าบริการ ค่าที่พัก และค่านำเที่ยวต่าง ๆ ราคาขึ้นอยู่กับระดับที่พัก แต่สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวเอง (จองแต่ที่พัก) จะได้ความเป็นอิสระ ในการสำรวจความสวยงามของเกาะกูดในแง่มุมต่าง ๆ โดยสามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ได้เช่นกัน

          ที่อยู่ : เกาะกูด จังหวัดตราด
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด โทรศัพท์ 039 597 259

18. เที่ยวทะเลระนอง

ระนอง...จังหวัดที่มีธรรมชาติทั้งป่าเขาและท้องทะเลที่สวยงาม โดยเฉพาะท้องทะเลที่อยู่ฝั่งอันดามันตอนเหนือ ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย อีกทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ยังไม่สูงเท่าไร หน้าหนาวนี้เราเลยอยากชวนให้ไปเยือนทะเลระนองกันค่ะ มีทะเลที่น่าสนใจ เช่น หมู่เกาะกำตก เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแหลมสน มีท้องทะเลสวยงามอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นที่ตั้งของ "อ่าวเขาควาย" ที่เที่ยวระนองสุดอันซีน มีลักษณะเป็นหาดทรายรูปโค้งเว้าคล้ายเขาควาย หาดทรายขาวสะอาดมาก มีแนวทิวสนร่มรื่น พร้อมกับจุดชมวิวท้องทะเลที่สวยงาม เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนแบบวันเดย์ทริป

          เกาะค้างคาว และเกาะญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะกำตกน้อยและเกาะกำตกใหญ่ มีความสวยงามโดดเด่นทั้ง 2 แห่ง อย่างเกาะค้างคาวก็มีหาดทรายขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด น้ำทะเลใสแจ๋ว ส่วนที่เกาะญี่ปุ่นก็มีชายหาดที่เหมาะแก่การเล่นน้ำ ดำน้ำชมปะการัง สามารถมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ ควบคู่กับเกาะกำตกได้อีกด้วย

          เกาะพยาม เป็นท้องทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง ธรรมชาติบนเกาะก็ยังคงอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การหนีลงเกาะไปพักผ่อนแบบสุด ๆ และเกาะช้าง เป็นเกาะที่ยังคงมีธรรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านยังใช้ชีวิตแบบชาวเล มีการออกหาปลา ทำอาชีพประมง สวนยางพารา และที่สำคัญบนเกาะแห่งนี้ยังเป็นแหล่งปลูกมะม่วงหิมพานต์หรือกาหยูที่ดีมากที่สุดของเมืองไทย

          ที่อยู่ : ทะเลอันดามันตอนบน ในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชุมพร (รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชุมพรและระนอง) โทรศัพท์ 0 7750 1832

19. ภูผักหวาน จังหวัดเลย

ภูผักหวาน แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว การขึ้นไปเช็กอินบนจุดชมวิวสวย ๆ ดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมสุดฮอตที่พลาดไม่ได้ ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านห้วยเดื่อ ตำบลน้ำทูน อำเภอท่าลี่ อยู่ในความรับผิดชอบของ อบต.อาฮี เหตุที่ชื่อว่าภูผักหวานเพราะว่าบริเวณภูเขาลูกนี้มีต้นผักหวานขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้คิดตั้งชื่อนี้ขึ้นมา

การเดินทางไปยังที่จุดชมวิวภูผักหวานควรใช้เป็นรถกระบะ ด้วยเพราะเส้นทางค่อนข้างขรุขระ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องรถอีแต๊กของชาวบ้าน โดยสองข้างทางระหว่างขึ้นไปยังจุดชมวิว จะผ่านพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน หน้าผาประวัติศาสตร์ ซึ่งมีภาพเขียนเกี่ยวกับประวัติพระพุทธศาสนาให้ได้ชมเพลิน ๆ อีกด้วย

          ที่อยู่ : หมู่ที่ 3 บ้านห้วยเดื่อ ตำบลน้ำทูน อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย
          เบอร์โทรศัพท์ : ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลอาฮี โทรศัพท์ 042 073 036
          เว็บไซต์ : tambonahi.go.th

20. เขาแผงม้า จังหวัดนครราชสีมา

โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ เขาแผงม้า หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ "เขาแผงม้า" แหล่งอนุรักษ์กระทิงฝูงสุดท้ายของเมืองไทย ใครอยากไปผจญภัยแบบได้อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ต้องไม่พลาดกับกิจกรรมส่องกระทิงในเขตเขาแผงม้า ที่จะออกมาหากินตามทุ่งหญ้า โป่งสัตว์ และแหล่งน้ำซับในทุก ๆ เย็น นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินสัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้อีกด้วย

          สำหรับวันเวลาที่แนะนำในการดูกระทิงที่ เขาแผงม้า สามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวันตลอดทั้งปี ซึ่งช่วงเวลาที่กระทิงออกหากินมักเป็นในช่วงบ่าย และเย็นที่มีโอกาสได้พบเห็นตัวได้มากกว่าเวลาอื่น

          ที่ตั้ง : ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
          โทรศัพท์ : 08 9844 3734

21. ดำน้ำที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร

ใครบอกว่าหน้าหนาวไปเที่ยวทะเลไม่ได้ มามะตามเราไปเที่ยวทะเลชุมพรกันที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรกันดีกว่า ชื่อเสียงของทะเลชุมพรขึ้นชื่อว่าสวยงาม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำ ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก เพราะมีความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลเป็นอย่างมาก หาดทรายขาวละเอียด เต็มไปด้วยฝูงปลาและปะการัง โดยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เช่น "เกาะมาตรา" เกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาดำน้ำดูปะการัง

          "เกาะลังกาจิว" เกาะสัมปทานรังนก ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะครั้งหนึ่งรัชกาลที่ 5 เคยทรงประพาสทอดพระเนตรการเก็บรังนกที่เกาะแห่งนี้ และทรงจารึกพระปรมาภิไธย จปร. ไว้บนผนังหินปากถ้ำ เป็นหลักฐานมาถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมี "เกาะหลักแรด" "หมู่เกาะง่าม" "เกาะมะพร้าว" รวมถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติและท้องทะเลชุมพรได้อย่างเต็มที่

          ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
          เบอร์โทรศัพท์ : 077-558144-6

22. ดอย 360 แม่โถ จังหวัดเชียงใหม่

          ตั้งอยู่ไม่ไกลจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ ตลอดเส้นทางตั้งแต่ตีนดอยจนถึงยอดดอย สองข้างทางอุดมด้วยความสมบูรณ์ของต้นไม้น้อยใหญ่ และดอกไม้ป่าหลากหลายชนิด แน่นอนว่าไฮไลต์ของการมาเที่ยวที่นี่ นั่นคือคุณจะได้ชื่นชมวิวธรรมชาติได้แบบ 360 องศา ตอนเช้าสามารถดูทะเลหมอกพร้อมแสงแรกของวัน ยามเย็นเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ตกแสนโรแมนติก รวมถึงยังมีลานกางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติ เดินขึ้นมาเหนื่อย ๆ ก็นอนพักให้ธรรมชาติบำบัด โดยนักท่องเที่ยวจะเอาเต็นท์มาเอง หรือติดต่อขอเช่าจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถก็ได้เช่นกัน

          ที่อยู่ : ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
          เบอร์โทรศัพท์ : สำนักงานโครงการหลวง สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053 810 765-8

23. เขาสันหนอกวัว จังหวัดกาญจนบุรี

          จุดเช็กอินชมทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,767 เมตร และจัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวปราบเซียนสำหรับนักท่องเที่ยวขาลุยทั้งหลาย เพราะจะต้องฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินไต่ระดับขึ้นสู่ยอดเขาตระหง่าน ขึ้นไปสัมผัสกับวิวบนยอดเขา ชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามสุดสายตา ได้ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินแบบอลังการจนทำเอาติดตรึงใจไปอีกนานแสนนาน

          สำหรับใครที่อยากสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของทะเลหมอกสุดอลังการของเขาสันหนอกวัว จะต้องผจญภัยกันสักหน่อย เพราะต้องเดินขึ้นเขาไปประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5-6 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าจะต้องขึ้นไปค้างบนเขา 1 คืน เป็นอย่างน้อย โดยจุดตั้งแคมป์จะเป็นลานหญ้าโล่งกว้าง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ประมาณหนึ่ง แต่ถ้าต้องการพิชิตเขาสันหนอกวัวแบบจริง ๆ จะต้องเดินเลียบเชิงเขาขึ้นไปอีก ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมเดินขึ้นเขาสันหนอกวัวในช่วงเช้า เพื่อขึ้นไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น

          การท่องเที่ยวเขาสันหนอกวัวสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดจะอยู่ที่ประมาณเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เพราะอากาศจะเย็นสบายและมีทะเลหมอกให้ได้ชมกันเกือบทุกวัน ซึ่งในแต่ละวันทางอุทยานจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ทางที่ดีควรโทรศัพท์สอบถามก่อน หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาแหลม

          ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 034 510 431
          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติเขาแหลม

24. ภูฟ้าไทย จังหวัดเชียงราย

          ตั้งอยู่ที่บ้านร่มฟ้าไทย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย และติดกับแนวชายแดน สปป.ลาว ฝั่งตรงข้ามบ้านเชียงของ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้า เป็นระยะทางห่างไม่เกิน 5 กิโเลมตร เป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตัดกับทะเลหมอกในหุบเขาได้อย่างงามตา ด้วยเพราะภูฟ้าไทยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,515 เมตร จึงทำให้อากาศที่นี่หนาวเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว นักท่องเที่ยวอาจจะได้พบเห็นปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งที่เกาะอยู่ตามยอดหญ้าเป็นบริเวณกว้าง

          ลักษณะเด่นของภูฟ้าไทยอยู่ที่ทางเดินขึ้นที่ค่อนข้างสะดวก ซึ่งเป็นทางเดินระยะทางเพียงแค่ 300 เมตร ข้างบนนักท่องเที่ยวจะได้ฟินกับจุดชมวิวทะเลหมอกในแบบ 360 องศา ขณะเดียวกันยังชื่นชมกับความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน อีกทั้งยังมองเห็นภูชี้ฟ้าบริเวณจมูกสิงโตได้อย่างชัดเจน ที่นี่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละ 200 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าเทศกาล ที่หวังให้ภูฟ้าไทยเป็นที่ระบายนักท่องเที่ยวจากภูชี้ฟ้า

          ที่อยู่ : บ้านร่มฟ้าไทย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย โทรศัพท์ 053 744 674-5 และ 053 717 433

25. ตามล่าหาดอกนางพญาเสือโคร่ง จังหวัดเชียงใหม่

          หากจะพูดถึงไฮไลต์ช่วงหน้าหนาว ส่วนใหญ่จะหนีไม่พ้นการดื่มด่ำความสวยงามของทะเลหมอกพร้อมสายลมเย็น ๆ แต่มีอีกหนึ่งอย่างที่ถือเป็นไฮไลต์ด้วยเช่นกัน นั่นคือ ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย ซึ่งจะบานก็เพียงปีละครั้งเท่านั้น และเมื่อฤดูการล่าดอกนางพญาเสือโคร่งมาถึง วันนี้เรามีสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง มาฝาก เริ่มที่...

          ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) : ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลัก ๆ แล้วจะมีจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งอยู่ด้วยกัน 2 จุด คือ "มุมด้านหน้าสถานีเกษตรขุนวาง" และ "อุโมงค์พญาเสือโคร่ง" (อยู่บริเวณด้านในโครงการ) นักท่องเที่ยวจะรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ท่ามกลางอุโมงค์ดอกไม้ ที่พากันออกดอกสีชมพูสว่างไสวเต็มต้น ทำให้ดอยขุนวางเต็มไปด้วยสีชมพูไปทั่วทั้งดอย

          สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน : ตั้งอยู่ในตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง และตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม เป็นอีกหนึ่งจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เมื่อถึงช่วงเวลาที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานเต็มที่ ตลอดสองข้างทางและในบริเวณหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน รวมทั้งที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะเต็มไปด้วยความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ต่างแข่งกันผลิกลีบบานงดงามยากเกินคำบรรยาย

ศูนย์อนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารีดอยอินทนนท์ : ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่นี่นอกจากเป็นที่เที่ยวเชิงเกษตรแล้ว ยังเป็นศูนย์วิจัยเพาะพันธุ์รองเท้านารีหายากหลากหลายสายพันธุ์อีกด้วย อีกทั้งเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสวย ไฮไลท์จะอยู่ตรงช่วงริมโค้งใกล้กับทางเข้าศูนย์อนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารีดอยอินทนนท์ และบริเวณริมสระน้ำ ออกดอกสีชมพูสวยตัดกับผืนป่าสีเขียว เป็นความสวยงามของธรรมชาติที่สวยลงตัวแบบสุด ๆ

          สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง : โครงการหลวงแห่งแรกของเมืองไทย ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมแปลงผักและพืชผลเมืองหนาว เรียนรู้วิถีเกษตรของชาวไทยภูเขา ที่สามารถเลี้ยงชีพได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง นอกจากนี้ภายในโครงการหลวงดอยอ่างขาง ยังมีจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งสวย ๆ ตั้งแต่บริเวณริมถนนที่วิ่งไปยังสถานี รวมถึงภายในสถานี ที่สำคัญภายในยังมีต้นซากุระสายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่นแท้ ๆ ให้ได้ชมอีกด้วย

          หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว : ตั้งอยู่ในอำเภอเวียงแก่ง จังหวัดเชียงราย (ตรงบริเวณทางขึ้นไปยังภูชี้ฟ้า) ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดของการชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเชียงราย โดยมีเอกลักษณ์ความสวยงามตรงที่ กลีบดอกสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานแซมกับกลีบดอกสีขาวของดอกเสี้ยว ที่สำคัญยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก และสามารถเดินทางไปเที่ยวดอยผาตั้งและภูชี้ฟ้าต่อได้อีกด้วยค่ะ

          สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ : ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเชียงดาว เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากางเต็นท์เพื่อชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสวย รวมถึงภาพความสวยงามของดอยหลวงเชียงดาวเบื้องหน้า ณ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน (ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะประมาณ 200 เมตร) ความพิเศษอยู่ที่คุณได้ชื่นชมดอกนางพญาเสือโคร่งในระดับความสูงใกล้เคียงกับดอยหลวงเชียงดาวที่อยู่ตรงหน้า โดยส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณริมถนน จะเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานชูช่อ สวยงามตลอดสองข้างทาง

          หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ : ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ ก่อนหน้านี้พื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม และได้รับการฟื้นฟูปลูกต้นพญาเสือโคร่ง จนปัจจุบันดอกนางพญาเสือโคร่งขุนแม่ยะ กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานสลับสีกับผืนป่าสีเขียวของดงสน ซึ่งเป็นภาพความสวยงามของธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวอย่างเราจะเห็นได้เพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น

          ที่อยู่ : ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
          เบอร์โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053 248 604

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2562

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ททท. และ park.dnp.go.th

25 ที่เที่ยวหน้าหนาว 2562 ไปดูกันว่าหน้าหนาวนี้เที่ยวไหนดี