30 ที่เที่ยวกรุงเทพฯ ลุยเที่ยววันเดย์ทริปแบบสบาย ๆ

1. พระบรมมหาราชวัง


          เริ่มกันที่ พระบรมมหาราชวัง แลนด์มาร์กสุดอลังการของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร จากเดิมเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต ปัจจุบันพระบรมมหาราชวังถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ต่างเดินทางเข้ามาชมความงดงามของหมู่พระที่นั่งที่ตั้งอยู่เบื้องหลังกำแพงสีขาว และแวะสักการะพระแก้วมรกตที่ประดิษฐานใน วัดพระแก้ว บริเวณพระบรมมหาราชวัง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. (ห้องจำหน่ายบัตรเข้าชม ปิดเวลา 15.30 น.) และโปรดแต่งกายสุภาพ ( ** สำหรับนักท่องเที่ยวที่แต่งกายไม่สุภาพต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ทางสำนักพระราชวังจัดให้)

2. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร


          วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ วัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระบรมมหาราชวัง เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี นอกจากนี้วัดโพธิ์ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเสมือนมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย เพราะเป็นแหล่งรวบรวมวิชาความรู้ด้านต่าง ๆ ทั้งประวัติศาสตร์ วรรณกรรม และการแพทย์ โดยจุดเด่นสำคัญคือพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่มีลักษณะงดงามเป็นอันดับต้น ๆ ปิดทองเหลืองอร่ามทั้งองค์ พระพักตร์อิ่มเอิบ แต่ดูขรึมขลังงามสมส่วนและเปี่ยมพลังด้วยความศรัทธา

3. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร


          วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯ ต่างต้องแวะไปเที่ยวชมวัดอรุณฯ กันสักครั้ง วัดแห่งนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับฝั่งของพระบรมมหาราชวัง เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร มีสัญลักษณ์สำคัญคือพระปรางค์ ซึ่งมีลักษณะทรงขอม องค์พระปรางค์ประธานสูงถึง 81.85 เมตร ประดับด้วยชิ้นเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ จานชามเบญจรงค์สีต่าง ๆ อย่างสวยงาม เปิดให้เข้าไปเที่ยวชมและกราบไหว้ขอพรทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น.

4. วัดราชนัดดารามวรวิหาร


          วัดราชนัดดารามวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นวัดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยเป็นที่ตั้งของ "โลหะปราสาท" ซึ่งมีหลงเหลือเพียงแห่งเดียวของโลกเท่านั้น โดยมีลักษณะเป็นอาคาร 7 ชั้น ลดหลั่นความกว้างกันลงมา อาคารชั้นล่าง ชั้นที่ 3 และชั้นที่ 5 เป็นคูหาและระเบียงรอบ ส่วนชั้นที่ 2 ชั้นที่ 4 และชั้นที่ 6 ทำเป็นคูหาจตุรมุขมียอดเป็นบุษบกชั้นละ 12 ยอด และชั้นที่ 7 เป็นยอดปราสาทจตุรมุขสำหรับประดิษฐานพระบรมธาตุ รวมเป็น 37 ยอด แต่ละชั้นจะมีบันไดวนตรงกลางปราสาทให้เดินขึ้นไป นอกจากนี้ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

5. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร


          วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือวัดภูเขาทอง แลนด์มาร์กที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ริมคลองมหานาคและคลองรอบกรุง เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา สิ่งที่โดดเด่นมากของวัดสระเกศราชวรมหาวิหารก็คือ "พระบรมบรรพต" โดยได้เริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และแล้วเสร็จในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งสูงประมาณ 77 เมตร ด้านบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน ไม่เสียค่าเข้าชม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

6. วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)

          วัดมังกรกมลาวาส ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่างซอยเจริญกรุง 19 และ 21 ภายในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พุทธศาสนาฝ่ายมหายานของคณะสงฆ์จีนนิกายในประเทศไทย เป็นวัดที่มีความเก่าแก่และมีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเยาวราช อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของคนไทยเชื้อสายจีน โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีผู้คนแวะเวียนเข้ามาสักการบูชาขอพรทวยเทพธรรมบาลเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองเป็นจำนวนมาก เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.

8. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร


          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชนแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2402 แต่เดิมเป็น "พระราชวังบวรสถานมงคล" หรือ "วังหน้า" ภายในจัดแสดงศิลปโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่นี่จึงเปรียบเสมือนคลังห้องสมุดขนาดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมอย่างสม่ำเสมอ โดยแบ่งการจัดแสดงเป็นประเภทต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ชาติไทย, ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี, ประณีตศิลป์และชาติพันธุ์วิทยา และอาคารโบราณสถาน เปิดให้เข้าชมทุกวัน (เว้นวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-16.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ virtualmuseum.finearts.go.th

9. ตลาดนางเลิ้ง

          ตลาดบกแห่งแรกในประเทศไทย มนตร์เสน่ห์ที่พบเห็นในย่านนางเลิ้งเห็นจะหนีไม่พ้นตัวอาคารสถาปัตยกรรมแบบเก่าที่สวยงาม เช่นที่ "ศาลาเฉลิมธานี" หรือ "โรงหนังนางเลิ้ง" โดดเด่นด้วยอาคารไม้เก่าแก่หลังใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งศูนย์รวมความเจริญของย่านนี้ พลาดไม่ได้กับการแวะหาของอร่อย ๆ ในตลาดนางเลิ้ง ไม่ว่าจะเป็น สาคูแม่สะอิ้ง, ไส้กรอกปลาแนม, นันทาขนมไทย, ข้าวแกงรัตนา, ส.รุ่งโรจน์ ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเก่าแก่, เนื้อตุ๋นนางเลิ้ง และขนมเบื้องญวนย่าแช่ม บอกเลยว่าอร่อย เหมาะจะซื้อกลับไปเป็นของกินเล่นที่บ้าน

10. ตลาดพลู

          ตลาดพลู ย่านเก่าแก่ในกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี ตั้งอยู่บริเวณถนนเทอดไท ติดกับสถานีรถไฟตลาดพลู นอกจากความคึกคักของผู้คนที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอยแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากิตติศัพท์ของตลาดพลูขึ้นชื่อในเรื่องร้านอาหารอร่อย ๆ ในระดับตำนาน ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงในเรื่องของความอร่อย เพราะคุณจะต้องเอ่ยปากชมคำแรกยันคำสุดท้าย

11. ย่านตลาดน้อย



          ย่านการค้าเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ขยายมาจากสำเพ็ง เป็นชุมชนคนไทยเชื้อสายจีนที่มีเสน่ห์และโดดเด่นไม่แพ้ย่านไหนในกรุงเทพฯ เลยทีเดียว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวย่านตลาดน้อยต้องห้ามพลาดกับเส้นทาง Street Art สวย ๆ อันเกิดจากโครงการย่านจีนถิ่นบางกอกและกลุ่มคนรักตลาดน้อย ที่บอกเล่าเรื่องราวของซอยศาลเจ้าโรงเกือก นอกจาก Street Art เก๋ ๆ แล้ว ย่านนี้ยังมีเส้นทางชมสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ได้แก่ โบสถ์กาลหว่าร์หรือวัดแม่พระลูกประคำ, ธนาคารไทยพาณิชย์ (ตลาดน้อย), ศาลเจ้าโรงเกือก และตึกแถวเก่าถนนทรงวาด เป็นต้น


          ถัดมาไม่ไกลจากย่านตลาดน้อยบริเวณซอยเจริญกรุง 32 นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับการชม Street Art บนกำแพง เอาไว้ให้เราได้ถ่ายรูปเช็กอินเพลิน ๆ 


         และอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจและคลาสสิกไม่แพ้กัน นั่นคือ "สถานีตำรวจดับเพลิงบางรัก หรืออาคารศุลกสถาน (เดิม)" ซอยเจริญกรุง 36 อาคารสามชั้นที่งดงามตามแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก โดยฝีมือชาวช่างอิตาเลียน ทั้งยังถูกกล่าวขานว่าเป็นอาคารที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในสมัยนั้นอีกด้วย


           ถัดมาตรงบริเวณซอยเจริญกรุง 40 นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ "อาสนวิหารอัสสัมชัญ" อาสนวิหารที่มีความเก่าแก่อีกแห่งของกรุงเทพฯ กว่า 200 ปี ปัจจุบันยังใช้เป็นพื้นที่ของการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ มากมาย ความสวยงามของอาสนวิหารอัสสัมชัญ อยู่ที่หอคอยคู่ที่ความสูงและความสวยงามสร้างความโดดเด่นให้กับโบสถ์แห่งนี้อย่างมาก เพดานที่งดงามไปด้วยจิตรกรรมและประติมากรรมปูนปั้นที่จะเป็นการแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ที่ทั้งสวยงามและศักดิ์สิทธิ์ในเวลาเดียวกัน

12. ชุมชนเก่ากุฎีจีน

          ย่านชุมชนเก่าเล็ก ๆ ของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี เสน่ห์ของชุมชนแห่งนี้อยู่ที่การผสมผสานกันของ 3 วัฒนธรรม 3 ศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ และอิสลาม ท่ามกลางความสวยงามและความคลาสสิกได้อย่างลงตัว แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่เพียบ ทั้ง "วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร" "วัดซางตาครู้ส" ที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรม หรือจะเดินแวะในย่านชุมชนกุฎีจีน ที่นี่มี "ขนมฝรั่งกุฎีจีน" อร่อย ๆ ให้คุณได้ลองกิน ภายในชุมชนเต็มไปด้วยตรอกซอกซอยให้คุณได้ลองเข้าไปสำรวจ ทั้งตัวบ้านอาคารทรงโบราณ ศาลเจ้า และมัสยิดคลองบางหลวง ที่ยังคงเปี่ยมด้วยเสน่ห์เหนือกาลเวลา

13. พิพิธภัณฑ์จิม ทอมป์สัน

          พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน ตั้งอยู่ใกล้สนามกีฬาแห่งชาติ ค่อนข้างอยู่ในย่านกลางเมือง เป็นบ้านทรงไทยเก่าแก่ตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมบ้านไทยถึง 6 หลังติดกัน โดยบ้านทรงไทยทั้ง 6 หลังนี้ก็ได้มาจากการที่ จิม ทอมป์สัน นักธุรกิจชาวอเมริกัน และผู้ก่อตั้งบริษัทอุตสาหกรรมทอผ้าไหมไทย ไปติดต่อขอซื้อจากเจ้าของบ้าน 6 คน แล้วนำมาตั้งต่อกันให้เป็นบ้านทรงไทยขนาดใหญ่ ภายในบ้านจะมีของโบราณ และประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจในหลาย ๆ ภาษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ jimthompsonhouse.com

14. ท่ามหาราช

          ที่เที่ยวริมน้ำสุดชิคอีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพมหานคร สำหรับท่ามหาราชที่ปรับปรุงจากท่าเรือเก่าให้กลายมาเป็น Open-air Shopping & Lifestyle Market โดยออกแบบให้ยังคงมีกลิ่นอายของวิถีชีวิตชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีทั้งร้านค้าแฟชั่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ รวมมากกว่า 40 ร้าน อีกทั้งที่นี่ยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), วังหลัง, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย

15. เยาวราช

          ย่านเยาวราช ย่านเศรษฐกิจที่คึกคักตลอดทั้งวัน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจในการไปใช้วันหยุดที่นี่ เพราะมีทั้งแหล่งช้อปปิ้งและไหว้พระมากมาย ซึ่งถ้าหากต้องการเสริมดวงเสริมบารมี ชาวไทยเชื้อสายจีนในละแวกนี้แนะนำให้ไปไหว้พระขอพรกันที่วัดเล่งเน่ยยี่ แต่ถ้าต้องการแบบพุทธก็เดินลัดเลาะไปยังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธทศพลญาณหรือหลวงพ่อโต เมื่อทำบุญเอาฤกษ์เอาชัยเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถไปเดินช้อปปิ้งได้ที่ตลาดสำเพ็งและพาหุรัด ซึ่งมีสินค้าราคาถูกให้ได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ ในช่วงเย็นยังมีร้านอาหารรสชาติอร่อยมากมายให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย

16. ถนนข้าวสาร

          แหล่งแฮงก์เอาท์ของชาวต่างชาติคงหนีไม่พ้นถนนข้าวสาร ย่านที่มีทั้งที่พักราคาถูก ตั้งแต่ระดับห้องเช่า โรงแรม 3 ดาว อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ราคาย่อมเยา บาร์ และร้านค้าให้ช้อปปิ้งในราคาสบายกระเป๋า สีสันและความคึกคักที่แสนมีเอกลักษณ์แบบนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะยกให้ถนนข้าวสารเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเด็ดขาดจ้า

17. ปากคลองตลาด

          ใครที่อยากสดชื่นและตื่นตาไปกับสีสันของดอกไม้นานาชนิดละก็ แนะนำให้มาที่ปากคลองตลาดซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสะพานพุทธ หากกินลมชมวิวสวย ๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มที่แล้ว ลองเดินเท้าลุยมาที่ปากคลองตลาดแห่งนี้ สัมผัสกับความจอแจของพ่อค้าแม่ค้าและผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา เชื่อเลยว่าคุณจะอดใจไม่ได้ที่จะควักสตางค์ซื้อดอกไม้สด ๆ หลากชนิด ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ, ดอกกล้วยไม้ หรือดอกไม้นำเข้าสวย ๆ จากต่างประเทศ

18. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์


          เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ แหล่งท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ากว่า 1,500 ร้าน ซึ่งจำหน่ายทั้งของที่ระลึก เครื่องประดับ เสื้อผ้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ฯลฯ และร้านอาหารอีกกว่า 40 ร้าน มีทั้งร้านอาหารไทย ร้านอาหารฟิวชั่น ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารอิตาเลียน และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากจะได้เดินทอดน่องเสพบรรยากาศโกดังเก่าแล้ว ยังสามารถที่จะชื่นชมเมืองกรุงริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากชิงช้าสวรรค์ยักษ์

19. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลอง) กรุงเทพฯ

          แหล่งเรียนรู้เรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ ตื่นตาตื่นใจกับนิทรรศการต่าง ๆ ทั้งในห้องฉายดาว และส่วนแสดงนิทรรศการรอบห้องฉายดาว ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหัวข้อการแสดงทุก ๆ 2 เดือน ที่นี่เด็ก ๆ และผู่ที่สนใจจะได้เรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และห้วงอวกาศอย่างสนุกสนานและตื่นเต้น เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.30 น. (ปิดบริการวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ sciplanet.org

20. มิวเซียมสยาม


          ตั้งอยู่ที่บริเวณท่าเตียน ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านชาติพันธุ์วิทยา มานุษยวิทยา ที่เกี่ยวข้องกับสังคมไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างสำนึกรักและเข้าใจในประวัติความเป็นมาของผู้คน บ้านเมือง วัฒนธรรมและท้องถิ่นของตน ตลอดจนเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในลักษณะเครือญาติกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้วิธีการจัดแสดงแบบใหม่ ผ่านสื่อเครื่องมือต่าง ๆ ที่ทันสมัย รับรองเลยว่าคุณจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในมุมมองที่สนุกและไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป เปิดให้บริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดให้บริการทุกวันจันทร์) เวลา 10.00-18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ museumsiam.org

21. ตลาดนัดจตุจักร

          ตลาดนัดจตุจักร อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของบรรดาขาช้อปทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ หรือแม้กระทั่งชาวต่างชาติเองที่นิยมมาช้อปสินค้าเมดอินไทยแลนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตลาดนัดที่นี่ได้รวบรวมสินค้าทั้งของเก่า หนังสือและนิตยสาร เสื้อผ้า อาหาร เครื่องเรือน งานฝีมือ ภาพเขียน สัตว์เลี้ยง ต้นไม้ และสินค้าเบ็ดเตล็ดมากมาย นอกจากนี้ยังมีโซนร้านอาหารรสชาติสุดแซ่บหรือของกินเล่นเก๋ ๆ ให้ได้เลือกชิมกันเพียบ ที่สำคัญการเดินทางยังสะดวกสุด ๆ เนื่องจากสามารถมาได้ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน

22. คลองบางหลวง


          ชุมชนเก่าริมน้ำตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายในอดีตและวิถีชีวิตของชาวบ้านแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวรูปทรงเก่าแก่ วัดวาอารามที่แสนสงบร่มเย็น หรือแม้แต่เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันสนุกสนาน

          สิ่งที่น่าสนใจในย่านชุมชนคลองบางหลวง เห็นจะหนีไม่พ้น "บ้านศิลปิน" สถานที่ที่แสดงงานศิลปะทั้งภาพวาดและภาพถ่ายให้ได้ชมกัน และยังถือเป็นบ้านไม้แห่งแรกที่ปลุกชีวิตให้ชุมชนคลองบางหลวงกลับมาคึกคักอีกครั้ง และไม่พลาดหาของอร่อย ๆ ที่ร้าน "ก๋วยจั๊บน้ำข้นคลองบางหลวง" เมนูเด็ดอยู่ที่กวยจั๊บหมู อัดแน่นครบเครื่องทั้ง ไข่ต้ม หมูกรอบ หมูชิ้น ไส้หมู ตับหมู เต้าหู้ทอดกรอบ และกากหมู

23. ตลาดน้ำคลองลัดมะยม

          ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เป็นอีกหนึ่งตลาดน้ำที่ขึ้นชื่อในเรื่องความคึกคัก ตั้งอยู่ริมคลองลัดตาเหนียว หรือที่ชาวบ้านในละแวกนั้นเรียกว่า "คลองลัดมะยม" มีลักษณะเป็นตลาดริมคลองขนาดกว้างขวาง บรรยากาศสบาย ๆ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ โดยมีชุมชนเล็ก ๆ สุดเงียบสงบอยู่โดยรอบ บรรยากาศเหมือนกับตลาดน้ำในต่างจังหวัด แต่อันที่จริงแล้วอยู่แค่เพียงแขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ นี่เอง ถ้ารถไม่ติดใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว ที่นี่มีของกินและสินค้าที่น่าสนใจมากมาย เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำคลองลัดมะยม (Klong Lat Mayom floating market)

24. สำเพ็ง

          แหล่งช้อปปิ้งขายส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ภายในขายสินค้าหลากหลายชนิดทั้งปลีกและส่ง ไม่ว่าจะเป็นกิฟต์ช็อป เครื่องเขียน แฟชั่น เครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ตุ๊กตา ของเล่น เครื่องประดับ และอีกมากมายที่มีให้เลือกกันจนตาลาย ที่สำคัญยังมีราคาถูกกว่าตลาดทั่วไปอีกด้วยนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากซื้อแบบยกโหลหรือหลายชิ้น ราคาก็จะถูกลงไปอีกเช่นกัน ดังนั้นขาช้อปไม่ควรพลาด รีบมาจัดกันโดยด่วน

25. พาหุรัด

          ย่านแหล่งค้าผ้าเก่าแก่ของกรุงเทพฯ และยังเป็นแหล่งชุมชนชาวอินเดียที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน ใครมาเที่ยวที่นี่เป็นต้องสนุกกับการช้อปปิ้งท่ามกลางบรรยากาศและสินค้าที่นำเข้ามาจากอินเดียเป็นส่วนใหญ่ โดยทุกตรอกซอกซอยของย่านนี้จะมีแต่ร้านขายผ้า หากคุณกำลังมาหาซื้อผ้า มาที่นี่รับรองว่าไม่มีผิดหวัง นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น "วัดคุรุดวาราศรีคุรุสิงห์สภา" หรือ "วัดซิกข์" เหล่งรวมชาวซิกข์ในประเทศไทย, ห้าง "ดิโอลด์สยามพลาซ่า" ร้านค้าสินค้าวินเทจ, ห้าง "ไชน่า เวิลด์" หรือห้าง "อินเดีย เอ็มโพเรียม" ก็น่าสนใจไม่น้อย

26. ล้ง 1919

          ล้ง 1919 พื้นที่ประวัติศาสตร์เก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอายุกว่า 160  ปี ตั้งอยู่สุดถนนเชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน พื้นที่จะอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับย่านตลาดน้อย-เยาวราช ที่นี่ได้ถูกพัฒนาขึ้นจากท่าเรือกลไฟเก่าแก่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงมรดกวัฒนธรรม มีความโดดเด่นในเรื่องของศิลปะไทย-จีน มีทั้งพิพิธภัณฑ์ศึกษาประวัติศาสตร์ไทย-จีน พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายสินค้าศิลปะและงานฝีมือของศิลปินรุ่นใหม่ รวมไปถึงพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจบรรยากาศสบาย ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก LHONG 1919
 
27. บ้านบางเขน

          ตั้งอยู่แถวบริเวณย่านบางเขน ตรงข้ามกับกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และติดกับสวนอาหารบางบัว โดดเด่นด้วยลักษณะอาคารตึกไม้ทรงโบราณ ที่มีกลิ่นอายของวันวาน ที่นี่ได้รวบรวมของเก่าสะสมโบราณ ท่ามกลางความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียว เหมาะสำหรับการนัดคุยงานและอ่านหนังสือ รวมถึงยังได้ลิ้มลองอาหารจานเด็ดจากทุกท้องถิ่น ขนมหวานและเครื่องดื่มแสนชื่นใจอีกด้วย ขาดไม่ได้กับมุมที่นั่งและมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะถูกตกแต่งด้วยข้าวของวัตถุโบราณของหายาก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก บ้านบางเขน

28. ช่างชุ่ย

          ช่างชุ่ย หรือตลาดช่างชุ่ย จุดเช็กอินเก๋ ๆ ของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนถนนสิรินธร ในย่านเก่าแก่ของทางฝั่งธนบุรี ที่นี่ถือเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับหลากหลายคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ และยังเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์ที่ดีต่อใจของชาวกรุง ถ้าพูดให้ง่าย ๆ ที่นี่ก็คือพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาผ่อนคลาย กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง จิบกาแฟ อ่านหนังสือ ช้อปปิ้ง ถ่ายรูป และทำกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อการพัฒนาและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์นั่นเอง เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ช่างชุ่ย ChangChui

29. Siam Serpentarium

          พิพิธภัณฑ์งู Siam Serpentarium (สยาม เซอร์เพนทาเรียม) ที่เที่ยวกรุงเทพฯ ที่จะเปิดมุมมองความคิดเรื่องงูให้ต่างไปจากเดิม รวมถึงได้เข้าไปทำความรู้จักโลกของงูให้มากขึ้น โดยภายใน Siam Serpentarium แบ่งพื้นที่ส่วนต่าง ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์งู เรียนรู้วงจรชีวิตงู ตั้งแต่เกิด วิธีการล่า การเอาตัวรอด ตลอดจนการสืบพันธุ์ ด้วยการท่องทะลุผ่านลำตัวงูยักษ์จำลองที่เสมือนมีชีวิต และกิจกรรมเกี่ยวกับงูอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารสไตล์คาเฟ่ "สนาคา คาเฟ่" ที่ตกแต่งในธีมงู และร้านจำหน่ายของที่ระลึก เก๋ไก๋ด้วยดีไซน์งูหลากหลายสี พร้อมด้วยขนม ผลิตภัณฑ์ OTOP และของขึ้นชื่อต่าง ๆ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.30 น. (จำหน่ายบัตรเข้าชมถึงเวลา 17.30 น.) ติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ เว็บไซต์ siamserpentarium.com

30. เที่ยวชิล ๆ สยามสแควร์

          แหล่งช้อปปิ้งเสื้อผ้าแฟชั่นทันสมัยติดกับรถไฟฟ้า BTS สยาม ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของความทันสมัย และเป็นแหล่งโลกของแฟชั่น โรงเรียนกวดวิชา และสังคมเด็กแนว การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของวัยรุ่น และยังมีร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าชั้นนำรวมอยู่กันในย่านนี้มากมาย ปัจจุบันสยามสแควร์มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์เพื่อให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ทำให้สยามสแควร์จึงยังคงเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมสมัยนิยมของวัยรุ่นไทยอยู่เสมอ

          เป็นอย่างไรบ้างคะ ? บอกแล้วว่ากรุงเทพฯ ของเรามีที่เที่ยวดี ๆ ซ่อนอยู่เพียบเลย แถมบางทีเราเองก็ไม่เคยสนใจและมองข้ามไป รีบชวนเพื่อนและเตรียมเมมโมรี่กล้องให้พร้อม แล้วออกไปเที่ยวกรุงเทพฯ ให้สนุกกันดีกว่าค่ะ ^ ^

ขอขอบคุณข้อมูลจาก