ชวนเที่ยวเชียงใหม่ช่วงหน้าหนาว กับสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ สุขใจไปกับขุนเขา ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ชมทะเลหมอก หยอกล้อดอกไม้ ชิมสตรอว์เบอร์รีสุดอร่อย
1. ดอยกิ่วลม
"ดอยกิ่วลม" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ที่แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยและมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ในช่วงเช้าตรู่คุณจะเห็นทะเลหมอกที่กว้างใหญ่ไพศาล แลดูคล้ายกับขนมสายไหมสีขาว และพอตะวันเคลื่อนตัวใกล้เที่ยง ท้องฟ้าเริ่มเปิด กลุ่มหมอกจะค่อย ๆ คลายตัว พอให้เรามองเห็นแนวทิวเขาสลับซับซ้อนของยอดดอยเชียงดาว ที่ยืนตั้งเด่นเป็นสง่าราวกับจะประกาศความยิ่งใหญ่อวดสายตานักท่องเที่ยว
นอกจากนี้บริเวณดอยกิ่วลมยังเป็นที่ตั้งของพระตำหนักเอื้องเงิน เป็นอาคารที่กรมป่าไม้ได้ถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับความสวยงามของภูมิทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกกล้วยไม้ "เอื้องเงินหลวง" ที่ออกดอกบานสะพรั่งในทุกช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม
2. ขุนแม่ยะ
ใครอยากอยู่ท่ามกลางดงดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูท่ามกลางอากาศหนาว ๆ แล้วหาเรื่องกุมมือคนข้างกาย เราแนะนำให้มาที่ "ขุนแม่ยะ" แต่กว่าจะได้เชยชมความงาม อาจจะต้องสมบุกสมบันสักเล็กน้อย เพราะต้องข้ามน้ำ ฝ่าหลุม กระเด้งกระดอนตัวอยู่หลายกิโลเมตรกว่าจะเดินทางมาถึง แต่ไม่ต้องห่วงภาพที่คุณจะได้เห็นนับตั้งแต่ทางเข้าที่ทำการหน่วย คือภาพดอกนางพญาเสือโคร่งที่เบ่งบานกระจายไล่เฉดสีเต็มพื้นที่ ยิ่งเมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้า สีของฟ้าจะตัดกับสีของดอกนางพญาเสือโคร่งสวยจนบรรยายไม่ถูกเลยทีเดียว และถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวสักแค่ไหนภาพความสวยงามตรงหน้าจะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นหัวใจข้างในลึก ๆ อย่างบอกไม่ถูก
3. กิ่วแม่ปาน
"กิ่วแม่ปาน" ตั้งอยู่ในพื้นที่ของดอยอินทนนท์ นักท่องเที่ยวจะได้เสพสุนทรียะท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติอย่างถึงที่สุด รอบตัวของคุณจะถูกแวดล้อมด้วยขุนเขาและทะเลหมอก กิ่วแม่ปานจึงเป็นนครแห่งธรรมชาติ ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาแสวงหาความสุขและเรียนรู้กับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
สิ่งแรกที่จะได้เห็นหลังลำแสงของพระอาทิตย์ส่องมาทักทายคือวิวที่กว้างใหญ่สุดสายตา เผยให้เห็นทะเลหมอกที่ลอยคลอเคลียอยู่ตามทิวเขา ตลอดเส้นทางเดินเพื่อไปยังจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เราจะเห็นเฟิร์นและมอสส์ขึ้นเขียวครึ้มตามโคนต้นไม้ และหลังจากผ่านจุดชมวิวไปแล้ว ก็จะเป็นทางเดินที่ลัดเลาะไปตามภูเขา มีความกว้างประมาณ 1 เมตร ที่สำคัญเดินได้คนเดียวเท่านั้น เรียกความเสียวท่ามกลางลมหนาว
4. ขุนช่างเคี่ยน
"ขุนช่างเคี่ยน" เป็นอีกหนึ่งจุดในเชียงใหม่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบโลกสีชมพูกับต้นนางพญาเสือโคร่งที่มักจะบานในช่วงปีใหม่เป็นประจำทุกปี นอกเหนือจากความสวยงามของต้นนางพญาเสือโคร่ง ที่ขุนช่างเคี่ยนนักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมแหล่งปลูกกาแฟ บ๊วย และท้อ ซึ่งเมล็ดกาแฟส่วนหนึ่งจะนำมาทำกาแฟไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ดื่ม ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลด้วยลมหนาวเคล้ากลีบดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่บ้างก็ปลิวไสว บ้างก็ร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงของโลก ตลอดจนการเยี่ยมชมวิถีชีวิต "หมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน" ที่ยังคงมีวิถีชีวิตเรียบง่าย และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยมิตรไมตรีที่ดี
5. บ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง
อากาศหนาว ๆ ต้องหาอะไรทำเพื่อคลายความหนาว และจะมีอะไรดีไปกว่าการนำตัวเองไปแช่ในน้ำอุ่น ๆ "บ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง" เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนานคู่เมืองเชียงใหม่ ตลอดเส้นทางเดินภายในสถานที่นี้ มีธารน้ำแร่ที่ไหลคดเคี้ยวมาจากตัวน้ำพุร้อนด้านบน ไออุ่นจากบ่อน้ำพุเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวนั่งห้อยขาแช่เท้าผ่อนคลายอิริยาบถ ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะร่มรื่นของต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด จากสายน้ำที่มีความร้อนจากด้านล่างเมื่อพุ่งปะทะกับอากาศด้านบนอุณหภูมิของน้ำก็ค่อยบรรเทาความร้อน และรู้สึกสบายทันทีเมื่อน้ำเหล่านั้นเข้ากระทบผิวกาย น้ำพุร้อนสันกำแพงจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถมาได้ตลอดทุกฤดูกาล
6. ห้วยน้ำรูและดอยสามหมื่น
"ห้วยน้ำรู" และ "ดอยสามหมื่น" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเรียกเหงื่อท่ามกลางอากาศหนาวที่เชียงใหม่ คุณอาจจะต้องสมบุกสมบันอยู่สักเล็กน้อย เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างมีความทุรกันดาร แต่เมื่อเทียบกับความสวยงามที่จะได้เห็นแล้วรับรองว่าคุ้มค่าแก่การมาเยือน
โดย "ห้วยน้ำรู" เป็นตาน้ำเล็ก ๆ ที่สร้างความชุ่มชื้นให้กับผืนป่าของดอยสามหมื่น ที่ดอยสามหมื่นยังเป็นจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อในเรื่องทัศนียภาพที่สวยงาม ในวันที่ท้องฟ้าเป็นใจ เราจะมองเห็นดอยหลวงเชียงดาว สูงตระหง่านเด่นชัด และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซอ ทุ่งดอกฝิ่นขนาดใหญ่และชมการปลูกกาแฟและผลไม้เมืองหนาวด้วย
"สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง" เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวงที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมและสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการชมแปลงสาธิต ผัก ผลไม้และดอกไม้เมืองหนาว สวนบอนไซ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ทั้งชาวจีนฮ่อ ชาวปะหล่อง ชาวเขาเผ่ามูเซอ ซึ่งทำให้เรารู้ว่าความแตกต่างทางเชื้อชาติและภาษาไม่ใช่อุปสรรคในการอยู่ร่วมกัน
มาที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้และศึกษาวัฒนธรรมชุมชน โดยที่เราเองไม่เข้าไปรบกวนความเป็นส่วนตัวของเขามากเกินไป และรับฟังเกร็ดความรู้จากมัคคุเทศก์ตัวน้อย ๆ ที่ช่วยอธิบายวิถีชีวิตของพวกเขาให้ผู้มาเยือนได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
8. ม่อนแจ่ม
"ม่อนแจ่ม" เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาสูดอากาศหนาวที่บริสุทธิ์แห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ความน่าสนใจของการมาเที่ยวที่ม่อนแจ่มคือการได้นอนแคมป์ ชมวิว สูดอากาศบริสุทธิ์ และชมแปลงผัก ผลไม้เมืองหนาว หรือถ้าใครไม่อยากนอนหนาว ที่นี่ก็มีบ้านพักที่เป็นกระท่อมทำจากไม้ไผ่ไว้บริการ บรรยากาศดีเหมาะกับการนั่งจิบกาแฟคลายความหนาว
โดยจุดชมวิวหลัก ๆ ของม่อนแจ่มมีอยู่ด้วยกันสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นทิวเขาสลับกันไปไกลสุดลูกหูลูกตา อีกด้านก็จะเป็นไร่ปลูกพืชต่าง ๆ ของโครงการหลวง ซึ่งจะเปลี่ยนพืชพรรณไปตามฤดูกาล และด้วยเพราะพื้นที่ม่อนแจ่มมีบริเวณไม่กว้างนัก จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมจนทั่วได้อย่างสบาย
9. ดอยม่อนจอง
ใครอยากสัมผัสอากาศหนาวจนควันออกปากที่เชียงใหม่ เราขอแนะนำให้มาที่ "ดอยม่อนจอง" ซึ่งติด 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย จุดเด่นของการมาเที่ยวที่นี่คือการได้ชมภูเขาที่สลับซับซ้อน ความพิเศษอยู่ที่ในช่วงหน้าหนาวทุ่งหญ้าจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามตา ทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน ถ้าใครมาม่อนจองในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมจะเห็นดอกกุหลาบพันปีออกดอกแย้มกลีบบานสะพรั่งเต็มต้นอยู่ตามไหล่เขา
โดยจุดสูงสุดของดอยม่อนจองเรียกว่า "หัวสิงห์" ด้วยเพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโต ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพแบบโล่งสบายตา และอากาศหนาวเย็นยะเยือกไปทั่วทั้งร่าง
10. โครงการหลวงวัดจันทร์
ชมความสวยงามของทิวป่าสนท่ามกลางสายหมอกที่ "โครงการหลวงวัดจันทร์" หรือ "ป่าสนวัดจันทร์" ใครได้ลองมาที่นี่เป็นต้องหลงรักกับทิวทัศน์ทางธรรมชาติของป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยิ่งในช่วงฤดูหนาว ดินแดนกลางหุบเขาแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกและสายลมอันหนาวเย็น รวมถึงใบเมเปิลที่พร้อมใจกันผลัดใบเปลี่ยนสี บางใบร่วงลงพื้น บางใบร่วงหล่นในอ่างเก็บน้ำ ลอยเอื่อยไปตามกระแสเฉกเช่นเดียวกับฤดูกาล
หรือจะปั่นจักรยานดื่มด่ำธรรมชาติ เยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ กิจกรรมทั้งหมดนี้จะสร้างความประทับใจให้ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้มาเยือนตราบนานเท่านาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ โทร. 053 318 325, 084 365 5465
11. ดอยเวียงผา
"ดอยเวียงผา" ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา ความโดดเด่นของที่นี่อยู่ที่เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมวิวชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินอย่างน่าประทับใจ ชมน้ำตกห้วยทรายขาว น้ำตกขนาดเล็ก 3 ชั้น ที่เดินเท้าเข้าไปชมได้ไม่ยาก แต่ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่การพิชิตยอดดอยเวียงผา ถ้าจะให้ดีควรมาในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ เพื่อชมดอกกุหลาบพันปีซึ่งเป็นต้นไม้หายากขึ้นเฉพาะบนพื้นที่สูง รวมถึงพรรณไม้หายากบนที่สูงอื่น ๆ เช่น กายอม กุหลาบขาว และดอกหญ้าหายากนานาชนิด "ดอยเวียงผา" จึงเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งในเชียงใหม่ ที่ต้องไม่พลาดไปชมความงามของธรรมชาติและทิวเขาในฤดูหนาวที่จะถึงนี้
12. ดอยปุย
ภาพจาก aodaodaodaod / shutterstock.com
"ดอยปุย"
สถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวสุดคลาสสิกของเชียงใหม่
อากาศบนยอดดอยหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินสำรวจความสวยงามของธรรมชาติบนยอดดอยปุย
เนื่องจากปกคลุมด้วยป่าสนเขาผืนใหญ่ และเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจชนิดต่าง ๆ
เช่น ไก่ฟ้าหลังขาว นกกางเขนน้ำหลังดำ นกศิวะปีกสีฟ้า นกเดินดงอกลาย
นกปีกแพรสีม่วง เป็นต้น
เนื่องจากฤดูหนาวเป็นช่วงที่นกบินอพยพย้ายถิ่นเข้ามาเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้เยี่ยมชมความสวยงามของ "พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์" "ชมหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง" หมู่บ้านที่มีทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นดอยอินทนนท์ได้อย่างชัดเจน13. ทะเลสาบดอยเต่า
"ทะเลสาบดอยเต่า" เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือชมทิวทัศน์และรับบรรยากาศในทะเลสาบ ยิ่งในฤดูหนาวแล้วยิ่งมีนักท่องเที่ยวสนใจมาเที่ยวกันมากเป็นพิเศษ ที่นี่จะมีทั้งแพพักและแพอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว กิจกรรมที่ผู้คนที่มาที่นี่นิยมก็คงจะเป็นการนั่งเรือชมทิวทัศน์และรับบรรยากาศในทะเลสาบดอยเต่า หรือหากมีเวลาว่างมากหน่อยก็อาจจะเช่าแพกลางน้ำเพื่อพักค้างคืนในทะเลสาบดอยเต่า ตกปลา นอนเล่น นั่งคุยกับเพื่อนฝูง สั่งอาหารที่ทำจากปลาสด ๆ มากิน คงมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว ความสวยงามของภูมิประเทศและอากาศบริสุทธิ์ก็เป็นอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสนใจกัน แต่วิถีชีวิตชาวประมงบนที่สูงแห่งนี้ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยกว่ากันเลยทีเดียว
เห็นอย่างนี้แล้วก็ยิ่งตอกย้ำให้เราเชื่อว่าหน้าหนาวในเชียงใหม่ยังคงมีมนตร์เสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวเสมอ ความสวยงามของต้นไม้ใบหญ้า สายน้ำ และภูเขา ยังคงเรียกร้องให้เราไปสัมผัส หนาวนี้อย่าลืมขึ้นเชียงใหม่ไปสัมผัสสายลมหนาวและวิวสวย ๆ ที่ใครได้ไปเยือนเป็นต้องติดใจและหลงรักเชียงใหม่กันทุกคน ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053 248 604-5
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, , , , , tatcontactcenter.com, chiangmaionly.com, gonorththailand.com, chiangmaipao.go.th, chiangmaipao.go.th, angkhangstation.com, doimonjong.com, thairoyalprojecttour.com
