20 ที่เที่ยวนครสวรรค์ ในเมือง ปักหมุดที่เที่ยว ที่กิน และไหว้พระได้เลย

          ที่เที่ยวนครสวรรค์ในอำเภอเมือง พาตระเวนไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตต่าง ๆ พร้อมไหว้พระเสริมสิริมงคล และหาของกินยามค่ำคืนด้วย

          อยากไปพักผ่อนชิล ๆ ขับรถไม่นานเกินไป จังหวัดนครสวรรค์ จุดเริ่มต้นของแม่น้ำเจ้าพระยา คือจุดปลายหมายที่เราขอแนะนำ เพราะจากกรุงเทพฯ เดินทางประมาณ 250 กิโลเมตร หรือใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ก็จะได้สัมผัสกับเมืองปากน้ำโพ ที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก และของกินหลากหลาย ซึ่งวันนี้เราได้หยิบเอา ที่เที่ยวนครสวรรค์ ในอำเภอเมืองนครสวรรค์ มาแนะนำกัน เริ่มที่…

          สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครสวรรค์ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขากบ ถนนอัมรินทร์วิถี ตำบลปากน้ำโพ ตรงข้ามกับโรงเรียนนครสวรรค์ ภายในนอกจากจะมี เสาหลักเมือง ที่สร้างด้วยไม้ราชพฤกษ์ให้ได้สักการบูชาแล้ว ยังมีพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี และเทพเทวาต่าง ๆ ให้ได้กราบไหว้ขอพรกันด้วย เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

          ขั้นตอนการนมัสการศาลหลักเมือง

1. จุดเทียนปักในกระถางด้านหน้า
2. จุดธูปเข้าด้านใน เพื่อกล่าวคำบูชาและสักการะ (ธูปไหว้ รอบศาล 37 ดอก, แก้บน 9 ดอก และไหว้หลักเมือง 3 ดอก)
3. ปักธูปในกระถางด้านหน้า
4. ถวายดอกไม้สดและเครื่องสังเวยหรือสิ่งของต่าง ๆ 
5. ปิดทองที่หลักเมืองและองค์พระ 3 พระองค์
6. เชิญทำบุญ

          ศาลเจ้าที่อยู่คู่เมืองปากน้ำโพมาช้านาน คนนิยมไปขอพรในเรื่องต่าง ๆ ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามพาสาน ที่นี่ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง แต่พบจารึกภาษาจีนบนระฆังโบราณระบุว่า นายหงเปียว แซ่พู่ แห่งหมู่บ้านเคอเจี้ยซัน อำเภอวุ้นอี้ (ปัจจุบันคือวุ้นซ้ง) มลฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มอบระฆังใบนี้เมื่อปี พ.ศ. 2413 ซึ่งตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีลักษณะเป็นอาคารครึ่งไม้ครึ่งตึก ยกใต้ถุนสูง ภายในประดิษฐาน เจ้าพ่อเทพารักษ์ (ปึงเถ่ากง) ด้านขวาเป็น เทพเจ้ากวนอู ด้านซ้ายประดิษฐาน เจ้าแม่ทับทิม และมีแท่นบูชาเทพยดาฟ้าดิน 

          โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ โดยการอัญเชิญองค์เทพเจ้าแห่รอบตลาดปากน้ำโพ เพื่อให้ประชาชนสักการบูชา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม แควใหญ่ ปากน้ำโพ

          สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองปากน้ำโพ ตั้งอยู่บนถนนโกสีย์ ริมฝั่งแม่น้ำปิง ภายในประดิษฐาน ปึงเถ่าม่า หรือ เจ้าแม่หน้าผา เป็นเทพประธาน และยังมี ปึงเถ่ากง หรือ เจ้าพ่อหน้าผา ที่สร้างจำลองเจ้าพ่อเทพารักษ์ รวมทั้งเทพเจ้าอื่น ๆ โดยทุกปีจะมีการนำองค์ปึงเถ่ากงและปึงเถ่าม่าเข้าร่วมขบวนแห่ในงานแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ

          ทั้งนี้ มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า มีตายายคู่หนึ่งฝันเห็นหญิงชราผมยาว เนื้อตัวเปียกปอน มาบอกว่าตัวเองลอยน้ำมาจากอยุธยา หนาวมาก ขอให้เอาขึ้นจากน้ำ พอรุ่งเช้าจึงได้ไปริมแม่น้ำซึ่งมีหน้าผาค่อนข้างสูงชัน และได้พบไม้จันทน์ดำขนาดกว้าง 1 ฟุต สูง 2 ฟุต แกะเป็นรูปเจ้าแม่ติดอยู่ในซอกหิน รวมกับไม้ที่แกะเป็นรูปอื่น ๆ จึงอัญเชิญขึ้นมาพร้อมกัน และได้สร้างศาลไม้เล็ก ๆ ไว้บริเวณนั้น ต่อมา เถ้าแก่ง่วนเซ้ง เจ้าของโรงแรมง่วนเซ้งและเจ้าของโรงไม้ขายกระดาน ได้ฝัน 3 วันติดต่อกันว่ามีหญิงชราผมยาวมาขอให้ไปช่วยสร้างศาล เถ้าแก่จึงไปบอกกับ นายคุงเคี้ยม ให้ช่วยตามหาเจ้าแม่ ก็ได้พบศาลไม้ชั่วคราวริมแม่น้ำ จึงขอที่ดินชาวบ้านแถวนั้นสร้างเป็นศาลเจ้าให้ท่าน จากนั้นก็มีการบูรณะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

          สวนสาธารณะประจำเมือง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสวรรค์ ใกล้ทางแยกถนนสายเชียงใหม่-พิษณุโลก สถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายของชาวนครวรรค์ ภายในจะมีหนองน้ำและถนนวงแหวน 2 ชั้นล้อมรอบ ตรงกลางเป็นเกาะที่มีสวนหย่อมและสนามหญ้า นอกจากนี้ยังมี มังกรสวรรค์ มังกรขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยมังกรตัวเล็ก ๆ อีก 4 ตัว เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่น่าไปเช็กอิน

          ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง ในบึงจะมีสัตว์และพืชน้ำนานาชนิด จากการสำรวจพบว่ามีสัตว์อาศัยอยู่ประมาณ 148 ชนิด พืช 44 ชนิด และพบสัตว์หายาก ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร และปลาเสือตอ ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน-มีนาคมของทุกปี จะมีนกเป็ดน้ำจำนวนมากอพยพมาที่บึงแห่งนี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การดูนกประจำถิ่นอื่น ๆ แต่ก็สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไฮไลต์ไม่ควรพลาดคือกิจกรรมล่องเรือชมความงามแห่งสีสันของดอกบัวหลวง บัวสาย บัวกินสาย ที่พากันอวดดอกเบ่งบานเต็มบึงในช่วงเช้าตรู่ด้วย

          เรียนรู้ชีวิตสัตว์น้ำ ณ อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ดเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด อาคารรูปทรงเรือกระแชงที่ภายในมีอุโมงค์ปลายาว 24 เมตร แสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดกว่า 100 ชนิด พร้อมปลาน้ำเค็มอีกหลายพันธุ์ และตื่นตาตื่นใจกับบ่อปลา Touch Pool แบบใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีการดำน้ำให้อาหารปลาโชว์ทุกวัน เวลา 15.00 น. รวมถึงการแสดงโชว์จระเข้หวาดเสียวที่มีทั้งหมด 6 รอบ ได้แก่ 10.30 น., 11.30 น., 12.30 น., 13.30 น., 14.30 น. และ 15.30 น. หยุดทุกวันพุธที่สองของเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลง) ที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nakhonsawanpao.go.th/buengboraphet

          อาคารสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นและทันสมัย เสมือนการมาบรรจบกันของแม่น้ำสำคัญ 4 สาย (ปิง วัง ยม น่าน) ตั้งอยู่บริเวณปลายเกาะยม จุดบรรจบของแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ชื่อ พาสาน มาจากคำว่า ผสาน หมายถึง การรวมกัน แต่พาสานคือการพาคนเข้าไปสานให้เกิดการผสมผสานกันระหว่างคน สถานที่ และช่วงเวลา เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญ ภายในประกอบไปด้วย ส่วนแสดงนิทรรศการ ห้องประชุม สำนักงาน จุดชมทัศนียภาพ และอื่น ๆ ส่วนพื้นที่ใช้สอยภายนอกจะมีลานประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม ลานกิจกรรม สวนริมแม่น้ำ และแพท่าน้ำ เป็นต้น เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.

          วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเขาดาวดึงส์ ตรงข้ามวิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ ติดกับหอชมเมืองนครสวรรค์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัยตอนปลาย แล้วรกร้าง จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2504 มีพระธุดงค์แสวงบุญมาพบเข้า จึงแจ้งให้กรมศาสนาและกรมศิลปากรเข้ามาบูรณะ สิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ พระจุฬามณีเจดีย์ เจดีย์ขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 4 ชั้น ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง 12 ราศี รูปหล่อของพระเกจิอาจารย์ พระพุทธรูปจำลอง และรูปเหมือนของ หลวงพ่อมหาบุญรอด ผู้สร้างเจดีย์แห่งนี้ ชั้นบนสุดประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลองและพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์เมืองและจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม รวมถึง พระพุทธชินสีห์ พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง 5 วา 9 นิ้ว ลักษณะศิลปะผสมรูปแบบสมัยเชียงแสน สุโขทัย และรัตนโกสินทร์

          หอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ใกล้วัดคีรีวงศ์ อาคารหอสูง 10 ชั้น ความสูง 32 เมตร ประกอบด้วย ชั้นที่ 1 เป็นพื้นที่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดนครสวรรค์ ชั้นที่ 2-3 พื้นที่พักผ่อนที่มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร เครื่องดื่ม และดาดฟ้า ชั้นที่ 4-9 จะเป็นบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นที่ 10 ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับชมทัศนียภาพของตัวเมืองนครสวรรค์ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมกลางคืน มีกล้องดูดาวสำหรับคนที่สนใจเรื่องดาราศาสตร์ เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

          วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนถนนโกสีย์ ตำบลปากน้ำโพ ไม่ไกลจากอุทยานสวรรค์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อศรีสวรรค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ปางสุโขทัย ขนาดพระเพลากว้าง 2.50 เมตร สร้างด้วยทองเหลือง และ พระพุทธรูปสองพี่น้อง พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่หันหลังให้กัน เชื่อว่าการหันหลังอาจมีความหมายถึงการให้อภัย ไม่จองเวรจองกรรมกันอีกต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง 

          วัดวรนาถบรรพต พระอารามหลวง ตั้งอยู่บนยอดเขาและเชิงเขากบ ไม่ไกลจากศาลหลักเมืองนครสวรรค์ เดิมชื่อว่า วัดกบ หรือวัดเขากบ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 1962 โดยพระยาบาลเมือง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่พระยาราม ผู้เป็นน้องที่ได้สิ้นพระชนม์ระหว่างทำศึกกับหัวเมืองฝ่ายใต้ ณ เมืองพระบาง (นครสวรรค์) ต่อมา หลวงพ่อทอง สุวณฺโณ ได้ธุดงค์ผ่านมา ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้อยู่บูรณะวัด ซึ่งภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น รอยพระพุทธบาทจำลอง เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และรูปหล่อหลวงพ่อทอง ให้สักการะด้วย ทั้งนี้ วัดสามารถขึ้นได้ 2 ทาง คือ เดินขึ้นบันไดจำนวน 439 ขั้น หรือขับรถขึ้นสู่ยอดเขาได้เลย

          วัดศรีอุทุมพร หรือที่เรียกกันว่า วัดหลวงพ่อจ้อย หรือ วัดวังเดื่อ ตั้งอยู่ที่บ้านวังเดื่อ ตำบลหนองกรด ไม่ไกลจากวนอุทยานเขาหลวง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2485 โดยมี พระครูจ้อย จนฺทสุวณฺโณ พระเถระนักพัฒนาแห่งเมืองปากน้ำโพ ซึ่งเป็นผู้ปกครองวัดมาตั้งแต่แรกเริ่ม (มรณภาพเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2550 สิริอายุ 94 ปี 74 พรรษา) สิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ อุโบสถลอยฟ้า เป็นพระอุโบสถ 2 ชั้น มีเสา 100 ต้น บริเวณประตูทางเข้าจะเป็นปูนปั้นรูปหนุมานกำลังอ้าปาก ประดิษฐานพระพุทธศรีอุทุมพรปฏิมากรรัตนมณี พระพทุธชินสีห์จำลอง และหลวงพ่อสุโขทัยสุขใจ, พระมณฑป ที่มีสรีรสังขารของหลวงพ่อจ้อยให้กราบไหว้ และหอมีดเทพศาสตราวุธ ที่มีมีดหมอขนาดใหญ่ ความยาว 9 เมตร น้ำหนัก 3,000 กิโลกรัม เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดศรีอุทุมพร - วังเดื่อ หลวงพ่อจ้อย

          วัดโบราณที่ตั้งอยู่บนยอดเขาบวชนาค ระหว่างเชิงสะพานเดชาติวงศ์และค่ายจิรประวัติ ในตำบลนครสวรรค์ออก เดิมเรียกว่า วัดลั่นทม วัดเขา หรือวัดเขานครสวรรค์ ก่อนที่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จะตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดจอมคีรีนาคพรต ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น โบสถ์เทวดาสร้าง มีลักษณะเป็นโถงศาลารูปทรงโบราณ ปราศจากผนัง เครื่องบนเป็นไม้สัก มุงกระเบื้อง ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มีเพียงตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อชาวบ้านเริ่มสร้างอุโบสถ พอตกกลางคืนได้ยินเสียงมโหรีปี่พาทย์อึกทึกครึมโครม และแสงสว่างทั่วบริเวณยอดเขา พอไปดูปรากฏว่างานที่ทำไว้นั้นเสร็จหมดแล้ว โดยที่ยังไม่มีใครเข้าไปทำเลย ภายในประดิษฐาน พระพุทธรูปเรือนแก้ว (หลวงพ่อปุ้ย) พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยตอนต้น ประทับบนบัลลังก์หรือฐานชุกชี มียักษ์ 6 ตนดูแลอยู่, มณฑปครอบรอยพระพุทธบาท และพระเจดีย์ที่มีอยู่หลายองค์ เป็นต้น โดยทุกเดือน 12 ของปี จะมีงานนมัสการและปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งเรียกกันว่า "งานวัดเขา" 

          วัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ตั้งอยู่ที่บ้านเกาะหงษ์ ตำบลตะเคียนเลื่อน ชุมชนชาวมอญริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่เสด็จประพาสต้นทางเหนือของพระพุทธเจ้าหลวง (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2449 (ร.ศ. 125) โดยผู้คนนิยมไปสักการะสรีรสังขาร หลวงพ่ออินทร์ อินทโชโต อดีตพระเถระที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะการรักษากระดูกที่หัก แขนหัก ขาหัก ด้วยสมุนไพรและคาถาอาคม นอกจากนี้ที่ วัดเกาะหงษ์ ยังเด่นเรื่อง การเหยียบฉ่า ซึ่งเป็นการรักษาโรคด้วยวิธีโบราณ คือหมอจะนำเท้าจุ่มสมุนไพรแล้วไปเหยียบแผ่นเหล็กที่ร้อนจัด จากนั้นก็ใช้เท้าเหยียบตรงบริเวณที่มีอาการเจ็บป่วยของผู้เข้ารับการรักษา นับเป็นความมหัศจรรย์ของภูมิปัญญาไทย

          อุทยานเทวสถานพระพิฆเนศ ตั้งอยู่ในตำบลกลางแดด ห่างจากฟาร์มแกะทหารช่างประมาณ 3-4 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2552 เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพิฆเนศสีชมพูองค์ใหญ่ ปางประทานพร เชื่อว่าหากได้กราบไหว้ขอพรจะสมหวังดังใจ นอกจากนี้บริเวณตำหนักแดงยังมีรูปปั้นพญานาค 2 องค์ ได้แก่ พ่อปู่นาคาศรีสุทโธ และแม่ย่านาคีศรีปทุมมา ลักษณะอ่อนช้อยและงดงาม รวมถึงรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ให้เข้าเยี่ยมชมและสักการะมากมาย โดยรวมบรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น

          แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเกษตรผสมผสาน อยู่ในความดูแลของกองพันทหารช่างที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ ตำบลกลางแดด อำเภอเมืองนครสวรรค์ ภายในจะมีศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง แหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชาวนา ฟาร์มแกะ สะพานกลางทุ่งนา บึงบัว อุโมงค์พืชผัก ร้านกาแฟ และยังมีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดย่อม โดยช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะปลูกปอเทือง ดาวเรือง และดอกทานตะวัน เพื่อเป็นจุดถ่ายภาพต้อนรับนักท่องเที่ยว เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฟาร์มแกะทหารช่าง นครสวรรค์ 

          ตลาดท่าเรือคลองคาง ตั้งอยู่ที่วัดคลองคาง อำเภอเมืองนครสวรรค์ ตลาดที่เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่น ดำเนินการพัฒนาท่าเรือเก่าในอดีตให้เป็นตลาดท่าเรือคลองคาง ทั้งยังเป็นพื้นที่ให้ชาวบ้านได้เข้ามาทำอาชีพเสริม ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปด้วยในตัว เปิดวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดต้องชม ตลาดท่าเรือคลองคาง 

          ตลาดริมแม่น้ำปิงติดต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศสบาย ๆ มีของกินมากมายทั้งอาหารคาวและหวาน ไม่ว่าจะเป็น ร้านหลี ก๋วยเตี๋ยวหมูบอด ลูกชิ้นปลา, เจ๊วรรณหมูสะเต๊ะ, ร้านปลาหมึกย่างณรงค์ชัย, ร้านฮุยรสเด็ด ข้าวผัด ข้าวหมูทอด, ร้านเฮียจำเนียร ราดหน้ายอดอร่อย, ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาน้ำตกรสเด็ด, ร้านฮุยข้าวผัด, ร้านเปี๊ยกไอศกรีม ลอดช่อง รวมมิตร ทับทิมกรอบ, ร้านขนมครกป้าวิไล, ร้านอ้วนโดนัท, ร้านเก่งเก๋ บัวเกี้ย เช็งทึง และร้านเปรมจิต ไอศกรีมลอดช่องใบเตย เป็นต้น เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น.

          แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองปากน้ำโพ เพราะใช้สัญจรข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและเป็นเสมือนประตูสู่ภาคเหนือด้วย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2485 มีลักษณะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 404.5 เมตร มีทางรถกว้าง 6.50 เมตร ทางเท้าข้างสะพาน 1 เมตร จากนั้นมีการสร้างสะพานขึ้นอีกสะพานหนึ่งคู่กับสะพานเดชาติวงศ์เดิม เรียกว่า สะพานเดชาติวงศ์ 2 ก่อนจะสร้างสะพานเดชาติวงศ์ 3 เพิ่ม ซึ่งปัจจุบันเปิดใช้งานเพียง 2 สะพาน คือ สะพานเดชาติวงศ์ 2 และ 3 ส่วนสะพานเดชาติวงศ์ 1 เปิดให้รถขนาดเล็กสัญจรผ่านเท่านั้น โดยสามารถเดินขึ้นไปชมวิวแม่น้ำสองสีได้

          คลองญวนชวนรักษ์ หรือ เกาะญวน คลองกลางเมืองที่ถูกรีโนเวทให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะของคนนครสวรรค์ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ระยะทางโดยรอบ 2.4 กิโลเมตร ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่อุดมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่  มีลานจัดกิจกรรมและสถานที่ออกกำลังกายด้วย

          นี่เป็นเพียงที่เที่ยวนครสวรรค์ในอำเภอเมืองเพียงไม่กี่แห่งที่เรานำมาแนะนำกัน หากมีโอกาสก็เลือกสัก 2-3 ที่ แล้วตามไปท่องเที่ยวกันดู อ้อ แล้วคราวหน้าเราจะมาอัปเดตที่เที่ยวนครสวรรค์ตามอำเภอต่าง ๆ บ้างนะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

• 14 ที่เที่ยวนครสวรรค์ ไปเที่ยวเมื่อไรต้องขอแวะเช็กอิน
• เขาหน่อ - เขาแก้ว จ.นครสวรรค์ จุดชมวิวสวยสุดท้าทาย
• 10 ร้านอาหารนครสวรรค์อร่อยเด็ด ห้ามใจไม่ให้กินไม่ได้เลย
• แนะนำที่เที่ยวและที่กินอำเภอชุมแสง จ.นครสวรรค์ อำเภอเล็ก ๆ มากเสน่ห์น่าค้นหา
• อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เดินป่าชมธรรมชาติ เที่ยวน้ำตก ตั้งแคมป์นอนดูดาว

ขอบคุณข้อมูลจาก thai.tourismthailand.org, อุทยานแห่งชาติ, วัดจันเสน