แลกเงินต่างประเทศ สถานที่แลกเงิน เที่ยวต่างประเทศ แลกเงินที่ไหนดี

จะไปเที่ยวต่างประเทศก็ต้องแลกเงินไว้ไปช้อปปิ้ง ใครกำลังมองหาสถานที่แลกเงินต่างประเทศ เรตดี เดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟฟ้า เรามีมาแนะนำแล้ว

แลกเงินที่ไหนดี ? อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนต้องการคำตอบเสมอ เพื่อให้การท่องเที่ยวต่างประเทศสนุกและสะดวกไปกับการใช้จ่ายที่ดีมากขึ้น แม้ในยุคนี้จะมี Travel Card จากธนาคารต่าง ๆ ให้รูดใช้ในต่างประเทศได้ง่าย ๆ แต่การมีเงินสดติดตัวไว้ก็อุ่นใจกว่าแน่นอน ปัจจุบันมีสถานที่แลกเงินต่างประเทศมากมายให้เลือกใช้บริการ ซึ่งแต่ละร้านจะมีจุดแข็งของตัวเอง ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการออกเดินทางรอบโลกทันที โดยจุดแข็งที่น่าสนใจคือ อัตราการซื้อ-ขายเงินสกุลต่าง ๆ รวมถึงพิกัดของสถานที่แลกเงินต่างประเทศว่าเดินทางสะดวกมาก-น้อยเพียงใด ส่วนจะมีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง เรามีข้อมูลมาฝาก ดังนี้

สถานที่แลกเงินต่างประเทศ

1. Superrich Thailand (สีเขียว)

อยากจะแลกเงินต่างประเทศให้ได้อัตราแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า ก็ต้องนึกถึง Superrich Thailand หรือ ซุปเปอร์ริช สีเขียว บริหารงานโดย บริษัท ซุปเปอร์ริช (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ถือเป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยว เพราะให้บริการรับซื้อและขายเงินต่างชาติหลากหลายสกุล และมุ่งเน้นให้ลูกค้าได้แลกเงินในอัตราที่ดีที่สุด ซึ่งร้านนี้จะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ถนนราชดำริ (ใกล้กับบิ๊กซี ประตูน้ำ) และมีสาขาย่อยตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป รวมถึงสนามบิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริการจองเงินล่วงหน้าและเข้าไปรับที่สาขาที่ต้องการด้วย

ภาพจาก : William Yuan / Shutterstock.com

เช็กอัตราแลกเปลี่ยน สาขา และวัน-เวลาทำการ ได้ที่ superrichthailand.com และ เฟซบุ๊ก Superrich Thailand

2. OH RiCH Superrich Thailand

สถานที่แลกเงินต่างประเทศแบรนด์น้องใหม่ ที่เกิดจากการรีแบรนด์ Superrich Thailand หรือ ซุปเปอร์ริช (สีเขียว) เพื่อต้อนรับการเปิดประเทศหลังจากสถานการณ์โควิด 19 พร้อมกับชื่อ โลโก้ และเฉดสีเขียวใหม่ ที่จำง่ายและสดใสขึ้น ซึ่งก่อนจะเกิดสถานการณ์โควิด 19 บริษัท ซุปเปอร์ริช (ไทยแลนด์) จำกัด ได้จัดตั้ง บริษัท เอส อาร์ ที ฟอเร๊กซ์ จำกัด บริหารธุรกิจภายใต้ชื่อแบรนด์ Superrich Thailand Forex เป็นการแยกการบริหารชัดเจน และเมื่อกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง คราวนี้ทางบริษัทก็ได้รีแบรนด์ใหม่ พร้อมเปิดให้บริการรับซื้อและขายเงินต่างประเทศหลายสกุล และยังมีบริการ PAID & PICK UP ที่สามารถจองเงินผ่าน Line@ ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน และเข้าไปรับเงินที่สาขาที่ต้องการได้เลย

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก OH RiCH Superrich Thailand

เช็กอัตราแลกเปลี่ยน สาขา และวัน-เวลาทำการ ได้ที่ srtforex.com และ เฟซบุ๊ก OH RiCH Superrich Thailand

3. SuperRich (SPR) (สีส้ม)

อีกหนึ่งร้านแลกเงินต่างประเทศ ในชื่อ ซุปเปอร์ริช แต่มีการแยกธุรกิจกันอย่างชัดเจน คือ SuperRich ร้านสีส้ม เป็นบริษัทเอกชนเจ้าแรกในเมืองไทยที่เปิดให้บริการแลกเงินตราต่างประเทศ เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2508 บริหารงานโดย บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด มีสาขามากมายตามสถานีรถไฟฟ้า โดยสำนักงานใหญ่อยู่ที่ราชดำริ ซอย 2 รวมถึงยังมีสาขาที่สนามบินสุวรรณภูมิและต่างจังหวัดอีกด้วย

ภาพจาก : Prapan Chulapinyo / Shutterstock.com

เช็กอัตราแลกเปลี่ยน สาขา และวัน-เวลาทำการ ได้ที่ superrich1965.com และ เฟซบุ๊ก SUPERRICH

4. Twelve Victory Exchange

ร้านแลกเงินสีชมพูโดดเด่น บริหารโดยคนไทย อย่าง Twelve Victory Exchange เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2537 โดยมีสาขาแรกอยู่ที่ถนนประดิพัทธ์ และมีสาขาให้บริการอยู่ทั่วทุกภาคในเมืองไทย เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า พร้อมด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังเติมเต็มความสะดวกสบายให้การแลกเงินผ่านทางสาขาในสถานีรถไฟฟ้า BTS และห้างสรรพสินค้าด้วย

ภาพจาก : John And Penny / Shutterstock.com

เช็กอัตราแลกเปลี่ยน สาขา และวัน-เวลาทำการ ได้ที่ twelvevictory.com และ เฟซบุ๊ก Twelve Victory Exchange CO.,LTD สนญ.

5. X ONE Currency Exchange Center

ร้านแลกเงินต่างประเทศที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ คือ เอ็กซ์วัน (X ONE) ร้านแลกเงินที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 มีสาขาเดียวอยู่ที่ถนนสุรวงศ์ และมีใบรับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างถูกต้อง ให้บริการแลกเปลี่ยนหลายสกุลเงิน ในเรตราคาที่ดีมากเหมือนกัน

เช็กอัตราแลกเปลี่ยนได้ที่ x-one.co.th และ เฟซบุ๊ก X-ONE ศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

6. Vasu Exchange

ร้านแลกเงินไปต่างประเทศ ได้เรตดี ที่ วสุ เอ็กซ์เช้น (Vasu Exchange) โดยร้านนี้มีหลายสาขาให้เลือกใช้บริการ เน้นร้านที่ตั้งอยู่ด้านนอกห้างสรรพสินค้า และมีสำนักงานใหญ่แบบ Stand Alone อยู่ที่ถนนสุขุมวิท 7/1 (ใกล้สถานีรถไฟฟ้านานา ประตูทางออกที่ 1)

เช็กอัตราแลกเปลี่ยนได้ที่ vasuexchange.com

7. K79 Exchange

ร้านแลกเงินต่างประเทศเรตดีที่น่าสนใจอีกแห่ง สำหรับร้าน K79 Exchange มีอัตราแลกเปลี่ยนดีกว่าธนาคารทั่วไป ได้รับใบรับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบอัตราแลกเงินต่างประเทศได้ตลอดเวลา มี 3 สาขาให้บริการ ซึ่งแต่ละสาขาจะใช้ชื่อต่างกัน แต่อยู่ในเครือเดียวกัน

เช็กอัตราแลกเปลี่ยนได้ที่ k79exchange.com

8. Value Plus Currency Exchange

ร้านแลกเงินที่เปิดให้บริการมากว่า 10 ปี มีด้วยกันหลายสาขา โดยสำนักงานใหญ่อยู่ที่ โรบินสัน สาขาบางรัก และมีสาขาที่อยู่ในสถานที่สำคัญต่าง ๆ มากมาย เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ สยามพารากอน เซ็นทรัล ลาดพร้าว เป็นต้น รวมไปถึงยังมีสาขาในแหล่งท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต กระบี่ และเกาะสมุย อีกด้วย

ภาพจาก : mysirikwan / Shutterstock.com

เช็กอัตราแลกเปลี่ยน สาขา และวัน-เวลาทำการ ได้ที่ valueplusexchange.com และ เฟซบุ๊ก Value Plus Currency Exchange

9. Siam Exchange

บริษัทรับแลกเงินที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 เปิดดำเนินกิจการให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ภายใต้การควบคุมและได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยมากว่า 50 ปี โดยสาขาใหญ่จะอยู่ที่ถนนพญาไท แต่มีสาขาย่อยที่รถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ (ประตู 3) ใกล้กับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

เช็กอัตราแลกเปลี่ยนได้ที่ siamexchange.co.th และ เฟซบุ๊ก Siam Exchange สยาม เอ๊กซเชน

10. SIA Money Exchange

ร้านให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มาตรฐานระดับสากล จุดเด่นคือ มีจำหน่ายธนบัตรต่างประเทศเกือบทุกสกุลเงินทั่วโลก ไม่มีค่าธรรมเนียมบริการ ให้อัตราแลกเปลี่ยนดีกว่าธนาคาร โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซอยเพชรบุรี 33 และ 2 สาขาย่อย คือ ซอยเพชรบุรี 19 และอาคารสาทรซิตี้ ทาวเวอร์

เช็กอัตราแลกเปลี่ยน สาขา และวัน-เวลาทำการ ได้ที่ sia-moneyexchange.com

เทคนิคแลกเงินต่างประเทศ
ให้ได้เยอะ ๆ ช้อปสบาย ๆ

แลกในเวลาที่เหมาะ สำคัญกว่าแลกที่ไหน

ควรแลกในจังหวะที่อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศที่ไปกับเงินบาท (Selling Rate) ต่ำที่สุด โดยสามารถใช้แอปพลิเคชัน เช่น XE Currency แจ้งเตือนเวลาที่อัตราแลกเปลี่ยนประเทศที่อยากได้ต่ำลง ซึ่งจะแลกเป็นเงินก้อนหรือทยอยแลกไปเรื่อย ๆ ก็ได้

ไม่แลกเงินต่างประเทศในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หรือสุดสัปดาห์ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex Market) จะหยุด หากมาแลกเงินในช่วงนี้จะได้อัตราแลกเปลี่ยนตอนปิดตลาด ณ วันศุกร์ ซึ่งจะเกิดความเสี่ยงสำหรับร้านรับแลกเปลี่ยนเงินได้ คือถ้าลูกค้ามาแลกวันเสาร์ แล้วเปิดวันจันทร์มา อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน ทำให้ร้านรับแลกเปลี่ยนขาดทุน ดังนั้นบางร้านรับแลกเปลี่ยนเงินจึงมีการบวกส่วนต่าง (Mark-up) เข้าไปประมาณหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงของทางร้านไม่ให้ขาดทุน

ภาพจาก : 1000 Words / Shutterstock.com

แลกกับร้านที่ลูกค้าเยอะ ๆ มีเงินเข้า-ออกจำนานมาก

ถ้าร้านรับแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศมีลูกค้าเข้า-ออกตลอด ก็จะมีเงินเข้า-ออกและมีกำไรจากจำนวนลูกค้า ทำให้ร้านเหล่านั้นไม่คิดส่วนต่างที่มากนัก และถ้าร้านรับแลกเปลี่ยนมีทั้งคนไทยมาซื้อเงินต่างประเทศ (Outbound) และนักท่องเที่ยวต่างชาติมาขายเงินต่างประเทศ (Inbound) ร้านจะมีสภาพคล่อง เข้า-ออกสูงทั้งเงินบาทและเงินต่างประเทศ จะทำให้มีโอกาสได้อัตราแลกเปลี่ยนที่น่าพอใจ และมีโอกาสได้เงินต่างประเทศในจำนวนที่ครบตามต้องการได้

ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนไปล่วงหน้าจากหลาย ๆ ที่ทางออนไลน์

ปัจจุบันนี้การหาอัตราแลกเปลี่ยนของร้านแลกเงินดัง ๆ แต่ละร้านสามารถทำได้ง่าย ๆ จากบ้าน โดยทางออนไลน์ ทั้งผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งอัตราพวกนี้จะเป็นแบบเรียลไทม์ด้วย ทำให้สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศเป็นอย่างมาก

แลกเปลี่ยนเงินเท่าที่จำเป็น

ประเทศบางประเทศที่ค่าเงินอาจมีความผันผวน หรือไม่ค่อยมีใครอยากรับแลก (Non-Liquidity) ถ้าเราแลกเยอะเกินไปอาจเหลือกลับมา ดังนั้นจึงควรแลกเท่าที่จำเป็น หรือแลกเงินสกุลใหญ่ ๆ ของโลก เช่น US หรือ EU ติดตัวไปมากกว่า เผื่อเวลาเงินในประเทศที่เราไปเที่ยวไม่พอ ก็เอาเงิน US หรือ EU แลกเพิ่มที่นั่นเลย ซึ่งถ้าเหลือเงิน US หรือ EU กลับมา ก็จะแลกคืนง่ายกว่า หรืออาจจะเก็บไว้ใช้ต่อทริปหน้าได้

ใครอยากแลกเงินต่างประเทศ เป็น Pocket Money สำหรับไปเที่ยวต่างประเทศ ก็เลือกร้านที่ชอบ สาขาใกล้บ้านได้เลย และอย่าลืมเช็กเรตแลกเปลี่ยนในแต่ละวันก่อนเพื่อให้ได้อัตราที่ดีที่สุด ที่สำคัญอย่าลืมนำพาสปอร์ตกับบัตรประชาชนไปด้วยนะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง