ร้านคาเฟ่ธรรมชาติ คาเฟ่สีเขียว 2023 ฟีลธรรมชาติ บรรยากาศดี

ร้านคาเฟ่ธรรมชาติ ในบรรยากาศกรีนซีซั่นเข้ากับหน้าฝน เอาไว้มานั่งพักผ่อนชิล ๆ จะถ่ายรูปก็เก๋ จะนั่งดื่มกาแฟก็เพลิน

เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำ มองไปทางไหนก็รู้สึกอิ่มไปกับความสดชื่นของธรรมชาติ ชวนให้น่าจัดทริปเที่ยว หรือไม่ก็ออกไปเช็กอินนั่งคาเฟ่ชิล ๆ ฟีลธรรมชาติที่ไหนสักที่ ว่าแล้วเราก็มีร้านคาเฟ่ธรรมชาติ บรรยากาศกรีนซีซั่นมาฝาก เผื่อว่าจะถูกใจใครแถวนี้ จะได้สะกิดชวนคนข้าง ๆ ไปถ่ายรูปเล่นเพลิน ๆ ดื่มกาแฟชิล ๆ และพักผ่อนไปด้วยในตัว

ร้านคาเฟ่ธรรมชาติ

1. RAWR Cafe กรุงเทพฯ

ร้านคาเฟ่ใกล้ BTS สถานีพระโขนง ท่ามกลางสีเขียวสุดร่มรื่น มาพร้อมกับบรรยากาศความผ่อนคลายและสงบ เหมือนว่าได้มาพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริง ๆ ภายในร้านกว้างขวาง มีที่นั่งให้เลือกนั่งหลายมุม ว่ากันว่าเมนูกาแฟและขนมของที่ร้านก็อร่อยไม่แพ้กัน ลองคอกาแฟได้กินน่าจะถูกใจ สั่งมากินคู่กับวาฟเฟิลและครอฟเฟิลสักชิ้นที่ทางร้านทำสดใหม่ทุกวัน เป็นความลงตัวที่สุดแสนจะชิล ฮีลใจได้สุด ๆ

ภาพจาพ : เฟซบุ๊ก RAWR Cafe

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
ที่อยู่ : Naiipa Private Office Space 46/2 สุขุมวิท 46 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 06-5995-6799
เฟซบุ๊ก : RAWR Cafe

2. Lae Cher De Cafe กรุงเทพฯ

ร้านคาเฟ่ธรรมชาติ มองทางไหนก็เห็นแต่สีเขียว ย่านรามอินทรา 99 จากเดิมเป็นพื้นที่รกร้างแต่ได้รับการรีโนเวทกลายเป็นสวนสวยร่มไม้ใหญ่สไตล์สวนทรอปิคอล ช่างเป็นบรรยากาศที่ชวนให้เราอยากออกมานั่งเล่น ดื่มกาแฟ ทำงาน และถ่ายรูปสวย ๆ ลงโซเชียล หลากหลายเมนูกาแฟและเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่มีให้เลือกแบบจุใจ ในส่วนของเมนูอาหารก็ดีต่อใจ จัดมาเต็มทั้งคาวและหวาน วันหยุดนี้ใครไม่ได้มีแพลนไปไหนก็เคลียร์ท้องให้ว่าง แล้วมาเช็กอินที่นี่กัน

เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
ที่อยู่ : ติดกับศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา ซอย 99 เขตคันนายาว กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 08-6308-3912
เฟซบุ๊ก : Lae Cher De Cafe

3. Basket - coffee and croissant กรุงเทพฯ

ร้านคาเฟ่ให้ฟีลธรรมชาติแบบสวน อยู่ติดถนนหทัยราษฎร์ โดยบริเวณรอบตัวร้านตกแต่งต้นไม้ร่มรื่น มีสวนขนาดใหญ่ เหมาะกับการถ่ายรูปสวย ๆ ลงโซเเชียลมาก ๆ ในส่วนของเมนูซิกเนเจอร์ที่มาแล้วอยากให้ลองนั่นคือ ครัวซองต์ ทางร้านอบสดใหม่ทุกวัน การันตีคุณภาพและวัตถุดิบนำเข้าจากฝรั่งเศส สั่งมากินคู่กับกาแฟคาราเมลมัคคิอาโต้ มีให้เลือกแบบคั่วเข้มกับคั่วกลาง นั่งจิบไปพลาง อิ่มเอมกับบรรยากาศรอบข้างไปพลาง จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Basket - coffee and croissant

เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
ที่อยู่ : ถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 06-4659-2472
เฟซบุ๊ก : Basket - coffee and croissant

4. Hidden Tree Garden จังหวัดสมุทรสงคราม

ร้านคาเฟ่สไตล์ธรรมชาติ เมื่อเข้ามาในร้านสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความร่มรื่นของร่มเงาต้นไม้น้อยใหญ่ที่มีอยู่ทั่วบริเวณ แถมตัวร้านยังติดคลองธรรมชาติ ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศสบาย ๆ ให้น่านั่งยิ่งกว่าเดิมอีกเท่าตัว ในส่วนของเมนูเครื่องดื่ม ทางร้านเลือกใช้เมล็ดที่คัดสรรจากหลายแหล่งมาให้เลือกตามความชอบ รวมทั้งซิกเนเจอร์ดริงก์อย่าง Coconut Coffee ที่นำกะทิมาเสริมความกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีเบเกอรี่สไตล์โฮมเมด ทั้งวาฟเฟิลอบใหม่ ๆ ชีสเค้กต่าง ๆ ลงตัวสุด ๆ

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก สมุทรสงครามรีวิว

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. (หยุดวันอังคาร)
ที่อยู่ : ถนนไชยพร ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
เบอร์โทรศัพท์ : 06-4195-6554
เฟซบุ๊ก : Hidden Tree Garden

5. บ้านไร่พอเพียง แคมป์ปิ้ง&คาเฟ่ จังหวัดสระบุรี

ร้านคาเฟ่ฟีลธรรมชาติ เหมาะสำหรับเป็นทั้งที่เที่ยวและที่พักผ่อนในวันสบาย ๆ ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูฝน สายฝนจะช่วยสร้างความชุ่มฉ่ำ สร้างบรรยากาศให้ที่นี่น่านั่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีมุมที่นั่งให้เลือกทั้งโซนด้านในและด้านนอก อากาศดี มีลมพัดตลอดทั้งวัน พร้อมเสิร์ฟเมนูกาแฟและเครื่องดื่มต่าง ๆ แนะนำให้ลอง “Matcha Green Tea Honey Lemon” ด้วยกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ Matcha ผสานกับ Honey Lemon ทำให้ได้ความสดชื่น เป็นเมนูเครื่องดื่มที่เหมาะกับยามบ่าย เรียกความสดชื่นได้ดีเลยทีเดียว

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก เที่ยวไปเถอะแฟนจ่าย

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. (หยุดวันพุธ)
ที่อยู่ : ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
เฟซบุ๊ก : บ้านไร่พอเพียง แคมป์ปิ้ง&คาเฟ่

6. CHAN nature cafe' จังหวัดกาญจนบุรี

ร้านคาเฟ่ฟีลธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยวิวภูเขาและทะเลสาบ โดดเด่นด้วยการออกแบบตัวร้านแบบไม้ไผ่ ผสมผสานกับความมินิมอล ให้ฟีลอบอุ่น นั่งได้เพลิน ๆ เหมือนอยู่บ้าน และมีไฮไลต์เป็น Sky Walk ที่สามารถชมวิวได้แบบพาโนรามา จัดเต็มมุมถ่ายรูปสวย ๆ ทุกมุม และยังมีโซนแคคตัสไว้เดินชมเล่นอย่างเพลิดเพลิน พร้อมเสิร์ฟเมนูชาเขียว มัทฉะพรีเมียมทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และ Soft Serve เอาใจสาวกชาเขียวกันไปเลย

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก เที่ยวไหนดี

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
ที่อยู่ : ซอยเทศบาล ตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
เฟซบุ๊ก : CHAN nature cafe'

7. Khun Na Thamm cafe จังหวัดกาฬสินธุ์

ร้านคาเฟ่ธรรมชาติในสวนอินทผลัม ตัวร้านเน้นโทนสีขาวดูสบายตา ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า แนะนำว่าให้มาช่วงเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็น เพราะเป็นช่วงที่ถ่ายรูปสวยเป็นพิเศษ มีมุมให้นั่งชิลจิบกาแฟเพลิน ๆ มองออกไปข้างหน้าเห็นวิวสวน สะพานไม้ ในส่วนเครื่องดื่มและเบเกอรี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะกาแฟที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะเน้นคัดสรรแต่เมล็ดกาแฟคุณภาพดี มีกลิ่นหอม คอกาแฟถูกใจแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
ที่อยู่ : ตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
เบอร์โทรศัพท์ : 09-3661-9629
เฟซบุ๊ก : Khunnathamm.cafe

8. Triple C campsite & cafe จังหวัดเชียงราย

คาเฟ่ใต้ต้นฉำฉายักษ์ในเมืองเชียงราย ออกแนวสไตล์แคมปิ้ง บรรยากาศดีติดริมแม่น้ำกก มีโซนให้เลือกนั่งทั้งด้านนอกและด้านใน ให้ความรู้สึกร่มรื่น ใกล้ชิดธรรมชาติ ยิ่งถ้ามานั่งช่วงเย็น ๆ บอกเลยว่าฟินสุด ๆ มีทั้งเมนูเบเกอรี่ให้เลือกอย่าง Chocolate Pudding Cake หรือจะเป็น Tiramisu และหลากหลายเมนูเครื่องดื่ม ถ้าให้แนะนำลองเมนูยาคูลท์ น้ำผึ้ง เลมอน โซดา สั่งจับคู่มากิน น่าจะเป็นอะไรที่ลงตัวมาก ๆ ยิ่งเคล้ากับบรรยากาศสายลมและแสงแดดด้วยแล้วอะไรจะชิลขนาดนี้

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
ที่อยู่ : บ้านใหม่ ซอย 8 ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
เบอร์โทรศัพท์ : 06-5455-6669
เฟซบุ๊ก : Triple C campsite & cafe

9. Gui Lah coffee & organic farm จังหวัดเชียงราย

ร้านคาเฟ่บนดอยนางแลใน รับประกันในความชิลแน่นอน ด้วยวิวธรรมชาติแบบเต็ม ๆ ตา มีลมพัดมาเป็นระยะ ๆ ทั้งยังมีสะพานไม้ไผ่เอาไว้ให้เดินเล่นถ่ายรูปกันเพลิน ๆ อีกด้วย ช่วงฤดูฝนที่ตกกันชุ่มฉ่ำ แนะนำให้สั่งลาเต้ร้อนมาจิบสักแก้วเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ไม่เพียงแต่เมนูเครื่องดื่มเท่านั้น ที่ร้านยังมีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายเช่นกัน เรียกได้ว่าจัดมาเอาใจทั้งสายถ่ายรูปและสายกินกันเต็มที่

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก TMR PHOTO

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
ที่อยู่ : หมู่บ้านอาข่าใหม่ ตำบลนางแลใน อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
เบอร์โทรศัพท์ : 06-1348-0310
เฟซบุ๊ก : Gui Lah coffee & organic farm "กื่อ-หล่อง"

10. Comfee จังหวัดกระบี่

ร้านคาเฟ่ท่ามกลางธรรมชาติ ปกคลุมด้วยพื้นที่สีเขียวของต้นไม้น้อยใหญ่ทั้งโซน Outdoor และโซน Indoor เหล่านี้มีส่วนช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลย มองทางไหนก็ดูสบายตาสบายใจ เมนูที่ร้านจะมีทั้งเครื่องดื่มและขนมต่าง ๆ โดยเฉพาะเค้กจะเป็นเค้กโฮมเมด ส่วนกาแฟ ทางร้านก็ใส่ใจเมล็ดกาแฟยันขั้นตอนการชงอย่างละเอียด มีเมล็ดกาแฟให้เลือกด้วย ถ้าใครเป็นสาย Specialty น่าจะเป็นอีกหนึ่งร้านน่าเช็กอิน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Roli Jaunt : โรลิ จร

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. (หยุดวันจันทร์)
ที่อยู่ : ทางหลวงชนบท 1002 ทางลัดอ่าวลึก-พังงา ตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
เบอร์โทรศัพท์ : 08-5922-2288
เฟซบุ๊ก : Comfee

ใครที่ชอบเช็กอินคาเฟ่ ช่วงฤดูฝนน่าจะเป็นอีกหนึ่งฤดูที่เหมาะกับการมานั่งชิลได้ฟีลธรรมชาติ หรือใครอยากแชร์ร้านไหนที่อยากบอกต่อก็แนะนำกันมาได้เลย ^ ^

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง