วัดสวยภาคเหนือ ชวนเที่ยวไหว้พระเสริมสิริมงคลที่วัดสวย ๆ ในภาคเหนือ

แอ่วเมืองเหนือไปกับ 20 วัดสวยภาคเหนือ ประติมากรรมเลิศ บอกเลยว่าสวยงามตระการตาทุกที่ สายมูทั้งหลายไม่ควรพลาด

ภาคเหนือของประเทศไทย ประกอบไปด้วย 17 จังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งธรรมชาติ ป่าเขา ต้นไม้ดอกไม้นานาพรรณ สายลมพัดพลิ้ว ๆ ให้ได้เย็นสบายคลายร้อน มีศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนาที่วิจิตรตระการตา วิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองที่เรียบง่าย สงบ น่ารัก และเป็นกันเอง ตลอดจนสถาปัตยกรรมและประติมากรรมแสนงดงามที่สะท้อนมาในวัดวาอารามต่าง ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมากมายต่างแวะเวียนมาเที่ยวภาคเหนือได้ตลอดทั้งปีเลย สำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนที่มีความสวยงาม สงบ และเป็นการเพิ่มสิริมงคลให้แก่ตัวเอง เราแนะนำเป็น วัดสวยภาคเหนือ เอาไว้ให้ไปไหว้พระ ทำบุญ เสริมโชคลาภกัน เริ่มกันที่…

แนะนำวัดสวยภาคเหนือ

1. วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย

ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ออกแบบและก่อสร้างโดยศิลปินแห่งชาติที่มีชื่อเสียง คือ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเป็นการถอดแบบมาจากวัดมิ่งเมือง จังหวัดน่าน เดิมทีเป็นวัดเล็ก ๆ ค่อนข้างเสื่อมโทรม แต่ด้วยความตั้งใจ ศรัทธา และปณิธานที่มุ่งมั่น ก่อเกิดเป็นศาสนสถานที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมและงานศิลปะ เต็มไปด้วยลวดลายอ่อนช้อยประณีต ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมวัดนี้อย่างคับคั่งตลอดปี และยังโดดเด่นด้วยอุโบสถที่มีสีขาวบริสุทธิ์สะอาด จนกลายเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พากันเรียกวัดร่องขุ่นว่า วัดขาว (White Temple) ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในจุดเช็กอินของจังหวัดเชียงราย เรียกว่าถ้ามาเชียงรายแล้วไม่มาวัดนี้ถือว่ามาไม่ถึงเลยทีเดียว

ที่ตั้ง : 60 หมู่ 1 ถนนพหลโยธิน ตำบลป่าอ้อดอนไชย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
พิกัด : วัดร่องขุ่น
โทรศัพท์ : 0-5367-3967
เฟซบุ๊ก : วัดร่องขุ่น

2. วัดร่องเสือเต้น จังหวัดเชียงราย

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กวัดสวย ๆ ของจังหวัดเชียงราย กับวัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงราย ไฮไลต์ของวัดนี้คือ อุโบสถสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทอง โดยสีน้ำเงินฟ้าของตัววิหารนั้นแสดงถึงธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ขจรขจายไปทั่วโลก นอกจากนี้ด้านหน้าโบสถ์จะมีบันไดพญานาคที่เน้นลักษณะโครงสร้างเข้มแข็ง เขี้ยวเล็บแหลมคมดูน่าเกรงขาม แต่มีความอ่อนช้อยในแบบล้านนา ทั้งนี้ บริเวณรอบอุโบสถจะมีสัตว์ในป่าหิมพานต์อยู่ด้วย สำหรับภายในวิหารมีพระประธานสีขาวองค์ใหญ่ ชื่อว่า “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” และมีภาพเขียนจิตรกรรมเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติที่มีความอ่อนช้อยสวยงามของลายเส้น ใครชอบงานศิลปะ ชอบถ่ายรูป บอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะมาชมความสวยงามและมาไหว้พระที่นี่

ภาพจาก Mongkhon Pookpun / Shutterstock.com

ที่ตั้ง : 306 หมู่ 2 ถนนแม่กก ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
พิกัด : วัดร่องเสือเต้น
โทรศัพท์ : 06-4347-3636
เฟซบุ๊ก : วัดร่องเสือเต้น

3. วัดบ้านเด่น จังหวัดเชียงใหม่

ชื่อเต็มคือ วัดบ้านเด่นสะหลีศรีเมืองแกน เนื่องจากในวัดเต็มไปด้วยต้นโพธิ์ ที่คนเหนือจะเรียกว่า ต้นสะหลี และวัดตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าโบราณที่เรียกว่า เมืองแกน จึงเป็นที่มาของชื่อวัดไปโดยปริยาย วัดนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดสวยที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะล้านนาประยุกต์ ภายใต้แนวคิดที่ว่าให้เป็นสถานที่พักผ่อนทางจิตใจมากกว่าการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา จึงเป็นธรรมกุศโลบายในการสร้างวัดให้งดงามเพื่อดึงดูดผู้คนให้เข้าวัด ชมความสวยงามที่แฝงไว้ด้วยคติธรรม เป็นการชักนำชาวโลกยุคนี้ให้ใกล้ชิดศาสนา และซึมซับในคำสอนขององค์พุทธศาสดา นอกจากนี้ภายในวัดยังเป็นสถานที่นมัสการพระธาตุประจำปีเกิด 12 ราศี และยังมีอุโบสถ หอไตร หอกลอง วิหารเสาอินทขิล กุฏิไม้สักทองทรงล้านนา พระวิหาร พระสถูปเจดีย์ เพื่อให้กราบไหว้บูชาด้วย

ภาพจาก KobchaiMa / Shutterstock.com

ที่ตั้ง : 119 หมู่ 8 ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : วัดบ้านเด่น
โทรศัพท์ : 08-1961-2396

4. วัดหลวงขุนวิน จังหวัดเชียงใหม่

นับเป็น Unseen แห่งใหม่ของเมืองไทยกับวัดสวยใจกลางป่าในจังหวัดเชียงใหม่ ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์และเงียบสงบ ตั้งอยู่ในอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่มีอายุยาวนานกว่า 700 ปี ไฮไลต์ของวัดนี้คือ ความสวยงามของอาคารไม้ และเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อีกทั้งยังมีอุโบสถ 2 หลัง คือ อุโบสถพระยืน (ปางจงกรมแก้ว) และอุโบสถพระนอน (ปางปรินิพพาน) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลัก และมีบันไดพญานาค สวยงามอ่อนช้อยแบบฉบับล้านนาด้วย นอกจากนี้วัดป่าแห่งนี้ยังมีเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างคือ อยู่ไกลจากชุมชน ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง มีแค่พลังงานจากแสงอาทิตย์ อีกทั้งถนนหนทางก็ค่อนข้างลำบาก เป็นทางขึ้นเขา บางช่วงมีความสูงชันและเป็นทางลูกรังสลับทางปูน ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางเป็นอย่างมาก

ที่ตั้ง : ตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : วัดหลวงขุนวิน
โทรศัพท์ : 06-3801-7368
เฟซบุ๊ก : วัดหลวงขุนวิน

5. วัดภูเก็ต จังหวัดน่าน

ตั้งอยู่ที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งภาคเหนือเรียกว่า ภู ส่วนคำว่า เก็ต มาจากวัดตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านเก็ต ดังนั้นจึงได้เป็นชื่อวัดภูเก็ต ที่หมายถึงวัดบ้านเก็ตที่ตั้งอยู่บนดอยนั่นเอง จัดเป็นหนึ่งในวัดที่มีภูมิทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นทุ่งนาสีเขียวกว้างใหญ่ มองไปไกล ๆ จะเห็นภูเขาของวนอุทยานดอยภูคา และอีกฝั่งหนึ่งของวัดยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นด้วย ภายในวัดมีทั้งอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ จิตรกรรมภาพฝาผนังสามมิติ รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อแสนปัว หรือหลวงพ่อพุทธเมตตา” ที่ศักดิ์สิทธิ์ ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกด้วย

นอกจากนี้ก็มี ภูเก็ต สนธยา เทมเปิลสเตย์ หรือโรงแรมธรรมะ เป็นที่พักสำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรมหรือนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นโรงแรมธรรมะแห่งแรกในไทยที่สร้างอาคารและห้องพักให้เหมือนกับโรงแรมทั่วไป เพื่อปฏิบัติธรรมโดยเฉพาะและไม่ต้องเสียค่าที่พักอีกด้วย

ที่ตั้ง : บ้านเก็ต หมู่ 2 ตำบลวรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่าน
พิกัด : วัดภูเก็ต
โทรศัพท์ : 084-046-9745
เฟซบุ๊ก : วัดภูเก็ต

6. วัดนันตาราม จังหวัดพะเยา

เดิมเรียกว่า วัดจองคา (เพราะมุงด้วยหญ้าคา โดยคำว่า จองหรือจ้อง ภาษาเหนือแปลว่า ร่มเงา) ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เป็นวัดที่มีความสวยงาม มีชื่อเสียง และมีสถาปัตยกรรมคล้ายวัดของชาวไทใหญ่-เมียนมา สร้างจากไม้สักทั้งหลัง หลังคาหน้าจั่วยกเป็นช่อชั้นลดหลั่นกันสวยงาม มุงด้วยแป้นเกล็ด เพดานประดับประดาด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตรสวยงามไม่ซ้ำกัน

อีกหนึ่ง Unseen ในวัดนันตารามนั้นอยู่ที่ไม้สักทองแกะสลักด้านหลังพระประธานสีทองอร่ามเรืองปางมารวิชัย ซึ่งเป็นงานแกะสลักลวดลายพรรณพฤกษาที่มีความอ่อนช้อย และมีรูปเทพคิวปิดหรือกามเทพตัวน้อยแทรกอยู่ด้วย โดยเชื่อว่าอาจจะเป็นอิทธิพลจากงานศิลปกรรมอังกฤษ เนื่องจากวัดสร้างขึ้นแบบผสมผสานสถาปัตยกรรมหลายชนิดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมของชาวปะโอ เมียนมา จีน อินเดีย และล้านนา เป็นต้น

ที่ตั้ง : 1 หมู่ 13 ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
พิกัด : วัดนันตาราม เชียงคำ พะเยา
โทรศัพท์ : 0-5445-1636, 088-959-9156
เฟซบุ๊ก : วัดนันตาราม เชียงคำ พะเยา

7. วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่

ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ เป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุช่อแฮ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองแพร่ และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีขาลด้วย โดยองค์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงเหลี่ยมย่อมุม ศิลปกรรมแบบเชียงแสนประณีตสวยงาม สูง 33 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร สร้างด้วยอิฐโบกปูน หุ้มด้วยแผ่นทองเหลืองลงรักปิดทอง ภายในบรรจุพระเกศาธาตุและพระศอกข้างซ้ายของพระพุทธเจ้า มีความเชื่อว่าหากได้มาสักการะพระธาตุช่อแฮจะเป็นการเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต และทำให้ชีวิตปลอดภัยแคล้วคลาดศัตรู นอกจากนี้ชาวล้านนายังมีความเชื่อว่า ใครที่เกิดปีขาล ควรหาโอกาสมาไหว้พระธาตุช่อแฮ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิด อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะจะเป็นการเสริมสิริมงคลครั้งใหญ่ ได้รับอานิสงส์ผลบุญสูงล้น

ที่ตั้ง : 1 หมู่ 11 ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
พิกัด : วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง
โทรศัพท์ : 0-5459-9209
เฟซบุ๊ก : วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง

8. วัดพระธาตุดอยกองมู จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ตั้งอยู่ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมชื่อวัดปลายดอย เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของคนแม่ฮ่องสอน โดยคำว่า กองมู เป็นภาษาไทใหญ่ แปลว่า พระเจดีย์ ไฮไลต์ที่โดดเด่นของวัดนี้คือ เจดีย์สีขาว 2 องค์ โดยองค์ใหญ่สร้างโดยจองต่องสู่ คหบดีชาวเมียนมา เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวกเบื้องซ้าย ซึ่งนำมาจากประเทศเมียนมา และองค์เล็ก สร้างโดยพระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวา ซึ่งนำจากประเทศเมียนมาเช่นกัน ถือเป็นวัดและพระธาตุประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลประจำปีหลายงาน เช่น วันปีใหม่ วันสงกรานต์ และวันออกพรรษาด้วย

ที่ตั้ง : ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : วัดพระธาตุดอยกองมู
โทรศัพท์ : 0-5361-1221
เฟซบุ๊ก : วัดพระธาตุดอยกองมู

9. วัดพระธาตุลําปางหลวง จังหวัดลำปาง

ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะคา เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ และเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุลำปางหลวง พระธาตุประจำปีฉลู โดยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนา ภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่าง ๆ ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศาและพระอัฐิธาตุจากพระนลาฏข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง นอกจากนี้ที่รั้วทองเหลืองรอบองค์พระธาตุยังมีรูกระสุนปืนที่หนานทิพย์ช้างยิงท้าวมหายศปรากฏอยู่ด้วย นับเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองรถม้าที่นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล

ที่ตั้ง : 271 ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
พิกัด : วัดพระธาตุลําปางหลวง
เฟซบุ๊ก : วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง

10. วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ จังหวัดลำปาง

อีกหนึ่งวัดสวยในจังหวัดลำปาง และน่าอัศจรรย์ใจจนได้เป็นที่เที่ยว Unseen กับวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ หรือชื่อเดิมคือ วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง ตั้งอยู่ที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ไฮไลต์ของวัดนี้ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาเยี่ยมชมคือ เจดีย์สีขาวมากกว่า 10 องค์ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า มีความสูงถึง 815 เมตร จากระดับน้ำทะเล และตั้งอยู่ภายในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท บนยอดเขาแห่งนี้มีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ ในสมัยก่อนนั้นยังไม่มีการทำถนนขึ้นสู่ดอย ดังนั้นพุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธาจึงต้องเดินเท้าผ่านป่าทึบและหน้าผาสูงขึ้นไปสักการบูชารอยพระพุทธบาทแห่งนี้ แต่ปัจจุบันทางวัดจะมีรถรับ-ส่งเพื่อขึ้นไปด้านบน และต้องเดินเท้าขึ้นบันไดเล็ก ๆ ที่มีความชันขึ้นไปอีกที ซึ่งจากด้านบนก็ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะสามารถชมทิวทัศน์ของภูเขาสีเขียวและอำเภอแจ้ห่มแบบกว้างไกลได้ 360 องศาเลยทีเดียว

ที่ตั้ง : หมู่บ้านทุ่งทอง หมู่ 7 ถนนแจ้ห่มเมืองเหนือ ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
พิกัด : วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์
โทรศัพท์ : 06-2264-9928

11. วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน

เป็นวัดพระอารามหลวงประจำจังหวัดลำพูน และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งอดีตนับเป็นเวลากว่าพันปี ในอดีตนิยมเรียกว่า วัดเจดีย์หลวง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน มีถนนล้อมรอบ 4 ด้าน มีสิ่งที่น่าสนใจคือ ซุ้มประตู ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรตระการตา ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า ด้านในยังมีองค์พระธาตุหริภุญไชย ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา นอกจากนี้ยังมีโคมประทีปและแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป จึงนับเป็นปูชนียสถานสำคัญอีกแห่งหนึ่งในภาคเหนือด้วย

ที่ตั้ง : ถนนรอบเมืองใน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
พิกัด : วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร
โทรศัพท์ : 08-7714-4448, 08-9955-2174
เฟซบุ๊ก : วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน

12. วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์

เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่บนเนินเขาเต่า หรือเขาทอง บ้านพระแท่น ในอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้ใดสร้างและสร้างตั้งแต่สมัยใด ด้านในวิหารมีพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งเป็นพุทธเจดีย์ ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลง มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาวประมาณ 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ที่ฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระมณฑปศิลปะเชียงแสนครอบ แม้จะไม่มีหลักฐานระบุว่าพระแท่นนี้อายุเก่าแก่เพียงใด แต่ก็มีความเชื่อกันว่ามีประวัติความเป็นมาในทางพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง และทางราชการได้นำพระแท่นศิลาอาสน์ไปประดิษฐานไว้ในตราประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แสดงถึงความศรัทธาเลื่อมใสและความสำคัญขององค์พระแท่นศิลาอาสน์ได้เป็นอย่างดีด้วย

ภาพจาก kwanchai / Shutterstock.com

ที่ตั้ง : ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
พิกัด : วัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง
โทรศัพท์ : 06-4692-5398
เฟซบุ๊ก : วัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง

13. วัดพระพุทธบาทดอยโล้น จังหวัดตาก

เป็นวัดป่าสายปฏิบัติ ตั้งอยู่บนส่วนยอดของดอยโล้นที่มีลักษณะเหมือนช้างหมอบ ท่ามกลางป่าไม้ร่มรื่น ภายในบริเวณวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ สมเด็จมหาสากยะมุณีศรีสรรเพชร พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่มีพุทธลักษณะงดงาม หน้าตักกว้าง 20 เมตร สูง 38 เมตร นอกจากนี้ยังมีรอยพระพุทธบาทตั้งอยู่บนยอดเขาสูง มีมณฑปสร้างครอบไว้ในบริเวณเดียวกัน ใครที่อยากขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 730 ขั้นที่มีความชัน ด้านบนยอดยังมีบ่อน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านถือว่าเป็นบ่อน้ำทิพย์ เมื่อถึงเดือนเมษายนของทุกปี ช่วงหลังประเพณีสงกรานต์ ชาวบ้านจะจัดประเพณีขึ้นเขาไหว้รอยพระพุทธบาทนี้ด้วย

ที่ตั้ง : หมู่ 3 บ้านฉลอม ถนนบ้านตาก-แม่ระเลา ตำบลท้องฟ้า อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก
พิกัด : วัดพระพุทธบาทดอยโล้น
โทรศัพท์ : 08-1887-4391
เฟซบุ๊ก : วัดพระพุทธบาทดอยโล้น

14. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ริมฝั่งแม่น้ำน่านด้านทิศตะวันออก เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก ภายในวัดเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช หรือพระใหญ่ พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง และเป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนจากทั่วสารทิศ วัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรมที่งดงามยิ่ง ถือได้ว่าเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลก

ภาพจาก NatureGift / Shutterstock.com

ที่ตั้ง : 92/3 ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
พิกัด : วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ
โทรศัพท์ : 0-5525-8966
เฟซบุ๊ก : วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ พิษณุโลก

15. วัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัย

เป็นศาสนโบราณสถานแห่งหนึ่งในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ หน้าตักกว้าง 11.30 เมตร สูง 15 เมตร มีนามว่า พระอจนะ เดิมทีองค์พระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานอยู่ในมณฑป แต่ปัจจุบันยอดพระมณฑปได้พังทลายหมดแล้ว เหลือแต่เพียงผนังกำแพงโดยรอบ ไม่มีหลังคาปกคลุม จึงกลายเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งจนถึงทุกวันนี้

สำหรับพระพุทธอจนะนั้นเป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และมีมนตร์เสน่ห์ รวมถึงมีเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมและสักการะไม่ขาดสาย ถือเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย

ที่ตั้ง : ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
พิกัด : วัดศรีชุม
เฟซบุ๊ก : วัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัย

16. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จังหวัดเพชรบูรณ์

อีกชื่อหนึ่งคือ วัดพระธาตุผาแก้ว ตั้งอยู่ที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม รอบด้านมองเห็นผาซ่อนแก้วและทิวเขาสลับซับซ้อน มีศาลาปฏิบัติธรรมประดิษฐานพระพุทธรูปหยกงดงาม ภายในตกแต่งด้วยภาพวาดศิลปะสวยงามแปลกตา มีเจดีย์พระธาตุ 9 ชั้น ชื่อว่า พระเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้ผู้คนได้กราบไหว้สักการะ และใกล้กับเจดีย์วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ยังมีมหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เป็นองค์พระพุทธรูปสีขาว ประดิษฐานเรียงกัน 5 องค์ มองเห็นโดดเด่นแต่ไกล

ที่ตั้ง : 95 หมู่ 7 บ้านทางแดง ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
พิกัด : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
โทรศัพท์ : 06-3359-1554
เฟซบุ๊ก : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

17. วัดใหม่ปลายห้วย จังหวัดพิจิตร

เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2537 เดิมทีเป็นกระท่อมหลังเล็ก ๆ ในเนื้อที่ 1 งาน หลังจากนั้นก็มีชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคที่ดินเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการขยายพื้นที่ของวัด จนปัจจุบันมีเนื้อที่โดยรวม 92 ไร่ และสถานที่ปฏิบัติธรรมอีก 48 ไร่ รวมถึงมีการดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัดใหม่ปลายห้วย เช่น ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ อุโบสถ ศาลาปฏิบัติธรรม เจดียสถาน ลานธรรม คติธรรม นรก สวรรค์ สุภาษิตไทย และหลวงปู่เทพโลกอุดร พระยืน พระนั่ง พระนอนที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนล่าง จนมีความสวยงาม ร่มเย็น เหมาะสมและเอื้อแก่การปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวและผู้สนใจในธรรมแวะเวียนมาไม่ขาดสาย

ที่ตั้ง : 108 หมู่ 11 ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร
พิกัด : วัดใหม่ปลายห้วย
โทรศัพท์ : 06-1189-9929
เว็บไซต์ : www.watmaiplaihouy.com

18. วัดพระบรมธาตุนครชุม จังหวัดกำแพงเพชร

เป็นวัดเก่าแก่อยู่คู่เมืองกำแพงเพชร ตั้งอยู่ในตัวอำเภอเมืองกำแพงเพชร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ภายในวัดมีเจดีย์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “พระบรมธาตุเจดีย์” เป็นเจดีย์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ (ดอกบัวตูม) ตั้งเรียงกัน 3 องค์ อยู่บนฐานเดียวกัน โดยองค์กลางของพระเจดีย์นั้นประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ อยู่ภายในภาชนะเงินรูปสำเภา นอกจากนี้ในวัดยังมีสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งชาวกำแพงเพชรเชื่อกันว่าเป็นต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระยาลิไททรงปลูกเมื่อ พ.ศ. 1900 เป็นต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ประมาณ 9 คนโอบด้วย

ที่ตั้ง : ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
พิกัด : วัดพระบรมธาตุ
โทรศัพท์ : 08-1785-3826
เฟซบุ๊ก : วัดพระบรมธาตุ กำแพงเพชร

19. วัดคีรีวงศ์ จังหวัดนครสวรรค์

ตั้งอยู่บนเขาในเขตตัวเมืองนครสวรรค์ ภายในบริเวณวัดประกอบด้วย พระอุโบสถ สมเด็จพระพุทธโคดมจำลอง ศาลาพุทธานุภาพ วิหารหลวงพ่อโต และพระจุฬามณีเจดีย์ ซึ่งนับว่าเป็นปูชนียสถานสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด ถือเป็นองค์มหาเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครสวรรค์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมภายในเจดีย์ขนาดใหญ่แห่งนี้ซึ่งมีทั้งหมด 4 ชั้น โดยชั้นสุดท้ายจะเป็นจุดชมวิวเมืองนครสวรรค์ในมุมกว้างแบบไกลสุดตา ยิ่งในวันท้องฟ้าแจ่มใส อากาศเป็นใจ จะสามารถมองเห็นได้ถึงบึงบอระเพ็ด ตลาดปากน้ำโพ อุทยานสวรรค์ ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ และเขาจอมคีรีนาคพรต ได้เลยทีเดียว

ที่ตั้ง : 18 ถนนมาตุลี ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
พิกัด : วัดคีรีวงศ์
โทรศัพท์ : 0-5622-1633
เฟซบุ๊ก : วัดคีรีวงศ์

20. วัดถ้ำเขาวง จังหวัดอุทัยธานี

ชื่อเดิมคือ ธรรมสถานถ้ำเขาวง ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เป็นธรรมสถานเพื่อการปฏิบัติธรรมที่อยู่บนเขา ลักษณะเป็นศาลาทรงไทยประยุกต์ 4 ชั้น สร้างด้วยไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้าน รวมถึงไม้เก่าจากเรือนไทยที่มาจากหลายจังหวัด และภายในอาคารยังประกอบไปด้วย ศาลา วิหาร กุฏิ หอระฆัง และโบสถ์ ที่สร้างอยู่ในสถานที่เดียวกัน ด้านหลังของตัวอาคารมีการจัดภูมิทัศน์ที่สวยงาม ฉากหลังเป็นภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าวัดยังมีบ่อน้ำและสวนที่ตกแต่งด้วยหิน ไม้ดัด และไม้ประดับ ถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงามและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการมาปฏิบัติธรรมและเที่ยวชมธรรมชาติมาก ๆ

ที่ตั้ง : ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
พิกัด : วัดถ้ำเขาวง
โทรศัพท์ : 08-7845-7163
เฟซบุ๊ก : วัดถ้ำเขาวง

ใครว่าไปภาคเหนือจะมีที่เที่ยวแค่ภูเขา ดูหมอก เที่ยวสวนดอกไม้ ลองเปลี่ยนแพลนไปแอ่ววัดสวย ๆ ชมความวิจิตรตระการตาของสถาปัตยกรรมล้านนากันบ้าง นอกจากความสวยงามแล้ว ยังได้กราบไหว้พระ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองด้วย แต่ขอตรวจหวยไม่ได้นะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ ไหว้พระ ที่เที่ยวภาคเหนือ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เที่ยว 20 วัดสวยภาคเหนือ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรให้ชีวิตดี