15 อุทยานแห่งชาติ หน้าหนาวนี้ชวนไปกางเต็นท์นอนชิล ๆ

          หนาวนี้อยากชวนไปนอนกอดหมอก ห่มดาว กับ 15 อุทยานแห่งชาติทั่วไทย ที่มีธรรมชาติและทัศนียภาพที่สวยงาม เหมาะแก่การไปนอนกางเต็นท์รับลมหนาว นอนนับดาว และชมทะเลหมอก

          พออากาศเริ่มเย็น ๆ ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวกันเท่าไรใช่ไหมล่ะ รู้นะ...ว่าอยากหนีไปเที่ยวกันแล้ว หลาย ๆ คนอาจจะวางแผนเที่ยวหน้าหนาวกันไปบ้างแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี อยากชวนให้ไปนอนกางเต็นท์รับลมเย็น ๆ ในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ กันดูสักครั้งค่ะ บรรยากาศสวยงามใช้ได้เลยล่ะ เช้าตื่นมาก็ดูหมอก ตอนเย็นก็นอนนับดาวเพลิน ๆ อากาศก็สดชื่น เหมือนได้เติมพลังกายกันอย่างเต็มที่ และถ้ายังไม่รู้จะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติไหนดี ลองมาดูทางนี้ เราจะพาไปแนะนำ 15 อุทยานแห่งชาติน่าเที่ยวในหน้าหนาวกัน มีที่ไหนบ้าง ตามมาเลย

1. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

          อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 482.4 ตารางกิโลเมตร เป็นที่ตั้งของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ก็คือ ดอยอินทนนท์ มีความสูงถึง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นส่วนหนึ่งของแนวเขตเทือกเขาถนนธงชัยที่ทอดตัวตามแนวเหนือ-ใต้ ทอดตัวมาจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศเนปาล ในฤดูหนาวบางปี อากาศก็ลดลงไปจนติดลบเลยทีเดียว

สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

          - น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกสูงใหญ่ มีความสูงมากถึง 280 เมตร กว้าง 80 เมตร สายน้ำมากมายจะไหลหลั่งผ่านหน้าหินลงมาคล้ายกับผ้าม่านสีขาวผืนใหญ่  มีต้นไม้มากมายรายล้อม บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อน

          - สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ พื้นที่ที่ดำเนินงานวิจัยด้านไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผัก และไม้ผล รวมทั้งถ่ายทอดผลงานวิจัยไปสู่การส่งเสริมให้เป็นรายได้ของครอบครัวเกษตรกรในหมู่บ้านรอบ ๆ สถานี พร้อมกับการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานด้านสังคมและการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งมีแปลงดอกไม้สวย ๆ ให้เที่ยวชม และมีร้านอาหารให้ได้ไปแวะพักกินอาหารอร่อย ๆ ด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ The Royal Agricultural Station Inthanon

          - กิ่วแม่ปาน เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ด้วยมีป่าไม้ และทุ่งหญ้าสวยงาม พร้อมทั้งมีจุดชมวิวทะเลหมอกสวยปังให้นักท่องเที่ยวไปชมวิวเพลิน ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เดินลัดเลาะกิ่วแม่ปาน เสพความงามของสวรรค์บนดิน

          - พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2530 และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ 2535 ทั้งสองพระมหาธาตุมีสถาปัตยกรรมสวยงาม รายล้อมไปด้วยสวนสวย ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ควรค่าแก่การไปแวะเที่ยวชม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พระมหาธาตุนภเมทนีดล-พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เจดีย์คู่พระบารมีในหลวง ร.9 และพระราชินี


8. อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี

          อุทยานแห่งชาติพุเตย ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เนื้อที่ประมาณ 198,422 ไร่ พื้นที่ของที่นี่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงชันติดต่อกันสลับซับซ้อน ยอดเขาที่สูงที่สุด คือ ยอดเขาเทวดา มีระดับความสูง 1,123 เมตร เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมความสวยงามได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้ได้เที่ยวชมอย่างครบครัน


สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติพุเตย

          - น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ และน้ำตกตะเพินคี่น้อย โดยน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณขึ้นหมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตย ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มี 2 ชั้น สูงชั้นละประมาณ 5-6 เมตร รอบด้านเป็นป่าเขาสวยสมบูรณ์แบบ ส่วนน้ำตกตะเพินคี่น้อย เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ไหลลงสู่หน้าผาไม่สูงมากนัก สามารถลงเล่นน้ำได้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การเที่ยวน้ำตกทั้ง 2 แห่งคือ ระหว่างเดือนกันยายน-ธันวาคม

          - ยอดเขาเทวดา มีความสูงประมาณ 1,123 เมตร มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ผู้ที่ชอบการผจญภัยเดินขึ้นไปชมวิวความสวยงามของพื้นที่โดยรอบของยอดเขาเทวดา ในช่วงหน้าหนาว จะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกันอย่างจุใจ ถือว่าเป็นที่เที่ยวภูเขาอีกแห่งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตะลุยเส้นทางธรรมชาติป่าพุเตย พิชิตยอดเขาเทวดาสูงที่สุดในสุพรรณบุรี

9. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

            อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีพื้นที่ทั้งในอำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมพื้นที่กว่า 1,821,687.84 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลักษณะเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ และหน้าผาที่สวยงาม

สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

          - อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน มีเนื้อที่ประมาณ 46.5 ตารางกิโลเมตร ภายในอ่างเก็บน้ำมียอดเขา และเนินเขาโผล่พ้นน้ำมากมาย กลายเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม เหมาะแก่การนั่งเรือชมวิว บริเวณริมอ่างเก็บน้ำยังมีลานกางเต็นท์ให้ได้มาชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นหลังสันเขาตะนาวศรี และนอนดูดาวยามค่ำคืน และยังมีสะพานแขวน ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยาน ให้ได้ไปถ่ายรูปเก๋ ๆ กันด้วย

          - เขาพะเนินทุ่ง เป็นยอดเขาสูง ซึ่งสามารถชมวิวทะเลหมอกได้อย่างสวยงามมาก ๆ นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งรถกระบะขึ้นไปยังจุดชมวิว ในช่วงหน้าหนาวนอกจากจะได้เห็นทะเลหมอกสวย ๆ แล้ว ก็ยังจะได้สัมผัสกับอากาศหนาวสุดเย็นฉ่ำอีกด้วย

          - น้ำตกป่าละอู อยู่ในท้องที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีมากถึง 15 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปได้ถึงน้ำตกชั้นที่ 7 เท่านั้น โดยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวน้ำตกจะสวยงาม สดชื่นไปด้วยสายน้ำและป่าสีเขียวโดยรอบ มีพื้นที่กางเต็นท์อยู่ใกล้กับน้ำตก

          - ผีเสื้อแคมป์บ้านกร่าง ในทุก ๆ ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ของทุกปี ที่บริเวณแคมป์บ้านกร่างจะมีผีเสื้อนับหมื่นนับแสนตัว ออกมาจากป่าให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉม มีสีสันสวยงาม สร้างความสดชื่นให้กับป่าแก่งกระจานได้อย่างดี นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมและถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การชมผีเสื้อ คือช่วงเวลาประมาณ 08.00-14.00 น.


          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (Kaeng Krachan National Park)

10. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

          อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในจังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดสระบุรี และจังหวัดนครราชสีมา รวมเนื้อที่ 1,355,468.75 ไร่ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าในเขาใหญ่ จึงได้รับคัดเลือกเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี พ.ศ. 2548


สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

          - น้ำตกเหวนรก ตั้งอยู่ในตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร ลักษณะของน้ำตกมีการไหลตกประมาณ 90 องศา รวมความสูงทั้ง 3 ชั้นก็ประมาณ 150 เมตร เหมาะแก่การไปเที่ยวชมทัศนียภาพ

          - จุดชมทิวทัศน์ กม.30 ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 30 ถนนธนะรัชต์ สามารถชมทิวทัศน์ด้านทิศเหนือของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้เป็นบริเวณกว้างและสวยงาม

          - จุดชมทิวทัศน์ผาตรอมใจ ตั้งอยู่ด้านหน้าด่านตรวจเขาเขียว เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ตรงข้ามกับผาเดียวดาย สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล

          - หนองผักชี เป็นทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างใหญ่ เป็นจุดที่มีโป่งเทียมและแหล่งน้ำ ซึ่งสัตว์ป่าก็มักจะออกมาหากินบริเวณนี้ มีหอดูสัตว์ให้นักท่องเที่ยวได้มาชมสัตว์ป่าด้วย

          - น้ำตกเหวสุวัต มีลักษณะเป็นสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร ด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและลำธารเหมาะที่จะลงเล่นน้ำ


          - แก่งหินเพิง เป็นแก่งหินขนาดใหญ่กลางแม่น้ำใสใหญ่ในเขตอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ในช่วงหน้าฝนจะมีกิจกรรมล่องแก่งหินเพิง ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก มีความยาก-ง่ายอยู่ที่ระดับ 3-5 คนรักการผจญภัยต้องไปลองสักครั้ง

          - จุดชมวิวผาเดียวดาย มีลักษณะคล้ายผานกเค้าที่ภูกระดึง จะมองเห็นภูเขาร่มขวางอยู่เป็นแนวยาวและทิวทัศน์ที่สวยงามด้านจังหวัดปราจีนบุรี ตอนเช้าตรู่จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น บรรยากาศสวยสดชื่น เย็นตา สบายใจ

          - อ่างเก็บน้ำสายศร เป็นอ่างเก็บน้ำเล็ก ๆ ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ช่วงหน้าหนาวอากาศจะเย็นสบาย เหมาะแก่การมานอนกางเต็นท์รับลมหนาวและนอนดูดาว  

          เว็บไซต์ : khaoyainationalpark.com
          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park

11. อุทยานแห่งชาติน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

          อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ครอบคลุมพื้นที่อำเภออุบลรัตน์ อำเภอบ้านฝาง อำเภอหนองเรือ อำเภอมัญจาคีรี กิ่งอำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น และอำเภอบ้านแท่น อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ทั้งหมดราว ๆ 123,125 ไร่ อยู่ใกล้กับเขื่อนอุบลรัตน์ จึงมีทัศนียภาพที่สวยงาม มีจุดชมวิวสวย ๆ เพียบ

สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติน้ำพอง

          - ผาสละโสด ตั้งอยู่บริเวณหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของเขื่อนอุบลรัตน์ เช้า ๆ จะเห็นวิถีชีวิตประมงของชาวบ้าน ตอนเย็นก็สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม สามารถมากางเต็นท์ชมวิวยามค่ำคืนได้ด้วย

          - หินช้างสี มีลักษณะเป็นกลุ่มหินทรายขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตา อันเกิดจากการแทะกินของสัตว์ โดยช้างป่ามักจะเอาผิวหนังเสียดสีกับหิน เป็นที่มาของชื่อ หินช้างสี จุดชมวิวหินหัวกะโหลก โป่งธรรมชาติ น้ำในโพรงหิน และภาพเขียนสีสลักก่อนประวัติศาสตร์ ให้ได้เที่ยวชมด้วย


          - ผาสวรรค์ จุดชมวิวสวย ๆ อีกแห่งของอุทยานแห่งชาติน้ำพอง มีลักษณะเป็นลานหินขนาดใหญ่ยื่นออกไปทอดตัวในแนวทิศเหนือและทิศตะวันตก สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์และผืนป่าได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา

          - ผาฝ่ามือแดง ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านผือ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น เป็นภาพเขียนสีโบราณ อายุราว 3,000-4,000 ปี บรรยายวิถีชีวิตของคนโบราณบนหินทราย ยาว 9 เมตร สูง 4 เมตร

          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติน้ำพอง

12. อุทยานแห่งชาติภูเวียง จังหวัดขอนแก่น

          อุทยานแห่งชาติภูเวียง ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอภูเวียง อำเภอสีชมพู อำเภอชุมแพ อำเภอเวียงเก่า และอำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งนอกจากจะมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์น่าท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ก็ยังเคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณเมื่อหลายพันปีก่อนด้วย มีการค้นพบกระดูกมนุษย์โบราณ เครื่องมือ เครื่องใช้ โลหะสำริด พระนอนสมัยทวารวดี รวมทั้งภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ถ้ำ (หลืบเงิน) บนเทือกเขาภูเวียง รอยเท้าและซากกระดูกไดโนเสาร์ และสัตว์โลกดึกดำบรรพ์อายุเกือบ 200 ล้านปี ใครที่ชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์จะต้องหลงรัก


สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติภูเวียง

          - รอยเท้าไดโนเสาร์ อยู่ใกล้กับน้ำตกตาดฟ้า เป็นลานหินขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว้างประมาณ 250 ตารางเมตร

          - จุดชมวิวผาชมตะวัน อยู่ห่างจากน้ำตกตาดฟ้าประมาณ 2.5 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของอุทยาน

          - หลุมขุดค้นซากฟอสซิล อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ชมได้ทั้งหมด 4 หลุมขุดค้น คือ หลุมขุดค้นที่ 1, 2, 3 และ 9

          - อุทยานไดโนเสาร์ศรีเวียงเฉลิมพระเกียรติฯ สถานที่จัดแสดงซากดึกดำบรรพ์และเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่พบในเขตอุทยานแห่งชาติภูเวียง ชมหุ่นจำลองไดโนเสาร์เคลื่อนที่และส่งเสียงร้องได้ และยังมีน้ำตกจำลองสวย ๆ ให้ได้ชม

          - สุสานหอย 130 ล้านปี อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซากหอยที่พบ คือ หอยนางรมสกุลเอ็กโซไจรา (Exogyra) จากการสำรวจพบว่า ซากหอยเหล่านี้อยู่ระหว่างยุคจูแรสสิกตอนปลาย และครีเทเชียสตอนต้น หรืออยู่ช่วงอายุ 120-150 ล้านปี

          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติภูเวียง - Phu Wiang National Park

13. อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ

          มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอหนองบัวแดง อำเภอแก้งคร้อ อำเภอเมืองชัยภูมิ และอำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ รวมพื้นที่กว่า 125,312.50 ไร่ มีภูเขาสลับซับซ้อนและที่ราบสูง พร้อมกับมีความหลากหลายของป่า อีกทั้งยังมีสัตว์ป่านานาชนิด มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เป็นอันซีนของเมืองไทย พร้อมทั้งมีลานกางเต็นท์บรรยากาศดีให้นักท่องเที่ยวไปพักผ่อนหลายจุด

สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา

          - มอหินขาว ตั้งอยู่ในตำบลซับสีทอง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยกลุ่มหินตะกอนหรือหินชั้นยุคจูแรสสิก-ครีเทเชียส (195-65 ล้านปี) ซึ่งมีรูปร่างสวยแปลกตา เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และดูดาวที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย

          - จุดชมวิวภูแลนคา มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 642 เมตร ทำให้มองเห็นทัศนียภาพเทือกเขาภูเขียว อำเภอหนองบัวแดง และพื้นที่โดยรอบได้อย่างสวยงาม มีลานกางเต็นท์ไว้บริการด้วย

          - จุดชมทิวทัศน์หินปราสาท เป็นจุดที่ปรากฏก้อนหินขนาดใหญ่รูปทรงสี่เหลี่ยมดูแล้วคล้ายกับปราสาท

          - จุดชมวิวผาหัวนาค มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 905 เมตร สามารถมองเห็นเทือกเขาภูเขียวได้อย่างเด่นชัดและอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีจุดกางเต็นท์ไว้รองรับ

          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

14. อุทยานแห่งชาติภูเรือ จังหวัดเลย

          อุทยานแห่งชาติภูเรือ ครอบคลุมท้องที่อำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย มีเนื้อที่ประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร จุดที่โดดเด่นของที่นี่ก็คือยอดภูเรือ มีรูปร่างลักษณะเหมือนเรือใหญ่บนยอดดอยสูง มีความสูงประมาณ 1,365 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งสามารถชมวิวทะเลหมอกได้สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกหลายแห่งให้ได้เที่ยวชมกันตลอดทั้งปี
 
สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติภูเรือ

          - ยอดภูเรือ เป็นจุดที่สูงที่สุดในเขตอุทยาน สูงประมาณ 1,365 เมตร พื้นที่โดยรอบปกคลุมด้วยป่าสนสองใบและสนสามใบ สลับกับลานหินธรรมชาติ ต้องเดินขึ้นเขาจากผาโหล่นน้อยมาประมาณ 700 เมตร จุดนี้สามารถมองเห็นได้ไกลถึงแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขง ซึ่งติดกับชายแดนไทย-ลาว มีทะเลหมอกสวยสะกดใจ และอากาศจะหนาวเย็นจัดช่วงหน้าหนาว จากยอดภูเรือมีเส้นทางเดินป่าผ่านบริเวณที่มีดอกไม้เล็ก ๆ เช่น กระดุมเงิน ดาวเรืองภู เปราะภู ซึ่งออกดอกสวยงามในช่วงหน้าหนาว

          - ผาโหล่นน้อย ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สามารถมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่งและทะเลภูเขา พร้อมทั้งทะเลหมอกในหน้าหนาวได้สวยงามไม่แพ้ที่ไหนในเมืองไทย

          - ผาซำทอง หรือผากุหลาบขาว เป็นหน้าผาสูงชันและเป็นแหล่งน้ำซับ สามารถเฝ้าดูพระอาทิตย์ตกดินได้สวยงามสุด ๆ อากาศและบรรยากาศโดยรอบโรแมนติกมาก

          - น้ำตกห้วยไผ่ เป็นน้ำตกขนาดกลาง ลักษณะของตัวน้ำตกเป็นชั้นหินลดหลั่นกันลงมาประมาณ 30 เมตร มีแอ่งน้ำด้านล่าง นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้

          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติ ภูเรือ

15. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี

          อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี มีภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขาสูงชัน นอกจากจะมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ก็ยังมีเรื่องราวของธรณีวิทยาและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ มีสายน้ำสำคัญคือ แม่น้ำโขง เป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว พร้อมทั้งมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยามให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชม

สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม

          - ผาชะนะได เป็นผาที่มีป่าสนสองใบโดยรอบ สามารถมองเห็นภูเขาสลับซับซ้อนของประเทศลาว และลำน้ำโขง เป็นจุดพยากรณ์ดวงอาทิตย์ขึ้นของกรมอุตุนิยมวิทยา เพราะเป็นจุดแรกของเมืองไทยที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น จึงมีการขนานนามกันว่าจุดนี้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม

          - ผาแต้ม เป็นหน้าผาสูง มองเห็นทิวเขาทางฝั่งประเทศลาวและแม่น้ำโขงได้ชัดเจน ช่วงหน้าหนาวในบางวันก็มีทะเลหมอกให้ได้ชมด้วย ที่ด้านล่างของหน้าผาแต้ม เป็นแนวภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ 3,000-4,000 ปี ยาวประมาณ 180 เมตร มีไม่ต่ำกว่า 300 ภาพ

          - ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ กลุ่มที่ 3 (ผาหมอน) ห่างจากภาพเขียนสีผาแต้มประมาณ 860 เมตร บริเวณนี้จะมีภาพที่เขียนสูงประมาณ 6 เมตร ปรากฏเป็นภาพต่าง ๆ แสดงถึงการดำรงชีวิตโดยเพาะปลูกธัญพืช 

          - ทุ่งดอกไม้ป่าน้ำตกสร้อยสวรรค์ เป็นทุ่งดอกไม้กว้าง ซึ่งจะเบ่งบานในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม มีสีสันสวยงาม ทั้งเหลือง ม่วง ขาว และน้ำเงิน มี 5 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ ดุสิตา สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร มณีเทวา สรัสจันทร โดยดอกไม้ทั้งหมดนี้ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

          - น้ำตกแสงจันทร์ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 30 กิโลเมตร มีลักษณะพิเศษคือ สายน้ำตกจะไหลลงมาจากช่องโพรงของเพิงผา ยามค่ำคืนจะสะท้อนกับแสงจันทร์สวยงามมาก

          - น้ำตกสร้อยสวรรค์ (ห้วยสร้อย) ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 15 กิโลมตร เกิดจากลำธาร 2 สาย คือ แซสร้อย และแซไผ่ ไหลตกลงมาบรรจบกันคล้ายกับสายสร้อย ในช่วงปลายฤดูหนาวจะมีดอกไม้ป่าเบ่งบานอยู่รอบ ๆ น้ำตก

          - เสาเฉลียงผาแต้ม มีลักษณะเป็นเสาหินรูปร่างสวยงามแปลกตา เป็นหินที่เกิดขึ้นในยุคครีเทเชียส เมื่อประมาณ 130 ล้านปี พอโดนการกัดเซาะของน้ำ สายลม และแสงแดดเป็นระยะเวลาหลายร้อยล้านปี จึงทำให้เกิดเป็นรูปร่างคล้ายกับดอกเห็ด

          - เสาเฉลียงใหญ่ ตั้งอยู่ที่บ้านผาชัน อำเภอโพธ์ไทร เป็นแท่งหินทรายขนาดใหญ่ มีความสูง 15 เมตร เกิดจากการกัดกร่อนของลม น้ำ และแสงแดดเช่นกัน

          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุบลราชธานี