8 ที่เที่ยวหน้าหนาวใกล้กรุงเทพฯ สร้างทริปสั้น ๆ ไว้ไปสัมผัสความเย็น

1. เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
 
 
          อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นอุทยานที่มีเนื้อที่กว้างขวาง ถือได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ครอบคลุมเนื้อที่ในอำเภอแก่งกระจาน อำเภอหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสภาพป่าโดยรอบนั้นอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพืชพรรณต่าง ๆ มากมาย จุดที่สามารถชมทะเลหมอกได้อย่างงดงามก็คือ "ยอดเขาพะเนินทุ่ง" ซึ่งบริเวณนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมเทือกเขาตะนาวศรีที่โอบล้อมไปด้วยทะเลหมอกมากมาย พร้อมทั้งไอความหนาวเย็น สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
 
          Tips : เวลาขึ้นเขาพะเนินทุ่งในแต่ละวันมี 2 รอบ คือ 05.30-07.30 น. และ 13.00-15.00 น.

          โทรศัพท์ : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทรศัพท์ 032 772 311, 032 772 312
 
2. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี
 
          เขากระโจม เป็นยอดเขาสูงในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี มีจุดชมวิวที่ด้านบนสุดของยอดเขา ซึ่งมีความสูงประมาณ 1,045 เมตร สามารถมองเห็นภูเขาสูงใหญ่โดยรอบได้อย่างกว้างไกล มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งในหน้าหนาวก็จะมีทะเลหมอกให้ได้ยลโฉมแทบทุกวัน เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ที่สำคัญยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถขับรถยนต์ขึ้นได้ โดยเสียค่าธรรมเนียมคันละ 50 บาท นอกจากนี้ที่นี่ยังมีลานกางเต็นท์ด้านบนอีกด้วย
 
          Tips : การเดินทางขึ้นเขากระโจมได้กำหนดเวลา-ขึ้นลง ดังนี้

          ช่วงเวลาขึ้น ตั้งแต่เวลา 04.00-07.00 น. (ห้ามรถขับสวนลงโดยเด็ดขาด)

          ช่วงเวลาลง ตั้งแต่เวลา 07.00-09.00 น. (ห้ามรถขับสวนขึ้นโดยเด็ดขาด)

          ช่วงตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. ขึ้นลงได้ตามปกติ และหลังจาก 19.00 น. จะไม่อนุญาตให้รถยนต์ขึ้น
         
          โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 0 3247 1005-6
 
3. ห้วยคอกหมู จังหวัดราชบุรี

          ห้วยคอกหมู เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามของอำเภอสวนผึ้ง ตั้งอยู่ที่ฐานปฏิบัติการห้วยคอกหมูร้อย ตชด.137 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ยามเช้าที่นี่จะอากาศหนาวเย็น ยิ่งถ้ามีลมพัดผ่านจะยิ่งหนาวมาก มีทะเลหมอกมาให้ได้เห็นตลอดช่วงฤดูหนาว ถ้าท้องฟ้าโปร่งโล่ง ยังสามารถมองเห็นขุนเขาในเขตแดนประเทศเมียนมาได้อีกด้วย ด้านบนจะเป็นลานกว้าง ๆ สามารถเดินถ่ายรูปกันได้แบบชุ่มปอด หรือถ้าหากใครต้องการนอนกางเต็นท์ก็สามารถนอนได้บริเวณลานนี้เช่นกัน
 
           โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 0 3247 1005-6
 
4. ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา


          ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 11 ภายในอุทยานแห่งชาติทับลาน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ลาลับหลังเขาได้อย่างชัดเจน มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะหน้าหนาวที่อากาศจะหนาวจับใจ กิจกรรมที่น่าสนใจก็คือการปลูกป่าด้วยหนังสติ๊ก ทางเจ้าหน้าที่จะมีหนังสติ๊ก พร้อมทั้งเมล็ดพันธุ์ไม้ให้นักท่องเที่ยวได้ช่วยกันยิงออกไปให้ไกลที่สุด เพื่อให้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นไปเติบโต กลายเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ต่อไป
 
          โทรศัพท์ : อุทยานแห่งชาติทับลาน โทรศัพท์ 037 210  340, 092 550 0172
 
5. จุดชมวิวตะเพินคี่ อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี
 
          จุดชมวิวตะเพินคี่ ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 3 ในอุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี บริเวณนี้สามารถมองเห็นขุนเขาสลับซับซ้อนสวยงาม ยามเช้ามีทะเลหมอกมากมาย อลังการไม่แพ้ที่ไหนในเมืองไทย อีกทั้งอากาศยังหนาวเหน็บได้ใจ โดยเฉพาะในยามเช้าและค่ำคืน หากใครมีเวลามากหน่อยก็สามารถเดินขึ้นเขาเพื่อไปยัง "ยอดเขาเทวดา" จุดชมวิวที่สูงเสียดฟ้าของอุทยาน ซึ่งจะมีทิวทัศน์ที่งดงามมากกว่า และหากใครต้องการนอนกางเต็นท์บริเวณจุดชมวิวตะเพินคี่ก็ได้จัดลานกางเต็นท์ไว้ให้ นักท่องเที่ยวจะนำเต็นท์มาเองหรือจะเช่าเต็นท์ของเจ้าหน้าที่ก็ได้เช่นกัน
 
           Tips : รถที่จะสามารถขึ้นไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 3 ตะเพินคี่ จะต้องเป็นรถกระบะเท่านั้น

           โทรศัพท์ : อุทยานแห่งชาติพุเตย โทรศัพท์ 035 44 6237, 081 934 2240 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี โทรศัพท์ 035 525 867, 035 525 880, 035 525 863-4

6. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

 
          อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รายล้อมไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด พร้อมทั้งขุนเขาลูกน้อยใหญ่มากมาย จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งโอโซนชั้นดีของสัตว์ป่า รวมทั้งผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง เมื่อนักท่องเที่ยวได้ขับรถผ่านด่านเข้ามาแล้วก็จะได้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขา มีเนินกว้างพร้อมทุ่งหญ้าให้ได้ออกไปเดินเล่นสูดอากาศหายใจ อีกทั้งยังมีแหล่งน้ำธรรมชาติมากมายสร้างความสดชื่น จึงทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอด ยิ่งในช่วงหน้าหนาวก็จะมีอากาศหนาว บนเส้นทางภายในอุทยานยังมีจุดชมวิวหลายแห่งให้ได้ชมทะเลหมอกอีกด้วย
 
           โทรศัพท์ : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โทรศัพท์ 086 092 6529, 086 092 6531, 037 356 033, 044 249 305
 
7. ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
 

          ทองผาภูมิ เป็นอีกหนึ่งอำเภอของจังหวัดกาญจนบุรีที่น่าสนใจ ด้วยมีธรรมชาติของป่าเขาที่งดงาม มีแนวเทือกเขาสูงใหญ่ พร้อมทั้งมีอ่างเก็บน้ำและเขื่อนที่สำคัญตั้งอยู่ที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมป่าเขา สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างชิล ๆ ขับผ่านเข้าไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จุดชมวิวต่าง ๆ และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อาทิ จุดชมทิวทัศน์เขาขาด เนินเสาธง เนินช้างศึก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น บ้านอีต่อง เหมืองปิล๊อก ฯลฯ ถ้าใครมีเวลามากหน่อย ก็สามารถที่จะเดินขึ้นไปผจญภัยที่เขาช้างเผือกได้อีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โทรศัพท์ 0 3453 2114

           โทรศัพท์ : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โทรศัพท์ 098 252 0359
 
 

8. เจ็ดคต โป่งก้อนเสา จังหวัดสระบุรี
 
          ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต โป่งก้อนเสา ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลท่ามะปราง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สวยงามและมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวมักจะไปที่นี่เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติ และชมความสวยงามของเห็ดสายพันธุ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเห็ดแชมเปญ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นป่าเขาได้ในมุมกว้าง มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง อากาศจะหนาวเย็นตลอดทั้งปี ยิ่งหน้าหนาวก็จะมีทั้งหมอกและอากาศหนาวเย็นสุด ๆ
 
           โทรศัพท์ : 089 237 8659, 080 019 2762
 
          ใครอยากไปเที่ยวที่ไหนก็ลองจัดสรรเวลาและวางแผนกันดูค่ะ ถ้าหากไม่อยากไปแออัดกับผู้คนมากมาย การไปเที่ยววันธรรมดาก็อาจจะทำให้คุณมีความสุขเพิ่มมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ใกล้หรือไกลก็ขับรถกันด้วยความระมัดระวังนะคะ :)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, , เที่ยวราชบุรี,  เฟซบุ๊ก ททท. สำนักงานเพชรบุรี, snr.egat