ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณจันจิรา อินทรศักดิ์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Jira Traveler
กระบี่...จังหวัดท่องเที่ยวที่ยังคงมีมนตร์เสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างชาติเสมอ เพราะที่นี่คือดินแดนแห่งขุนเขา หาดทราย ชายทะเล กลุ่มเกาะ น้ำตก และโถงถ้ำ ที่สวยงามติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ซึ่งสามารถเดินทางไปเยือนได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งวิถีชีวิตของคนกระบี่ที่ผูกพันอยู่กับการทำสวน ทำไร่ ก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ทำให้กระบี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในวันพักผ่อนของนักท่องเที่ยวเสมอมา (ดูเพิ่มเติมได้ที่ ททท. กระบี่) และวันนี้เพื่อการันตีความสวยงามของทะเลกระบี่เราได้หยิบเอาบันทึกการเดินทางของ คุณจันจิรา อินทรศักดิ์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ไปเที่ยวกระบี่และร้อยเรียงความประทับใจถ่ายทอดผ่านภาพถ่ายสวย ๆ ให้เราได้ชมกันค่ะ
.gif){kind=icon}
ถ้ารักที่จะท่องเที่ยวแล้ว สภาพอากาศแบบไหนเราก็ไม่หวั่นค่ะ ถ้าใจรักที่จะเดินทางซะอย่าง คิดซะว่าอุปสรรคเป็นรสชาติของชีวิตแล้วกัน ว่าแล้วก็ไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ
มาเยือนกระบี่รอบนี้เราขับรถไปเที่ยวกันเองค่ะ ไปเที่ยวหาเพื่อน (เพื่อรบกวนให้มันเลี้ยง) หาที่เที่ยวสวย ๆ เพื่อถ่ายรูปกัน ทริปนี้เลยได้เพื่อนมาเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำ หาที่พัก พาเที่ยวอีกต่างหาก รู้สึกดีที่ช่างมีเพื่อนที่แสนดีจริง ๆ เราเข้าพักกันที่ กระบี่ ทิพา รีสอร์ท ค่ะ เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับอ่าวนาง จากรีสอร์ทเดินไปที่อ่าวนางประมาณ 100 เมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าจอดรถทิ้งไว้ที่โรงแรมแล้วเดินเล่นกันชิล ๆ สบายเลยค่ะ
ด้านหน้าโรงแรมค่ะ
ล็อบบี้ด้านหน้า นั่งรอระหว่างเช็กอิน
ห้องที่เราพักจะเป็นห้องใหญ่ มีสองเตียงนอน พักได้สี่คนค่ะ ห้องกว้างขวางใช้ได้เลย ห้องแรกเปิดประตูมาก็เจอเลยค่ะ
อีกห้องจะมีประตูกระจกกั้น ห้องน้ำมีห้องเดียว มีอ่างอาบน้ำในตัวค่ะ ลืมถ่ายห้องน้ำมาค่ะ ดูห้องนอนไปก่อนแล้วกันเนอะ ^ ^"
หมอนเยอะดีค่ะ ชอบ ๆ เตียงก็ใหญ่นอนสบายมากเลย นอนเบียดกันสามคนเพลินไปเลย อิอิ
อย่างที่บอกค่ะว่าโรงแรมอยู่ตรงอ่าวนาง ด้านหน้าโรงแรมร้านขายของ ร้านอาหารเพียบเลยค่ะ ตอนนั้นไปกินส้มตำ ไก่ย่าง อร่อย ราคาไม่แพง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ตรงหน้าแมคโดนัลด์ ดูจากในรูปนี้ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
เรามาติดต่อเช่าเรือหางยาวกันไว้ก่อน ตั้งแต่เย็นวันที่มาถึงเพื่อที่ว่าเช้าวันรุ่งขึ้นจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาเรือ เป็นราคาเหมา ไม่ได้คิดเป็นรายคนนะคะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณสองพันกว่าบาทต่อลำค่ะ สถานที่ติดต่อเช่าเรือจะอยู่ตรงด้านหน้าอ่าวนางเลยค่ะ หาไม่ยาก
เช้าวันต่อมาเราก็ไปรอเรือกันที่ด้านหน้าอ่าวนางค่ะ จะออกกันกี่โมงก็ได้นะคะ แล้วแต่เราเพราะเช่าเหมาลำไว้แล้ว
เป้าหมายแรกที่เรามาถึง ก็คือ ทะเลแหวกค่ะ แต่มาสายไปหน่อย ทัวร์พี่จีนลงเพียบเลย - -"
พยายามหามุมถ่ายที่ไม่มีคนติดมาค่ะ แต่อาจจะมีเศษไม้เศษขยะติดมาบ้าง ช่วงที่ไปคลื่นลมค่อนข้างแรงค่ะ
จากทะเลแหวกเราไป เกาะห้องกัน ต่อค่ะ โชคไม่เข้าข้างฝนตกซะงั้น ฟ้าขาวจั๊วะเลย
พอถึงเกาะก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บค่าธรรมเนียมนะคะ คนละ 40 บาท
นั่งรอฝนซากันสักพัก ได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ กินข้าวกล่องที่เตรียมกันมา สักพักฝนก็หยุด พอมีแดดออกให้ชื่นใจบ้าง
พกนายแบบส่วนตัวไปด้วยค่ะ จับเป็นนายแบบซะเลย อิอิ
จากเกาะห้องเราก็ไปต่อกันที่ อ่าวห้อง (ลากูน) เป็นเหมือนห้องโถงกว้างกลางทะเล ที่เรือสามารถวิ่งเข้าไปได้เมื่อน้ำขึ้น มีทางเข้าออกทางเดียวภายในมีป่าโกงกาง น้ำทะเลใสดีค่ะ แต่เราจะมองเห็นเป็นสีเขียว นั่งท่องเที่ยวจอดเรือกระโดดน้ำเล่นกันสนุกสนานไปเลย
ออกจากลากูนมาก็เห็นนักท่องเที่ยวกำลังพายเรือคายักกันค่ะ น่าสนุกดีเหมือนกันเนาะ แต่ให้พายตอนคลื่นแรง ๆ ก็ไม่ไหวแอบกลัว แหะ ๆ
เราตกลงกับคนขับเรือหางยาวว่าจะไปเที่ยวกันสี่ที่ ที่สุดท้ายจำชื่อไม่ได้ค่ะ เป็นเกาะเล็ก ๆ มีพื้นที่เป็นหาดไม่กว้างมาก แวะแป๊บเดียวแล้วก็กลับค่ะ
อ่าวนางยามเย็น นักท่องเที่ยวออกมาเดินเล่นยามน้ำลด เด็กน้อยกำลังสนุกกับการเล่นทราย เก็บหอยกันค่ะ
เพื่อนร่วมทริปแล้วก็เพื่อนเจ้าถิ่น (ที่เป็นผู้อุปการะทริปนี้) ถ่ายอะไรกันก็ไม่รู้ สงสัยจะส่องสาว ๆ กันแน่เลย อิอิ
วลีที่ว่า...หลังฝนซาฟ้ามักจะสดใส ยังใช้ได้กับทริปนี้ค่ะ หลังจากฝนตกไปเมื่อตอนบ่าย เย็นมาแสงสวยเชียว
ก่อนแสงสุดท้ายจะหมดไป แสงสวยมาก ๆ เลยค่ะ หลงรักทะเลก็ตรงนี้แหละ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ทริปของเราที่กระบี่จบลงที่อ่าวนางค่ะ ไม่ได้ไปเที่ยวต่อที่อื่นในกระบี่อีก เพราะต้องไปพังงากันต่อ อ่าวนางนักท่องเที่ยวคึกคักดีค่ะ ทั้งคนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวไทย ชาวต่างชาติ อาจจะเป็นเพราะมีที่พักให้เลือกมาก ร้านอาหาร และการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวก แถมที่นี่ยังเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แนะนำเลยค่ะว่าถ้าใครอยากจะพักผ่อนชิล ๆ ไม่รีบเร่ง เที่ยวแบบสบายกระเป๋า มาที่อ่าวนางไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
ยังไงก็ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เข้ามาชมภาพกันนะคะ
