เที่ยวไทเปวันเดียว ศรัทธาในวัดเก่า เพลินย่านฮิป ชมศิลปะร่วมสมัย

         อยากเที่ยวไทเป ไต้หวัน แต่มีเวลาแค่วันเดียว ? ไม่ต้องห่วง เพราะเมืองนี้เก็บครบทุกอารมณ์ได้ภายใน 24 ชั่วโมง เริ่มต้นวันด้วยการขอพรที่วัดเก่าแก่คู่เมือง สัมผัสพลังศรัทธาและความสงบ แล้วไปต่อกับย่านแฟชั่นสุดคึกคักและแหล่งศิลปะร่วมสมัยที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทริปสั้น ๆ แต่ครบเครื่องนี้คือรูทตัวอย่างสำหรับใครที่อยาก “รู้จักไทเป” ผ่านทั้งหัวใจ วัฒนธรรม และความสนุกในวันเดียว เผื่อไว้ใครอยากตามรอย บอกได้เลยว่าตามรอยได้ง่าย ๆ พร้อมแล้ว…ตามมากันเลย

          นอกจากเรื่องศรัทธาแล้ว ความงดงามของวัดแห่งนี้ก็น่าหลงใหลไม่แพ้กัน สถาปัตยกรรมจีนโบราณที่ประณีตทุกมุม ทั้งหลังคามังกรคดเคี้ยว ประตูไม้แกะสลักลายเทพ และโคมแดงที่ห้อยเรียงราย ช่วยแต่งแต้มสีสันให้บรรยากาศดูขลังและนุ่มนวลในเวลาเดียวกัน ถ้าใครอยากสัมผัส “จิตวิญญาณของไทเป” อย่างแท้จริง วัดหลงซานคือจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ เพราะที่นี่สะท้อนให้เห็นทั้งความเชื่อ ศิลปะ และความอบอุ่นของผู้คนในแบบที่คำว่า “ศรัทธา” ไม่ได้เป็นแค่พิธีกรรม แต่คือสิ่งที่หล่อหลอมจิตใจของคนเมืองนี้มาจนถึงปัจจุบัน

          หลังจากอิ่มเอมกับบรรยากาศสงบที่วัดหลงซานแล้ว ก็ถึงเวลามาเปลี่ยนโหมดสู่ความคึกคักของเมืองที่ไม่เคยหลับกับ ย่านซีเหมินติง (Ximending)  ย่านวัยรุ่นสุดฮิปของไทเป ที่หลายคนยกให้เป็น “สยามสแควร์ของไต้หวัน”

         แค่ก้าวออกจากสถานี MRT Ximen ก็จะเห็นแสงไฟจากป้ายโฆษณาขนาดยักษ์ที่ประดับอยู่ทั่วถนน บวกกับเสียงเพลงจากร้านค้าและกลุ่มวัยรุ่นที่เดินกันขวักไขว่ แต่ยังคงกลิ่นอายความเป็นไต้หวันไว้เต็มเปี่ยม บอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์ของสายแฟชั่นและสายกินอย่างแท้จริง ! เดินไปไม่กี่ก้าวก็เจอร้านเสื้อผ้าแนวสตรีตเก๋ ๆ รองเท้าผ้าใบลิมิเต็ดอิดิชัน และแผงขายของจุกจิกน่ารักที่ทำให้เผลอเสียตังค์โดยไม่รู้ตัว ได้ง่ายมาก ๆ ย่านนี้จะเปิดทำการตั้งแต่เวลาประมาณ 11.00-23.00 น. โดยร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดปิดในช่วงเวลานี้ และจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นไป

         แน่นอนว่ามาไต้หวันทั้งที ต้องไม่พลาด “ชานมไข่มุกต้นตำรับ” ที่ซีเหมินติงนี่แหละเป็นหนึ่งในจุดที่รวมร้านชานมดัง ๆ ไว้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Chun Shui Tang หรือร้านอินดี้เปิดใหม่ที่มีสูตรลับเฉพาะตัว แนะนำให้ลองแบบร้อนสักแก้วในวันที่อากาศเย็น จะได้กลิ่นชาเข้ม ๆ ผสมความหวานละมุนของไข่มุกที่เคี้ยวเพลินสุด ๆ

มาเยือนถึงถิ่นชานมไข่มุก…จะพลาดได้ยังไง

         ถ้าโชคดี ตอนเย็น ๆ ยังอาจได้เจอศิลปินข้างถนนมาร้องเพลง เล่นกีตาร์ หรือโชว์เต้นอยู่กลางลาน ซีเหมินติงในตอนค่ำจะยิ่งเต็มไปด้วยแสงสีและเสียงหัวเราะของคนหนุ่มสาว เป็นพลังของเมืองที่จับต้องได้จริง ๆ 

         และถ้าคุณชอบถ่ายรูป บอกเลยว่าย่านนี้ถ่ายมุมไหนก็สวย ทั้งป้ายไฟนีออนสะท้อนบนถนนยามค่ำ ตึกเก่าเรียงข้างร้านแฟชั่นสุดล้ำ หรือแม้แต่คาเฟ่เล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกซอย มันคือความ “ขัดแย้งที่ลงตัว” ที่ทำให้ไทเปดูเท่และอบอุ่นในเวลาเดียวกัน

         ที่นี่คือพื้นที่เล็ก ๆ แต่มีความหมายยิ่งใหญ่ เพราะเป็น สัญลักษณ์ของความเสรีภาพและความเท่าเทียม ของประเทศไต้หวัน ประเทศแรกในเอเชียที่อนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถนนสายนี้จึงไม่ใช่แค่ที่เดินเล่นถ่ายรูป แต่คือ “พื้นที่แห่งการเฉลิมฉลองตัวตน” ของทุกคนอย่างแท้จริง

         พื้นถนนถูกทาด้วยสีรุ้งหกสีเรียงกันสดใส ใครที่ได้มาที่นี่ ต่างก็ต้องหยุดถ่ายรูปสักช็อตและรอบ ๆ Rainbow Six ยังเต็มไปด้วยคาเฟ่และบาร์เล็ก ๆ ที่ตกแต่งอย่างเก๋ มีเพลงเปิดคลอเบา ๆ กับผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเดินไปมาด้วยรอยยิ้ม บางร้านมีธงสีรุ้งปักอยู่หน้าประตู เหมือนเป็นการบอกว่า “ยินดีต้อนรับทุกคน” ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือมาจากที่ไหน เหมือนบอกเป็นนัยยะว่าที่นี่เป็นเซฟโซนให้กับทุกคนทุกเพศจริง ๆ 

         ไม่ไกลจากถนนสายรุ้ง เดินชิล ๆ มาหน่อยก็จะเจอกับ “The Red House” หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “บ้านอิฐแดง” ที่นี่คืออาคารเก่าอายุกว่าร้อยปี ซึ่งเดิมทีถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็น “ตลาดสมัยใหม่แห่งแรกของไทเป” แต่เมื่อเวลาผ่านไป สถานที่แห่งนี้ได้ถูกปรับโฉมใหม่ให้กลายเป็น ศูนย์รวมศิลปะและวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่อย่างเต็มตัว

          เพียงแค่เห็นตัวอาคารจากภายนอกก็ต้องร้องว้าว เพราะสถาปัตยกรรมอิฐแดงทรงแปดเหลี่ยมแบบยุโรปผสมจีนดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร ยิ่งในช่วงบ่ายที่แสงแดดส่องกระทบกำแพงอิฐสีส้มอมแดง บรรยากาศมันโรแมนติกจนอดหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายไม่ได้เลยจริง ๆ

          ภายในอาคารมีทั้งแกลลอรี่จัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินไต้หวัน ร้านขายของทำมือสุดครีเอทีฟ และคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ตกแต่งอย่างอบอุ่น เหมาะกับการนั่งพักจิบกาแฟหลังจากเดินเที่ยวมาทั้งวัน บางวันยังมีตลาดศิลปะเล็ก ๆ ด้านนอก ที่รวมเอาผลงานแฮนด์เมดและของที่ระลึกดีไซน์เก๋ไว้ให้เลือกซื้ออีกด้วย ถ้าซีเหมินติงคือพื้นที่แห่งพลังวัยรุ่น The Red House ก็คือ “หัวใจแห่งศิลปะและเสรีภาพ” ของเมืองนี้  ที่ซึ่งความเก่าแก่ไม่เคยหายไป แต่ถูกแต่งเติมด้วยชีวิตและสีสันของคนรุ่นใหม่อย่างงดงามลงตัว

         การมาเที่ยวไทเปทำได้ง่ายมาก ๆ จากสนามบินเถาหยวน (Taoyuan International Airport) นั่งรถไฟความเร็วสูง Taoyuan Airport MRT เข้าสู่ใจกลางเมืองไทเปได้ภายในประมาณ 35 นาที หรือเลือกใช้บริการรถบัสและแท็กซี่ ก็สะดวกเช่นกัน เมืองไทเปมีระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) รถเมล์ และแท็กซี่ ทำให้เดินทางไปเที่ยวแต่ละจุดได้ง่ายและปลอดภัย เหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวสายชิลและสายลุย

         วันเดียวก็เที่ยวไทเปครบ ทั้งขอพรที่วัดหลงซาน ช้อปปิ้งและชิมชานมไข่มุกที่ซีเหมินติง ถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่ถนนสายรุ้ง และดื่มด่ำศิลปะที่ The Red House ทริปสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยสีสันและเสน่ห์ของเมืองที่รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวเอง ^ ^

#ไต้หวันมะ #TaiwanWavesofWonder #TaiwanTourism #TaiwanTourismTH